สำหรับคนที่ไม่ได้ตามข่าวนะครับ ตอนนี้ Pokémon Go Plus
อุปกรณ์เสริมสำหรับแอพพลิเคชั่น Pokémon Go ออกวางจำหน่ายทั่วโลก
ตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน (เมื่อวาน) แล้วนะครับผม
สำหรับในญี่ปุ่นก็เริ่มวางขายเมื่อวานเช่นกัน ที่โปเกมอนเซ็นเตอร์ โปเกมอนสโตร์ ทุกสาขาทั่วญี่ปุ่น
โปเกมอนเอ็กซ์โปยิมที่โอซาก้า และเว็บไซต์ของโปเกมอนเซ็นเตอร์ (ซึ่งหมดตั้งแต่วันแรกเลยครับ)
เนื่องจากเป็นสินค้าล็อตแรกและมีผู้ซื้อมากกว่าจำนวนสินค้า เลยต้องมีระเบียบการในการซื้อ
โดยจะวางจำหน่ายสินค้าล็อตแรกสองวัน ในวันที่ 16 และ 17 กันยายน
โดยผู้ที่สนใจจะซื้อต้องไปยังจุดรอคิวที่ทางร้านกำหนดไว้
ทางร้านจะเริ่มให้ลูกค้าตั้งแถวตั้งแต่เวลา 7.00 น. และ คิวสุดท้ายต้องมาก่อนเวลา 9.30 น.
เนื่องจากวันที่ 16 ผมติดเรียน จึงต้องมาวันที่ 17 แทน ...วันเสาร์ด้วย คนเยอะแน่นอนครับ
สาขาที่อยู่ใกล้ผมที่สุดคือสาขานาโกย่า ก็เลยตื่นตั้งแต่ตีห้า นั่งรถไฟเที่ยวหกโมงเช้า
ก่อนจะไปถึงห้างMatsuzakayaประมาณ 6.50 น.
ตอนไปถึงก็เริ่มตั้งแถวกันแล้วครับ ...ในภาพคือชุดที่ 2 (ที่ผมต่อคิว)
ชุดแรกที่มารอนี่เต็มพื้นที่แล้ว ก็เลยต้องมาตั้งแถวใหม่ที่อีกฝั่งของห้างครับ
ระหว่างที่เดินไปเข้าแถว จะมีพนักงานยิ้มแย้มต้อนรับขับสู้ตลอดทาง
พนักงานที่อยู่คนสุดท้ายของแถวก็จะคอยแจ้งว่า "ต่อคิวทางนี้ค่ะ" ก่อนจะอธิบายกำหนดการขายคร่าวๆให้ฟัง
หลังจากนั้นก็จะแจกตั๋วซื้อสินค้า จำกัด 1 คน / 1 ใบ /1 เครื่อง ด้านหลังตั๋วจะเป็นตราประทับร้านและเลขคิว
สักพักก็มีพนักงานอีกคนมาแจกใบปลิวให้ เพื่อใช้ในการแสกนQR Code
เข้าไปดูในเว็บว่าอุปกรณ์ชิ้นนี้สามารถใช้ได้กับระบบใดบ้าง มือถือรุ่นไหนบ้าง เสป็คของตัวสินค้าเป็นยังไง
หลังจากนั้นก็เข้าคิวยาวไปเลยครับ ระหว่างนั้นพนักงานก็จะมาคอยแจ้งเป็นระยะๆ
จนตอนที่ได้เข้าไปในห้าง ร้านอยู่ชั้น 5 แต่ขึ้นไปถึงแล้วก็ต้องเดินลงบันไดหนีไฟข้างๆร้านเพื่อต่อคิวก่อนเข้าร้านอีกที
ผมเริ่มเข้าคิวตั้งแต่ 6.55 น. กว่าได้มาชื่นชมสมใจก็ 10.32 น. นู่นเลยครับ
ราคาสินค้า 3,500 เยน บวกภาษีเข้าไปอีกก็อยู่ที่ 3,780 เยน (ประมาณ 1,300 บาท)
