เรื่องนี้เกิดขึ้นนานมากแล้วครับ พอดีมีโอกาสได้คุยไลน์กับเพื่อนๆ เรื่องนี้ก็เลยพุดขึ้นมา
เริ่มเรื่องเลยนะครับ ตอนนั้นเรากำลังเรียนอยู่ช่วงปี3 ประมาณปี 2549 ตอนนั้นเพื่อนๆกลุ่มผมที่สนิทกันก็มีกันไม่มากไม่มาย ประมาณ 11 คน ซึ่งเราก็วางแผนจะไปเที่ยวต่างจัดหวัดกันหลายรอบมาก ก็ไม่เคยครบและสำเร็จ และครั้งนี้ก็เป็นหนึ่งในหลายแผน แต่ครั้งนี้พิเศษหน่อย เนื่องจากมีเพื่อนเป็นลูกสาวโรงงาน เรียนคนละสาขา แต่เค้ายินดีจะออกค่าที่พักให้ ถ้าไปเที่ยวจังหวัดบ้านเค้า ซึ่งก็คือจังหวัดระยอง
การเดินทางตอนนั้นเราไปกันด้วยรถทั้งหมด 2 คันรถ แต่ไปไม่ครบ 11 คนหรอกครับ แต่จำใจไปเพราะเพื่อนได้จองโรฃแรมไว้ให้แล้ว
เมื่อไปถึง โรงแรมเป็นโรงแรม 4 ดาว ไม่สูงชั้นนัก ด้านหน้าจะติดกับร้านสะดวกชื้อไม่แน่ใจว่าเป็นโลตัส หรือบิ้กซี มีทางเชื่อมเดินผ่านทะลุกันได้
เมื่อเราเดินถึงเค้าเตอร์ ก็มีการถามกับพนักงานว่า
เรา : ห้องที่คุณ ฝ. จองไว้อะครับ
พนักงาน : อ่า สักครู่นะคะ
ผ่านไปสักพักเห็นพนักงานถกเถียงกันจับใจความได้ว่า ลืมบุ๊คห้องไว้ให้ แต่สักพักก็มีพนักงานคนหนึ่งพูดว่า
พนักงาน : ครับ รอสักครู่เดี๋ยวให้คนยกของช่วยพาไปห้องนะครับ
สักพักก็มีคนเดินมาช่วยยกของพร้อมกับหยิบพวงกุญแจ ทั้งสองดอกแล้วเดินนำไป เมื่อมาถึงลิฟท์ มีลิฟท์ทั้งหมด 4 ตัว ด้านซ้าย 2 ตัว ด้านขวา 2 ตัวพนักงานก็เดินกดลิฟท์ขึ้นไปที่ชั้น4
เมื่อถึงชั้น4 พนักงานก็พาเดินไปที่ห้อง 4444 และ 4445 ซึ่งห้องอยู่ติดกัน พนักงานไขห้อง 4444 ก่อน เราและเพื่อนๆ ก็จัดแจงแบ่งห้องใครนอนกับใคร โดยส่วนตัวแอบมีความเชื่อเรื่องลี้ลับ เมื่อเห็นเลขห้องก็แอบตกใจและเราก็เลือกที่จะนอน 4445 แทน โดยเราได้นอนกับ เอ แฟนเอ บี และ ซี (นามสมมติ) เมื่อเข้าในห้องสิ่งแรกที่รับรู้คือ พรหมที่แข็งและหนามาก หนาถึงขนาดเดินแล้วเกิดเสียง ในห้องมี 2 เตียง แต่ด้วยเราต้องนอนกัน 5 คน ก็เลยต้องดันเตียงมาติดกัน เพื่อจะได้นอนครบทุกคน และก็จัดแจงธุระส่วนตัว จนเวลาหัวค่ำมาถึง
หลังจากที่แยกย้ายห้องนอนเพราะเหนื่อยจากการเดินทาง แต่เราและเพื่อนเลือกที่จะไปใช้อินเตอเนตฟรีของโรงแรมที่ชั้น 1 ข้างเค้าเตอร์ มีเพื่อนมาทั้งหมด รวมตัวเราด้วยก็ 3 คน ในขณะที่เรากำลังเพลิดเพลินกับไฮไฟว์ อยู่ดีดีเพื่อนที่ชื่อเอ็นก็ลุกขึ้น แล้วก็พูดว่า
เอ็น : ไปละ ง่วง
เราและบี : อ้าว...เห้ยรอด้วย
