รีวิวเที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรกเดอะแก๊งค์ ที่หนึ่งในสมาชิกมีความอยากไปมากๆๆๆ แม้จะเป็นหน้าร้อนก็ตาม ด้วยราคาตั๋วที่ถูกจนมือไม้สั่น จนต้องกดจองกันอย่างงงๆ สุดท้ายก็ถึงวันเดินทาง 3-9 กรกฎาคม 2559 เราออกเดินทางจากเมืองไทย สนามบินดอนเมืองเวลาประมานบ่ายสองครึ่ง กว่าจะถึง สนามบินคันไซ โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ก็ 4 ทุ่ม (เวลาที่ญี่ปุ่น)
ขอออกตัวก่อนว่าถ่ายภาพไม่เก่ง ช่วยๆกันกับเพื่อน เก็บเป็นที่ระลึกและรีวิวให้เพื่อนๆในนี้ชมเท่านั้น
ขออภัยหากข้อมูลตกหล่นส่วนไหนไปบ้าง ^^
เมื่อถึงสนามบินด่านแรกคือต้องผ่าน ตม. ก่อน สำหรับใครที่พักโรงแรมมีชื่อและสถานที่ตั้งชัดเจน เจ้าหน้าที่ก็จะไม่ได้ถามอะไรมาก แต่สำหรับเรา เพื่อเป็นการประหยัดงบไปกินของอร่อยๆ เราเลือกพักกับ Airbnb เป็นคอนโดของคุณ Bayan & Mayumi ถือว่าถูกและราคาเหมาะสม ใกล้ร้านสะดวกซื้อ เพื่อนๆเข้าไปดูภาพบรรยากาศของห้องนอนได้ที่
https://goo.gl/FdN0lZ เจ้าหน้าที่จะให้ระบุชื่อเจ้าของบ้าน ที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์ที่ชัดเจน ทางคุณ Bayan & Mayumi ได้ให้ข้อมูลมาเรียบร้อย ก่อนวันเดินทาง ก็กรอกลงไปในใบตรวจคนเข้าเมืองตามปกติ ถามอะไรก็ตอบเจ้าหน้าที่ไปไม่ต้องตื่นเต้น ส่วนมากจะถามว่ามากี่วัน พักที่ไหน ประมานนี้
จบเรื่องที่พักมาต่อเรื่องเข้าเมือง ถึงดึกพอควรและกว่าจะผ่าน ตม. ก็ใช้เวลาพอสมควรเนื่องจากคนเยอะ
มี 2 วิธีการเช้าเมืองโอซาก้าเพื่อไปต่อแท๊กซี่เข้าที่พัก
1.KIX - Limousine Bus นั่งรถบัสจากสนามบินเข้าเมือง ราคา 1550 y/คน
https://goo.gl/NY0q6L
2.KIX- to Osaka Station นั่งรถไฟเข้าเมือง แต่เพื่อนๆต้องเช็คตารางรถไฟว่าหมดกี่โมงด้วย ไม่อย่างนั้นจะได้นั่งแท๊กซี่ยาว และขอบอกว่าค่าบริการแท๊กซี่ที่ญี่ปุ่นแพงจริง
พวกเราเลือกเดินทางด้วยรถไฟ เพราะคิดว่าจะหาอะไรทานก่อนเข้าที่พัก ด้วยความหิวมาก ราเม็งร้อนๆสักถ้วยก่อนนอนคงดี หนึ่งในสมาชิกบอกว่ามีราเม็งข้อสอบ หรือ Ichiran Ramen เปิด 24 ชม. (มีหลายสาขา เลือกได้ตามสะดวก) ไม่รอช้าลงจากรถไฟได้ดิ่งเข้าร้าน จัดการไปคนละชามสบายท้อง