ภายในถุง นอกจากตัวกล่องสินค้าแล้ว ก็มีของแถม(?)มาสามใบ
ใบแรกเป็นสติกเกอร์โปเกมอนโก 3 ไซส์
ใบที่สองเป็นใบแจ้งให้ลูกค้าทดสอบสินค้าบริเวณอื่นที่ไม่ใช่แถวร้าน
เพื่อป้องกันความวุ่นวายภายในร้าน(ถ้าผมแปลไม่ผิดนะ)
ใบสุดท้ายเป็นใบแจ้งว่าถ้าสินค้ามีปัญหาให้รีบแจ้งเปลี่ยนภายในสองอาทิตย์ พร้อมทั้งใบเสร็จในวันที่ซื้อสินค้า และตัวกล่อง
ถัดมาภายในตัวกล่อง มีตัวโปเกมอนโก พลัส(พร้อมแบตเตอรี่) สายรัดข้อมือ และคู่มือการใช้ครับ
ด้านหลังตัวโปเกมอนโกพลัส จะเป็นคลิปสำหรับใช้หนีบเสื้อหรือกางเกง
ถ้าอยากจะเป็นเป็นสายรัดข้อมือ ต้องใช้ไขควงในการแกะคลิปออกมาเพื่อประกอบเข้ากับชุดสายรัดข้อมือครับ
ส่วนคู่มือก็ไม่มีอะไรมาก แจ้งเตือนว่าห้ามนำเข้าเครื่องซักผ้า (ของชิ้นเล็ก แถมไม่กันน้ำด้วย ต้องระวังเป็นพิเศษสินะครับ)
แจ้งว่าภายในกล่องมีอะไรบ้าง วิธีเริ่มต้นใช้งาน วิธีการพักพา วิธีการใส่ถ่าน
สำหรับถ่านของรุ่นนี่จะเป็นแบบเหรียญกลม CR2032 (ถ่านนาฬิกา) ใช้บลูทูธรุ่น 4.1
ทนอุณหภูมิได้ตั้งแต่ 0 ถึง 40 องศาเซลเซียส ทนความชื้นได้ในระดับ 20~85%
แบตเตอร์รี่หนึ่งก้อน ใช้งานได้นาน 100 วัน (อาจจะน้อยกว่านั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ เช่นความบ่อยครั้งในการใช้งาน)
วิธีการเริ่มต้นใช้งานก็ง่ายๆครับ
1. ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นPokémon Goลงในมือถือที่รองรับ (ทุกคนคงมีกันอยู่แล้ว)
2. ดึงแถบกั้นแบตเตอรี่ที่ตัวเครื่องออก
3. เปิดการใช้งานบลูทูธที่ตัวมือถือ หลังจากนั้นก็เปิดแอพพลิเคชั่น
เข้าไปที่ SETTINGS > Pokémon GO Plus แล้วกดปุ่มที่ตัวเครื่อง Pokémon GO Plus
ก่อนจะกดเลือกตัวเครื่องที่ปรากฏขึ้นมาใน AVAILABLE DEVICES ก็เป็นอันเสร็จพิธีครับ
ถ้ามีโปเกมอนปรากฏในระยะที่กำหนด ตัวเครื่องจะสั่น และแสดงสีตามปัจจัยต่อไปนี้ครับ
1. โปเกมอนที่เคยจับแล้ว ตัวเครื่องจะสั่นและปุ่มจะส่องแสงสีเขียว
2. โปเกมอนที่ยังไม่เคยจับ (ไม่มีในสารบัญโปเกเด็กซ์) ตัวเครื่องจะสั่นและปุ่มจะส่องแสงสีเหลือง
ใช่แล้วครับ ต่างจากข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้ครับ Pokémon GO Plus สามารถใช้จับโปเกมอนที่เรายังไม่มีได้!