คณะที่เรากำลังเร่งมือปิดคอมพิมเตอร์และวิ่งตามเอ็นมาที่ลิฟท์ ก็พึ่งรู้ว่าไม่ทันสะแล้วเพื่อนเราขึ้นลิฟท์ไปแล้ว และเราก็กดลิฟท์ทั้ง2ฝั่ง ยืนรอสักแปป ลิฟท์ ซ้ายมือ ก็เปิดออก
เราและบีก็ร้องเพลงและเดินเข้าลิฟท์ แต่ก่อนจะได้กดลิฟท์ไปชั้นที่4 บีก็เห็นว่ามีกระดาษแปะอยู่เขียนว่า
"ขออภัยผู้เข้าพัก หลังเวลา 21:00 น. ลิฟท์หมายเลข 1 2 และ 4 จะปิดให้บริการตามนโยบายประหยัดไฟของโรงแรม และลิฟท์เปิดให้บริการเพียงตัวเดียว หมายเลข 3"
ด้วยความที่ตอนแรกนั้นไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่าลิฟท์มีตัวเลข ก็เลยมองกวาดๆ ไปด้านหน้านอกประตูลิฟท์
บี : นี่มันสี่ทุ่มละนะ
เรา : อ้าว นี่มันลิฟท์เบอร์หนึ่งนี่หว่า
บีเอ้าทำไมมันเปิดละ
ตอนนั้นเราสองคนมองหน้ากัน และก็รู้ว่าต่างคนต่างรู้สึกไม่ดีแล้ว ทันใดนั้นลิฟท์ตัวตรงข้าม หรือลิฟท์ตัวที่พึ่งขึ้นไปส่งเอ็นก็เปิดออก(นั่นคือลิฟท์เบอร์3)
เรามองหน้ากับบี แล้วก็พร้อมใจกันวิ่งปรู้ด ไปที่ลิฟท์เบอร์ 3 ทันที แล้วก็กดลิฟท์ไปที่ชั้น 4 ขณะที่อยู่ในลิฟท์ต่างคนก็ต่างร้องเพลงกลบเกลื่อนความกลับ
"ตึ๋ง!!" เสียงลิฟท์ดังขึ้น เป็นสัญญาณว่าถึงชั้น4 ที่หมายแล้วเมื่อประตูลิฟท์ ค่อยๆเปิดออก เราสองคนก็มองหน้ากัน ทันใดนั้น "ตึ๋ง!!" ลิฟท์ หมายเลขหนึ่ง เปิดออกมาพร้อมๆกับลิฟท์ของเรา เรามั่นใจมากว่าเราไม่ได้กดลิฟท์ แต่สิ่งที่มันใจยิ่งกว่า คือ บี เพื่อนของเรา วิ่ง..... วิ่ง แบบไม่คิดชีวิต และวิ่งนำเราไปไกล มีสติพบกันอีกทีคือเห็นภาพ บีเคาะห้อง 4444 แบบระรัว แต่ไม่มีคนเปิด ในขณะที่เราก็กลัวและนึกขึ้นได้ว่าเราอยู่ห้อง 4445 ก็เลยเดินไปเคาะก็มี ซี เป็นคนมาเปิดห้อง เมื่อเข้าไปในห้อง เรากระโดดไปนอนกลางเตียง และ บี ก็มานอนข้างซ้ายมือของเรา ด้านขวามือเราคือ เอ และ แฟนของเอ แล้วสักพักซี ก็เดินมานอนข้างๆบี ในขณะนั้นด้วยความกลัว เรากับบี ก็ยังไม่พูดอะไรกันถึงสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะมันอาจจะเป็นเรื่องบังเอิญ แต่ก็นอนหันหน้าเข้าหากันและก็จับมือกันไว้
เวลาผ่านไป ในขณะที่เรากำลังบีบมือเผื่อคลายความกังวล กับบีอยู่นั้น
"โอ๊ยยยย!!!" เสียงของซีร้องลั่นในขณะที่ตัวพุ่งออกไปด้านซ้ายของเตียง
"จะถีบกูทำไม อีบี!! กูจะนอน เล่นห่าไรเนี่ย"
เราและบีหันไปมองพร้อมกัน
บี : ... กูนอนหันหน้ามาทางนี้ กูไม่มีแรงถีบหรอก....
