ขอคำแนะนำการเริ่มต้นทำธุรกิจด้วยค่ะ หรือว่าเราควรจะไปเรียนด้านบริหารธุรกิจด้วยหรือไม่ค่ะ. และการทำธุรกิจแบบนี้มันจะรุ่งหรือไม่ค่ะ
ตอนนี้เราเรียนสัตวแพทย์ปีสุดท้ายค่ะ เราคิดว่าจบแล้วเราอยากเรียนจนถึงเอกเลยค่ะ แต่ก็อยากทำธุรกิจโรงแรมสัตว์ค่ะ อาจรวมถึงกระต่ายด้วยค่ะ และมีอาบน้ำตัดขน รวมถึงอาจมีรับฉีดวัคซีนค่ะ แต่เราไม่เปิดรักษาสัตว์เด็ดขาดค่ะ เราตั้งใจจะเปิดพื้นที่ที่มีต่างชาติค่ะ แต่ธุรกิจนี้เราอยากทำเป็นรายได้เสริมค่ะ เพราะเราฝันอายากเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยค่ะ
ป.ล.เราอาจจะเขียนไม่เคลียเอง ที่เราไม่อยากรักษาเพราะเราไม่มั่นใจในความรู้ของเราค่ะ การรักษาสัตว์ที่ดีต้องอาศัยข้อมูลหลายอย่างค่ะ เพราะพวกเขาบอกเราไม่ได้ โดยอาศัยจากการตรวจร่างกาย อายุ เพศพันธุ์ ประวัติเจ็บป่วยก่อนหน้านั้น และสิ่งที่สำคัญคือการซักถามจากเจ้าของค่ะ ซึ่งในส่วนการซักถามสำหรับเราเป็นขั้นตอนยากมากค่ะ ต้องคิดคำถามให้ดี เพื่อไม่ให้เป็นการจูงคำตอบให้เจ้าของ ถามอย่างไรจึงจะได้คำตอบที่สมบูรณ์. เพื่อนนำมาประกอบการวิจนิจฉัย
เราไม่อยากเป็นหมอที่ทำให้พวกเขาตายค่ะ เราอยากเป็นหมอที่ทำให้พวกเขาได้มีชีวิตที่ดีขึ้น ให้พวกความได้มีความสุข ซึ่งตอนนี้เรายังทำไม่ได้ค่ะ เรายังไม่มีประสบการณ์พอที่จะให้เจ้าของเอาสัตว์ที่พวกเขาเลี้ยงมาฝากชีวิตไว้กับเราค่ะ
สิ่งที่เราวางแผนไว้คือ
1สำรวจพื้นที่นั้นๆว่ามีคลินิคหรือโรงพยาบาลสัตว์ มากน้อยแค่ไหน
2พนักงงานตัดขน เราคิดว่าเราอาจจะให้ป้าแม่บ้านไปเรียนตัดขนค่ะ เพราะป้าไว้ใจได้
เป้าหมายเราคือ ต้องการรวยค่ะ อยากมีเงินเยอะๆ
เพราะเราอิจฉาทุกคนในบ้านค่ะ คุณพ่อคุณแม่เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย มีรับจ๊อบข้างนอก ได้รายได้หลายแสนค่ะ พี่ชายตอนนี้ก็เป็นรับจ็อบแพทย์อยู่โรงพยาบาลเอกชน รายได้ก็3-4แสนแล้ว แถมเรียนเก่ง มีอาจารย์ทาบทามไปเป็นอาจารย์ตั้งแต่เรียนปี6 มีทุนให้เรียน แต่ดูวิชาชีพสัตวแพทย์ของเราTT เรียนก็หนัก(เราต้องทนเรียนสัตว์ที่เราไม่ชอบ สัตว์บางอย่างเราก็กลัว. --สัตว์แพทย์เรียนสัตว์เกือบทุกชนิดในโลกค่ะ สัตว์ที่เราไม่ชอบในที่นี้เราหมายถึงวัวและพวกสัตว์ปีก สัตว์เลื้อยคลานค่ะ) งานก็หนัก เงินเดือนก็น้อย
