วันนี้ 17 กันยายน 2559 ค่ะ โพสนี้อาจจะยาวหน่อยนะค่ะ มันเป็นความรู้สึกส่วนลึกๆ ของเราค่ะ
ร.ร. เอกบูรพาฯ ปีนี้มีเด็กผ่านเกรณ์การคัดสรร 300 กว่าคน รับจริง 180 คน โดยให้สิทธิ์คนที่มีพี่น้องท้องเดียวกันที่ยังเรียนอยู่ก่อน เหลือเท่าไหร่ ถึงรับเข้าเพิ่ม คุณแม่หรือคุณพ่อที่พาลูกๆไปสมัครเรียนที่ ร.ร. เอกบูรพาฯ คงจะทราบกันดีว่าวันนี้รายงานมอบตัวลูก จ่ายเงินเพื่อให้ได้เรียนปีหน้า อนุบาล 1 ค่ะ จากการที่หลายปีผ่านมา มีกระแสว่า ต้องไปจองคิว ไปรอกันข้ามคืนค่ะ เราเป็นอีกคนนึงที่รู้ข่าว และติดตามมาตลอด เราขอไม่เอ่ยถึงประเด็นนั้นนะค่ะ แต่เราก็เป็นอีกคนที่อยากให้ลูกเข้า ร.ร. นี้มากๆ ค่ะ ด้วยทางผู้ใหญ่ๆ และใครต่างๆ ที่บอกว่าอนุบาลที่นี้ดีมาก เราก็ภยายามทำทุกอย่างเพื่อที่จะได้เป็นคิวต้นๆ ฟังข่าวว่ามีใครมาจัดคิวรึยัง จนถึงขั้นหาคนมาเฝ้าหน้าร.ร. เพื่อที่ว่าหากมีการจัดคิว จะได้คิวทันที
...จนสุดท้ายเราเราได้คิวต้นๆอย่างที่หวังค่ะ ท๊อป 10 เลยค่ะ เราดีใจมาก จ้างคนอยุ่รอต่อคิวตลอดทั้งคืน มีแวะไปเยี่ยมเยือนฟังข่าว และดูการเรียกคิวบ้าง แล้วเราก็ไปถึงร.ร. ตี 4 ของวันมอบตัวค่ะ พอไปถึง ก็รอเรียกคิวกันไป คนเต็มไปหมด ทุกคนดูอ่อนล้าจากการไม่ได้นอนตลอดทั้งคืน ลมก็มีพัดมาบ้าง ยุงก็เยอะมากเช่นกัน บางคนต้องหอบลูกมาด้วย ปู่ย่าตายายมากันหมด บางบ้าน มากันทั้งบ้านเพื่อพลัดกันนอน มันดูทรมานทั้งจิตใจและร่างกายกันไปหมด
6 โมงเช้า คนที่ไม่ได้เข้าคิวเมื่อคืนต่างทยอยมากันเรื่อยๆ มาเป็นคิวหลังๆ ซึ่งเราคิดว่า เค้าพลาดแน่ๆ มาช้า เพราะทุกปีใครต่อคิวก่อนเข้าไปจ่ายเงินก่อนคือจบค่ะ ได้ไป ส่วนคนที่มาช้าก็อดไปตามระเบียบค่ะ กลับบ้านและต้องไปหาที่เรียนให้ลูกใหม่ แต่ปีนี้เค้าประกาศในเอกสารชัดเจนค่ะว่าถ้ามาลงทะเบียนเกินจากที่รับได้จะจับฉลาก แต่ในใจเราก็ยังกลัวว่าหากเป็นเหมือนปีก่อนๆ จะทำอย่างไร เราจะพลาดโอกาสไป เราไม่อยากเสียโอกาสนี้เลย
ตลอดที่รอ มีกระแสข่าวต่างๆ มากมาย ว่ามี รมต. ท่านนึงมาตอนเช้า แล้วไม่พอใจที่ได้คิวหลังๆ จึงเข้าไปคุยกับ ร.ร. อ้างเอกสารการประกาศ นั้นนุ้นี้ ต้องจับฉลากเพื่อให้แฟร์สำหรับทุกคน บางข่าวก็ไม่จับแล้ว ใครมาก่อนได้แล้วบางคนที่มาทีหลังก็พูดเยาะเย้ย รอจะสมน้ำหน้า หากจับฉลากแล้วคนที่มารอทั้งคืนไม่ได้ขึ้นมา ข่าวอย่างนี้สลับกันไปมาตลอดทั้ง ชั่วโมง โดยไม่มีการแจ้งจากทาง ร.ร. มันเป็นช่วงเวลาที่ลุ้นรัทึกอย่างทรมานว่าจะจบอย่างไร เวลาก็เริ่มเดินช้าขึ้นทุกที มันยิ่งบีบหัวใจคนเป็นแม่ยิ่งนัก