เพื่อทำการจับโปเกมอน ให้กดปุ่มทันทีที่เห็นแสงสีเขียวหรือเหลืองแล้วจะเกิดผลตามนี้
1. ตัวปุ่มส่องแสงกระพริบ 1-3 ครั้ง ก่อนจะกระพริบส่องแสงหลากสีเป็นสีรุ้งฟรุ้งฟริ้ง แปลว่าจับได้แล้วครับ
2. ตัวปุ่มส่องแสงกระพริบ 1-3 ครั้ง ก่อนจะส่องแสงสีแดง แปลว่าโปเกมอนแหกบอลหนีไปแล้วครับ
และเมื่ออยู่ใกล้โปเกสต็อป ตัวเครื่องจะสั่นและปุ่มจะส่องแสงสีฟ้า ให้กดปุ่มเพื่อรับของเข้ากระเป๋า
ถ้าสำเร็จตัวปุ่มจะส่องแสงเหมือนตอนที่จับโปเกมอนได้ แต่ถ้าอยู่พ้นระยะหรือกระเป๋าเต็มจะส่องแสงสีแดงครับ
ต่อให้ล็อคตัวเครื่องก็ยังใช้งานได้ครับ เพราะตัวแอพพลิเคชั่นจะยังใช้งานGPSของตัวเครื่องอยู่
เหมือนเวลาที่เราใช้แอพGoogle Mapsอะไรแบบนั้นแหละครับ
ระหว่างที่ใช้งานก็จะมีแจ้งเตือนในNotificationด้วยครับ เช่น จับไม่ได้ หนีไปแล้ว~
หน้าจอในระหว่างการใช้งาน Pokémon GO Plus ครับ สามารถเปิดหน้าจอไปด้วยในระหว่างที่ใช้อุปกรณ์ได้
มอนสเตอร์คร่าวๆที่จับได้ในระหว่างวันนี้ครับ ระหว่างนั่งรถไป(ไม่ได้ขับเอง)
พอ Pokémon GO Plus สั่น ก็กดจับมอนสเตอร์/เก็บไอเท็มไป
.
.
.
สรุปข้อดีและข้อเสียคร่าวๆจากการทดสอบใช้งานมาตลอดทั้งวันนะครับ
ข้อดี
1. ประหยัดแบตเตอรี่ เพราะถึงแม้ว่าจะมีการใช้GPSและBluetooth
แต่ถ้าเทียบกับการที่ต้องคอยเปิดแอพฯตลอดเวลา ยังไงก็กินแบตฯน้อยกว่าแน่ๆครับ
2. สะดวก และ ไว แค่กดปุ่มแล้วสังเกตสีก็รู้ได้เลยว่าจับมอนฯได้หรือไม่ เก็บไอเท็มทันหรือเปล่า
3. สามารถใช้งานในที่ที่ไม่สะดวกจะหยิบมือถือขึ้นมากดได้
4. ใช้เก็บมอนสเตอร์ได้ไวมาก โดยเฉพาะในระหว่างการเดินทาง
5. ใช้เก็บระยะการเดินเพื่อแคนดี้ของบัดดี้หรือฟักไข่ได้! ถ้าจับคู่กับที่ฟักไข่เยอะๆนี่สบายเลยครับ
ข้อเสีย
1. ไม่สามารถเลือกประเภทโปเกบอลที่ใช้ในการจับได้ ถ้าใช้ Pokémon GO Plus ในการจับมอนสเตอร์
จะเป็นการใช้โปเกบอลธรรมดาในการจับ โอกาสพลาดมีค่อนข้างสูงโดยเฉพาะมอนสเตอร์ที่จับได้ยาก
2. ถ้ามอนสเตอร์หนีแล้วไม่สามารถจับซ้ำได้ (รู้ผลในครั้งเดียว) ไม่มีโอกาสเหมือนเวลาจับผ่านแอพฯปกติ
3. ตัวเครื่องจะเลือกแสดงผลสิ่งแรกที่เข้ามากระทบในรัศมี หมายความว่า ถ้าบริเวณนั้นมีทั้งมอนสเตอร์และโปเกสต็อป
ตัวเครื่องจะเลือกแสดงผลแค่อันใดอันหนึ่ง จนกว่าเราจะจับมอนสเตอร์หรือเก็บไอเท็มเสร็จ
4. ไม่กันน้ำ ใช้บุกป่าฝ่าดงคงไม่ไหว ต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้พอสมควร (เหมือนต้องกลับไปใช้นาฬิกาที่ไม่กันน้ำแหละครับ)
5. การเปลี่ยนกลับไปกลับมาระหว่างใช้คลิปหนีบหรือสายรัดข้อมือค่อนข้างมีความยุ่งยาก
.