ด้วยความงุนงงของซี เอก็เลยเรียกซีมานอน
เอ : ...ดึกแล้วนอนเถอะ พรุ่งนี้ตื่นเช้านะ
พอซีล้มตัวกลับมานอนที่เดิม สิ่งที่ตามมาคือเสียงคนเดินรอบเตียง ลักษณะดัง "ฟี๊ดด" "ฟี๊ดดด" เหมือนคนจิกนิ้วเท้าไปบนพรหม แล้วลากถอยหลัง ลักษณะเดินไปรอบห้องจากตรงซีนอน วนไปทางปลายเท้าไปทางแฟนของเอ แล้วก็เดินวนกลับมา บี บีบมือเราแน่นเราก็กลัวมาก เพราะเสียงมันชัดมาก พอเสียงเดินวนกลับไปทางแฟนของเอ อีกครั้ง เราก็กลั้นใจแล้วลุกขึ้นยืนพร้อมพุ่งตัวไปเปิดไฟ
เรา : อีเ-ย จะเอายังไง ไม่ให้กูนอนกูไม่นอนก็ได้ หน้า-
แล้วเราก็พุ่งตัวออกจากห้องไปเคาะห้อง 4444 ไม่นานนัก เอ แฟนเอ บี และซี ก็มายืนรอรวมกับเรา และก็มีเอ็นมาเปิดห้องให้ ทุกคนในห้อง 4444 ถามว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ทุกคนก็บอกไว้คุยกันพรุ่งนี้เช้านะไม่ไหวจริงๆ
พอเวลาเช้ามาถึงเราก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ทุกคนฟัง
- เอ็นบอกว่า เอ็นรู้ว่าลิฟท์ปิด เพราะเอ็นก็ขึ้นลิฟท์เบอร์3 มา
- เอ็นบอกว่า ไม่ได้ยินเสียงเคาะประตูเลย เพราะตอนขึ้นมาเพื่อนๆในห้อง 4445 ก็ยังนั่งคุยเล่นกันอยู่
- เพื่อนอีกคนบอกว่า ได้ยินเสียงร้องมาจากห้อง (น่าจะเป็นเสียงซี) แต่พอกดโทรไป มีคนรับแล้วเสียงตอบกลับมาดัง ค่อดๆ แค่ดๆ แล้วก็วางสาย เป็นอย่างนี้ 2-3 ครั้ง
- หลังจากนั้นแม้เพื่อนจะจองที่พักไว้ให้เรา 3 คืน แต่เราก็พักแค่คืนเดียว ทุกคนมีความเห็นเดียวกันว่า อยู่ไม่ได้แล้ว
- ก่อนจะตัดสินใจออก ให้เพื่อนที่ออกค่าที่พักให้โทรไปขอเปลี่ยนห้อง ปรากฏว่า ห้องเต็ม
*นั่นแหละครับที่จะเล่า
มือใหม่หัดหลอน
โรงแรม4ดาว มือใหม่หัดหลอน จ.ระยอง
เริ่มเรื่องเลยนะครับ ตอนนั้นเรากำลังเรียนอยู่ช่วงปี3 ประมาณปี 2549 ตอนนั้นเพื่อนๆกลุ่มผมที่สนิทกันก็มีกันไม่มากไม่มาย ประมาณ 11 คน ซึ่งเราก็วางแผนจะไปเที่ยวต่างจัดหวัดกันหลายรอบมาก ก็ไม่เคยครบและสำเร็จ และครั้งนี้ก็เป็นหนึ่งในหลายแผน แต่ครั้งนี้พิเศษหน่อย เนื่องจากมีเพื่อนเป็นลูกสาวโรงงาน เรียนคนละสาขา แต่เค้ายินดีจะออกค่าที่พักให้ ถ้าไปเที่ยวจังหวัดบ้านเค้า ซึ่งก็คือจังหวัดระยอง
