จังหวัดKumamoto ประเทศญี่ปุ่น เพิ่งประสบแผ่นดินไหวไปเมื่อช่วงเดือนเมษาปี 2559นี้
นักท่องเที่ยวได้ลดไปอย่างมากหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว
แต่ทราบไหมคะว่า จริงๆแล้วจังหวัดนี้ ถือได้ว่าเป็นสวรรค์บนดินที่น่าค้นหาและอยากให้ทุกคนลองไปสัมผัสมากค่ะ
**รูปที่จะลงมีทั้งจากกล้อง และจากมือถือนะคะ**
เนื่องจากใช้appมือถือพิมพ์ลายน้ำ ขนาดอาจจะไม่เท่ากัน ขัดตาขัดใจยังไงขออภัยด้วยค่ะ
เอาวิวสวยๆมาเรียกน้ำย่อยก่อน (น้ำตกNabegataki, Oguni Town)
ก่อนขอแนะนำตัวย่อๆว่า ชื่อขวัญ ตอนนี้ทำงานอยู่ที่ญี่ปุ่นและอาศัยอยู่ที่นี่มาแปดปีแล้ว
โดยส่วนตัวเป็นคนที่จะใช้ชีวิตอยู่ในสังคมแบบคนญี่ปุ่น คบเพื่อนญี่ปุ่น เที่ยวกินแบบญี่ปุ่น
เพราะฉะนั้นวิถีการท่องเที่ยวก็อาจจะไม่เหมือนชาวบ้านหน่อย ก็อย่าว่ากันนะคะ
ครั้งนี้ เป็นกระทู้ที่ตั้งใจทำขึ้น เพื่อเป็นกำลังใจให้จังหวัดKumamotoที่ประสบแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ เมื่อวันที่14 และ 16 เมษา 2559ที่ผ่านมาค่ะ
ขวัญมีแผนที่จะเที่ยวจังหวัดนี้กับเพื่อนสาวชาวญี่ปุ่นอีก4คน ตั้งแต่ช่วงกุมภา โดยจะไปเที่ยวใช้ช่วงวันหยุดGolden Weekของญี่ปุ่น ช่วง1-7 พค
แต่โชคร้ายที่เมืองKumamoto ประสบแผ่นดินไหวขึ้น เมืองสำคัญๆด้านการท่องเที่ยวได้รับความเสียหายอย่างหนัก สนามบินปิดทำการชั่วคราว ประชาชนหลายเขตต้องอพยพ เพราะบ้านถูกทำลายจากแผ่นดินไหวที่ต่อเนื่อง
ขวัญติดตามสถานการณ์แผ่นดินไหวนี้ทุกวัน และได้มีการคุยกับเพื่อนๆว่าเราจะทำยังไงกันดี
สรุปคือ ในสถานการณ์ที่ยังไม่ปกติ ถนนถูกตัดขาด ผู้คนยังอพยพอย่างนี้ เราไม่สามารถไปเที่ยวเบิกบานใจได้
แต่ขวัญยืนยันที่จะไปในฐานะอาสาสมัคร เพื่อเข้าไปช่วยในด้านที่เราพอจะทำได้
สุดท้ายแล้ว เพื่อน2 คน ขอถอนตัวจากการเดินทาง อีก2คนที่สนิทกัน(มินะจัง กับ เอริจัง) ยืนหยัดที่จะอยู่เคียงข้างและเดินทางไปด้วยกันค่ะ
(เพราะนางดื้อมาก ยืนกรานว่าใครไม่ไป ฉันไปคนเดียว เพื่อนเลยต้องจำยอม5555)
ในการเดินทางครั้งนี้ ขวัญศึกษาทั้งเรื่องทำอาสามัครอย่างดีกับคนในท้องที่ พร้อมกับทำประกันชีวิตอาสามัครไว้แล้ว
ขวัญแนบข้อมูลที่พักเส้นทางที่จะเดินทางให้กับเพื่อนที่ทำงานอยู่ในท้องที่ เผื่อเหตุการณ์ไม่คาดฝันใดๆที่จะเกิดขึ้นค่ะ
เนื่องจากเนื้อหาค่อนข้างยาว ขอสรุปที่ๆจะไปตามนี้นะคะ
เขตAso ==> Milk Road, Kabutoiwa View Point, Daikanbo View point
เมืองOguni ==> น้ำตกNabegataki, น้ำตก Yusuikyou, Waita Onsen, Tsuetate Onsen, และอื่นๆ