จากภาพคือระดับความเผ็ดที่ 5 (ระดับความเผ็ดมีตั้งแต่ 1-10 ถ้ามากกว่านั้น ต้องจ่ายตังเพิ่มนะจ๊ะ)
อิ่มท้องสบายใจ สบายใจกระเป๋าเบาๆคนละ 890y เดินทางต่อด้วย taxi เพื่อเข้าที่พัก เวลาประมานเที่ยงคืนได้ คืนแรกเจอค่า taxi ไปประมาน 3600y (ตัวเลขเท่าที่จำได้) เริ่มต้นตอนขึ้นก็ 630y แล้ว หน้าซีดกันไปเพราะแพงมาก
พักผ่อนให้หายเหนื่อย พรุ่งนี้เช้ามาผจญภัยกันต่อ
ต่อกันวันที่สองของทริป หน้าร้อนของญี่ปุ่นเวลาตี 5 ของเค้าแดดแรงมาก ประมาณ 8-9 โมงของเมืองไทย ทำเอาเราต้องรีบรนรานนึกว่าสายมาก ต้องไปตลาดปลาหาชูชิอร่อยๆทาน
ภาพด้านล่างเวลาประมาน 7.30 ของญี่ปุ่น แดดและแดด
ถนนหน้าห้องพัก ที่เงียบ สงบ และสะอาดมาก
ระหว่างทางเดินไปสถานีรถไฟ เดินประมาน 10 นาที แดดมหาโหดมาก
บนสถานีรถไฟ เนื่องจากเป็นวันจันทร์ คนส่วนใหญ่คงกำลังไปทำงานกัน
ซะหน่อย ภาพยอดฮิต งานคู่กับฝาท่อก็มา
การเดินทางวันนี้ว่ากันด้วย....................... shopping & eating HAHAH!!!!!! แต่ก่อนจะ shopping กองทัพต้องเดินด้วยท้องกันก่อน เริ่มจากชูชิเจ้าดังมีรีวิวในพันทิพมากมาย พวกเราต้องไปลองซะหน่อย
Endo Sushi สุดยอดซูชิ สะพานปลา ร้านซูชิแนะนำโอซาก้า ร้าน เปิดบริการทุกวัน เวลา 05.00 – 14.00 น.
การเดินทาง : ใช้รถไฟฟ้าสาย Sennichimae Line มาลงสถานี Tamagawa station แล้วออกทางออก Exit 3
เดินจากสถานรถไฟฟ้ามายังตลาดปลาประมาณ 10 นาทีก็ถึงตลาดปลา ให้สังเกตนาฬิกาใหญ่ตรงลานจอดรถ หรือถ้ามาไม่ถูกก็ถามชาวญี่ปุ่นบอกว่าไป Fish Market ถ้าหันหน้าเข้าตลาดปลา ร้านอาหารเรียงรายอยู่ทางซ้าย
ถึงแล้วหน้าร้าน Endo Sushi
บรรยากาศภายในร้าน
ที่ร้านจะมีเป็น set ให้เราเลือกทานได้ตามชอบ
สำหรับเรารสชาติไม่ว้าวเท่าไหร่นัก (ลิ้นเราไม่ถึงรึป่าวไม่รู้นะ) แต่ยอมรับว่าไม่คาวเลย หอยเซลหวานมาก โดยรวมโอเค วันที่เราไปคนไม่เยอะ นั่งทานสบายๆ
สถานีต่อไป ปราสาทโอซาก้า – Osaka Castle
เวลาเปิด-ปิด: 9:00 - 17:00 น.