จนถึงเวลา 7 โมงเช้า ครูให้ ผปค. เข้าไปรับบัตรลงทะเบียนและนั่งรอ รอต่อไป ขณะที่รอ ก็ยังมี ผปค.ท่านอื่นๆ ทยอยมาเรื่อยๆ จนเราก็หวั่นใจว่า ต้องจับฉลากแน่เลยเป็นแบบนี้ จะจับได้ไหม ไม่ได้จะเรียนที่ไหน ความคิดมันวุ่นวายอยู่ในหัวเต็มไปหมด
8 โมง คุณครูสรุปตัวเลขว่า ผปค. ที่ลูกมีสิทธิ์เข้าได้เลย 44 ท่าน รับเพิ่มอีก 136 ท่าน แต่มีพ่อแม่มาทั้งหมด 171 ท่าน ดังนั้นต้องตามกติกา .... โดยที่คุณครูไม่บอกว่าทำอะไร ในใจเราก็เอาแล้วจับฉลากแน่เลย แล้วก็รอไปๆๆๆอีก 8.30 คุณครูต่างเดินเข้ามา พร้อมกล่องและบัตรต่างๆ เห้ยยยย จับฉลากจิงๆ จิตใจเรามันเริ่มจะไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ใจเต้นไม่หยุด แทบจะอยากออกมาเต้นข้างนอก มือสั่น แสบจมูก หายใจติดขัดไปหมด ความหวังและการเรียนขอลูกอยู่ในมือเราแล้ว ถ้าเราพลาด ลูกเราก็ไม่ได้เรียนที่นี้แน่นอน อารมณ์กดดันมากๆๆ คุณครูใส่ใบผ่านลงไปก่อน แล้วตามด้วยใบสำรองไว้ด้านบน แล้วเขย่าๆ เราคิดไว้เลย ว่าไม่มีทางที่กระดาษเคลือบจะกระจายกันอย่างทั่วถึง ใบไม่ผ่านต้องอยุ่บนๆแน่ๆ กระดาษเป็นแผ่นๆ ใหญ่กว่าบัตรเครดิต ไม่สามารถที่จะกลิ้งคลุกเคล้ากันได้เป็นแน่ๆ สุดท้าย...
เป็นไปตามที่คาด คนแรกจับได้ใบสำรอง ความหดหู่ของเรา และความเศร้า ความเสียใจ ความเห็นใจ ความสงสาร ความกดดัน มาถาถมเข้ามาหมด คนแรกเค้าเป็นตัวตั้งตัวตีในการจัดคิว คิยดูแลหลายๆ คนที่มาเข้าคิว เค้าเป็นคนดีและมีน้ำใจทีเดียว พอถึงตาเรา ล้วงเข้าไปแล้ว ลงให้สุดกล่อง หยิบใบล้างสุด เพื่อกันว่าจะมีการคละกับมาแล้วจากหลายๆ คนล้วงมาก่อนหน้า ค่อยๆ ดึงขึ้นมาพร้อมใจที่สั่นจนไม่รุ้ว่าความดันเกินรึยัง ความมืดเริ่มคลอบคลุมตา การรับรู้สัมผัสจากภายนอก มันเริ่มลดลง เหงื่อเริ่มก่อเม็ดเม็ดๆ บนใบหน้า ร้อนวูบวาบไปหมด พอดึงขึ้นมาเท่านั้น เป็นใบผ่าน เราดีใจมากเลย ทุกสิ่งทุกอย่างมันเหมือนถูกยกออกจากใจเราไปหมด มันดีใจ น้ำตาคลอ ความรุ้สึกต่างๆ มันหายไปหมด รู้สึกใจเต้นแรงเหมือนเลือดกลับมาสูบฉีดอีกครั้ง
แต่พอหลังเหตุการณ์นั้นผ่านไป สิ่งที่เราเห็นผ่านตาและความรูสึกเข้ามาวิเคราะห์ไตร่ตรอง มันถูกแล้วหรอ กับสิ่งที่เกิดขึ้นตลอด 2 วัน 1 คืน มันใช่แล้วหรอ มันคือสิ่งที่ถูกต้องแล้วหรอ...