เมืองMinami-Oguni ==> สวน Oshito Ishi, Kurokawa Onsen, น้ำตกMeoto
เมือง Kumamoto ==> ปราสาท Kumamoto, ศาลเจ้ารอบๆ
เราเดินทางจากโตเกียวโดยเครื่องบินค่ะ พอไปถึงสนามบินKumamoto มีคุมามงขวัญใจชาวไทย รอเพียบเลย
จริงๆแล้ว Kumamoto มีรถไฟชิงกันเซนวิ่งผ่าน และมีรถไฟเส้นหลักวิ่งไปที่Aso แต่ส่วนใหญ่จะใช้รถยนต์ในการเดินทางเป็นหลัก
ทางเราจึงได้เช่ารถยนต์ เพื่อใช้ในการเดินทางค่ะ
รอบนี้เราไปเพื่อเป็นอาสาสมัครที่เมืองOguniนะคะ (小国町)
http://www.aso-oguni.com/kankou/kankou.html
เมืองนี้เป็นเมืองที่อยู่ติ่งตะเข็บชายแดนระหว่างจังหวัด Kumamoto กับ Oita ไม่มีรถไฟผ่าน คนเลยไม่ค่อยรู้จักเท่าไหร่
แต่ดังมากเรื่องน้ำตก Nabegataki ที่สามารถเดินชมจากข้างหลังน้ำตกได้ (ม่านน้ำ)
อันนี้เป็นภาพจากเมือง Mashiki(益城町) ที่เป็นจุดแรกของการเกิดแผ่นดินไหว และเป็นที่ตั้งของสนามบิน
บ้านที่เริ่มพัง หลังคารั่วเพราะแผ่นดินไหว ต้องใช้Blue sheetมาคลุมหลังคา จะเห็นภาพแบบนี้เรื่อยๆตลอดทางค่ะ
จากสนามบินKumamoto ไปที่ Oguni เราใช้เวลาเดินรถประมาณชั่วโมงกว่าๆ ผ่านเส้นทางMilk Road(งามมากๆ)
ด้วยเหตุที่เราไปหลังจากที่เพิ่งเกิดแผ่นดินไหว ถนนหลายสายยังปิดและไม่สมบูรณ์ดีค่ะ
ระหว่างทาง เราก็แวะไปดูเมืองAso จุดที่ได้รับผลกระทบหนักมากจากแผ่นดินไหว อยากให้ทุกคนได้เห็นค่ะว่าเป็นยังไงบ้าง
เห็นรอยเส้นดำๆไหมคะ จริงๆแล้วมันจะเป็นเนินหญ้าเรียบๆเนียนๆ แต่เกิดเส้นขึ้นจากการเคลื่อนตัวของชั้นดินค่ะ
แวะที่จุดชมวิว Kabutoiwa Viewpoint (かぶと岩展望所) เจอหนักเลยค่ะ
รู้ซึ้งถึงคำว่าธรณีสูบ ก็วันนี้แหล่ะ
วิวสวยนะ แต่มันหดหู่ที่ใจจนน้ำตาจะไหล
ตรงข้ามกับจุดชมวิว มีร้านคาเฟ่น่ารักๆตั้งอยู่ค่ะ ที่สำคัญ ร้านเปิดทำการ!!
ใช่แล้วค่ะ สิ่งนี้เป็นแรงบันดาลใจให้ขวัญอยากเขียนเรื่องราวให้ทุกคนได้รับรู้ว่า คนที่นี่ เค้าสู้และไม่ยอมแพ้แก่โชคชะตาจริงๆ
ร้านหมูน้อยค่ะ เปิดทำการรอรับทุกคน ทั้งๆที่เป็นช่วงหยุดยาวแต่คนเงียบมากเพราะกลัวแผ่นดินไหวกัน
อาหารก็เมนูหมูๆ กับนมสดๆ อร่อยทุกอย่างงง
แถบเมืองรอบๆภูเขาไฟ Aso จะถูกเรียกรวมกันว่า 阿蘇郡หรือเขตAso ซึ่งมีหลายเมืองและหมู่บ้านตั้งอยู่
เขตนี้เป็นที่ราบสูงและเนินเขา ส่วนใหญ่จะเน้นการทำฟาร์มปศุสัตว์ค่ะ
อาหารที่ดังๆก็จะเป็นพวกเมนูหมูAso(阿蘇豚) แล้วก็วัวแดง(赤牛) แล้วก็เนื้อม้า(馬肉)
เดี๋ยวจะแวะไปจุดชมวิวอีกที่หนึ่งก่อนเริ่มเดินทางไปทำอาสาสมัครนะคะ
ตอนนี้ขออนุญาตไปร่วมงานฉลองครบรอบหนึ่งปีของร้านในสังกัดก่อนแล้วจะมาเขียนต่อนะคะ เรื่องมันยาวววววว