การเดินทางตอนนั้นเราไปกันด้วยรถทั้งหมด 2 คันรถ แต่ไปไม่ครบ 11 คนหรอกครับ แต่จำใจไปเพราะเพื่อนได้จองโรฃแรมไว้ให้แล้ว
เมื่อไปถึง โรงแรมเป็นโรงแรม 4 ดาว ไม่สูงชั้นนัก ด้านหน้าจะติดกับร้านสะดวกชื้อไม่แน่ใจว่าเป็นโลตัส หรือบิ้กซี มีทางเชื่อมเดินผ่านทะลุกันได้
เมื่อเราเดินถึงเค้าเตอร์ ก็มีการถามกับพนักงานว่า
เรา : ห้องที่คุณ ฝ. จองไว้อะครับ
พนักงาน : อ่า สักครู่นะคะ
ผ่านไปสักพักเห็นพนักงานถกเถียงกันจับใจความได้ว่า ลืมบุ๊คห้องไว้ให้ แต่สักพักก็มีพนักงานคนหนึ่งพูดว่า
พนักงาน : ครับ รอสักครู่เดี๋ยวให้คนยกของช่วยพาไปห้องนะครับ
สักพักก็มีคนเดินมาช่วยยกของพร้อมกับหยิบพวงกุญแจ ทั้งสองดอกแล้วเดินนำไป เมื่อมาถึงลิฟท์ มีลิฟท์ทั้งหมด 4 ตัว ด้านซ้าย 2 ตัว ด้านขวา 2 ตัวพนักงานก็เดินกดลิฟท์ขึ้นไปที่ชั้น4
เมื่อถึงชั้น4 พนักงานก็พาเดินไปที่ห้อง 4444 และ 4445 ซึ่งห้องอยู่ติดกัน พนักงานไขห้อง 4444 ก่อน เราและเพื่อนๆ ก็จัดแจงแบ่งห้องใครนอนกับใคร โดยส่วนตัวแอบมีความเชื่อเรื่องลี้ลับ เมื่อเห็นเลขห้องก็แอบตกใจและเราก็เลือกที่จะนอน 4445 แทน โดยเราได้นอนกับ เอ แฟนเอ บี และ ซี (นามสมมติ) เมื่อเข้าในห้องสิ่งแรกที่รับรู้คือ พรหมที่แข็งและหนามาก หนาถึงขนาดเดินแล้วเกิดเสียง ในห้องมี 2 เตียง แต่ด้วยเราต้องนอนกัน 5 คน ก็เลยต้องดันเตียงมาติดกัน เพื่อจะได้นอนครบทุกคน และก็จัดแจงธุระส่วนตัว จนเวลาหัวค่ำมาถึง
หลังจากที่แยกย้ายห้องนอนเพราะเหนื่อยจากการเดินทาง แต่เราและเพื่อนเลือกที่จะไปใช้อินเตอเนตฟรีของโรงแรมที่ชั้น 1 ข้างเค้าเตอร์ มีเพื่อนมาทั้งหมด รวมตัวเราด้วยก็ 3 คน ในขณะที่เรากำลังเพลิดเพลินกับไฮไฟว์ อยู่ดีดีเพื่อนที่ชื่อเอ็นก็ลุกขึ้น แล้วก็พูดว่า
เอ็น : ไปละ ง่วง
เราและบี : อ้าว...เห้ยรอด้วย
คณะที่เรากำลังเร่งมือปิดคอมพิมเตอร์และวิ่งตามเอ็นมาที่ลิฟท์ ก็พึ่งรู้ว่าไม่ทันสะแล้วเพื่อนเราขึ้นลิฟท์ไปแล้ว และเราก็กดลิฟท์ทั้ง2ฝั่ง ยืนรอสักแปป ลิฟท์ ซ้ายมือ ก็เปิดออก
เราและบีก็ร้องเพลงและเดินเข้าลิฟท์ แต่ก่อนจะได้กดลิฟท์ไปชั้นที่4 บีก็เห็นว่ามีกระดาษแปะอยู่เขียนว่า
