เด็กชายร่าเริงขี้อาย ‘คิม จอง-อึน’ พัฒนาสู่ผู้นำจอมโหดแห่งเกาหลีเหนือได้อย่างไร!?

ภายใต้การปกครองของผู้นำสูงสุด “คิม จ็อง-อึน” เกาหลีเหนือเป็นประเทศที่เข้าถึงยากมากขึ้นเรื่อยๆ ในสายตาชาวโลก จากเด็กชายที่เกิดในตระกูลที่มีอำนาจที่สุดของประเทศ ผู้นำคิมผ่านอะไรมาบ้างกว่าจะกลายเป็นผู้นำมาดเข้มอย่างที่เราเห็นในปัจจุบัน




และนี่คือประวัติทั้งชีวิตของผู้นำ “คิม จ็อง-อึน” ตั้งแต่แรกเกิดจนกลายเป็นผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ



คิม จ็อง-อึน เกิดวันที่ 8 มกราคม 1982 หรืออาจจะเป็นปี 1983 และ 1984


ขณะนั้นบิดาของเขา “คิม จ็อง-อิล” อยู่ในฐานะว่าที่ผู้สืบทอดตำแหน่งผู้นำสูงสุด เขาเป็นบุตรคนที่สองในบรรดาพี่น้องสามคนของคิม จ็อง-อิล และโค ยองฮึย พี่ชายคนโตคือคิม จองชอล ส่วนน้องสาวคนเล็กคือคิม โย-จ็อง

แม้ว่าปีเกิดอย่างเป็นทางการของคิม จ็อง-อึน จะระบุไว้ว่าเป็นปี 1982 แต่ว่ากันว่านี่ไม่ใช่ปีเกิดที่แท้จริง เขาเกิดช้ากว่านั้นหนึ่งหรือสองปีแต่ถูกเปลี่ยนเนื่องจากต้องการให้เป็นปีเดียวกับวันเกิดครบรอบ 100 ปีของอดีตผู้นำคิม อิล-ซ็อง และครบรอบ 70 ปีของอดีตผู้นำคิม จ็อง-อิล



จ็อง-อึน ในวัยเด็กกับมารดา


ในช่วงชีวิตวัยเยาว์ของเขาประเทศเกาหลีเหนือถูกปกครองโดยคิม อิล-ซ็อง หรือ “ท่านผู้นำ” (Great Leader) ผู้เป็นตาแท้ๆ ส่วนจ็อง-อิล พ่อของเขาถูกวางตัวไว้ให้เป็นผู้สืบทอดตำแหน่ง ส่วนทายาทอย่างคิม จ็อง-อึน ก็มีหน้าที่สืบทอดตำแหน่งต่อไปในภายภาคหน้า



ปลอมตัวไปเรียนภาษาที่ต่างประเทศ


เขาเปลี่ยนชื่อเป็น “พัค อึน” และปลอมตัวเป็นลูกชายเจ้าหน้าที่สถานทูตเกาหลีเหนือเพื่อไปเรียนภาษาอังกฤษที่ Gümligen ใกล้กับเมืองเบิร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อนร่วมชั้นบอกว่าเขาเป็นเด็กชายที่เงียบขรึมขี้อายและชอบอยู่กับบ้านแต่ก็ยังมีด้านตลกขบขันเช่นกัน Marco Imhof ให้สัมภาษณ์กับ The Mirror ว่า “เขาเป็นคนตลกและทำให้เราหัวเราะได้เสมอ เขามีอารมณ์ขันและเข้ากันได้กับทุกคนแม้แต่คนที่มาจากประเทศซึ่งเป็นศัตรูกับเกาหลีเหนือ การเมืองไม่ใช่ประเด็นที่เด็กในโรงเรียนสนใจ ส่วนใหญ่เราเถียงกันแต่เรื่องฟุตบอล”



เขาชอบกีฬาบาสเกตบอลและมีไมเคิล จอร์แดน เป็นไอดอล


ขณะที่เรียนอยู่ที่สวิตเซอร์แลนด์คิม จ็อง-อึน ในวัยเด็กมีโปสเตอร์ภาพไมเคิล จอร์แดน ติดอยู่บนฝาผนังห้องพัก และแม้ว่าเขาจะมีรูปร่างอ้วนท้วนและอายุน้อยแต่ก็เป็นนักกีฬาบาสเกตบอลที่มีฝีมือ

