สืบเนื่องจากการ ถกเถียงโต้แย้ง เรื่องคัมภีร์อภิธรรมปิฎก

1 ประเด็นที่ผมเสนอ ก็คือ ......

พระพุทธเจ้า ทรงเอาคัมภีร์กถาวัตถุ ที่ท่านพระโมคคัลลีบุตรติสสะ เพิ่งแต่งขึ้นเมื่อพุทธศตวรรษที่สาม
ไปเทศน์ให้เทวดาฟังที่ดาวดึงส์ รึไงครับ ?

แบบนี้ เรียกว่า ตรรกะวิบัติ ครับท่าน

http://ppantip.com/topic/35619442/comment9

2 ปรากฏว่า มีสมาชิกท่านหนึ่ง พยายามแย้งผม ในทำนองว่า
พระพุทธเจ้า ไม่ได้เอา กถาวัตถุ ไปเทศน์ที่ดาวดึงส์ หรอก เพราะ อภิธรรมเจ็ดคัมภีร์ ไม่ได้หมายถึง กถาวัตถุ แต่หมายถึง มหาหทัยยปกรณ์

http://ppantip.com/topic/35619442/comment14

3 ปัญหาข้อแรก คือ ที่ท่านบอกมานั้น เกิดจากความเข้าใจผิด หมายถึง อ่านอรรถกถา แล้วไม่เข้าใจ อ่านไม่รู้เรื่อง
ขออนุญาต อธิบาย สั้นๆ ดังนี้

เถรวาทลัทธิลังกาวงศ์(ฝ่ายสกวาที) เขายืนยันว่า อภิธรรม เจ็ดปกรณ์ หมายถึง ๑. ธรรมสังคณีปกรณ์   
๒. วิภังคปกรณ์  ๓. ธาตุกถาปกรณ์ ๔. ปุคคลบัญญัติปกรณ์ ๕. กถาวัตถุปกรณ์ ๖. ยมกปกรณ์ ๗. ปัฏฐานปกรณ์

คือ มี กถาวัตถุ เป็นหนึ่งในนั้น

แต่สงฆ์ฝ่ายค้าน(ปรวาที) แย้งว่า กถาวัตถุ เพิ่งแต่งขึ้นเมื่อศตวรรษที่สาม โดย พระโมคคัลลีบุตรติสสะ จะเอาไปรวมได้ไง ?
ฝ่ายสกวาที จึงย้อนถามว่า หากไม่เอา กถาวัตถุ แล้วจะเอาคัมภีร์อะไร มาเติมให้ครบเจ็ด ฝ่ายปรวาที เขาเสนอ มหาธรรมหทัยปกรณ์ ครับ

ขออนุญาต ย้ำอีกครั้งว้า ฝ่านค้าน(ปรวาที) ต่างหาก ที่เป็นฝ่ายเสนอว่า กถาวัตถุ เป็นสาวกภาษิต ไม่ใช่ หนึ่งใน ปกรณ์ทั้งเจ็ด
แต่ฝ่ายสกวาที ก็ยังคงยืนยันมติฝ่ายตน(คือ เถรวาทลัทธิลังกาวงศ์) ว่า หนึ่งในเจ็ดปกรณ์ คือ กถาวัตถุ

4 ปัญหาข้อที่สอง ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญก็คือ ท่านจะเข้าใจผิด หรือ เห็นผิด นั่นเป็นปัญหาส่วนตัวของท่านนะครับ
และต่อให้ท่าน อยากจะโต้แย้ง เพื่อยืนยันความเข้าใจผิดของท่าน อย่างไร ก็ย่อมทำได้ครับ

แต่การโต้แย้ง โดยการ ตัดต่อ แก้ไข บิดเบือน หลักฐาน(ในที่นี้ คือ อรรถกถา) ตามใจชอบ ตามความคิดเห็นของตนเอง
มันเป็นสิ่งที่ทำไม่ได้ ..... มันผิด ไงครับ ..... ไม่มี บัณฑิต หรือ คนสติดีที่ไหน เขาทำกันแบบนี้ นะครับ

ผมเห็นว่า การตัดต่อ แก้ไข บิดเบือน หลักฐาน แล้วนำมาแสดงในที่สาธารณะ อันอาจ เป็นเหตุให้ผู้อื่นเข้าใจผิด
มันเป็นสิ่งที่ไม่พึงกระทำ เป็นความผิด และควรได้รับการตำหนิติเตียน ครับท่าน

v
v



http://ppantip.com/topic/35619442/comment14

v
v



http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=34&i=1&p=1