ประสบการณ์เที่ยวKumamoto ญี่ปุ่น หลังเกิดแผ่นดินไหว เมืองสวรรค์บนดิน ที่ใจไม่เคยแพ้ต่อภัยธรรมชาติ Vol.1
นักท่องเที่ยวได้ลดไปอย่างมากหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว
แต่ทราบไหมคะว่า จริงๆแล้วจังหวัดนี้ ถือได้ว่าเป็นสวรรค์บนดินที่น่าค้นหาและอยากให้ทุกคนลองไปสัมผัสมากค่ะ
**รูปที่จะลงมีทั้งจากกล้อง และจากมือถือนะคะ**
เนื่องจากใช้appมือถือพิมพ์ลายน้ำ ขนาดอาจจะไม่เท่ากัน ขัดตาขัดใจยังไงขออภัยด้วยค่ะ
เอาวิวสวยๆมาเรียกน้ำย่อยก่อน (น้ำตกNabegataki, Oguni Town)
ก่อนขอแนะนำตัวย่อๆว่า ชื่อขวัญ ตอนนี้ทำงานอยู่ที่ญี่ปุ่นและอาศัยอยู่ที่นี่มาแปดปีแล้ว
โดยส่วนตัวเป็นคนที่จะใช้ชีวิตอยู่ในสังคมแบบคนญี่ปุ่น คบเพื่อนญี่ปุ่น เที่ยวกินแบบญี่ปุ่น
เพราะฉะนั้นวิถีการท่องเที่ยวก็อาจจะไม่เหมือนชาวบ้านหน่อย ก็อย่าว่ากันนะคะ
ครั้งนี้ เป็นกระทู้ที่ตั้งใจทำขึ้น เพื่อเป็นกำลังใจให้จังหวัดKumamotoที่ประสบแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ เมื่อวันที่14 และ 16 เมษา 2559ที่ผ่านมาค่ะ
ขวัญมีแผนที่จะเที่ยวจังหวัดนี้กับเพื่อนสาวชาวญี่ปุ่นอีก4คน ตั้งแต่ช่วงกุมภา โดยจะไปเที่ยวใช้ช่วงวันหยุดGolden Weekของญี่ปุ่น ช่วง1-7 พค
แต่โชคร้ายที่เมืองKumamoto ประสบแผ่นดินไหวขึ้น เมืองสำคัญๆด้านการท่องเที่ยวได้รับความเสียหายอย่างหนัก สนามบินปิดทำการชั่วคราว ประชาชนหลายเขตต้องอพยพ เพราะบ้านถูกทำลายจากแผ่นดินไหวที่ต่อเนื่อง
ขวัญติดตามสถานการณ์แผ่นดินไหวนี้ทุกวัน และได้มีการคุยกับเพื่อนๆว่าเราจะทำยังไงกันดี
สรุปคือ ในสถานการณ์ที่ยังไม่ปกติ ถนนถูกตัดขาด ผู้คนยังอพยพอย่างนี้ เราไม่สามารถไปเที่ยวเบิกบานใจได้
แต่ขวัญยืนยันที่จะไปในฐานะอาสาสมัคร เพื่อเข้าไปช่วยในด้านที่เราพอจะทำได้
สุดท้ายแล้ว เพื่อน2 คน ขอถอนตัวจากการเดินทาง อีก2คนที่สนิทกัน(มินะจัง กับ เอริจัง) ยืนหยัดที่จะอยู่เคียงข้างและเดินทางไปด้วยกันค่ะ
(เพราะนางดื้อมาก ยืนกรานว่าใครไม่ไป ฉันไปคนเดียว เพื่อนเลยต้องจำยอม5555)
ในการเดินทางครั้งนี้ ขวัญศึกษาทั้งเรื่องทำอาสามัครอย่างดีกับคนในท้องที่ พร้อมกับทำประกันชีวิตอาสามัครไว้แล้ว
ขวัญแนบข้อมูลที่พักเส้นทางที่จะเดินทางให้กับเพื่อนที่ทำงานอยู่ในท้องที่ เผื่อเหตุการณ์ไม่คาดฝันใดๆที่จะเกิดขึ้นค่ะ
เนื่องจากเนื้อหาค่อนข้างยาว ขอสรุปที่ๆจะไปตามนี้นะคะ
เขตAso ==> Milk Road, Kabutoiwa View Point, Daikanbo View point
เมืองOguni ==> น้ำตกNabegataki, น้ำตก Yusuikyou, Waita Onsen, Tsuetate Onsen, และอื่นๆ
