คือพ่ออายุย่างเข้า 72 ปีแล้วค่ะ เริ่มป่วยมาได้ 6-7 ปีแล้ว(กินยาทางจิตเวชต่อเนื่องมาตลอด) แต่เมื่อก่อนยังพอดูแลตัวเองได้
และญาติก็ยังพอควบคุมดูแลแกได้อยู่ แต่ช่วง2-3อาทิตย์ ที่ผ่านมา เหมือนอาการจะทรุดลง ยาที่กินประจำ เริ่มควบคุมไม่อยู่ อาการเริ่มวุ่นวายมาก(ปกติจะซนๆพอรับได้) หนีออกจากบ้านทุกวัน ไปไล่ยืมเงินชาวบ้าน เอาของในบ้านไปขาย
คุณหมอเลยปรับยาให้แรงขึ้น แต่ยาก็ยังคุมไม่อยู่ จนสุดท้าย..กลัวเกิดอันตราย เพราะแกเดินกลางถนน(รถรพ.มาส่ง) ปีนหนีออกจากบ้านชั้น2 เลยพาแกไปอยู่ศูนย์ดูแลฯ (ที่นี้มีหมอกับพยาบาลประจำ24ชม.)
ทีนี้..คุยกับหมอ(จิตแพทย์)ที่ดูแลกันมาตั้งแต่แรก กับพยาบาลที่ศูนย์ เขาบอกว่า อาการแกจะดิ่งลง คือจะไม่มีดีขึ้น จะมีแต่ทรงกับทรุด คือให้ญาติทำใจไว้เลย ว่าเวลาสมองมันเสื่อม อาการทางกายมันจะมาเร็ว และไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า
คือตอนนี้ ฝากที่ศูนย์ฯดูแล ระหว่างรอปรับยา ให้อาการสงบลง แล้วจะรับกลับมาดูแลต่อที่บ้าน
สิ่งที่เตรียมการณ์ไว้ก็คือ
1. ถ้าแกยังเดินเหินได้ จะจ้างคนมาเดินตามแก เสื้อผ้าปักชื่อ-นามสกุล+เบอร์โทรลูกไว้ เผื่อหลงไปทางไหน จะได้มีคนโทรมาบอก
2. ถ้าดูแล้ววุ่นวาย อันตราย คือจะจำกัดบริเวณ กักตัวไว้ภายในบ้าน ตอนนี้กำลังให้ช่าง เข้ามาติดประตูเหล็กเฉพาะจุด คือให้แกเดินไปมาภายในบ้านได้ แต่ไม่ให้ออกนอกบ้าน
3. หากอาการทางกายทรุดลง เช่นเดินไม่ได้ ดูแลตัวเองไม่ได้ ตอนนี้คือจัดเตรียมห้องไว้ให้แล้ว แต่พวกเตียงคนป่วย หรืออุปกรณ์ต่างๆ ยังไม่ได้ซื้อเลย เพราะของพวกนี้ ราคาสูงมาก และยังไม่รู้ว่าจะได้ใช้ตอนไหน แต่ที่คิดไว้ คือกะทำเหมือนห้องในรพ.เลย เพื่อจะได้สะดวกกับคนดูแลด้วย
4. สิ่งที่อยากถามคือ พยาบาลเขาบอกว่า เวลาอาการมันลง มันไม่มีกำหนดว่า ส่วนไหนจะลงก่อน บางทีการกลืนไม่ได้ อาจจะมาก่อน ส่วนนี้ที่เป็นกังวลคือ ถ้ากินไม่ได้ ต้องให้อาหารทางสาย
คือเจตนาของญาติ คือจะไม่ยื้อ ไม่ใส่ หรือเจาะอะไรทั้งสิ้น
ส่วนนี้ล่ะ ที่เป็นกังวล(ไปก่อน) ว่าพอถึงเวลาจริงๆ เราควรจะทำยังไงดี
ปล.เคยดูแลยายของสามี อายุ99ปี แต่พอมาเจอกับพ่อตัวเอง มันเครียดกว่าเยอะเลย
สอบถามวิธีการดูแลผู้ป่วยสูงอายุ ที่เป็นโรคสมองเสื่อม
และญาติก็ยังพอควบคุมดูแลแกได้อยู่ แต่ช่วง2-3อาทิตย์ ที่ผ่านมา เหมือนอาการจะทรุดลง ยาที่กินประจำ เริ่มควบคุมไม่อยู่ อาการเริ่มวุ่นวายมาก(ปกติจะซนๆพอรับได้) หนีออกจากบ้านทุกวัน ไปไล่ยืมเงินชาวบ้าน เอาของในบ้านไปขาย
คุณหมอเลยปรับยาให้แรงขึ้น แต่ยาก็ยังคุมไม่อยู่ จนสุดท้าย..กลัวเกิดอันตราย เพราะแกเดินกลางถนน(รถรพ.มาส่ง) ปีนหนีออกจากบ้านชั้น2 เลยพาแกไปอยู่ศูนย์ดูแลฯ (ที่นี้มีหมอกับพยาบาลประจำ24ชม.)