ค่าเข้าชม : 600 เยน
การเดินทาง : จาก tawagawa ลง Awaza (sennichimae line) สลับมาที่ (chuo line) ลงสถานี Morinomiya ออกทาง exit 3
ทางเข้ามีแผนผังให้ดูว่าเราอยู่ตรงไหนและจะเดินไปยังไง
ระหว่างเดินเข้าไปยังตัวปราสาท ไกลพอสมควร แต่ร่มรื่น ต้นไม้เยอะ
ประตูทางเข้าด้านในก่อน เข้าไปยังตัวปราสาท
จากอากาศที่ร้อน พอเห็นของเย็นๆอย่างไอศกรีม พวกเราก็ดิ่งไปชิมก่อน หอม หวาน อร่อยดี โคนละ 400y
ซ้ายชาเขียว ขวาเมลอน
เราใช้ Kansai Thru Pass ในการเข้าชมฟรี
วิวจากด้านบนของตัวปราสาท แนะนำให้รอขึ้นลิฟ ไปชั้นบนสุดแล้วเดินลงจะดีกว่า ต่อคิวรอหน่อยดีกว่าเหนื่อยทั้งตอนขึ้นและตอนลงนะ
ต่อด้วยมื้อเที่ยง Okonomiyaki ระหว่างทางก่อนไป shinsaibashi Suji
หน้าตาน่าทานมาก แต่พอกินได้สักพักเริ่มเลื่ยน สั่งมา 3 แบบ เกือบไม่หมด เพราะชิ้นค่อนข้างใหญ่ ค่าเสียหายประมาน 2800y รวมน้ำ
ถึงละคะ shinsaibashi Suji สถานที่ละลายทรัพย์ในกระเป๋า ขอบอกว่ารองเท้าผ้าใบทุกยี่ห้องถูกมาก
เดินไปไม่กี่ชั่วโมง ก็ตามภาพคะ หมดตัว หมดแรง *ทุกร้านมี tax refund ก่อนชำระสอบถามทางร้านก่อนได้ เพื่อไม่ให้เสียผลประโยชน์
และมาถึงมื้อเย็นของวันนี้ เนื้อย่าง kobe beef ร้านใกล้กับ donki สาขา shinsaibashi จานนี้เท่าที่จำได้ 5000y 6 ชิ้นโตๆ
ตบท้ายด้วยของหวาน pablo cheesecake มีทั้งแบบ take home และ นั่งทานในร้าน
ลูกค้าเยอะมาก ทำให้ออเดอร์ที่เราสั่งไปไม่ได้ ต้องซื้อกลับมาทานที่ห้องพักแทน T.T นั่งจนหายอยากกิน
ในที่สุดก็หมดวัน เหนือยมากเดินเยอะที่สุดในชีวิต แพลนพรุ่งนี้เราจะไป universal studio japan
*อ่านรีวิว : ญี่ปุ่น "หน้าร้อน" ก็เที่ยวได้ Kansai (Osaka/kyoto) เที่ยวด้วยตัวเองได้รับรองไม่หลง ( PART 2)
http://ppantip.com/topic/35631797
*อ่านรีวิว : ญี่ปุ่น "หน้าร้อน" ก็เที่ยวได้ Kansai (Osaka/kyoto) เที่ยวด้วยตัวเองได้รับรองไม่หลง ( PART 3)
http://ppantip.com/topic/35662166
*อ่านรีวิว : ญี่ปุ่น "หน้าร้อน" ก็เที่ยวได้ Kansai (Osaka/kyoto) เที่ยวด้วยตัวเองได้รับรองไม่หลง ( PART 4)
http://ppantip.com/topic/35727830
[CR] ญี่ปุ่น "หน้าร้อน" ก็เที่ยวได้ Kansai (Osaka/kyoto) เที่ยวด้วยตัวเองได้รับรองไม่หลง ( PART 1)
ขอออกตัวก่อนว่าถ่ายภาพไม่เก่ง ช่วยๆกันกับเพื่อน เก็บเป็นที่ระลึกและรีวิวให้เพื่อนๆในนี้ชมเท่านั้น
ขออภัยหากข้อมูลตกหล่นส่วนไหนไปบ้าง ^^
เมื่อถึงสนามบินด่านแรกคือต้องผ่าน ตม. ก่อน สำหรับใครที่พักโรงแรมมีชื่อและสถานที่ตั้งชัดเจน เจ้าหน้าที่ก็จะไม่ได้ถามอะไรมาก แต่สำหรับเรา เพื่อเป็นการประหยัดงบไปกินของอร่อยๆ เราเลือกพักกับ Airbnb เป็นคอนโดของคุณ Bayan & Mayumi ถือว่าถูกและราคาเหมาะสม ใกล้ร้านสะดวกซื้อ เพื่อนๆเข้าไปดูภาพบรรยากาศของห้องนอนได้ที่ https://goo.gl/FdN0lZ เจ้าหน้าที่จะให้ระบุชื่อเจ้าของบ้าน ที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์ที่ชัดเจน ทางคุณ Bayan & Mayumi ได้ให้ข้อมูลมาเรียบร้อย ก่อนวันเดินทาง ก็กรอกลงไปในใบตรวจคนเข้าเมืองตามปกติ ถามอะไรก็ตอบเจ้าหน้าที่ไปไม่ต้องตื่นเต้น ส่วนมากจะถามว่ามากี่วัน พักที่ไหน ประมานนี้
