บนถนนสายหนึ่งในวันที่ฝนตก
"เอ" ... ชายหนุ่มที่กำลังยืนลังเลใจอยู่ใต้เมฆพายุฝน
ได้ตัดสินใจใช้เรี่ยวแรงที่เหลืออยู่หลังการบาดเจ็บจากการที่คนรักเก่าขอเดินแยกทางอื่นเมื่อไม่นานมานี้
วิ่งไปอย่างรวดเร็วไปตามถนนข้างหน้าที่มีท้องฟ้าสดใสส่องสว่างอยู่ไกลๆ
... แม้เมฆฝนจะยังลอยวิ่งตามมาข้างหลังไกลๆ แต่ถึงอย่างไรตอนนี้เอก็ไม่ได้เปียกปอนแม้แต่น้อย
... เอยังเดินต่อไปได้ดีเหมือนในทุกๆวัน และเหมือนเขาจะทำสำเร็จตามที่หวัง
จนกระทั่งวันหนึ่ง
ระหว่างที่เอเดินไปตามถนนเช่นทุกวัน เขาก็ได้ยินเสียงเรียกดังมาจากข้างหลัง
เมื่อเอหันไปดูจึงรู้ว่าเสียงนั้นไม่ใช่ใครอื่น คือเสียงของ ... "บี" ...
... บี ... ที่วันก่อนเคยขอเดินแยกไปถนนอีกทางเพราะเขาคิดว่าถนนที่เดินด้วยกันตอนนั้นมันไม่สวยและกำลังมีพายุฝน
แต่ในตอนนี้บีกำลังใช้พลังที่เหลืออยู่ตะโกนเรียกเอ และทันทีที่เอหันกลับไปดูก็รู้ได้ทันทีว่า ...
"บีหกล้มและกำลังบาดเจ็บอย่างหนักเหมือนครั้งที่เอเคยเป็น"
เอไม่รอช้าที่จะวิ่งย้อนกลับไปหาบีในถนนเส้นเก่า แม้จะรู้ว่าพายุกำลังไล่ตามมาอยู่ไม่ห่างก็ตามแต่
ในแต่ละวันเอพยายามให้บีลุกขึ้นยืนอีกครั้ง
ในแต่ละวันเอพยายามให้บีลองพะยุงตัวเดิน
ในแต่ละวันเอพยายามให้บีได้เดินยาวๆ
ในแต่ละวันเอพยายามให้บีได้ยิ้มกับการวิ่งอีกครั้ง
และในแต่ละวันพายุฝนก็กำลังเข้าใกล้มาเรื่อยๆ
จนวันนี้ ... บีสามารถวิ่งได้ดีเหมือนเก่าแล้ว
และเอก็กลับมาเหนื่อยจนหมดแรงเดินอีกครั้งเพราะได้ทุ่มแรงที่มีอยู่ไปเพื่อคนรัก เขากลับรู้สึกยินดีที่ได้ทำมันไป
แต่ลึกๆเอกลับต้องใจสั่นอีกครั้งจากการที่ได้รับรู้ด้วยภาพที่อยู่ตรงหน้านั่น คือ ...
บีกำลังมีความสุขที่กลับมาวิ่งได้อีกครั้ง และบีกำลังวิ่งไปข้างหน้าด้วยความรู้สึกตื่นเต้น จนหลังลืมไปว่า ...
::::: เขากำลังทิ้งเอที่กำลังไร้เรี่ยวแรงอยู่ข้างหลังให้เผชิญพายุฝนเพียงลำพังเหมือนครั้งก่อน :::::
... ถึงวันนี้บีจะยังลืมว่าได้ทิ้งเอไว้ข้างหลังก็ไม่เป็นไร ...
... ถึงวันนี้เอจะต้องเจอพายุฝนโดยไร้เรียวแรงก็ไม่เป็นไร ...
... และแม้วันหนึ่งหากบีล้มหรือบาดเจ็บก็ให้ตะโกนเรียกเอได้เสมอ ...