เมืองMinami-Oguni ==> สวน Oshito Ishi, Kurokawa Onsen, น้ำตกMeoto
เมือง Kumamoto ==> ปราสาท Kumamoto, ศาลเจ้ารอบๆ
เราเดินทางจากโตเกียวโดยเครื่องบินค่ะ พอไปถึงสนามบินKumamoto มีคุมามงขวัญใจชาวไทย รอเพียบเลย
จริงๆแล้ว Kumamoto มีรถไฟชิงกันเซนวิ่งผ่าน และมีรถไฟเส้นหลักวิ่งไปที่Aso แต่ส่วนใหญ่จะใช้รถยนต์ในการเดินทางเป็นหลัก
ทางเราจึงได้เช่ารถยนต์ เพื่อใช้ในการเดินทางค่ะ
รอบนี้เราไปเพื่อเป็นอาสาสมัครที่เมืองOguniนะคะ (小国町) http://www.aso-oguni.com/kankou/kankou.html
เมืองนี้เป็นเมืองที่อยู่ติ่งตะเข็บชายแดนระหว่างจังหวัด Kumamoto กับ Oita ไม่มีรถไฟผ่าน คนเลยไม่ค่อยรู้จักเท่าไหร่
แต่ดังมากเรื่องน้ำตก Nabegataki ที่สามารถเดินชมจากข้างหลังน้ำตกได้ (ม่านน้ำ)
อันนี้เป็นภาพจากเมือง Mashiki(益城町) ที่เป็นจุดแรกของการเกิดแผ่นดินไหว และเป็นที่ตั้งของสนามบิน
บ้านที่เริ่มพัง หลังคารั่วเพราะแผ่นดินไหว ต้องใช้Blue sheetมาคลุมหลังคา จะเห็นภาพแบบนี้เรื่อยๆตลอดทางค่ะ
จากสนามบินKumamoto ไปที่ Oguni เราใช้เวลาเดินรถประมาณชั่วโมงกว่าๆ ผ่านเส้นทางMilk Road(งามมากๆ)
ด้วยเหตุที่เราไปหลังจากที่เพิ่งเกิดแผ่นดินไหว ถนนหลายสายยังปิดและไม่สมบูรณ์ดีค่ะ
ระหว่างทาง เราก็แวะไปดูเมืองAso จุดที่ได้รับผลกระทบหนักมากจากแผ่นดินไหว อยากให้ทุกคนได้เห็นค่ะว่าเป็นยังไงบ้าง
เห็นรอยเส้นดำๆไหมคะ จริงๆแล้วมันจะเป็นเนินหญ้าเรียบๆเนียนๆ แต่เกิดเส้นขึ้นจากการเคลื่อนตัวของชั้นดินค่ะ
แวะที่จุดชมวิว Kabutoiwa Viewpoint (かぶと岩展望所) เจอหนักเลยค่ะ
รู้ซึ้งถึงคำว่าธรณีสูบ ก็วันนี้แหล่ะ
วิวสวยนะ แต่มันหดหู่ที่ใจจนน้ำตาจะไหล
ตรงข้ามกับจุดชมวิว มีร้านคาเฟ่น่ารักๆตั้งอยู่ค่ะ ที่สำคัญ ร้านเปิดทำการ!!
ใช่แล้วค่ะ สิ่งนี้เป็นแรงบันดาลใจให้ขวัญอยากเขียนเรื่องราวให้ทุกคนได้รับรู้ว่า คนที่นี่ เค้าสู้และไม่ยอมแพ้แก่โชคชะตาจริงๆ
ร้านหมูน้อยค่ะ เปิดทำการรอรับทุกคน ทั้งๆที่เป็นช่วงหยุดยาวแต่คนเงียบมากเพราะกลัวแผ่นดินไหวกัน
อาหารก็เมนูหมูๆ กับนมสดๆ อร่อยทุกอย่างงง
แถบเมืองรอบๆภูเขาไฟ Aso จะถูกเรียกรวมกันว่า 阿蘇郡หรือเขตAso ซึ่งมีหลายเมืองและหมู่บ้านตั้งอยู่
เขตนี้เป็นที่ราบสูงและเนินเขา ส่วนใหญ่จะเน้นการทำฟาร์มปศุสัตว์ค่ะ
อาหารที่ดังๆก็จะเป็นพวกเมนูหมูAso(阿蘇豚) แล้วก็วัวแดง(赤牛) แล้วก็เนื้อม้า(馬肉)
เดี๋ยวจะแวะไปจุดชมวิวอีกที่หนึ่งก่อนเริ่มเดินทางไปทำอาสาสมัครนะคะ
ตอนนี้ขออนุญาตไปร่วมงานฉลองครบรอบหนึ่งปีของร้านในสังกัดก่อนแล้วจะมาเขียนต่อนะคะ เรื่องมันยาวววววว