จบเรื่องที่พักมาต่อเรื่องเข้าเมือง ถึงดึกพอควรและกว่าจะผ่าน ตม. ก็ใช้เวลาพอสมควรเนื่องจากคนเยอะ
มี 2 วิธีการเช้าเมืองโอซาก้าเพื่อไปต่อแท๊กซี่เข้าที่พัก
1.KIX - Limousine Bus นั่งรถบัสจากสนามบินเข้าเมือง ราคา 1550 y/คน https://goo.gl/NY0q6L
2.KIX- to Osaka Station นั่งรถไฟเข้าเมือง แต่เพื่อนๆต้องเช็คตารางรถไฟว่าหมดกี่โมงด้วย ไม่อย่างนั้นจะได้นั่งแท๊กซี่ยาว และขอบอกว่าค่าบริการแท๊กซี่ที่ญี่ปุ่นแพงจริง
พวกเราเลือกเดินทางด้วยรถไฟ เพราะคิดว่าจะหาอะไรทานก่อนเข้าที่พัก ด้วยความหิวมาก ราเม็งร้อนๆสักถ้วยก่อนนอนคงดี หนึ่งในสมาชิกบอกว่ามีราเม็งข้อสอบ หรือ Ichiran Ramen เปิด 24 ชม. (มีหลายสาขา เลือกได้ตามสะดวก) ไม่รอช้าลงจากรถไฟได้ดิ่งเข้าร้าน จัดการไปคนละชามสบายท้อง
จากภาพคือระดับความเผ็ดที่ 5 (ระดับความเผ็ดมีตั้งแต่ 1-10 ถ้ามากกว่านั้น ต้องจ่ายตังเพิ่มนะจ๊ะ)
อิ่มท้องสบายใจ สบายใจกระเป๋าเบาๆคนละ 890y เดินทางต่อด้วย taxi เพื่อเข้าที่พัก เวลาประมานเที่ยงคืนได้ คืนแรกเจอค่า taxi ไปประมาน 3600y (ตัวเลขเท่าที่จำได้) เริ่มต้นตอนขึ้นก็ 630y แล้ว หน้าซีดกันไปเพราะแพงมาก
พักผ่อนให้หายเหนื่อย พรุ่งนี้เช้ามาผจญภัยกันต่อ
ต่อกันวันที่สองของทริป หน้าร้อนของญี่ปุ่นเวลาตี 5 ของเค้าแดดแรงมาก ประมาณ 8-9 โมงของเมืองไทย ทำเอาเราต้องรีบรนรานนึกว่าสายมาก ต้องไปตลาดปลาหาชูชิอร่อยๆทาน
ภาพด้านล่างเวลาประมาน 7.30 ของญี่ปุ่น แดดและแดด
ถนนหน้าห้องพัก ที่เงียบ สงบ และสะอาดมาก
ระหว่างทางเดินไปสถานีรถไฟ เดินประมาน 10 นาที แดดมหาโหดมาก
บนสถานีรถไฟ เนื่องจากเป็นวันจันทร์ คนส่วนใหญ่คงกำลังไปทำงานกัน
ซะหน่อย ภาพยอดฮิต งานคู่กับฝาท่อก็มา
การเดินทางวันนี้ว่ากันด้วย....................... shopping & eating HAHAH!!!!!! แต่ก่อนจะ shopping กองทัพต้องเดินด้วยท้องกันก่อน เริ่มจากชูชิเจ้าดังมีรีวิวในพันทิพมากมาย พวกเราต้องไปลองซะหน่อย
Endo Sushi สุดยอดซูชิ สะพานปลา ร้านซูชิแนะนำโอซาก้า ร้าน เปิดบริการทุกวัน เวลา 05.00 – 14.00 น.
การเดินทาง : ใช้รถไฟฟ้าสาย Sennichimae Line มาลงสถานี Tamagawa station แล้วออกทางออก Exit 3
เดินจากสถานรถไฟฟ้ามายังตลาดปลาประมาณ 10 นาทีก็ถึงตลาดปลา ให้สังเกตนาฬิกาใหญ่ตรงลานจอดรถ หรือถ้ามาไม่ถูกก็ถามชาวญี่ปุ่นบอกว่าไป Fish Market ถ้าหันหน้าเข้าตลาดปลา ร้านอาหารเรียงรายอยู่ทางซ้าย
ถึงแล้วหน้าร้าน Endo Sushi
บรรยากาศภายในร้าน
ที่ร้านจะมีเป็น set ให้เราเลือกทานได้ตามชอบ
สำหรับเรารสชาติไม่ว้าวเท่าไหร่นัก (ลิ้นเราไม่ถึงรึป่าวไม่รู้นะ) แต่ยอมรับว่าไม่คาวเลย หอยเซลหวานมาก โดยรวมโอเค วันที่เราไปคนไม่เยอะ นั่งทานสบายๆ
สถานีต่อไป ปราสาทโอซาก้า – Osaka Castle
เวลาเปิด-ปิด: 9:00 - 17:00 น.
