ช่วงก่อนรู้สึกผมจะเห็นกระทู้ในพันทิปนี่แหล่ะ ที่มีผู้หญิงมาตั้งกระทู้ถามว่า ทำไมจู่ๆผู้ชายที่คุยด้วยก็หายเงียบไปเฉยๆ
โดยไม่บอกเหตุผลสักคำ ปล่อยให้คุณผู้หญิงต้องมาค้างคาใจว่าเพราะเหตุอันใดถึงหายไปโดยไม่ร่ำไม่ลาและบอกเหตุผลกันเลย
จากเท่าที่เห็นจากเพื่อนหรือคนรู้จักรอบข้าง ที่เค้าตัดสินใจหายไปเฉยๆแบบนั้นกัน ก็พอจะสรุปเหตุผลได้ดังนี้
เอาเป็นว่าถ้าสาวๆท่านใด คุยกับผู้ชายอยู่ แล้ววันหนึ่งเค้าก็เงียบหายไป แสดงว่าต้องมาจากเหตุผลข้อใดข้อหนึ่งในนี้แน่นอน
1. เค้าเจอคนอื่นที่คิดว่าจะพอดีกับเค้ามากกว่าคุณ จริงๆก็คงไม่เฉพาะผู้ชายเท่านั้น ผู้หญิงเองก็ต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง
แต่ผู้ชาย(บางคน) ก็ไม่กล้าบอกฝ่ายหญิงตรงๆว่าเจอคนที่พอดีกว่าเธอแล้วนะ ไม่คุยต่อแล้วนะ เหตุผลก็เพราะเค้าคิดว่า การบอก
ตรงๆทำร้ายจิตใจฝ่ายหญิงมากไป การเงียบหายไปน่าจะทำให้ฝ่ายหญิงรู้สึกนอยด์น้อยกว่า(บางคนเค้าก็คิดแบบนี้จริงๆ)
2.หลังจากคุยไปได้สักระยะแล้ว เค้ามาค้นพบความจริงอะไรบางอย่างเกี่ยวกับตัวคุณ และเป็นเรื่องยากที่เค้าจะทำใจยอมรับมันได้
ข้อนี้มันมีเหตุผลร้อยแปด เพราะเรื่องรับได้กับรับไม่ได้ของผู้ชายแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน ถ้าเคสที่แรงๆหน่อยก็เช่น มารู้ทีหลัง
ว่าฝ่ายหญิงเคยทำไซด์ไลน์, เคยเป็นเด็กเสี่ยมาก่อน เป็นต้น(ซึ่งผู้ชายบางคนก็รับได้ แล้วแต่คนอีกนั่นแหล่ะ) หรือบางเรื่องอาจจะ
ดูไม่ใหญ่โตมากนัก แต่ก็เป็นประเด็นได้ เช่น ทัศนคติทางการเมืองหรือที่ทัศนคติเกี่ยวกับสถาบันต่างกันอย่างสิ้นเชิง เป็นต้น
ส่วนเหตุผลที่ไม่บอกตรงๆก็คล้ายกับเหตุผลในข้อหนึ่ง
3.เกิดจากการกระทำของฝ่ายหญิงเอง ที่ทำให้ผู้ชายเค้ารู้สึกว่าตัวเองด้อยค่า ไม่มีความสำคัญ ดังเนื้อเพลงที่ว่า" เพราะคนไม่จำเป็น
ก็ต้องเดินจากไป " นั่นแหล่ะครับ แล้วการกระทำแบบไหนล่ะ ที่ทำให้ผู้ชายรู้สึกแบบนั้นได้.....
อันนี้พูดในกรณีที่ผู้ชายเค้าเข้ามาแบบชัดเจนว่าเค้าจะจีบนะครับ ปกติคนมาจีบก็ต้องเป็นฝ่ายรุกอยู่แล้ว เช่น
การชวนคุย, ชวนไปกินข้าว, ชวนไปเที่ยวนั่นเที่ยวนี่ ถ้าชวนกี่ครั้งๆก็ถูกปฏิเสธตลอด หรือเวลาชวนคุย ฝ่ายหญิงก็เป็นประเภท
ถามคำตอบคำ หรือบางทีถามสองคำตอบหนึ่งคำ, ฝ่ายชายต้องเป็นฝ่ายทักก่อนตลอด ถ้าไม่ทัก ฝ่ายหญิงก็จะเงียบหายไป
ถ้าเจอแบบนี้ไปสักระยะ ผู้ชายส่วนใหญ่จะเป็นฝ่ายถอยไปเองครับ บางคนก็ถอยแบบปัจจุบันพลันด่วน คือหายไปเฉยๆนั่นแหล่ะครับ
แต่สำหรับข้อ 3 นี่ บางครั้งก็เป็นประเด็น เพราะว่าวิธีคิดของผู้หญิงกับผู้ชายไม่เหมือนกัน
ผู้หญิงอาจจะคิดว่า ทำไมผู้ชายไม่มีความพยายามเลย ถ้ารักจริงชอบจริงต้องพยายามตื้อให้มากกว่านี้สิ
แต่คำว่าพยายามกับคำว่าดันทุรัง บางครั้งก็มีเพียงเส้นบางๆกั้นอยู่ ผู้หญิงอาจจะมองว่านี่คือความพยายาม แต่ผู้ชายอาจจะมองว่ามันคือ
ความดันทุรัง บางเคสผู้หญิงก็จะมองว่า อะไรกัน แค่นี้ก็ยอมแพ้ซะละ แต่ผู้ชายจะมองว่า นี่ไม่ใช่การยอมแพ้ แต่มันคือการยอมรับความจริง
ต่างหากล่ะ ความจริงที่ว่าจีบไปก็ไม่ติด หนีหลบไปเลียแผลใจดีกว่า เป็นต้น
4.ผู้ชายไม่ได้คิดจริงจังตั้งแต่แรก เข้ามาคุยเล่นสนุกๆไปงั้นๆ พอหมดสนุกก็หายหน้าไป หรืออาจจะเข้ามาเพื่อหวังผลบางอย่าง
เช่น เข้ามาคุยเพื่ออยากได้ข้อมูลหรือผลประโยชน์บางประการจากผู้หญิง พอได้ข้อมูลหรือได้สิ่งที่ต้องการแล้วก็จากไป เป็นต้น
ผู้ชายแบบนี้ถือว่าเลว แต่มีอยู่จริงครับ
หวังว่าเรื่องที่เล่ามา คงจะพอตอบข้อสงสัยของใครหลายคนได้นะครับ.
ผมว่าผมพอจะเริ่มเข้าใจเหตุผลที่จู่ๆผู้ชายก็หายเงียบไปหลังจากคุยกับผู้หญิงไปได้สักระยะหนึ่ง
โดยไม่บอกเหตุผลสักคำ ปล่อยให้คุณผู้หญิงต้องมาค้างคาใจว่าเพราะเหตุอันใดถึงหายไปโดยไม่ร่ำไม่ลาและบอกเหตุผลกันเลย
จากเท่าที่เห็นจากเพื่อนหรือคนรู้จักรอบข้าง ที่เค้าตัดสินใจหายไปเฉยๆแบบนั้นกัน ก็พอจะสรุปเหตุผลได้ดังนี้
เอาเป็นว่าถ้าสาวๆท่านใด คุยกับผู้ชายอยู่ แล้ววันหนึ่งเค้าก็เงียบหายไป แสดงว่าต้องมาจากเหตุผลข้อใดข้อหนึ่งในนี้แน่นอน
1. เค้าเจอคนอื่นที่คิดว่าจะพอดีกับเค้ามากกว่าคุณ จริงๆก็คงไม่เฉพาะผู้ชายเท่านั้น ผู้หญิงเองก็ต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง
แต่ผู้ชาย(บางคน) ก็ไม่กล้าบอกฝ่ายหญิงตรงๆว่าเจอคนที่พอดีกว่าเธอแล้วนะ ไม่คุยต่อแล้วนะ เหตุผลก็เพราะเค้าคิดว่า การบอก
ตรงๆทำร้ายจิตใจฝ่ายหญิงมากไป การเงียบหายไปน่าจะทำให้ฝ่ายหญิงรู้สึกนอยด์น้อยกว่า(บางคนเค้าก็คิดแบบนี้จริงๆ)
2.หลังจากคุยไปได้สักระยะแล้ว เค้ามาค้นพบความจริงอะไรบางอย่างเกี่ยวกับตัวคุณ และเป็นเรื่องยากที่เค้าจะทำใจยอมรับมันได้
ข้อนี้มันมีเหตุผลร้อยแปด เพราะเรื่องรับได้กับรับไม่ได้ของผู้ชายแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน ถ้าเคสที่แรงๆหน่อยก็เช่น มารู้ทีหลัง
ว่าฝ่ายหญิงเคยทำไซด์ไลน์, เคยเป็นเด็กเสี่ยมาก่อน เป็นต้น(ซึ่งผู้ชายบางคนก็รับได้ แล้วแต่คนอีกนั่นแหล่ะ) หรือบางเรื่องอาจจะ
ดูไม่ใหญ่โตมากนัก แต่ก็เป็นประเด็นได้ เช่น ทัศนคติทางการเมืองหรือที่ทัศนคติเกี่ยวกับสถาบันต่างกันอย่างสิ้นเชิง เป็นต้น
ส่วนเหตุผลที่ไม่บอกตรงๆก็คล้ายกับเหตุผลในข้อหนึ่ง
3.เกิดจากการกระทำของฝ่ายหญิงเอง ที่ทำให้ผู้ชายเค้ารู้สึกว่าตัวเองด้อยค่า ไม่มีความสำคัญ ดังเนื้อเพลงที่ว่า" เพราะคนไม่จำเป็น
ก็ต้องเดินจากไป " นั่นแหล่ะครับ แล้วการกระทำแบบไหนล่ะ ที่ทำให้ผู้ชายรู้สึกแบบนั้นได้.....
อันนี้พูดในกรณีที่ผู้ชายเค้าเข้ามาแบบชัดเจนว่าเค้าจะจีบนะครับ ปกติคนมาจีบก็ต้องเป็นฝ่ายรุกอยู่แล้ว เช่น
การชวนคุย, ชวนไปกินข้าว, ชวนไปเที่ยวนั่นเที่ยวนี่ ถ้าชวนกี่ครั้งๆก็ถูกปฏิเสธตลอด หรือเวลาชวนคุย ฝ่ายหญิงก็เป็นประเภท
ถามคำตอบคำ หรือบางทีถามสองคำตอบหนึ่งคำ, ฝ่ายชายต้องเป็นฝ่ายทักก่อนตลอด ถ้าไม่ทัก ฝ่ายหญิงก็จะเงียบหายไป
ถ้าเจอแบบนี้ไปสักระยะ ผู้ชายส่วนใหญ่จะเป็นฝ่ายถอยไปเองครับ บางคนก็ถอยแบบปัจจุบันพลันด่วน คือหายไปเฉยๆนั่นแหล่ะครับ
แต่สำหรับข้อ 3 นี่ บางครั้งก็เป็นประเด็น เพราะว่าวิธีคิดของผู้หญิงกับผู้ชายไม่เหมือนกัน
ผู้หญิงอาจจะคิดว่า ทำไมผู้ชายไม่มีความพยายามเลย ถ้ารักจริงชอบจริงต้องพยายามตื้อให้มากกว่านี้สิ
แต่คำว่าพยายามกับคำว่าดันทุรัง บางครั้งก็มีเพียงเส้นบางๆกั้นอยู่ ผู้หญิงอาจจะมองว่านี่คือความพยายาม แต่ผู้ชายอาจจะมองว่ามันคือ
ความดันทุรัง บางเคสผู้หญิงก็จะมองว่า อะไรกัน แค่นี้ก็ยอมแพ้ซะละ แต่ผู้ชายจะมองว่า นี่ไม่ใช่การยอมแพ้ แต่มันคือการยอมรับความจริง
ต่างหากล่ะ ความจริงที่ว่าจีบไปก็ไม่ติด หนีหลบไปเลียแผลใจดีกว่า เป็นต้น
4.ผู้ชายไม่ได้คิดจริงจังตั้งแต่แรก เข้ามาคุยเล่นสนุกๆไปงั้นๆ พอหมดสนุกก็หายหน้าไป หรืออาจจะเข้ามาเพื่อหวังผลบางอย่าง
เช่น เข้ามาคุยเพื่ออยากได้ข้อมูลหรือผลประโยชน์บางประการจากผู้หญิง พอได้ข้อมูลหรือได้สิ่งที่ต้องการแล้วก็จากไป เป็นต้น
ผู้ชายแบบนี้ถือว่าเลว แต่มีอยู่จริงครับ
หวังว่าเรื่องที่เล่ามา คงจะพอตอบข้อสงสัยของใครหลายคนได้นะครับ.