ผมได้รับจดหมายจากสหกรณ์ออมทรัพย์กรทรวงแรงงาน ว่าได้โอนหนี้ของผู้กู้ จำนวนประมาณ 1,379,022.00.- บาท ซึ่งผมเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้ (เนื่องจากผู้ก็ถูกไล่ออก และระหว่างนี้เค้ากำลังร้องต่อศาลเพื่อขอกลับเข้ารับราชการ) และขาดส่งสหกรณ์จำนวน 2 งวดด้วยกันเนื่องจากยังไม่มีงานและเงินจะทำการส่งสหกรณ์ สหกรณ์ได้โอนหนี้มาให้ผมผู้ค้ำประกันเงินกู้เพียงรายเดียว เนื่องจากผู้ค้ำประกันอีก 3 ราย ก็โอนไล่ออกเหมือนกัน เหลือผมรายเดียวที่เป็นผู้เค้าประกันที่มีเงิรเดือนให้สหกรณ์ หัก ณ ที่จ่าย สหกรณ์เลยโอนหนี้มาให้ผมรายเดียว (คิดง่ายทำง่าย สหกรณ์เจริญ แต่ผมตายแน่) เพราะเดือนกันยายน 2559 นี้ หักผมรวมทั้งสิ้น 49,871.-บาท (เงินกู้ผมส่วนหนึ่ง+หนี้ที่โอนมาอีก เงินต้น 6,700.-บาท+ดอกเบี้ย 3 เดือน 25,786.-บาท เงินต้นคงเหลือ 1,379,022.00.- บาท เงินเดือนผม 33,270.-บาท (ไม่พอจ่ายแน่นอน แล้วไม่รู้จะทำไงต่อ)
ในเดือน กรกฎาคม ผมโทนถาม ผจก.สหกรณ์ว่าจำอย่างไร
ตอบว่า..จะเรียกจากผู้กู้ก่อน แล้วถ้ามีหมายศาลให้ผมมาศาลด้วยนะผมก็คิดว่น่าจะไปคุยกันที่ศาล ซึ่งผู้กู้ก็รอว่าน่าจะเป็นอย่างนั้นแต่ผลมันเป็นอย่างนี้แล้ว
คำถามครับ...
1. สหกรณ์โอนหนี้ให้ผมรายเดียวได้หรือไม่
2. สหกรณ์เขียนสัญญาค้ำประกันเป็นธรรมต่อผู้กู้หรือไม่
3. สหกรณ์ทำอย่างนี้ขัดต่อ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ๒๐) เกี่ยวกับการค้ำประกันหรือไม่ เนื่องจากกฏหมายน่าจะไม่ให้เป็นภาระต่อผู้ค้ำ และการค้ำประกันนั้นทำหลังจากกฏหมาออกเนื่องจากกู้ประมาณเดือนพฤศจิกายน 2558
การโอนหนี้สหกรณ์มาให้ผู้ค้ำประกันเพียงคนเดียว (จากผู้ค้ำประกัน 4 คน) ได้หรือ
ในเดือน กรกฎาคม ผมโทนถาม ผจก.สหกรณ์ว่าจำอย่างไร
ตอบว่า..จะเรียกจากผู้กู้ก่อน แล้วถ้ามีหมายศาลให้ผมมาศาลด้วยนะผมก็คิดว่น่าจะไปคุยกันที่ศาล ซึ่งผู้กู้ก็รอว่าน่าจะเป็นอย่างนั้นแต่ผลมันเป็นอย่างนี้แล้ว
คำถามครับ...
1. สหกรณ์โอนหนี้ให้ผมรายเดียวได้หรือไม่
2. สหกรณ์เขียนสัญญาค้ำประกันเป็นธรรมต่อผู้กู้หรือไม่
3. สหกรณ์ทำอย่างนี้ขัดต่อ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ๒๐) เกี่ยวกับการค้ำประกันหรือไม่ เนื่องจากกฏหมายน่าจะไม่ให้เป็นภาระต่อผู้ค้ำ และการค้ำประกันนั้นทำหลังจากกฏหมาออกเนื่องจากกู้ประมาณเดือนพฤศจิกายน 2558