.
.
ก็ตามนี้ครับ ถ้าถามความเห็นส่วนตัว ค่อนข้างพอใจครับ เมื่อเทียบกับราคาและสิ่งที่ตัวอุปกรณ์ทำได้
ถ้าให้คะแนนก็คง 8/10 ถ้ายังเล่นโปเกมอนโกกันอยู่ แนะนำให้ซื้อครับ : )
ใครมีข้อสงสัยหรือต้องการพูดคุยแลกเปลี่ยน เรียนเชิญคอมเมนท์ได้ตามอัธยาศัยเลยครับ
.
.
.
อัพเดทเพิ่มเติม
ลองไปเทสต์ดูตามที่ คหที่ 17 ถามว่าถ้าบอลธรรมดาหมดจะเปลี่ยนไปใช้บอลอื่นให้ไหม
เลยลองโยนบอลทิ้งทั้งหมดดู เวลาเจอโปเกมอนก็ยังส่งสัญญาณเตือนตามปกติครับ
แต่ถ้าบอลธรรมดาหมด เวลากดจับมันก็จะกะพริบสีแดง 3 ครั้ง แล้วก็ถือว่ายังไม่ได้จับครับ
(ให้เปิดแอพฯแล้วเข้าไปใช้บอลอื่นเลือกจับแทน)
[Pokémon Go Plus] Gotta Review It All!
อุปกรณ์เสริมสำหรับแอพพลิเคชั่น Pokémon Go ออกวางจำหน่ายทั่วโลก
ตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน (เมื่อวาน) แล้วนะครับผม
สำหรับในญี่ปุ่นก็เริ่มวางขายเมื่อวานเช่นกัน ที่โปเกมอนเซ็นเตอร์ โปเกมอนสโตร์ ทุกสาขาทั่วญี่ปุ่น
โปเกมอนเอ็กซ์โปยิมที่โอซาก้า และเว็บไซต์ของโปเกมอนเซ็นเตอร์ (ซึ่งหมดตั้งแต่วันแรกเลยครับ)
เนื่องจากเป็นสินค้าล็อตแรกและมีผู้ซื้อมากกว่าจำนวนสินค้า เลยต้องมีระเบียบการในการซื้อ
โดยจะวางจำหน่ายสินค้าล็อตแรกสองวัน ในวันที่ 16 และ 17 กันยายน
โดยผู้ที่สนใจจะซื้อต้องไปยังจุดรอคิวที่ทางร้านกำหนดไว้
ทางร้านจะเริ่มให้ลูกค้าตั้งแถวตั้งแต่เวลา 7.00 น. และ คิวสุดท้ายต้องมาก่อนเวลา 9.30 น.
เนื่องจากวันที่ 16 ผมติดเรียน จึงต้องมาวันที่ 17 แทน ...วันเสาร์ด้วย คนเยอะแน่นอนครับ
สาขาที่อยู่ใกล้ผมที่สุดคือสาขานาโกย่า ก็เลยตื่นตั้งแต่ตีห้า นั่งรถไฟเที่ยวหกโมงเช้า
ก่อนจะไปถึงห้างMatsuzakayaประมาณ 6.50 น.
