[CR] เที่ยวภาคใต้ของ Italy [Sorrento, Capri, ภูเขาไฟ Vesivius และกลับ Rome] พร้อมสรุปค่าใช้จ่าย

สวัสดีค่ะ

มาเขียนเป็นตอนที่สองค่ะ เพื่อไม่ให้ตอนแรกยาวเกินไปจนน่าเบื่อ เป็นทริป 2 สัปดาห์ story ยาวนิดนึง ^_^

ลิงก์ของช่วงแรกค่ะ Switzerland และ Italy ทางภาคเหนือตอนล่าง http://ppantip.com/topic/35630037

เอาล่ะค่ะ เรานั่งรถไฟแบบยิงยาวมาจาก Florence ถึง Naples เลย Naples ที่คนอิตาเลี่ยนเรียกว่า นาโปลี (Napoli)

นาโปลีเป็นเมืองใหญ่ทางภาคใต้ของอิตาลีค่ะ ใหญ่อันดับสามของประเทศ รองจาก Rome และ Milan เราไม่ได้ค้างคืนที่นี่ค่ะ แค่มาเปลี่ยนรถไฟขบวนย่อยเพื่อต่อไป Sorrento เฉยๆ


ต้องมาขึ้นรถไฟขบวนนี้ค่ะ Naples - Sorrento (สาย Circumvesuvian Train) เส้นทางสวยค่ะ เลาะอ่าวตลอด เป็นรถไฟ local แอร์ธรรมชาติ แคบ ใครกระเป๋าเดินทางใหญ่จะต้องยืนเฝ้ากระเป๋าไว้กลางขบวนนะคะ ลำพังแค่ที่นั่งเฉยๆ เข่าก็จะชนกันแล้ว  ตลอดสายจะเฮฮาปาร์ตี้มาก มีชาวบ้านมาร้องรำทำเพลง แล้วก็ "ขอทิป" เราก็ให้เท่าที่สามารถค่ะ 50เซนต์ 1 ยูโร เขาก็ say Grazie แล้วค่ะ

ไม่ได้ถือกล้องแล้วถ่ายไปเรื่อย มาถึงใหม่ๆ ต้องระวังตัวกันหน่อยค่ะ ไป check-in โรงแรม แล้วออกมาเดินเล่น เราอยู่ที่นี่ 4 วันค่ะ

บรรยากาศหน้าโรงแรม (โรงแรมอยู่ตรงข้ามกัน) ตอนมาถึงครั้งแรก นึกถึงเมือง Havana เลยค่ะ


ไปเดินเล่นชมเมืองค่ะ เมืองอะไรก็ไม่รู้ เท่ห์ชมัด


ภูมิประเทศเป็นหน้าผายาวๆ เลยค่ะ เราจะเดินลงไปที่ไกล้ๆ น้ำเสียหน่อย มีทางเดินสาธารณะสองทาง เราเดินเป็นวงกลม


ฮึฮึ นึกว่าถ้ำค้างคาวที่เทือกเขาตะนาวศรีซะอีก พอเข้าอุโมงแล้วอากาศเย็นเฉียบเลย


พอพ้นอุโมงค์ ก็เป็นทางลงแบบซิกแซกจนถึงพื้นดิน


ท่าเรือ Sorrento ไม่มีลมเลยค่ะ


เมื่อกี้เราอยู่สุดทางน้ำโน่นน  เดินเลาะขึ้นทางจากทางอาคารฝั่งซ้ายมือในรูปค่ะ มีบันไดอยู่ในอาคาร


ใน Sorrento downtown ^^




หาอะไรใส่ท้อง เราแวะร้านที่สองคืนติดเลยค่ะ http://www.labatesorrento.it/ เจ้าของติสหน่อยๆ เดินทักทุกโต๊ะ สบัดผมตลอดเวลา ไว้เคราหน่อยๆ


มาถึง Sorrento จะไม่ข้ามไปเกาะ Capri ก็คงขัดใจเวลากลับบ้านแล้ว อ่ะ ไปเที่ยวเกาะกัน แต่ต้องไปซื้อตั๋วเฟอรี่ค่ะ จองทั้งไปและกลับ เวลาเป้ะๆ เราเข้าใจว่นักท่องเที่ยวเยอะ และเรือบรรทุกเกินไม่ได้ค่ะ