"ขออภัยผู้เข้าพัก หลังเวลา 21:00 น. ลิฟท์หมายเลข 1 2 และ 4 จะปิดให้บริการตามนโยบายประหยัดไฟของโรงแรม และลิฟท์เปิดให้บริการเพียงตัวเดียว หมายเลข 3"
ด้วยความที่ตอนแรกนั้นไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่าลิฟท์มีตัวเลข ก็เลยมองกวาดๆ ไปด้านหน้านอกประตูลิฟท์
บี : นี่มันสี่ทุ่มละนะ
เรา : อ้าว นี่มันลิฟท์เบอร์หนึ่งนี่หว่า
บีเอ้าทำไมมันเปิดละ
ตอนนั้นเราสองคนมองหน้ากัน และก็รู้ว่าต่างคนต่างรู้สึกไม่ดีแล้ว ทันใดนั้นลิฟท์ตัวตรงข้าม หรือลิฟท์ตัวที่พึ่งขึ้นไปส่งเอ็นก็เปิดออก(นั่นคือลิฟท์เบอร์3)
เรามองหน้ากับบี แล้วก็พร้อมใจกันวิ่งปรู้ด ไปที่ลิฟท์เบอร์ 3 ทันที แล้วก็กดลิฟท์ไปที่ชั้น 4 ขณะที่อยู่ในลิฟท์ต่างคนก็ต่างร้องเพลงกลบเกลื่อนความกลับ
"ตึ๋ง!!" เสียงลิฟท์ดังขึ้น เป็นสัญญาณว่าถึงชั้น4 ที่หมายแล้วเมื่อประตูลิฟท์ ค่อยๆเปิดออก เราสองคนก็มองหน้ากัน ทันใดนั้น "ตึ๋ง!!" ลิฟท์ หมายเลขหนึ่ง เปิดออกมาพร้อมๆกับลิฟท์ของเรา เรามั่นใจมากว่าเราไม่ได้กดลิฟท์ แต่สิ่งที่มันใจยิ่งกว่า คือ บี เพื่อนของเรา วิ่ง..... วิ่ง แบบไม่คิดชีวิต และวิ่งนำเราไปไกล มีสติพบกันอีกทีคือเห็นภาพ บีเคาะห้อง 4444 แบบระรัว แต่ไม่มีคนเปิด ในขณะที่เราก็กลัวและนึกขึ้นได้ว่าเราอยู่ห้อง 4445 ก็เลยเดินไปเคาะก็มี ซี เป็นคนมาเปิดห้อง เมื่อเข้าไปในห้อง เรากระโดดไปนอนกลางเตียง และ บี ก็มานอนข้างซ้ายมือของเรา ด้านขวามือเราคือ เอ และ แฟนของเอ แล้วสักพักซี ก็เดินมานอนข้างๆบี ในขณะนั้นด้วยความกลัว เรากับบี ก็ยังไม่พูดอะไรกันถึงสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะมันอาจจะเป็นเรื่องบังเอิญ แต่ก็นอนหันหน้าเข้าหากันและก็จับมือกันไว้
เวลาผ่านไป ในขณะที่เรากำลังบีบมือเผื่อคลายความกังวล กับบีอยู่นั้น
"โอ๊ยยยย!!!" เสียงของซีร้องลั่นในขณะที่ตัวพุ่งออกไปด้านซ้ายของเตียง
"จะถีบกูทำไม อีบี!! กูจะนอน เล่นห่าไรเนี่ย"
เราและบีหันไปมองพร้อมกัน
บี : ... กูนอนหันหน้ามาทางนี้ กูไม่มีแรงถีบหรอก....