ตอนไปถึงก็เริ่มตั้งแถวกันแล้วครับ ...ในภาพคือชุดที่ 2 (ที่ผมต่อคิว)
ชุดแรกที่มารอนี่เต็มพื้นที่แล้ว ก็เลยต้องมาตั้งแถวใหม่ที่อีกฝั่งของห้างครับ
ระหว่างที่เดินไปเข้าแถว จะมีพนักงานยิ้มแย้มต้อนรับขับสู้ตลอดทาง
พนักงานที่อยู่คนสุดท้ายของแถวก็จะคอยแจ้งว่า "ต่อคิวทางนี้ค่ะ" ก่อนจะอธิบายกำหนดการขายคร่าวๆให้ฟัง
หลังจากนั้นก็จะแจกตั๋วซื้อสินค้า จำกัด 1 คน / 1 ใบ /1 เครื่อง ด้านหลังตั๋วจะเป็นตราประทับร้านและเลขคิว
สักพักก็มีพนักงานอีกคนมาแจกใบปลิวให้ เพื่อใช้ในการแสกนQR Code
เข้าไปดูในเว็บว่าอุปกรณ์ชิ้นนี้สามารถใช้ได้กับระบบใดบ้าง มือถือรุ่นไหนบ้าง เสป็คของตัวสินค้าเป็นยังไง
หลังจากนั้นก็เข้าคิวยาวไปเลยครับ ระหว่างนั้นพนักงานก็จะมาคอยแจ้งเป็นระยะๆ
จนตอนที่ได้เข้าไปในห้าง ร้านอยู่ชั้น 5 แต่ขึ้นไปถึงแล้วก็ต้องเดินลงบันไดหนีไฟข้างๆร้านเพื่อต่อคิวก่อนเข้าร้านอีกที
ผมเริ่มเข้าคิวตั้งแต่ 6.55 น. กว่าได้มาชื่นชมสมใจก็ 10.32 น. นู่นเลยครับ
ราคาสินค้า 3,500 เยน บวกภาษีเข้าไปอีกก็อยู่ที่ 3,780 เยน (ประมาณ 1,300 บาท)
ภายในถุง นอกจากตัวกล่องสินค้าแล้ว ก็มีของแถม(?)มาสามใบ
ใบแรกเป็นสติกเกอร์โปเกมอนโก 3 ไซส์
ใบที่สองเป็นใบแจ้งให้ลูกค้าทดสอบสินค้าบริเวณอื่นที่ไม่ใช่แถวร้าน
เพื่อป้องกันความวุ่นวายภายในร้าน(ถ้าผมแปลไม่ผิดนะ)
ใบสุดท้ายเป็นใบแจ้งว่าถ้าสินค้ามีปัญหาให้รีบแจ้งเปลี่ยนภายในสองอาทิตย์ พร้อมทั้งใบเสร็จในวันที่ซื้อสินค้า และตัวกล่อง
ถัดมาภายในตัวกล่อง มีตัวโปเกมอนโก พลัส(พร้อมแบตเตอรี่) สายรัดข้อมือ และคู่มือการใช้ครับ
ด้านหลังตัวโปเกมอนโกพลัส จะเป็นคลิปสำหรับใช้หนีบเสื้อหรือกางเกง
ถ้าอยากจะเป็นเป็นสายรัดข้อมือ ต้องใช้ไขควงในการแกะคลิปออกมาเพื่อประกอบเข้ากับชุดสายรัดข้อมือครับ
ส่วนคู่มือก็ไม่มีอะไรมาก แจ้งเตือนว่าห้ามนำเข้าเครื่องซักผ้า (ของชิ้นเล็ก แถมไม่กันน้ำด้วย ต้องระวังเป็นพิเศษสินะครับ)
แจ้งว่าภายในกล่องมีอะไรบ้าง วิธีเริ่มต้นใช้งาน วิธีการพักพา วิธีการใส่ถ่าน
สำหรับถ่านของรุ่นนี่จะเป็นแบบเหรียญกลม CR2032 (ถ่านนาฬิกา) ใช้บลูทูธรุ่น 4.1
ทนอุณหภูมิได้ตั้งแต่ 0 ถึง 40 องศาเซลเซียส ทนความชื้นได้ในระดับ 20~85%