ค่าเข้าชม : 600 เยน
การเดินทาง : จาก tawagawa ลง Awaza (sennichimae line) สลับมาที่ (chuo line) ลงสถานี Morinomiya ออกทาง exit 3
ทางเข้ามีแผนผังให้ดูว่าเราอยู่ตรงไหนและจะเดินไปยังไง
ระหว่างเดินเข้าไปยังตัวปราสาท ไกลพอสมควร แต่ร่มรื่น ต้นไม้เยอะ
ประตูทางเข้าด้านในก่อน เข้าไปยังตัวปราสาท
จากอากาศที่ร้อน พอเห็นของเย็นๆอย่างไอศกรีม พวกเราก็ดิ่งไปชิมก่อน หอม หวาน อร่อยดี โคนละ 400y
ซ้ายชาเขียว ขวาเมลอน
เราใช้ Kansai Thru Pass ในการเข้าชมฟรี
วิวจากด้านบนของตัวปราสาท แนะนำให้รอขึ้นลิฟ ไปชั้นบนสุดแล้วเดินลงจะดีกว่า ต่อคิวรอหน่อยดีกว่าเหนื่อยทั้งตอนขึ้นและตอนลงนะ
ต่อด้วยมื้อเที่ยง Okonomiyaki ระหว่างทางก่อนไป shinsaibashi Suji
หน้าตาน่าทานมาก แต่พอกินได้สักพักเริ่มเลื่ยน สั่งมา 3 แบบ เกือบไม่หมด เพราะชิ้นค่อนข้างใหญ่ ค่าเสียหายประมาน 2800y รวมน้ำ
ถึงละคะ shinsaibashi Suji สถานที่ละลายทรัพย์ในกระเป๋า ขอบอกว่ารองเท้าผ้าใบทุกยี่ห้องถูกมาก
เดินไปไม่กี่ชั่วโมง ก็ตามภาพคะ หมดตัว หมดแรง *ทุกร้านมี tax refund ก่อนชำระสอบถามทางร้านก่อนได้ เพื่อไม่ให้เสียผลประโยชน์
และมาถึงมื้อเย็นของวันนี้ เนื้อย่าง kobe beef ร้านใกล้กับ donki สาขา shinsaibashi จานนี้เท่าที่จำได้ 5000y 6 ชิ้นโตๆ
ตบท้ายด้วยของหวาน pablo cheesecake มีทั้งแบบ take home และ นั่งทานในร้าน
ลูกค้าเยอะมาก ทำให้ออเดอร์ที่เราสั่งไปไม่ได้ ต้องซื้อกลับมาทานที่ห้องพักแทน T.T นั่งจนหายอยากกิน
ในที่สุดก็หมดวัน เหนือยมากเดินเยอะที่สุดในชีวิต แพลนพรุ่งนี้เราจะไป universal studio japan
*อ่านรีวิว : ญี่ปุ่น "หน้าร้อน" ก็เที่ยวได้ Kansai (Osaka/kyoto) เที่ยวด้วยตัวเองได้รับรองไม่หลง ( PART 2) http://ppantip.com/topic/35631797
*อ่านรีวิว : ญี่ปุ่น "หน้าร้อน" ก็เที่ยวได้ Kansai (Osaka/kyoto) เที่ยวด้วยตัวเองได้รับรองไม่หลง ( PART 3) http://ppantip.com/topic/35662166
*อ่านรีวิว : ญี่ปุ่น "หน้าร้อน" ก็เที่ยวได้ Kansai (Osaka/kyoto) เที่ยวด้วยตัวเองได้รับรองไม่หลง ( PART 4) http://ppantip.com/topic/35727830