ขอคำแนะนำการทำธุรกิจสัตว์เลี้ยงค่ะ
ตอนนี้เราเรียนสัตวแพทย์ปีสุดท้ายค่ะ เราคิดว่าจบแล้วเราอยากเรียนจนถึงเอกเลยค่ะ แต่ก็อยากทำธุรกิจโรงแรมสัตว์ค่ะ อาจรวมถึงกระต่ายด้วยค่ะ และมีอาบน้ำตัดขน รวมถึงอาจมีรับฉีดวัคซีนค่ะ แต่เราไม่เปิดรักษาสัตว์เด็ดขาดค่ะ เราตั้งใจจะเปิดพื้นที่ที่มีต่างชาติค่ะ แต่ธุรกิจนี้เราอยากทำเป็นรายได้เสริมค่ะ เพราะเราฝันอายากเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยค่ะ
ป.ล.เราอาจจะเขียนไม่เคลียเอง ที่เราไม่อยากรักษาเพราะเราไม่มั่นใจในความรู้ของเราค่ะ การรักษาสัตว์ที่ดีต้องอาศัยข้อมูลหลายอย่างค่ะ เพราะพวกเขาบอกเราไม่ได้ โดยอาศัยจากการตรวจร่างกาย อายุ เพศพันธุ์ ประวัติเจ็บป่วยก่อนหน้านั้น และสิ่งที่สำคัญคือการซักถามจากเจ้าของค่ะ ซึ่งในส่วนการซักถามสำหรับเราเป็นขั้นตอนยากมากค่ะ ต้องคิดคำถามให้ดี เพื่อไม่ให้เป็นการจูงคำตอบให้เจ้าของ ถามอย่างไรจึงจะได้คำตอบที่สมบูรณ์. เพื่อนนำมาประกอบการวิจนิจฉัย
เราไม่อยากเป็นหมอที่ทำให้พวกเขาตายค่ะ เราอยากเป็นหมอที่ทำให้พวกเขาได้มีชีวิตที่ดีขึ้น ให้พวกความได้มีความสุข ซึ่งตอนนี้เรายังทำไม่ได้ค่ะ เรายังไม่มีประสบการณ์พอที่จะให้เจ้าของเอาสัตว์ที่พวกเขาเลี้ยงมาฝากชีวิตไว้กับเราค่ะ
สิ่งที่เราวางแผนไว้คือ
1สำรวจพื้นที่นั้นๆว่ามีคลินิคหรือโรงพยาบาลสัตว์ มากน้อยแค่ไหน
2พนักงงานตัดขน เราคิดว่าเราอาจจะให้ป้าแม่บ้านไปเรียนตัดขนค่ะ เพราะป้าไว้ใจได้
เป้าหมายเราคือ ต้องการรวยค่ะ อยากมีเงินเยอะๆ
เพราะเราอิจฉาทุกคนในบ้านค่ะ คุณพ่อคุณแม่เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย มีรับจ๊อบข้างนอก ได้รายได้หลายแสนค่ะ พี่ชายตอนนี้ก็เป็นรับจ็อบแพทย์อยู่โรงพยาบาลเอกชน รายได้ก็3-4แสนแล้ว แถมเรียนเก่ง มีอาจารย์ทาบทามไปเป็นอาจารย์ตั้งแต่เรียนปี6 มีทุนให้เรียน แต่ดูวิชาชีพสัตวแพทย์ของเราTT เรียนก็หนัก(เราต้องทนเรียนสัตว์ที่เราไม่ชอบ สัตว์บางอย่างเราก็กลัว. --สัตว์แพทย์เรียนสัตว์เกือบทุกชนิดในโลกค่ะ สัตว์ที่เราไม่ชอบในที่นี้เราหมายถึงวัวและพวกสัตว์ปีก สัตว์เลื้อยคลานค่ะ) งานก็หนัก เงินเดือนก็น้อย