คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 9
คำถามนี้น่าสนใจ และผมเชื่อว่าใครหลายๆ คนเคยเป็นกันหมดไม่ว่าคนโสดสนิท คนโสดครึ่งๆ กลางๆ หรือคนไม่โสด
คำตอบเอาเท่าที่ผมพอจะอธิบายได้ (คนอ่านจะงงรึเปล่าวะ) คือ
ความสับสนระหว่างอยากหรือไม่อยาก ไม่ใช่เฉพาะเรื่องแฟน แต่ในทุกๆ เรื่องของคนเรามันตั้งอยู่บนพื้นฐานของสิ่งที่เรียกว่า "ความต้องการ" ครับ
ใครสนใจจริงๆ ลองไปหาศึกษาเรื่อง Basic human Needs ของนาย Maslow ดู ซึ่งมันอธิบายความต้องการของคนเราเป็นลำดับไว้ง่ายๆ เลย 5 ลำดับตั้งแต่ความต้องการพื้นฐานไปจนถึงความต้องการขั้นสูงสุด เรียงง่ายๆ ก็ตามนี้
1) ความต้องการของร่างกาย อันนี้เบสิคสุดๆ พื้นฐานของสัตว์ทุกชนิด รวมคนด้วย ต้องการไม่ต่างกัน อาหาร อากาศ การพักผ่อน การขับถ่าย หรืออะไรก็แล้วแต่ที่จะคงไว้ซึ่งชีวิตให้อยู่รอดได้
2) ความต้องการความปลอดภัยของชีวิต อันนี้รวมไปถึงความมั่นคงด้านวัตถุจากปัจจัยภายนอกอื่นๆ ที่ส่งเสริมให้คนคนนั้นรู้สึกมั่นใจว่าชีวิตกุสบายหายห่วงละ
3) ความต้องการความรัก ส่วนนี้เป็นจุดเริ่มต้นของความต้องการจากสังคม ไล่ไปตั้งแต่ พ่อ แม่ พี่น้อง ญาติสนิทมิตรสหาย รวมไปถึงคนรัก (เออเริ่มเข้าเรื่อง) คืออยากให้ตนได้รับความรัก ได้การยอมรับและต้องการมีส่วนร่วมในกลุ่มสังคมนั้นๆ
4) ความต้องการการยอมรับนับถือ อันนี้เริ่มไปไกลละ คือในสังคมข้าต้องอยู่ในระดับท็อป ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง จะเป็นผู้ใหญ่บ้าน กำนัน อบต. สส. ผู้ว่า หัวหน้าม็อบ หรือเป็น เศรษฐี เป็นเซเลป ดารา เน็ตไอดอลก็ว่ากันไป
5) ความต้องการบรรลุศักยภาพสูงสุดของตนเอง อันนี้พอขึ้นสู่สูงสุดคนเราจะเริ่มกลับมามองตัวเอง เพื่อจะปลดผนึกพลังขั้นสูงสุด (พูดเป็นการ์ตูน) แต่จริงๆ คือคนเราเมื่อผ่านการตอบสนองจากความต้องการทั้ง 4 ข้อก่อนหน้ามาแล้วจะเริ่มขวนขวายหาตัวตนที่ดีกว่าของตนเองโดยตนเองนี่แหละเป็นคนตัดสิน ซึ่งข้อ 5 นี่คงยากจะอธิบาย แต่ยกตัวอย่างที่ง่ายที่สุดก็คือพระพุทธเจ้า นี่แหละครับที่พระองค์ผ่าน 4 ข้อแรกและเข้าสู่ข้อ 5 ได้
เอ้าร่ายมาซะยาวเหนื่อย ข้อคำตอบของคำถามว่าบางทีอยากมีแฟน บางทีไม่อยาก ของคนปกติทั่วไป สำหรับผมสาเหตุมันง่ายนิดเดียวครับเพราะสถานะภาพในขณะนั้นๆ มันต่างกรรมต่างวาระกัน เอาแบบกว้างๆ ครอบจักรวาลเลย ก็คือ
ช่วงที่อยากมีแฟน ณ ตอนนั้นคือคุณสามารถตอบสนองความต้องการข้อ 1 และ 2 มาได้เรียบร้อย และกำลังพยายามตอบสนองความต้องการในสเตป3 ซึ่งคุณอาจรู้สึกว่ามันขาดไปด้วยบางสาเหตุ เช่น เหงาบ้าง, น้อยใจเห็นคนอื่นมีแฟนแล้วเราไม่มีมันเหมือนด้อยกว่า รู้สึกว่าความรักจากคนในบ้าน หรือจากเพื่อนๆ มันยังไม่เติมเต็มมาก และอื่นๆ อีกมากมายก็ว่ากันไป