เรายินดีเดินย้อนกลับไปบนถนนสายเดิมเพื่อช่วยให้เธอลุกขึ้นอีกครั้ง
แม้เราจะต้องอยู่ท่ามกลางพายุฝนอย่างโดดเดี่ยวอีกก็ยินดี
กระจิบ กระจาบ
เขียนเรื่องจริงให้เป็นเรื่องเล่า ตอน เมื่อเธอเลือกวิ่งไปต่างแดน
"เอ" ... ชายหนุ่มที่กำลังยืนลังเลใจอยู่ใต้เมฆพายุฝน
ได้ตัดสินใจใช้เรี่ยวแรงที่เหลืออยู่หลังการบาดเจ็บจากการที่คนรักเก่าขอเดินแยกทางอื่นเมื่อไม่นานมานี้
วิ่งไปอย่างรวดเร็วไปตามถนนข้างหน้าที่มีท้องฟ้าสดใสส่องสว่างอยู่ไกลๆ
... แม้เมฆฝนจะยังลอยวิ่งตามมาข้างหลังไกลๆ แต่ถึงอย่างไรตอนนี้เอก็ไม่ได้เปียกปอนแม้แต่น้อย
... เอยังเดินต่อไปได้ดีเหมือนในทุกๆวัน และเหมือนเขาจะทำสำเร็จตามที่หวัง
จนกระทั่งวันหนึ่ง
ระหว่างที่เอเดินไปตามถนนเช่นทุกวัน เขาก็ได้ยินเสียงเรียกดังมาจากข้างหลัง
เมื่อเอหันไปดูจึงรู้ว่าเสียงนั้นไม่ใช่ใครอื่น คือเสียงของ ... "บี" ...
... บี ... ที่วันก่อนเคยขอเดินแยกไปถนนอีกทางเพราะเขาคิดว่าถนนที่เดินด้วยกันตอนนั้นมันไม่สวยและกำลังมีพายุฝน
แต่ในตอนนี้บีกำลังใช้พลังที่เหลืออยู่ตะโกนเรียกเอ และทันทีที่เอหันกลับไปดูก็รู้ได้ทันทีว่า ...
"บีหกล้มและกำลังบาดเจ็บอย่างหนักเหมือนครั้งที่เอเคยเป็น"
เอไม่รอช้าที่จะวิ่งย้อนกลับไปหาบีในถนนเส้นเก่า แม้จะรู้ว่าพายุกำลังไล่ตามมาอยู่ไม่ห่างก็ตามแต่
ในแต่ละวันเอพยายามให้บีลุกขึ้นยืนอีกครั้ง
ในแต่ละวันเอพยายามให้บีลองพะยุงตัวเดิน
ในแต่ละวันเอพยายามให้บีได้เดินยาวๆ
ในแต่ละวันเอพยายามให้บีได้ยิ้มกับการวิ่งอีกครั้ง
และในแต่ละวันพายุฝนก็กำลังเข้าใกล้มาเรื่อยๆ
จนวันนี้ ... บีสามารถวิ่งได้ดีเหมือนเก่าแล้ว
และเอก็กลับมาเหนื่อยจนหมดแรงเดินอีกครั้งเพราะได้ทุ่มแรงที่มีอยู่ไปเพื่อคนรัก เขากลับรู้สึกยินดีที่ได้ทำมันไป
แต่ลึกๆเอกลับต้องใจสั่นอีกครั้งจากการที่ได้รับรู้ด้วยภาพที่อยู่ตรงหน้านั่น คือ ...
บีกำลังมีความสุขที่กลับมาวิ่งได้อีกครั้ง และบีกำลังวิ่งไปข้างหน้าด้วยความรู้สึกตื่นเต้น จนหลังลืมไปว่า ...
::::: เขากำลังทิ้งเอที่กำลังไร้เรี่ยวแรงอยู่ข้างหลังให้เผชิญพายุฝนเพียงลำพังเหมือนครั้งก่อน :::::
... ถึงวันนี้บีจะยังลืมว่าได้ทิ้งเอไว้ข้างหลังก็ไม่เป็นไร ...
... ถึงวันนี้เอจะต้องเจอพายุฝนโดยไร้เรียวแรงก็ไม่เป็นไร ...
... และแม้วันหนึ่งหากบีล้มหรือบาดเจ็บก็ให้ตะโกนเรียกเอได้เสมอ ...
เรายินดีเดินย้อนกลับไปบนถนนสายเดิมเพื่อช่วยให้เธอลุกขึ้นอีกครั้ง
แม้เราจะต้องอยู่ท่ามกลางพายุฝนอย่างโดดเดี่ยวอีกก็ยินดี