คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 6
คิดยังไงกับทัวร์ชาวจีนที่มาเที่ยวเมืองไทยล่ะครับ คุณภาพมั้ย?
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
ถ้าอัตราการเติบโตของ GDP ของจีนเป็นไปได้ประมาณนี้ ภายในปี 2030 จีนน่าจะแซงสหรัฐในฐานะประเทศที่มี GDP มากที่สุดในโลกได้ครับ
อัตราการโตของ GDP จีนก็ทำได้น่าประทับใจนะครับ
ตอนสิ้นสุดการปฏิวัติวัฒนธรรมเมื่อประธานเหมาถึงแก่อสัญกรรมในปี 1976 จีนมี GDP 0.153 Trillion USD คิดเป็นประมาณ 2.7% ของสหรัฐ (ในปี 1976 สหรัฐมี Real GDP เท่ากับ 5.675 Trillion USD)
ตอนเติ้งเสี่ยวผิงสละตำแหน่งทั้งหมดให้เจียงเจ๋อหมินอย่างถาวรในปี 1992 จีนมี GDP 0.45 Trillion USD คิดเป็นประมาณ 4.9% ของสหรัฐ (ในปี 1992 สหรัฐมี Real GDP เท่ากับ 9.26 Trillion USD)
ตอนหูจิ่นเทาขึ้นมารับตำแหน่งแทนเจียงในปี 2002 จีนมี GDP 1.5 Trillion USD คิดเป็นประมาณ 12% ของสหรัฐ (ในปี 2002 สหรัฐมี Real GDP เท่ากับ 12.9 Trillion USD)
ตอนหูจิ่นเทาสละตำแหน่งให้สีจิ้นผิงในปี 2012 จีนมี GDP 8.56 Trillion USD คิดเป็นประมาณ 56% ของสหรัฐ (ในปี 2012 สหรัฐมี Real GDP เท่ากับ 15.3 Trillion USD)
ปัจจุบันวาระของสีจิ้นผิงมาได้ 3 ปีกว่าแล้ว ในปี 2015 จีนมี GDP 11 Trillion USD คิดเป็นประมาณ 67.5% ของสหรัฐ (ในปี 2015 สหรัฐมี Real GDP เท่ากับ 16.3 Trillion USD)
ในช่วง 40 ปี ตั้งแต่ปี 1976-2015 GDP ของจีนโตจาก 0.15 Trillions USD เป็น 11 Trillions USD หรือ GDP จีนโตขึ้นมา 90 กว่าเท่าตัว
ส่วนสหรัฐเพิ่มจาก 5.675 เป็น 16.3 Trillions หรือเพิ่มขึ้นประมาณเกือบ 3 เท่าตัว
ถือว่าจีนทำได้น่าประทับใจพอสมควรในการยกระดับความเป็นอยู่ของประชากรส่วนใหญ่ของประเทศจากยากจนมาก มาสู่ระดับระดับปานกลางได้
อัตราการโตของ GDP จีนก็ทำได้น่าประทับใจนะครับ
ตอนสิ้นสุดการปฏิวัติวัฒนธรรมเมื่อประธานเหมาถึงแก่อสัญกรรมในปี 1976 จีนมี GDP 0.153 Trillion USD คิดเป็นประมาณ 2.7% ของสหรัฐ (ในปี 1976 สหรัฐมี Real GDP เท่ากับ 5.675 Trillion USD)
ตอนเติ้งเสี่ยวผิงสละตำแหน่งทั้งหมดให้เจียงเจ๋อหมินอย่างถาวรในปี 1992 จีนมี GDP 0.45 Trillion USD คิดเป็นประมาณ 4.9% ของสหรัฐ (ในปี 1992 สหรัฐมี Real GDP เท่ากับ 9.26 Trillion USD)
ตอนหูจิ่นเทาขึ้นมารับตำแหน่งแทนเจียงในปี 2002 จีนมี GDP 1.5 Trillion USD คิดเป็นประมาณ 12% ของสหรัฐ (ในปี 2002 สหรัฐมี Real GDP เท่ากับ 12.9 Trillion USD)
ตอนหูจิ่นเทาสละตำแหน่งให้สีจิ้นผิงในปี 2012 จีนมี GDP 8.56 Trillion USD คิดเป็นประมาณ 56% ของสหรัฐ (ในปี 2012 สหรัฐมี Real GDP เท่ากับ 15.3 Trillion USD)
ปัจจุบันวาระของสีจิ้นผิงมาได้ 3 ปีกว่าแล้ว ในปี 2015 จีนมี GDP 11 Trillion USD คิดเป็นประมาณ 67.5% ของสหรัฐ (ในปี 2015 สหรัฐมี Real GDP เท่ากับ 16.3 Trillion USD)
ในช่วง 40 ปี ตั้งแต่ปี 1976-2015 GDP ของจีนโตจาก 0.15 Trillions USD เป็น 11 Trillions USD หรือ GDP จีนโตขึ้นมา 90 กว่าเท่าตัว
ส่วนสหรัฐเพิ่มจาก 5.675 เป็น 16.3 Trillions หรือเพิ่มขึ้นประมาณเกือบ 3 เท่าตัว
ถือว่าจีนทำได้น่าประทับใจพอสมควรในการยกระดับความเป็นอยู่ของประชากรส่วนใหญ่ของประเทศจากยากจนมาก มาสู่ระดับระดับปานกลางได้
สมาชิกหมายเลข 3845599 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2806184 ถูกใจ, unicorn-k ถูกใจ, Boromir ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 700359 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 929948 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 816953 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2266983 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1185898 ถูกใจ, บุณฑริก ถูกใจรวมถึงอีก 9 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
แสดงความคิดเห็น
ทำไมการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ gdp ของจีนยังไม่แซงอเมริกาสักที่ทั้งที่มีประชากรมากกว่าตั้งเกือบ 4 เท่า เพราะอะไร?
ถ้าจะมีกองทัพที่แข็งแกร่ง ปัจจัยการเงินเป็นสิ่งสำคัญมาก
ทั้งด้านการวิจัยพัฒนาอาวุธก็ใช้เงินมาก และด้านการซื้อ งบผลิตอาวุธต่างๆซึ่งก็มากอีกเช่นกัน
แถมกองทัพใหญ่ๆ คนเยอะ ต้องมีเงินเดือนเลี้ยงทหารจำนวนมาก ถ้า ศก ไม่เข้มแข็งนี้ จะแย่เอาได้เลย
ขอแค่ gdp ต่อปชก ของจีน แต่ละคนเป็นแค่ประมาณ1/4 ของคนอเมริกา
gdp รวมก็จะเท่ากันแล้ว แต่ทำไมจีนยังทำไมได้ ทั้งที่คนงานในจีนทำงานกันอย่างหนักมากในการรับจ้างผลิตสิ่งของต่างๆจากอเมริกา
ทำไมการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ gdp ของจีนยังไม่แซงอเมริกาสักที่ทั้งที่มีประชากรมากกว่าตั้งเกือบ 4 เท่า เพราะอะไร?