แต่สิ่งที่ต้องขอเสริมในเรื่องอารมณ์อยากมีแฟนอีกส่วนหนึ่งมันเกี่ยวโยงไปกับจิตวิทยาของสมอง และเรื่องของฮอร์โมนร่างกาย ว่ากันง่ายๆ คือความต้องการในเรื่องการสืบพันธ์ุนั่นหละ เป็นตัวกระตุ้น ซึ่งกรณีก็เป็นตัวส่งเสริมให้คนเรามีความรู้สึกอยากมีคู่ขึ้นมาได้ แต่อย่างไรก็ตามผมยังยืนยันว่าคนที่จะรู้สึกอยากมีแฟนได้ ต้องรู้สึกว่าได้รับการตอบสนองความต้องการ 2 ข้อพื้นฐานเพียงพอแล้ว
ส่วนช่วงที่ไม่อยากมีแฟนพอจะแบ่งได้เป็น 3 กรณี คือ
- บุคคลนั้นยังติดปัญหาใน ส่วนข้อ 1 และ 2 ที่มันยังขาดบางอย่างไป อาจจะด้วยปัญหาชีวิต ความเจ็บป่วย ปัญหาเรื่องเงินเรื่องงาน หรืออะไรก็แล้วแต่ที่ส่งผลให้ไม่มีความคิดที่จะตอบสนองความต้องการในขั้นถัดไป เพราะยังต้องจัดการกับความต้องการ 2 ขั้นแรกอยู่
- มีความรู้สึกขณะนั้นว่าตนเองได้รับการตอบสนองจากความต้องการทางสังคมมากพอละ ไม่ว่าจะเพื่อนเยอะ ครอบครัวรักใคร่มีความสุขกันดี ชีวิตนี้ดี๊ดี หรือบางคนไม่สนใจสังคมผ่าน 2 ข้อแรกมาแล้วก็พอจะมีชีวิตอยู่ได้ข้อ 3 ยังไม่อยากไปต่อ (แต่สุดท้ายคนจำพวกนี้ก็จะต้องกลับมาเข้าสู่ข้อ 3 ในซักวันอยู่ดี) ก็ประมาณนี้แหละ
- บางคนมีความรู้สึกกลัว เนื่องจากเคยผิดหวัง แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่อยากมี แต่อาจเพราะประสบการณ์ที่ผ่านมาจากมีแฟน มันได้ไปกระทบ ข้ออื่นๆ ให้บกพร่องไป ความรู้สึกด้านความต้องการของคนเราอยากได้มากขึ้นอยู่แล้วไล่ไป 1-2-3-4-5 เมื่อมีบางสิ่งบางอย่างที่จะส่งผลให้การตอบสนองความต้องการมันถดถอยลง เขาเหล่านั้นจะเลือกปฎิเสธจ้า
คนเราส่วนใหญ่ มีชีวิตวนเวียนอยู่กับความต้องการข้อ 1-3 บางคนขึ้นไปข้อ 4 ละก็ร่วงลงมานับ 3 นับ 2 หรือนับ 1 ใหม่เลยก็มี มันวนเวียนอยู่ประมาณนั้น การสับสนกับความรู้สึกเป็นเรื่องปรกติของมนุษย์ สิ่งสำคัญคือหาสาเหตุของมันแล้วทำความเข้าใจชีวิตตัวเองให้ดี ก่อนตัดสินใจครับ
ส่วนเรื่องของแฟนคนหลายคนต้องแยกความต้องการให้ออกว่ากำลังจะตอบสนองตัวเองในด้านความรัก หรือ sex (ถึงแม้ส่วนใหญ่จะอยากทั้ง 2 อย่าง แต่ต้องเลือกให้ได้ว่าจะเอาตัวไหนเป็นหลัก เพราะความสมบูรณ์แบบมันหาได้ยากจริงๆ นะ)
* ปล.1 การหาแฟนมันก็เหมือนการลงทุนที่มีความเสี่ยง ผู้ตัดสินใจต้องศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนลงทุนนะครับ
** ปล.2 ส่วนใหญ่คนที่ถามแบบ จขกท. ไม่ได้ต้องการคำตอบอะไรมากมาย แต่ผมอยากตอบ เพราะคนรอบๆ ตัวผมที่ผ่านๆ มามักบ่นแบบนี้แหละ อยากเดินไปเฉ่งกบาลซักทีให้มันหายเวิ่นเว้อ แล้วอธิบายไปตามนี้แต่ไม่มีโอกาส เลยจัดมันในกระทู้นี่ละวะ ถือซะว่ายืมพื้นที่ ขอบคุณครับ
คำตอบเอาเท่าที่ผมพอจะอธิบายได้ (คนอ่านจะงงรึเปล่าวะ) คือ