แบตเตอร์รี่หนึ่งก้อน ใช้งานได้นาน 100 วัน (อาจจะน้อยกว่านั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ เช่นความบ่อยครั้งในการใช้งาน)
วิธีการเริ่มต้นใช้งานก็ง่ายๆครับ
1. ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นPokémon Goลงในมือถือที่รองรับ (ทุกคนคงมีกันอยู่แล้ว)
2. ดึงแถบกั้นแบตเตอรี่ที่ตัวเครื่องออก
3. เปิดการใช้งานบลูทูธที่ตัวมือถือ หลังจากนั้นก็เปิดแอพพลิเคชั่น
เข้าไปที่ SETTINGS > Pokémon GO Plus แล้วกดปุ่มที่ตัวเครื่อง Pokémon GO Plus
ก่อนจะกดเลือกตัวเครื่องที่ปรากฏขึ้นมาใน AVAILABLE DEVICES ก็เป็นอันเสร็จพิธีครับ
ถ้ามีโปเกมอนปรากฏในระยะที่กำหนด ตัวเครื่องจะสั่น และแสดงสีตามปัจจัยต่อไปนี้ครับ
1. โปเกมอนที่เคยจับแล้ว ตัวเครื่องจะสั่นและปุ่มจะส่องแสงสีเขียว
2. โปเกมอนที่ยังไม่เคยจับ (ไม่มีในสารบัญโปเกเด็กซ์) ตัวเครื่องจะสั่นและปุ่มจะส่องแสงสีเหลือง
ใช่แล้วครับ ต่างจากข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้ครับ Pokémon GO Plus สามารถใช้จับโปเกมอนที่เรายังไม่มีได้!
เพื่อทำการจับโปเกมอน ให้กดปุ่มทันทีที่เห็นแสงสีเขียวหรือเหลืองแล้วจะเกิดผลตามนี้
1. ตัวปุ่มส่องแสงกระพริบ 1-3 ครั้ง ก่อนจะกระพริบส่องแสงหลากสีเป็นสีรุ้งฟรุ้งฟริ้ง แปลว่าจับได้แล้วครับ
2. ตัวปุ่มส่องแสงกระพริบ 1-3 ครั้ง ก่อนจะส่องแสงสีแดง แปลว่าโปเกมอนแหกบอลหนีไปแล้วครับ
และเมื่ออยู่ใกล้โปเกสต็อป ตัวเครื่องจะสั่นและปุ่มจะส่องแสงสีฟ้า ให้กดปุ่มเพื่อรับของเข้ากระเป๋า
ถ้าสำเร็จตัวปุ่มจะส่องแสงเหมือนตอนที่จับโปเกมอนได้ แต่ถ้าอยู่พ้นระยะหรือกระเป๋าเต็มจะส่องแสงสีแดงครับ
ต่อให้ล็อคตัวเครื่องก็ยังใช้งานได้ครับ เพราะตัวแอพพลิเคชั่นจะยังใช้งานGPSของตัวเครื่องอยู่
เหมือนเวลาที่เราใช้แอพGoogle Mapsอะไรแบบนั้นแหละครับ
ระหว่างที่ใช้งานก็จะมีแจ้งเตือนในNotificationด้วยครับ เช่น จับไม่ได้ หนีไปแล้ว~
หน้าจอในระหว่างการใช้งาน Pokémon GO Plus ครับ สามารถเปิดหน้าจอไปด้วยในระหว่างที่ใช้อุปกรณ์ได้
มอนสเตอร์คร่าวๆที่จับได้ในระหว่างวันนี้ครับ ระหว่างนั่งรถไป(ไม่ได้ขับเอง)
พอ Pokémon GO Plus สั่น ก็กดจับมอนสเตอร์/เก็บไอเท็มไป
.