Nikola Kovacevic อดีตเพื่อนร่วมชั้นของเขาให้สัมภาษณ์กับ The Mirror ว่า “เขาเป็นผู้เล่นที่เก่งกาจและพร้อมจะระเบิดได้ทุกเมื่อ เขาเป็นตัวทำแต้มและทำให้ทุกอย่างเกิดขึ้นได้เสมอ เขาเกลียดการพ่ายแพ้ ชัยชนะเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับเขา” นอกจากนี้ท่านผู้นำยังเป็นนักสะสมรองเท้าผ้าใบยี่ห้อไนกี้อีกด้วย



หลังเรียนจบจากสวิตเซอร์แลนด์เขาก็กลับบ้านเกิดไปฝึกฝนด้านทหาร


ทันที่ที่กลับไปยังเกาหลีเหนือเขาก็เข้าศึกษาในโรงเรียนเตรียมทหารคิม อิล-ซ็อง พร้อมกับพี่ชายคนโต และหลังจากพ่อของเขาเสียชีวิต คิม จ็อง-อึน ก็ถูกวางตัวให้สืบทอดตำแหน่งแม้จะมีประสบการณ์ด้านการเมืองเพียงน้อยนิด



เพลงของท่านผู้นำคือ “รอยเท้า”


“รอยเท้า” ฟังดูเหมือนเป็นเพลงโฆษณาชวนเชื่อของสหภาพโซเวียตในยุคก่อน เพลงนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับการเดินตาม “รอยเท้าของท่านผู้นำคิม” เนื้อเพลงบางส่วนร้องว่า



“รอยเท้า รอยเท้า ก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับเสียงของอนาคตที่สดใส ตึง ตึง ตึง อ้า รอยเท้า”



ชาวเกาหลีเหนือหลายคนมองว่าเขาเป็น “ท่านผู้นำ” คิม อิล-ซ็อง เวอร์ชั่นหนุ่ม


คิม จ็อง-อึน มีลักษณะภายนอกที่เหมือนกับคิม อิล-ซ็อง อย่างมากโดยเฉพาะทรงผมและการวางตัว มีข่าวลือว่าเขาถึงกับไปทำศัลยกรรมเพื่อให้ดูเหมือนอดีตท่านผู้นำ แม้ว่าเกาหลีเหนือจะโจมตีการทำศัลยกรรมว่าเป็นกลโกงที่ต่ำช้าของสื่อที่เป็นขยะ



หลังจากบิดาเสียชีวิตเขาก็กลายเป็น “ผู้นำสูงสุด”


อดีตผู้นำคิม จ็อง-อิล เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจในวันที่ 17 ธันวาคม 2011 หลังจากนั้นบุตรชายอย่างคิม จ็อง-อึน จึงเข้ามาสืบทอดตำแหน่งแทน โดยทำหน้าที่ดูแลกองกำลังทหารที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสี่ของโลกรวมทั้งอาวุธนิวเคลียร์และเกาหลีเหนือทั้งประเทศ คิม จ็อง-อึน ในวัย 30 ปี ถือว่าเป็นผู้นำที่อายุน้อยที่สุดในโลก

ส่วนพี่ชายคนโตนั้นถูกพ่อของเขามองว่า “อ้อนแอ้นเหมือนผู้หญิง” และอ่อนแอ หลังจากพูดถึงระบอบการปกครองของเกาหลีเหนือในแง่ลบระหว่างการสัมภาษณ์



การสนับสนุนของน้าและอา



ผู้ให้คำปรึกษาที่ใกล้ชิดและไว้ใจได้ที่สุดของผู้นำคิมคือ Kim Kyong Hui น้องสาวของพ่อและ Jang Sung Taek สามีของเธอ ซึ่งทั้งคู่อายุ 66 ปี มีรายงานว่าอดีตผู้นำได้ฝากฝังให้ทั้งคู่คอยดูแลและจัดการให้ทุกคนเชื่อฟังอำนาจของคิม จ็อง-อึน ในช่วงต้นของการปกครองเพราะเขายังไม่มีประสบการณ์มากนัก



เดือนธันวาคม ปี 2013 คิม จ็อง-อึน สั่งประหารลุงของเขาและครอบครัว เนื่องจากเกรงว่าจะทำการยึดอำนาจ


Sung Taek ผู้เป็นลุงแท้ๆ และครอบครัวทั้งหมดของเขาถูกตัดสินโทษประหารชีวิตในวันที่ 12 ธันวาคม 2013 ในข้อหาพยายามควบคุมกองทัพเกาหลีเหนือและต่อต้านผู้นำสูงสุด



