สวัสดีค่ะ นี่คือกระทู้แรกของเราเลย อยากมาแชร์ประสบการด้านลบของความรักที่เราผ่านมันมา..
ย้อนกลับไปเมื่อห้าปีที่แล้ว เราเป็นนักศึกษามหาลัยของรัฐชื่อดังแห่งหนึ่ง เรามีชีวิตเหมือนวัยรุ่นทั่วๆไปค่ะ มีเพื่อนผู้ชายเยอะ ดื่มเหล้า แต่เราไม่เคยเที่ยวผับเลย อิอิ ไม่รู้สิเราว่ามันไม่เหมาะกับเราเท่าไหร่ เราเป็นคนค่อนข้างติดเพื่อนแบบอยู่ยังไงก็ได้ขอแค่มีเพือนพอ จนกระทั่ง เราได้กลับมาเจอกับผู้ชายคนนึง เราทั้งสองเคยรู้จักกันค่ะ ผู้ชายคนนี้เคยมาจีบเราเมื่อหลายปีก่อนแต่เราไม่สนใจเลย พอมาเจออีกที เห้ย หล่ออ่ะ เราเริ่มคุยกันผ่าน เฟสบุ๊ค จนกระทั่งสานสัมพันธ์ได้มาคบกันแบบแฟน ชีวิตตอนนั้นของเราดีมาก แฟนเราเป็นแทบจะทุกอย่างในชีวิตเลย เราเลิกติดเพื่อน เลิกดื่มเหล้า หันมาตั้งใจเรียน แล้วเผลอคิดไปว่าคนนี้แหละรักสุดท้ายของเรา ^^ คู่ของเรามีแต่คนหมันไส้ค่ะ แฟนเราเป็นผู้ชายโรแมนติกค่ะ มีดอกไม้ มีของขวัญ ให้ทุกโอกาสพิเศษตลอด (แฟนเราไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่) ทั้งๆที่เราไม่มีอะไรดีเลย บ้านไม่ได้รวย ไม่สวย เรียนไม่เก่งอีก ทุกๆวันครบรอบผ่านไปค่ะ ผู้ชายคนนี้เป็นความสุขทุกอย่าง เราเป็นคนแรกของกันและกันค่ะ เราเข้ากับครอบครัวเค้าได้ดี พ่อแม่เค้ารักเราแบบลูก ช่วยเหลือเราตลอด ส่วนแม่เราก็รักเค้ามากเช่นกันค่ะ ชีวิตเราดีเรื่อยๆมาตลอด
จนกระทั่งถึงวันเรียนจบ เค้าได้งานที่ดีบริษัทที่มีชื่อเสียงแถวปากเกร็ด เราเองก็มีงานทำที่มั่นคงเช่นกัน ด้วยเวลาที่ผ่านมาเราก็เชื่อใจเค้ามาตลอด แต่เราเป็นคนขี้หึงมากๆๆๆๆๆ. อย่างว่าเจอคนที่ดีแล้วเราไม่อยากเสียเค้าไป สมัยนี้ของฟรีมีเยอะด้วย จากที่เคยตัวติดกัน แฟนเราเริ่มทำตัวออกห่าง ไม่พกโทรศัพท์เวลามาหาช่วงวันหยุด ไม่แตะโทรศัพท์เลยเวลาอยู่บนรถ วางโทรศัพท์คว่ำหน้าตลอด แต่เราก็ไม่เอะใจอะไร จนวันนึงเราทะเลาะกันค่ะแต่ครั้งนี้ไม่เหมือนทุกครั้งค่ะ คือเค้าหายไปเลย ไม่ทักไม่โทร จนเช้าอีกวันนึง เราได้ข้อความทางไลน์ที่เค้าส่งมาเพื่อขอเลิกกับเราค่ะ
ตอนนั้นเราเสียใจมาก เอาเวลาทั้งหมดมานั้งคิดทนทวนถึงเรื่องที่ผ่านมา จนตัดสินใจโทรไปหาเค้าและได้คำตอบสามัญประจำคนถูกทิ้งมา "เลิกกันเถอะ เราอยากอยู่คนเดียว" ตอนนั้นก็เอาแต่ร้องไห้ฟูมฟายขอโอกาสจากเค้า 1อาทิตย์เราจมอยู่กับความเสียใจ ข้าวไม่กิน ขังตัวเองในห้อง และได้แต่โทษตัวเองตลอดเวลา เราพยามง้อเค้าทุกวิธี ไปหาที่บ้าน โทรไปตอนเช้า จนกระทั่งเค้าบล๊อคเฟสบุ๊ค เราเลยทำอะไรไม่ได้นอกจากทำใจ เราตัดสินใจออกมาเที่ยวมาดูหนัง ทันไดนั้น เราได้ข้อความทางเฟสบุ๊คจากน้องคนนึงที่ ส่งรูปภาพที่แคบหน้าจอมา เราล้มทั้งยืน ในเฟสบุ๊คใหม่ของแฟนเรามีความสุขมาก ถ่ายรูปคู่กับผู้หญิงที่พึ่งเจอกันที่ทำงาน ทานไอติมด้วยกัน ไปเที่ยวด้วยกัน ถ่ายรูปคู่กันมีความสุข นี่ใช่ไหม๊ค่ะ เวลาผู้ชายอยากอยู่คนเดียวทำกันแบบนี้หรอ?? ตอนนั้นเราขาดสติจนเหมือนคนบ้า น้ำตาไม่ไหลเลย มีแต่ความโกรธ ความเกลียด พึ่งเข้าใจว่าฆ่าใครมันเป็นแบบนี้เอง หลังจากนั้นเราตัดสินใจโทรหาค่ะ ผู้หญิงคนนั้นบล๊อคเฟสบุ๊คเราด้วย เราเอาเฟสบุ๊คของทุกคนที่เรารู้จักไปเม้นทุกรูปของเค้า ด่าทอด้วยข้อความที่หยาบคาย เราขาดสติจริงๆตอนนั้น เราไล่แอดเฟสบุ๊คทุกคนที่รู้จักผู้หญิงคนนั้น จนถึงพ่อแม่ของนาง เล่าความเลวร้ายที่ทั้งคู่แอบคุยกันทั้งๆที่ผู้ชายยังคบกับเราอยู่. จนกระทั่งนางปลดบล๊อคเฟสบุ๊ค เราเริ่มคุยกันจนได้เบอร์โทรมา เราตัดสินใจประชุมสาย จะมีอะไรเจ็บไปกว่าการที่ได้ยินเค้าปกป้องกันอีก ทั้งคู่ยอมรับว่าแอบคุยกันมาพักนึง ไปทำงานก็อยู่ด้วยกันทานข้าวกันทุกวัน(แต่โกหกเราว่าประชุม) ผู้ชายเล่าให้ฟังว่าเราชอบไปทำเค้าอึดอัด ผู้หญิงก็สงสารเห็นใจกันคุยกัน เลยได้กันเลย สังคมนี้มันโหดร้ายจริงๆ
หลังจากนั้นเรายอมเดินออกมาจากเค้าทั้งคู่ค่ะ แต่ประกาศไว้ถ้าเมิงคบกันเห็นดีแน่ๆ 555 ชีวิตเราหลังจากนั้นเอาแต่กินเหล้ากับร้องไห้ เคยพยามฆ่าตัวตายแต่ที่สุดแล้วคนที่เสียใจที่สุดคือครอบครัวเราค่ะ ใต้คราบน้ำตาของเราคือเราเห็นครอบครัวเราร้องไห้ในเวลาที่เรากำลังจะจากไป คนที่รักเรานักรักเราหนาไม่เห็นหัวเราหรอกค่ะ น่าตลกดี
สุดท้ายนี้เราเชื่อว่าคนที่เจอเหตุการคล้ายเราจะผ่านมันไปได้ อาจจะใช้เวลาหนึ่งเดือนหรือเป็นปี เชื่อไว้เถอะนะคะ คนที่ลุกไวเข้มแข็งไวคือคนชนะ ไม่ใครจะสามารถรักได้เท่าชีวิตเท่าครอบครัวของเรา ระหว่างที่คบกันพยามแบ่งพื้นที่แบ่งเวลาส่วนตัวของกันและกันไว้ด้วย อย่าก้าวก่ายกันในทุกเวลาของชีวิต ส่วนคนที่จะเข้ามาในฐานะที่ปรึกษาหรือเพื่อนที่ดีของชีวิตคู่คนอื่นก็ระวังการกระทำตัวเองไว้ด้วยนะคะ ปลอบกับอ่อยมีเส้นบางๆห่างกันนิดเดียว ก่อนจะกลายเป็นคนเลวที่เข้ามาแทรกแทรงความรักคนอื่น หรืออาจเลยเถิดถึงขั้นเป็นเมียน้อยไปเลย เราผ่านเรื่องนี้มาปีกว่าแล้วค่ะ เข็ดขยาดด้านความรักไปเลย กลายเป็นโรคซึมเศร้า หมดศรัทธาในความรักด้วย เราหวังว่าวันนึงโลกจะเหวี่ยงคนที่ใช่ที่พอดี คนที่จะมาเติมเต็มหัวใจให้เราอีกครั้งนะคะ
ขอบคุณทุกคนที่อ่านเรื่องราวจนจบ ขอบคุณอีกครั้งค๊าาา