ด้วยความงุนงงของซี เอก็เลยเรียกซีมานอน
เอ : ...ดึกแล้วนอนเถอะ พรุ่งนี้ตื่นเช้านะ
พอซีล้มตัวกลับมานอนที่เดิม สิ่งที่ตามมาคือเสียงคนเดินรอบเตียง ลักษณะดัง "ฟี๊ดด" "ฟี๊ดดด" เหมือนคนจิกนิ้วเท้าไปบนพรหม แล้วลากถอยหลัง ลักษณะเดินไปรอบห้องจากตรงซีนอน วนไปทางปลายเท้าไปทางแฟนของเอ แล้วก็เดินวนกลับมา บี บีบมือเราแน่นเราก็กลัวมาก เพราะเสียงมันชัดมาก พอเสียงเดินวนกลับไปทางแฟนของเอ อีกครั้ง เราก็กลั้นใจแล้วลุกขึ้นยืนพร้อมพุ่งตัวไปเปิดไฟ
เรา : อีเ-ย จะเอายังไง ไม่ให้กูนอนกูไม่นอนก็ได้ หน้า-
แล้วเราก็พุ่งตัวออกจากห้องไปเคาะห้อง 4444 ไม่นานนัก เอ แฟนเอ บี และซี ก็มายืนรอรวมกับเรา และก็มีเอ็นมาเปิดห้องให้ ทุกคนในห้อง 4444 ถามว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ทุกคนก็บอกไว้คุยกันพรุ่งนี้เช้านะไม่ไหวจริงๆ
พอเวลาเช้ามาถึงเราก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ทุกคนฟัง
- เอ็นบอกว่า เอ็นรู้ว่าลิฟท์ปิด เพราะเอ็นก็ขึ้นลิฟท์เบอร์3 มา
- เอ็นบอกว่า ไม่ได้ยินเสียงเคาะประตูเลย เพราะตอนขึ้นมาเพื่อนๆในห้อง 4445 ก็ยังนั่งคุยเล่นกันอยู่
- เพื่อนอีกคนบอกว่า ได้ยินเสียงร้องมาจากห้อง (น่าจะเป็นเสียงซี) แต่พอกดโทรไป มีคนรับแล้วเสียงตอบกลับมาดัง ค่อดๆ แค่ดๆ แล้วก็วางสาย เป็นอย่างนี้ 2-3 ครั้ง
- หลังจากนั้นแม้เพื่อนจะจองที่พักไว้ให้เรา 3 คืน แต่เราก็พักแค่คืนเดียว ทุกคนมีความเห็นเดียวกันว่า อยู่ไม่ได้แล้ว
- ก่อนจะตัดสินใจออก ให้เพื่อนที่ออกค่าที่พักให้โทรไปขอเปลี่ยนห้อง ปรากฏว่า ห้องเต็ม
*นั่นแหละครับที่จะเล่า
มือใหม่หัดหลอน