หลายคนคงเคยเปิดบัญชีธนาคารของกรุงไทย แล้วพนักงานนำเสนอให้ทำบัตรที่รวมประกัน เข้าใจว่าเป็นของ ทิพยประกันภัย ซึ่งตัวผมเองก็โดนมาแล้ว แถมโดน 2 ใบ เพราะโดน2บัญชี ตอนเปิดบัญชีที่2 เจ้าหน้าที่บอกว่า เลือกบัตรอันเดียวกันไม่ได้ ต้องเลือกที่สูงกว่า (อันนี้จริงไม่จริงไม่รู้ ) เรื่องที่เกิดไม่ได้เกิดกับผมครับ พอดีเป็นเรื่องของน้องที่ทำงาน เมื่อเดือนกรกฎาคม น้องประสบอุบัติเหตุ ขี่รถจักรยานยนต์แล้วถูกรถยนต์ขับชน ทำให้ลูกของน้องอายุ 5 ขวบเสียชีวิต หลานยังช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ส่วนตัวน้องเองบาดเจ็บที่ขา ที่ศรีษะ ซึ่งในช่วงนั้นน้องก็เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล โดยได้ชดเชยจาก พรบ.ของคู่กรณี ในช่วงที่ไปเยี่ยมน้องผมนึกขึ้นได้เพราะบัญชีเงินเดือนเป็นของกรุงไทย เลยสอบถามน้องว่าบัตรเอทีเอ็มเป็นแบบไหน เมื่อทราบว่าบัตรเป็นบัตรประเภท Pearl จึงแนะนำให้น้องลองติดต่อธนาคารดู พอติดต่อ เจ้าหน้าที่แจ้งว่าไม่สามารถใช้สิทธิ์เบิกได้ เลยลองโทรสอบถามทางทิพยประกันภัย ทางทิพยก็ยืนยันว่าไม่สามารถเบิกได้  เพราะได้ใช้สิทธิ์ พ.ร.บ.ไปแล้ว ประเด็นคือ ถ้ามันเบิกไม่ได้ เพราะใช้สิทธิ์ พ.ร.บ.ล้ว ก็เข้าใจได้ แต่อยากฝากเจ้าหน้าที่ธนาคารทุกคนครับ เวลาจะขายประกัน คุณช่วยแจ้งเงื่อนไขที่ซับซ้อน ที่มันเป็นสาระสำคัญให้ครบถ้วยหน่อยครับ  ไม่ใช่แค่เพียงมีกระดาษ1ใบแล้วชี้ให้ดูว่าเบิกได้ทุกกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ มีเงินเท่านี้ชดเชยเท่านั้นเท่านี้ นึกถึงลุงแก่ๆ ตาสีตาสา ที่เขาพูดไม่ได้ น้ำท่วมปาก ต้องเออออ ยอมจ่ายไป เพราะคิดว่าไหนๆก็ทำประกันไปเลย เผื่อเบิกได้ แม้แต่ตัวผมเองตอนทำก็ปฏิเสธไม่เป็นก็ทำไป แต่พอเราทำแล้วเราก็หวังว่าเมื่อเรามีอุบัติเหตุแล้ว จะได้ใช้มันตามที่ได้ข้อมูล ที่โพสคืออยากระบายให้เจ้าหน้าที่ได้รับรู้บ้างครับ สงสารน้องเค้าครับ เสียลูกไป1คน ยังต้องเสียความรู้สึกซ้ำอีก