ถึงแล้วค่ะ เกาะ Capri แต่มันยังถึงไม่หมด มันมี Ana-Capri อี๊กกกกก


ควักเงินอีกแล้ว มะกี้ค่า Ferry นี่มาค่า cable car เฮ้ย นี่มันหลายยูโรแล้วน่อออ

ออกมาจากตู้ก็พบเห็นแบบนี้ค่ะ ยังอยู่ใน Capri นะคะ ตรงนี้เป็นจุดนัดพบ แหล่งร้านอาหาร ชอปปิ้ง มีร้านแฟชั่นไฮเอนท์แบบครบๆๆ


แต่เฮ้ยยย มันยังไม่ถึง Anacapri อ่ะ มันจะต้องนั่งรถ minibus ไปอีก ควักตังอีกแล้ววว T_T

เดินเล่นก่อนๆ


เกาะแบ่งเป็นสองช่วงค่ะ Capri และ Ana Capri ที่สูงขึ้นไปอีก เราไม่ได้เดิน เรานั่งมินิบัส เหมือนเรานั่งสาย 1 คันเล็กบ้านเราค่ะ เราทุกคนบนรถไกล้ชิดกันมาก ใครแปรงฟันไม่สะอาด อย่าเผลอถอนหายใจเชียวนะ

คนขับรถ skill สูงมากค่ะ รถวิ่งเลาะหน้าผา เวลาสวนกันนี่เรียกว่าโคตรหวาดเสียว โดยเฉพาะเวลาไป (อิตาลีขับชิดขวา) มองลงไปข้างล่างนี่ โอ้วววมายก้อดด ถ้าตกก็ขออย่าให้เจ็บเลย ขอให้ ฟึ่บ ไปเลยดีกว่า





Villa San Michelle กับต้น Umbrella Pine บนกาปรี
website ที่นี่ค่ะ http://villasanmichele.eu/


ต้นมะกอกฮ่ะ อ้อ... ที่นี่จะปลูกมะนาวและส้มกันเยอะมาก ปลูกทิ้งปลูกขว้าง ปลูกขาย ปลูกปลูกปลูก ค่ะ ซื้อส้มใส่เป้ทุกวัน กินส้มแก้แค้นที่บ้านเรากิโลเป็นร้อยๆ ที่นี่ถูกมาก




และ transportation มันยังไม่จบแค่นั้นค่ะ .... นั่ง chair lift อี๊กกกก! ขึ้นไป Anacapri สูงสุดของเกาะนี้ กระเป๋าฉีกเลยค่ะ เจ็บจี๊ดๆๆ


ตรงปลายนั้น น่าจะเป็น Grotta Azzurra ถ้ำลอดค่ะ ถ้าลอดสีฟ้าๆ แต่เราไม่ไปค่ะ พอแล้ว 555


ดิ้นรถมาบนนี้เพื่อสิ่งนี้ นึกว่าใหญ่ ที่แท้เท่าตัวเราเลย ใช้มุมกล้อง 5555 โดนฝรั่งหลอก


ฟ้าเป็นฟ้า ทะเลเป็นทะเล แดดเป็นแดด ไม่ต้องกลัวดำแล้วค่ะ มันดำแน่นอนนนน นั่ง chair lift ลงมาใช้เวลา 30 นาที เกรียมกำลังงาม


ป้า Mariah Carey บอกว่า Capri เป็นเกาะที่สวยที่สุดในโลก เราก็เห็นด้วยนะว่าสวย แต่เทียบกับเกาะบ้านเรา ยากกว่า บ้านเราลงน้ำได้ ^ ^


กลับเข้าฝั่ง เดินเล่นต่อจนได้เวลาอาหารเย็นนน ภาพกลางคืนช่องที่เป็นถนนลึกๆ ที่ต้นๆ กระทู้ค่ะ ทุกคนเดินเอา ไม่เรียก taxi แล้วก็ฝากท้องร้านเดิม