ความสับสนระหว่างอยากหรือไม่อยาก ไม่ใช่เฉพาะเรื่องแฟน แต่ในทุกๆ เรื่องของคนเรามันตั้งอยู่บนพื้นฐานของสิ่งที่เรียกว่า "ความต้องการ" ครับ
ใครสนใจจริงๆ ลองไปหาศึกษาเรื่อง Basic human Needs ของนาย Maslow ดู ซึ่งมันอธิบายความต้องการของคนเราเป็นลำดับไว้ง่ายๆ เลย 5 ลำดับตั้งแต่ความต้องการพื้นฐานไปจนถึงความต้องการขั้นสูงสุด เรียงง่ายๆ ก็ตามนี้
1) ความต้องการของร่างกาย อันนี้เบสิคสุดๆ พื้นฐานของสัตว์ทุกชนิด รวมคนด้วย ต้องการไม่ต่างกัน อาหาร อากาศ การพักผ่อน การขับถ่าย หรืออะไรก็แล้วแต่ที่จะคงไว้ซึ่งชีวิตให้อยู่รอดได้
2) ความต้องการความปลอดภัยของชีวิต อันนี้รวมไปถึงความมั่นคงด้านวัตถุจากปัจจัยภายนอกอื่นๆ ที่ส่งเสริมให้คนคนนั้นรู้สึกมั่นใจว่าชีวิตกุสบายหายห่วงละ
3) ความต้องการความรัก ส่วนนี้เป็นจุดเริ่มต้นของความต้องการจากสังคม ไล่ไปตั้งแต่ พ่อ แม่ พี่น้อง ญาติสนิทมิตรสหาย รวมไปถึงคนรัก (เออเริ่มเข้าเรื่อง) คืออยากให้ตนได้รับความรัก ได้การยอมรับและต้องการมีส่วนร่วมในกลุ่มสังคมนั้นๆ
4) ความต้องการการยอมรับนับถือ อันนี้เริ่มไปไกลละ คือในสังคมข้าต้องอยู่ในระดับท็อป ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง จะเป็นผู้ใหญ่บ้าน กำนัน อบต. สส. ผู้ว่า หัวหน้าม็อบ หรือเป็น เศรษฐี เป็นเซเลป ดารา เน็ตไอดอลก็ว่ากันไป
5) ความต้องการบรรลุศักยภาพสูงสุดของตนเอง อันนี้พอขึ้นสู่สูงสุดคนเราจะเริ่มกลับมามองตัวเอง เพื่อจะปลดผนึกพลังขั้นสูงสุด (พูดเป็นการ์ตูน) แต่จริงๆ คือคนเราเมื่อผ่านการตอบสนองจากความต้องการทั้ง 4 ข้อก่อนหน้ามาแล้วจะเริ่มขวนขวายหาตัวตนที่ดีกว่าของตนเองโดยตนเองนี่แหละเป็นคนตัดสิน ซึ่งข้อ 5 นี่คงยากจะอธิบาย แต่ยกตัวอย่างที่ง่ายที่สุดก็คือพระพุทธเจ้า นี่แหละครับที่พระองค์ผ่าน 4 ข้อแรกและเข้าสู่ข้อ 5 ได้
เอ้าร่ายมาซะยาวเหนื่อย ข้อคำตอบของคำถามว่าบางทีอยากมีแฟน บางทีไม่อยาก ของคนปกติทั่วไป สำหรับผมสาเหตุมันง่ายนิดเดียวครับเพราะสถานะภาพในขณะนั้นๆ มันต่างกรรมต่างวาระกัน เอาแบบกว้างๆ ครอบจักรวาลเลย ก็คือ
ช่วงที่อยากมีแฟน ณ ตอนนั้นคือคุณสามารถตอบสนองความต้องการข้อ 1 และ 2 มาได้เรียบร้อย และกำลังพยายามตอบสนองความต้องการในสเตป3 ซึ่งคุณอาจรู้สึกว่ามันขาดไปด้วยบางสาเหตุ เช่น เหงาบ้าง, น้อยใจเห็นคนอื่นมีแฟนแล้วเราไม่มีมันเหมือนด้อยกว่า รู้สึกว่าความรักจากคนในบ้าน หรือจากเพื่อนๆ มันยังไม่เติมเต็มมาก และอื่นๆ อีกมากมายก็ว่ากันไป