ทีนี้..คุยกับหมอ(จิตแพทย์)ที่ดูแลกันมาตั้งแต่แรก กับพยาบาลที่ศูนย์ เขาบอกว่า อาการแกจะดิ่งลง คือจะไม่มีดีขึ้น จะมีแต่ทรงกับทรุด คือให้ญาติทำใจไว้เลย ว่าเวลาสมองมันเสื่อม อาการทางกายมันจะมาเร็ว และไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า
คือตอนนี้ ฝากที่ศูนย์ฯดูแล ระหว่างรอปรับยา ให้อาการสงบลง แล้วจะรับกลับมาดูแลต่อที่บ้าน
สิ่งที่เตรียมการณ์ไว้ก็คือ
1. ถ้าแกยังเดินเหินได้ จะจ้างคนมาเดินตามแก เสื้อผ้าปักชื่อ-นามสกุล+เบอร์โทรลูกไว้ เผื่อหลงไปทางไหน จะได้มีคนโทรมาบอก
2. ถ้าดูแล้ววุ่นวาย อันตราย คือจะจำกัดบริเวณ กักตัวไว้ภายในบ้าน ตอนนี้กำลังให้ช่าง เข้ามาติดประตูเหล็กเฉพาะจุด คือให้แกเดินไปมาภายในบ้านได้ แต่ไม่ให้ออกนอกบ้าน
3. หากอาการทางกายทรุดลง เช่นเดินไม่ได้ ดูแลตัวเองไม่ได้ ตอนนี้คือจัดเตรียมห้องไว้ให้แล้ว แต่พวกเตียงคนป่วย หรืออุปกรณ์ต่างๆ ยังไม่ได้ซื้อเลย เพราะของพวกนี้ ราคาสูงมาก และยังไม่รู้ว่าจะได้ใช้ตอนไหน แต่ที่คิดไว้ คือกะทำเหมือนห้องในรพ.เลย เพื่อจะได้สะดวกกับคนดูแลด้วย
4. สิ่งที่อยากถามคือ พยาบาลเขาบอกว่า เวลาอาการมันลง มันไม่มีกำหนดว่า ส่วนไหนจะลงก่อน บางทีการกลืนไม่ได้ อาจจะมาก่อน ส่วนนี้ที่เป็นกังวลคือ ถ้ากินไม่ได้ ต้องให้อาหารทางสาย
คือเจตนาของญาติ คือจะไม่ยื้อ ไม่ใส่ หรือเจาะอะไรทั้งสิ้น
ส่วนนี้ล่ะ ที่เป็นกังวล(ไปก่อน) ว่าพอถึงเวลาจริงๆ เราควรจะทำยังไงดี
ปล.เคยดูแลยายของสามี อายุ99ปี แต่พอมาเจอกับพ่อตัวเอง มันเครียดกว่าเยอะเลย