วันต่อมา เราไปปอมเปอี (Pompeii) กันค่ะ ก็เส้นทางเดียวกับที่จะนั่งกลับเข้าไป Napoli ค่ะ ลงสถานีปอมเปอีเลย
ฝรั่งสำเนียงเจ้าของภาษาเรียก พอมเพย แบกเป้เหมือนกัน มาถามเราบนรถไฟว่า เธอจะไปพอมเพยหรือเปล่า ฉันจะไป จะต้องลงที่ไหนเหรอ ก็นั่งคุยนิดๆ หน่อย พอถึงสถานีก็ บ๊ายบาย แฮฟ อะ กู้ดเดย์ นะตัวเทอ

Pompeii อดีตมหานครแห่งอิตาลี โดนภัยธรรมชาติทำลายล้าง ภูเขาไฟเวสุเวียสระเบิด ผู้คนมากมายเสียชีวิตอยู่ใต้ดินแดนแห่งนี้ เมื่อเกือบสองพันปีก่อน

เราสู้ธรรมชาติไม่ได้เลย
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


อดีตยิ่งใหญ่อลังการสุดๆ


ภูเขาด้านหลัง คือเวสุเวียส ผู้กวาดเมืองนี้


ร้อนมาก ร้อนแบบไม่มีลม เราต้องการความเย็นนน


เราไม่ได้เข้ามิวเซียมเค้าค่ะ เราเลือกที่จะไปขึ้นเขาแทน ภูเขาไฟ Vesivius
หน้าที่ทำการของปอมเปอี มีเค้าน์เตอร์ของอุทยานแห่งชาติไว้บริการนักท่องเที่ยวที่อยากไปสัมผัสเวสุเวียสแบบไกล้ๆ ค่ะ อ้อ ภูเขาไฟลูกนี้ยัง active อยู่นะคะ

นั่งบัส open-air ไปเปลี่ยนรถ 4WD คันบะเริ่มเลย เชิงเขาผิวไม่เรียบ เด้งดึ๋งตลอดทาง จนเริ่มชันมากๆ จะสมูทขึ้นเรื่อยๆ เพราะพื้นที่เป็นเศษหินกลมๆ เล็ก รถวิ่งขึ้นไปสูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ และจอดพัก ให้เวลาเรา 45 นาที เดินขึ้นไปที่ปากปล่องภูเขาไฟ ค่าใช้จ่ายไป-กลับ คนละ 20 ยูโรค่ะ

ใช้เวลาเดินประมาณ 30 นาทีค่ะ เหนื้อยย เหนื่อย ภูเขาเป็นดินแห้งๆ ซุยๆ เท้ามันยุบเหมือนเดินบนทรายแถมเป็นทางชัน เหมือนเดินไม่ไป แต่เร่งๆ หน่อยเดี๋ยวเวลาหมด ระยะทางไป-กลับ 800 เมตรค่ะ

รายละเอียดการเยี่ยมชมเวสุเวียส มีหลายตัวเลือกเลยค่ะ https://www.walksofitaly.com/pompeii-tours/vesuvius-group-tour?gclid=CjwKEAjw652_BRDfkebVrdOGkDISJAD0Q2RuhyQbL_AqM4vreJ8O_9WgTYHFESnPMdm6UDJwCbqzCRoCP-fw_wcB



พักเป็นระยะ เอาให้หายใจทันแล้วไปต่อ ด้านหลังท้ายซ้ายๆ ของรูปเป็นเมือง Pompeii ขวามือเป็นมือง Torre del Greco


ภูเขากลมๆ ซ้ายสุด คือเกาะ Capri ขวาสุดคือปากภูเขาไฟ


หมดไป 1 วันอันรวดเร็ว กลับมา Sorrento ดังเดิม

มาที่นี่ อย่าพลาดที่จะลอง Limoncello นะคะ เป็นเหล้ามะนาว รสชาตเยี่ยมมาก ปึ้ก! แรงส์พอๆ กับวอดก้า ใน supermarket มีขายตั้งแต่ไซส์จิ๋วๆ จนถึงเป็นขวดลิตรค่ะ ถ้าใครอยากจะซื้อกลับมาฝากทางบ้าน


ก่อนเดินทางข้ามเมือง อย่าลืมไป book รถไฟก่อนนะคะ เฉพาะเส้นที่เป็นขบวนเร็วค่ะ แล้วเราก็กลับไป Napoli แล้วต่อไป Rome



เดี๋ยวมาเขียนต่อค่ะ
ชื่อสินค้า:   ITALY
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่