แต่งงานกับอดีตนักร้องและอาจจะมีบุตรสองคน


ผู้นำในประเทศที่เคร่งเรื่องอำนาจและการปกครองส่วนใหญ่จะพยายามปกปิดชีวิตส่วนตัว แต่ภรรยาของคิม จ็อง-อึน มักจะปรากฎตัวในรูปถ่ายร่วมกับท่านผู้นำอยู่เสมอ รี ซ็อล-จู เคยเป็นนักร้องประสานเสียงและเชียร์ลีดเดอร์มาก่อนจนกระทั่งแต่งงานกับคิม จ็อง-อึน ในปี 2009 และมีรายงานว่าทั้งคู่อาจจะมีทายาทคนแรกในปี 2012 และคนที่สองในปี 2015



การเชิญทีมบาสเกตบอลชิคาโก บูลส์ และนักบาสชื่อดังเดนนิส ร็อดแมน มาเยี่ยมเยียน


ด้วยความหลงใหลในกีฬาบาสเกตบอลของครอบครัวโดยเฉพาะลูกชายคนรอง ผู้นำคิม จ็อง-อิล พยายามอย่างมากที่จะเชิญไมเคิล จอร์แดน มาเยี่ยมเยียนเกาหลีเหนือแต่ไม่ประสบความสำเร็จ จนกระทั่งเดนนิส ร็อดแมน แห่งชิคาโก บูลส์ ตอบรับคำเชิญ



การลอบสังหาร



มีข่าวลือว่าในปี 2013 มีความพยายามในการลอบสังหารคิม จ็อง-อึน จากคนในประเทศเกาหลีเหนือเอง และว่ากันว่าจากความพยายามในครั้งนั้นทำให้ผู้นำคิม จ็อง-อึน วางนโยบายการปกครองที่เข้มงวดมากขึ้นโดยเฉพาะด้านความสัมพันธ์กับเกาหลีใต้ รวมทั้งเร่งพัฒนาระเบิดนิวเคลียร์สู้กับสหรัฐฯ และประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ



ความขัดแย้งกับเกาหลีใต้และชาติตะวันตกที่ดำเนินไปอย่างไม่สิ้นสุด


ท่ามกลางความขัดแย้งและข้อครหาจากหลายประเทศทั่วโลก กองทัพเกาหลีเหนือยังคงมุ่งมุ่นพัฒนาขีปนาวุธและระเบิดนิวเคลียร์อยู่อย่างต่อเนื่องในห้องทดลองลับใต้ดิน รวมทั้งวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีด้านอื่นๆ เพื่อแสดงอำนาจและพิสูจน์ให้ประเทศอื่นเห็นถึงความสามารถของเกาหลีเหนือ ในปี 2012 ได้มีการปล่อยดาวเทียมดวงแรกขึ้นสู่อวกาศได้สำเร็จ ปี 2013 มีการทดลองนิวเคลียร์เป็นครั้งที่สาม และในปี 2015 ทางการสหรัฐฯ ได้เตือนว่ารัฐบาลเกาหลีเหนือกำลังพัฒนาขีปนาวุธโดยมีเป้าหมายในการโจมตีพื้นที่ทางตะวันตกของสหรัฐฯ



ความสำเร็จในปี 2016


ในวันที่ 5 มกราคม ทางการเกาหลีเหนือได้ประกาศความสำเร็จในการพัฒนาพลังงานนิวเคลียร์ภายใต้การนำของคิม จ็อง-อึน โดยอ้างว่าได้พัฒนาระเบิดไฮโดรเจนหรือระเบิดเทอร์โมนิวเคลียร์ ที่มีพลังทำลายล้างเหมือนเป็นระเบิดนิวเคลียร์ 2 ลูกในลูกเดียวได้สำเร็จ การประกาศครั้งนี้ส่งผลให้เกิดเสียงประณามต่อต้านจากหลายประเทศแม้กระทั่งมหามิตรอย่างจีนหรือรัสเซีย ซึ่งไม่ว่าจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่แต่การท้าทายครั้งนี้ทำให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้จัดการประชุมฉุกเฉินและเตรียมออกมาตรการใหม่เพื่อลงโทษรัฐบาลเปียงยางแล้ว



ที่มา: BusinessInsider, ภาพจาก: trendingtoplists
บทความจาก http://www.meekhao.com/news/kim-jong-un-life
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่