สวัสดีครับ พอดีได้มีโอกาสทดลองใช้กล้อง IP Camera ของ D-Link รุ่น DSC-5030L
ซึ่งเป็นกล้อง IP Camera ความละเอียดระดับ HD 720P ก็เลยอยากจะมารีวิวให้ฟังกันครับ

D-Link DSC-5030L


อุปกรณ์ในกล่องก็จะมี ตัวกล้อง , ขาสำหรับยึดติดกับกำแพงหรือเพดาน , อแดปเตอร์ 5V หัวเสียบเป็น Micro USB , คู่มือการใช้งาน

สำหรับการติดตั้งใช้งานที่บ้านผมได้ทดลองติดไว้ที่ห้องรับแขกที่บ้าน เป็นการติดตั้งชั่วคราวยังไม่ได้เจาะยึดโดยใช้ขายึดติดกับกำแพงบ้านนะครับ



เอามาวางไว้บนโปรเจคเตอร์ที่อยู่หลังโซฟาในห้องรับแขกซะเลยง่ายดี

สำหรับการตั่งค่าก็ไม่ยากนะครับ ที่ตัวกล้องจะมีปุ่ม WPS (Wi-Fi Protected Setup)
ซึ่งจะช่วยให้สามารถเชื่อมต่อกล้องเข้ากับเครือข่ายที่บ้านได้อย่างง่ายดาย โดยการกดปุ่ม WPS ที่ด้านหลังกล้อง
จากนั้นก็ไปกดปุ่ม WPS ที่ ADSL Router ที่บ้านเรา อุปกรณ์ทั้งสองก็จะทำการเชื่อมต่อกันโดยอัตโนมัติ
สังเกตุที่ไฟแสดงสถานะที่ด้านหน้ากล้องได้ ถ้ายังไม่เชื่อมต่อกับเครือข่ายไฟจะเป็นสีแดงแต่ถ้าเชื่อมต่อแล้วไฟจะเป็นสีเขียวติดค้าง
ถ้าเกิดว่ามีการเรียกดูภาพจากกล้องไฟสีเขียวที่ว่านี้จะกระพริบเป็นการแสดงให้เห็นว่ากล้องกำลังทำงานอยู่ครับ

เมื่อติดตั้งอุปกรณ์เสร็จแล้วก็มาลองเรียกดูภาพจากกล้องกันดีกว่า
จากเครื่องคอมพิวเตอร์เราสามารถเปิดเวป https://th.mydlink.com/entrance เพื่อเข้าไปเรียกดูภาพจากกล้องได้
โดยเราจะต้องลงทะเบียน D-Link Account ก่อนจากนั้นก็เพิ่มอุปกรณ์ของเราเข้าไป เมื่อเสร็จแล้วก็จะสามารถเรียดูภาพได้ดังรูป


สำหรับการดูผ่านโทรศัพท์มือถือผมใช้มือถือแอนดรอยก็เข้าไปโหลดแอพ mydlink Lite มาติดตั้ง
ซึ่งเมื่อติดตั้งเสร็จแล้วก็จะทำการล๊อกอินโดยใช้ D-Link Account ที่เราได้ลงทะเบียนไว้เช่นเดียวกับในเวปไซต์
เมื่อเข้ามาในแอพแล้วก็จะมีรายการอุปกรณ์ของเราขึ้นมาเราก็กดไปที่ตัวกล้องก็จะสามารถเรียกดูภาพจากกล้องได้



ตัวอย่างเมื่อกดเรียกดูภาพจากกล้อง



การควบคุมกล้องเราสามารถลากนิ้วที่หน้าจอเพื่อแพนกล้อง บน-ล่าง ซ้าย-ขวา ได้ สามารถสั่งให้บันทึกภาพนิ่งได้ครับ
และนอกจากนั้นที่ตัวกล้องยังมีช่องเสียบ Micro SD-Card ซึ่งเราสามารถซื้อการ์ดมาเสียบเพื่อบันทึกภาพ
ทำให้สามารถเรียกดูภาพย้อนหลังได้ครับ

ต่อไปเป็นการทดลองเอาไปติดตั้งนอกบ้านบ้างนะครับ เนื่องจากผมยังไม่ได้เดินสายไฟไปจุดที่จะเสียบปลั๊กนอกบ้าน
แต่เห็นว่าไฟเลี้ยงของกล้องเป็นช่องต่อแบบ Micro USB ก็เลยใช้เพาเวอร์แบงค์มาต่อเพื่อจ่ายไฟให้กับกล้องไปก่อนครับ
ก็สามารถใช้งานได้ปกติดีแต่ออกจะดูลูกทุ่งไปซะหน่อยนะ 555


เอามาตั้งไว้ดูภาพที่โรงรถซะวันนึงก็สามารถดูได้ปกติครับ ทำให้รู้ด้วยว่าตอนกลางวันที่เราออกไปทำงาน
มีรถแอบมาจอดปิดหน้าบ้านเราด้วย สงสัยจะเห็นว่ากลางวันเจ้าของบ้านไม่อยู่ก็เลยมาจอดปิดซะเลย
แต่ตอนเย็นกลับบ้านมาก็ไม่เห็นมีแล้วนะครับ 555


สำหรับคนที่สงสัยกลัวว่าการที่เราเสียบใช้งานกล้องตัวนี้แล้วมันจะกินไฟมากรึเปล่า
พอดีที่บ้านผมมีตัววัดอัตราการกินไฟของเครื่องใช้ไฟฟ้าอยู่ก็เลยลองเสียบวัดดู


สรุปว่ากล้องตัวนี้กินไฟน้อยมากครับแค่ประมาณ 2 วัตต์เอง ถ้าคำนวณเป็นค่าไฟต่อวัน
ตีซะว่าค่าไฟหน่วยละ 4 บาท ((2x24)/1000)x4) = 0.19 แสดงว่าเราเปิดใช้งานวันนึง 24 ชั่วโมง
จะเสียค่าไฟแค่วันละ 19 สตางค์เองครับ จัดว่าประหยัดมากเมื่อเทียบกับประโยชน์ที่จะได้รับจากกล้องตัวนี้

สรุปว่าจากการทดลองใช้งานมาประมาณสองอาทิตย์รู้สึกว่ากล้องตัวนี้ใช้งานได้ดีมากครับ
สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้หลายแบบและตัวกล้องเองก็ยังมีฟังก์ชั่นอีกเยอะที่ผมยังใช้งานไม่ครบเลย
ไม่ว่าจะเป็นการแจ้งเตือนหากกล้องสามารถตรวจจับการเคลื่อนไหวได้ไปที่โทรศัพท์เรา หรือนอกจากนั้น
ตัวกล้องยังสามารถทำหน้าที่เป็นตัวขยายสัญญาณไวไฟของบ้านเราให้แรงขึ้นอีกด้วย ถ้ามีเวลาก็คงต้องลอง
เล่นฟังก์ชั่นทั้งหลายดูอีกทีครับ

ยังไงก็ขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้ครับ ขอบคุณที่ติดตามอ่านครับ