หน้าตาดี มีการศึกษา ครอบครัวดี "สิ่งเหล่านี้การรันตรีความดีในการเป็นแฟนหรือสามีที่ดีไม่ได้" นะคะ
ย้อนกลับไปเมื่อห้าปีที่แล้ว เราเป็นนักศึกษามหาลัยของรัฐชื่อดังแห่งหนึ่ง เรามีชีวิตเหมือนวัยรุ่นทั่วๆไปค่ะ มีเพื่อนผู้ชายเยอะ ดื่มเหล้า แต่เราไม่เคยเที่ยวผับเลย อิอิ ไม่รู้สิเราว่ามันไม่เหมาะกับเราเท่าไหร่ เราเป็นคนค่อนข้างติดเพื่อนแบบอยู่ยังไงก็ได้ขอแค่มีเพือนพอ จนกระทั่ง เราได้กลับมาเจอกับผู้ชายคนนึง เราทั้งสองเคยรู้จักกันค่ะ ผู้ชายคนนี้เคยมาจีบเราเมื่อหลายปีก่อนแต่เราไม่สนใจเลย พอมาเจออีกที เห้ย หล่ออ่ะ เราเริ่มคุยกันผ่าน เฟสบุ๊ค จนกระทั่งสานสัมพันธ์ได้มาคบกันแบบแฟน ชีวิตตอนนั้นของเราดีมาก แฟนเราเป็นแทบจะทุกอย่างในชีวิตเลย เราเลิกติดเพื่อน เลิกดื่มเหล้า หันมาตั้งใจเรียน แล้วเผลอคิดไปว่าคนนี้แหละรักสุดท้ายของเรา ^^ คู่ของเรามีแต่คนหมันไส้ค่ะ แฟนเราเป็นผู้ชายโรแมนติกค่ะ มีดอกไม้ มีของขวัญ ให้ทุกโอกาสพิเศษตลอด (แฟนเราไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่) ทั้งๆที่เราไม่มีอะไรดีเลย บ้านไม่ได้รวย ไม่สวย เรียนไม่เก่งอีก ทุกๆวันครบรอบผ่านไปค่ะ ผู้ชายคนนี้เป็นความสุขทุกอย่าง เราเป็นคนแรกของกันและกันค่ะ เราเข้ากับครอบครัวเค้าได้ดี พ่อแม่เค้ารักเราแบบลูก ช่วยเหลือเราตลอด ส่วนแม่เราก็รักเค้ามากเช่นกันค่ะ ชีวิตเราดีเรื่อยๆมาตลอด
จนกระทั่งถึงวันเรียนจบ เค้าได้งานที่ดีบริษัทที่มีชื่อเสียงแถวปากเกร็ด เราเองก็มีงานทำที่มั่นคงเช่นกัน ด้วยเวลาที่ผ่านมาเราก็เชื่อใจเค้ามาตลอด แต่เราเป็นคนขี้หึงมากๆๆๆๆๆ. อย่างว่าเจอคนที่ดีแล้วเราไม่อยากเสียเค้าไป สมัยนี้ของฟรีมีเยอะด้วย จากที่เคยตัวติดกัน แฟนเราเริ่มทำตัวออกห่าง ไม่พกโทรศัพท์เวลามาหาช่วงวันหยุด ไม่แตะโทรศัพท์เลยเวลาอยู่บนรถ วางโทรศัพท์คว่ำหน้าตลอด แต่เราก็ไม่เอะใจอะไร จนวันนึงเราทะเลาะกันค่ะแต่ครั้งนี้ไม่เหมือนทุกครั้งค่ะ คือเค้าหายไปเลย ไม่ทักไม่โทร จนเช้าอีกวันนึง เราได้ข้อความทางไลน์ที่เค้าส่งมาเพื่อขอเลิกกับเราค่ะ
ตอนนั้นเราเสียใจมาก เอาเวลาทั้งหมดมานั้งคิดทนทวนถึงเรื่องที่ผ่านมา จนตัดสินใจโทรไปหาเค้าและได้คำตอบสามัญประจำคนถูกทิ้งมา "เลิกกันเถอะ เราอยากอยู่คนเดียว" ตอนนั้นก็เอาแต่ร้องไห้ฟูมฟายขอโอกาสจากเค้า 1อาทิตย์เราจมอยู่กับความเสียใจ ข้าวไม่กิน ขังตัวเองในห้อง และได้แต่โทษตัวเองตลอดเวลา เราพยามง้อเค้าทุกวิธี ไปหาที่บ้าน โทรไปตอนเช้า จนกระทั่งเค้าบล๊อคเฟสบุ๊ค เราเลยทำอะไรไม่ได้นอกจากทำใจ เราตัดสินใจออกมาเที่ยวมาดูหนัง ทันไดนั้น เราได้ข้อความทางเฟสบุ๊คจากน้องคนนึงที่ ส่งรูปภาพที่แคบหน้าจอมา เราล้มทั้งยืน ในเฟสบุ๊คใหม่ของแฟนเรามีความสุขมาก ถ่ายรูปคู่กับผู้หญิงที่พึ่งเจอกันที่ทำงาน ทานไอติมด้วยกัน ไปเที่ยวด้วยกัน ถ่ายรูปคู่กันมีความสุข นี่ใช่ไหม๊ค่ะ เวลาผู้ชายอยากอยู่คนเดียวทำกันแบบนี้หรอ?? ตอนนั้นเราขาดสติจนเหมือนคนบ้า น้ำตาไม่ไหลเลย มีแต่ความโกรธ ความเกลียด พึ่งเข้าใจว่าฆ่าใครมันเป็นแบบนี้เอง หลังจากนั้นเราตัดสินใจโทรหาค่ะ ผู้หญิงคนนั้นบล๊อคเฟสบุ๊คเราด้วย เราเอาเฟสบุ๊คของทุกคนที่เรารู้จักไปเม้นทุกรูปของเค้า ด่าทอด้วยข้อความที่หยาบคาย เราขาดสติจริงๆตอนนั้น เราไล่แอดเฟสบุ๊คทุกคนที่รู้จักผู้หญิงคนนั้น จนถึงพ่อแม่ของนาง เล่าความเลวร้ายที่ทั้งคู่แอบคุยกันทั้งๆที่ผู้ชายยังคบกับเราอยู่. จนกระทั่งนางปลดบล๊อคเฟสบุ๊ค เราเริ่มคุยกันจนได้เบอร์โทรมา เราตัดสินใจประชุมสาย จะมีอะไรเจ็บไปกว่าการที่ได้ยินเค้าปกป้องกันอีก ทั้งคู่ยอมรับว่าแอบคุยกันมาพักนึง ไปทำงานก็อยู่ด้วยกันทานข้าวกันทุกวัน(แต่โกหกเราว่าประชุม) ผู้ชายเล่าให้ฟังว่าเราชอบไปทำเค้าอึดอัด ผู้หญิงก็สงสารเห็นใจกันคุยกัน เลยได้กันเลย สังคมนี้มันโหดร้ายจริงๆ
หลังจากนั้นเรายอมเดินออกมาจากเค้าทั้งคู่ค่ะ แต่ประกาศไว้ถ้าเมิงคบกันเห็นดีแน่ๆ 555 ชีวิตเราหลังจากนั้นเอาแต่กินเหล้ากับร้องไห้ เคยพยามฆ่าตัวตายแต่ที่สุดแล้วคนที่เสียใจที่สุดคือครอบครัวเราค่ะ ใต้คราบน้ำตาของเราคือเราเห็นครอบครัวเราร้องไห้ในเวลาที่เรากำลังจะจากไป คนที่รักเรานักรักเราหนาไม่เห็นหัวเราหรอกค่ะ น่าตลกดี
สุดท้ายนี้เราเชื่อว่าคนที่เจอเหตุการคล้ายเราจะผ่านมันไปได้ อาจจะใช้เวลาหนึ่งเดือนหรือเป็นปี เชื่อไว้เถอะนะคะ คนที่ลุกไวเข้มแข็งไวคือคนชนะ ไม่ใครจะสามารถรักได้เท่าชีวิตเท่าครอบครัวของเรา ระหว่างที่คบกันพยามแบ่งพื้นที่แบ่งเวลาส่วนตัวของกันและกันไว้ด้วย อย่าก้าวก่ายกันในทุกเวลาของชีวิต ส่วนคนที่จะเข้ามาในฐานะที่ปรึกษาหรือเพื่อนที่ดีของชีวิตคู่คนอื่นก็ระวังการกระทำตัวเองไว้ด้วยนะคะ ปลอบกับอ่อยมีเส้นบางๆห่างกันนิดเดียว ก่อนจะกลายเป็นคนเลวที่เข้ามาแทรกแทรงความรักคนอื่น หรืออาจเลยเถิดถึงขั้นเป็นเมียน้อยไปเลย เราผ่านเรื่องนี้มาปีกว่าแล้วค่ะ เข็ดขยาดด้านความรักไปเลย กลายเป็นโรคซึมเศร้า หมดศรัทธาในความรักด้วย เราหวังว่าวันนึงโลกจะเหวี่ยงคนที่ใช่ที่พอดี คนที่จะมาเติมเต็มหัวใจให้เราอีกครั้งนะคะ
ขอบคุณทุกคนที่อ่านเรื่องราวจนจบ ขอบคุณอีกครั้งค๊าาา