แต่สิ่งที่ต้องขอเสริมในเรื่องอารมณ์อยากมีแฟนอีกส่วนหนึ่งมันเกี่ยวโยงไปกับจิตวิทยาของสมอง และเรื่องของฮอร์โมนร่างกาย ว่ากันง่ายๆ คือความต้องการในเรื่องการสืบพันธ์ุนั่นหละ เป็นตัวกระตุ้น ซึ่งกรณีก็เป็นตัวส่งเสริมให้คนเรามีความรู้สึกอยากมีคู่ขึ้นมาได้ แต่อย่างไรก็ตามผมยังยืนยันว่าคนที่จะรู้สึกอยากมีแฟนได้ ต้องรู้สึกว่าได้รับการตอบสนองความต้องการ 2 ข้อพื้นฐานเพียงพอแล้ว
ส่วนช่วงที่ไม่อยากมีแฟนพอจะแบ่งได้เป็น 3 กรณี คือ
- บุคคลนั้นยังติดปัญหาใน ส่วนข้อ 1 และ 2 ที่มันยังขาดบางอย่างไป อาจจะด้วยปัญหาชีวิต ความเจ็บป่วย ปัญหาเรื่องเงินเรื่องงาน หรืออะไรก็แล้วแต่ที่ส่งผลให้ไม่มีความคิดที่จะตอบสนองความต้องการในขั้นถัดไป เพราะยังต้องจัดการกับความต้องการ 2 ขั้นแรกอยู่
- มีความรู้สึกขณะนั้นว่าตนเองได้รับการตอบสนองจากความต้องการทางสังคมมากพอละ ไม่ว่าจะเพื่อนเยอะ ครอบครัวรักใคร่มีความสุขกันดี ชีวิตนี้ดี๊ดี หรือบางคนไม่สนใจสังคมผ่าน 2 ข้อแรกมาแล้วก็พอจะมีชีวิตอยู่ได้ข้อ 3 ยังไม่อยากไปต่อ (แต่สุดท้ายคนจำพวกนี้ก็จะต้องกลับมาเข้าสู่ข้อ 3 ในซักวันอยู่ดี) ก็ประมาณนี้แหละ
- บางคนมีความรู้สึกกลัว เนื่องจากเคยผิดหวัง แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่อยากมี แต่อาจเพราะประสบการณ์ที่ผ่านมาจากมีแฟน มันได้ไปกระทบ ข้ออื่นๆ ให้บกพร่องไป ความรู้สึกด้านความต้องการของคนเราอยากได้มากขึ้นอยู่แล้วไล่ไป 1-2-3-4-5 เมื่อมีบางสิ่งบางอย่างที่จะส่งผลให้การตอบสนองความต้องการมันถดถอยลง เขาเหล่านั้นจะเลือกปฎิเสธจ้า
คนเราส่วนใหญ่ มีชีวิตวนเวียนอยู่กับความต้องการข้อ 1-3 บางคนขึ้นไปข้อ 4 ละก็ร่วงลงมานับ 3 นับ 2 หรือนับ 1 ใหม่เลยก็มี มันวนเวียนอยู่ประมาณนั้น การสับสนกับความรู้สึกเป็นเรื่องปรกติของมนุษย์ สิ่งสำคัญคือหาสาเหตุของมันแล้วทำความเข้าใจชีวิตตัวเองให้ดี ก่อนตัดสินใจครับ
ส่วนเรื่องของแฟนคนหลายคนต้องแยกความต้องการให้ออกว่ากำลังจะตอบสนองตัวเองในด้านความรัก หรือ sex (ถึงแม้ส่วนใหญ่จะอยากทั้ง 2 อย่าง แต่ต้องเลือกให้ได้ว่าจะเอาตัวไหนเป็นหลัก เพราะความสมบูรณ์แบบมันหาได้ยากจริงๆ นะ)
* ปล.1 การหาแฟนมันก็เหมือนการลงทุนที่มีความเสี่ยง ผู้ตัดสินใจต้องศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนลงทุนนะครับ
** ปล.2 ส่วนใหญ่คนที่ถามแบบ จขกท. ไม่ได้ต้องการคำตอบอะไรมากมาย แต่ผมอยากตอบ เพราะคนรอบๆ ตัวผมที่ผ่านๆ มามักบ่นแบบนี้แหละ อยากเดินไปเฉ่งกบาลซักทีให้มันหายเวิ่นเว้อ แล้วอธิบายไปตามนี้แต่ไม่มีโอกาส เลยจัดมันในกระทู้นี่ละวะ ถือซะว่ายืมพื้นที่ ขอบคุณครับ
แสดงความคิดเห็น
ใครเคยเป็นบ้าง บางครั้งอยากมีแฟนแต่บางครั้งก็ไม่อยากมี
งงกับตัวเองมากๆเลย