.
.
สรุปข้อดีและข้อเสียคร่าวๆจากการทดสอบใช้งานมาตลอดทั้งวันนะครับ
ข้อดี
1. ประหยัดแบตเตอรี่ เพราะถึงแม้ว่าจะมีการใช้GPSและBluetooth
แต่ถ้าเทียบกับการที่ต้องคอยเปิดแอพฯตลอดเวลา ยังไงก็กินแบตฯน้อยกว่าแน่ๆครับ
2. สะดวก และ ไว แค่กดปุ่มแล้วสังเกตสีก็รู้ได้เลยว่าจับมอนฯได้หรือไม่ เก็บไอเท็มทันหรือเปล่า
3. สามารถใช้งานในที่ที่ไม่สะดวกจะหยิบมือถือขึ้นมากดได้
4. ใช้เก็บมอนสเตอร์ได้ไวมาก โดยเฉพาะในระหว่างการเดินทาง
5. ใช้เก็บระยะการเดินเพื่อแคนดี้ของบัดดี้หรือฟักไข่ได้! ถ้าจับคู่กับที่ฟักไข่เยอะๆนี่สบายเลยครับ
ข้อเสีย
1. ไม่สามารถเลือกประเภทโปเกบอลที่ใช้ในการจับได้ ถ้าใช้ Pokémon GO Plus ในการจับมอนสเตอร์
จะเป็นการใช้โปเกบอลธรรมดาในการจับ โอกาสพลาดมีค่อนข้างสูงโดยเฉพาะมอนสเตอร์ที่จับได้ยาก
2. ถ้ามอนสเตอร์หนีแล้วไม่สามารถจับซ้ำได้ (รู้ผลในครั้งเดียว) ไม่มีโอกาสเหมือนเวลาจับผ่านแอพฯปกติ
3. ตัวเครื่องจะเลือกแสดงผลสิ่งแรกที่เข้ามากระทบในรัศมี หมายความว่า ถ้าบริเวณนั้นมีทั้งมอนสเตอร์และโปเกสต็อป
ตัวเครื่องจะเลือกแสดงผลแค่อันใดอันหนึ่ง จนกว่าเราจะจับมอนสเตอร์หรือเก็บไอเท็มเสร็จ
4. ไม่กันน้ำ ใช้บุกป่าฝ่าดงคงไม่ไหว ต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้พอสมควร (เหมือนต้องกลับไปใช้นาฬิกาที่ไม่กันน้ำแหละครับ)
5. การเปลี่ยนกลับไปกลับมาระหว่างใช้คลิปหนีบหรือสายรัดข้อมือค่อนข้างมีความยุ่งยาก
.
.
.
ก็ตามนี้ครับ ถ้าถามความเห็นส่วนตัว ค่อนข้างพอใจครับ เมื่อเทียบกับราคาและสิ่งที่ตัวอุปกรณ์ทำได้
ถ้าให้คะแนนก็คง 8/10 ถ้ายังเล่นโปเกมอนโกกันอยู่ แนะนำให้ซื้อครับ : )
ใครมีข้อสงสัยหรือต้องการพูดคุยแลกเปลี่ยน เรียนเชิญคอมเมนท์ได้ตามอัธยาศัยเลยครับ
.
.
.
อัพเดทเพิ่มเติม
ลองไปเทสต์ดูตามที่ คหที่ 17 ถามว่าถ้าบอลธรรมดาหมดจะเปลี่ยนไปใช้บอลอื่นให้ไหม
เลยลองโยนบอลทิ้งทั้งหมดดู เวลาเจอโปเกมอนก็ยังส่งสัญญาณเตือนตามปกติครับ
แต่ถ้าบอลธรรมดาหมด เวลากดจับมันก็จะกะพริบสีแดง 3 ครั้ง แล้วก็ถือว่ายังไม่ได้จับครับ
(ให้เปิดแอพฯแล้วเข้าไปใช้บอลอื่นเลือกจับแทน)