ใช่การที่เรามารอก่อนข้ามวันข้ามคืน มันเป็นสิทธิ์ของเรา แต่มันก็เป็นสิทธิ์ของคนอื่นๆ เช่นกันที่เค้าก็มีโอกาสที่จะมาร่วมคว้า แม้เค้าไม่ได้มานั่งรอก็ตาม เรากำลังเห็นแก่ตัว โดยใช้คำว่ามันเป็นสิทธิ์ของเรา มาบดบังสิทธิ์ของคนอื่นอยู่รึเปล่า ซึ่งจริงๆ ทุกคนมีสิทธิ์จะได้เท่ากัน เรากลับมองว่า ปีนี้ทาง ร.ร.นั้นแฟร์ที่สุด คือคุณอยากมารอ เราไม่ห้าม แต่ก็ไม่ใช่ว่าคุณจะได้สิทธิ์เกนือคนอื่น การเล่นกันตามกติกาแล้วผลมันออกมา เราทุกคนควรจะยอมรับ เพราะเราได้ใช้สิทธิ์ของตัวเอง และน้อมรับสิทธ์ของคนอื่นอย่างเท่าเทียม เรามองว่า แม้ว่าวันนี้หากเราไม่มานอนแล้วเราได้ ถือว่าเราโชคดี แต่ถ้ามานอนแล้วไม่ได้ นั้นก็ถือว่า เราทุ่มเทเต็มที่แล้ว พยายามเต็มที่แล้ว แต่เราก็ต้องเคารพกติกา และสิทธิ์คนอื่นเช่นกัน วันนี้เราโชคดีมาก ที่เราได้สิทธ์จับก่อน เราโชคดีที่มีคนมารอเข้าคิวให้ เราโชคดีที่มีพี่เลี้ยงช่วยดูแลลูก เราโชคดีหลายๆ อย่าง แต่ท่านอื่นไม่ คนที่ไม่สามารถที่จะจ่าย หรือไม่อยากจ่ายเพื่อให้ใครมารอแทน คนที่ไม่สาทารถให้คนอื่นดูแลลูกได้ ต้องพาลูกมานอนข้ามวันข้ามคืน ทรมาน และคนในครอบครัวคนอื่นๆ ที่มาทรมานด้วย หรือคนที่เค้าไม่สามารถมานอนได้ เพราะอะไรก็ตาม เค้าควรที่จะได้ใช้สิทธิ์เหมือนกันใช่ไหม
เราไม่ได้โลกสวยนะ บางคนชอบใช้คำว่าโลกสวยเป็นข้ออ้างเพื่อเอาเปรียบคนอื่น บางคนชอบเอาคำว่าน้ำใจ มาเป็นข้ออ้างเพื่ออยากได้หรือเอาของคนอื่น หรือเอาเปรียบคนอื่น ซึ่ง ุกวันนี้คนเอาเปรียบกันมากขึ้น คนที่เสียเปรียบก็อาจจะเสียเปรียบอยู่ร่ำไป หรือพยายามเอาเปรียบคนอื่นเพื่อเอาคืน สังคมมันถึงอยุ่อยากกันขึ้นทุกวัน
เราแค่เห็นภาพที่พ่อแม่พาลูกมาด้วย เด็กก็ร้องงอแง เพราะไม่สบายตัว ปู่ย่าตายายที่ต้องมานั่งเมื่อยหลังขดหลังแข็ง ยุงก็กัด ร่างกายก็อ่อนล้า หน้าตาก็ทรุดโทรม จิตใจก็ย่ำแย่ เราไม่อยากให้ใครต้องมาเจอเหตุการณ์อบบนี้อีก มันทรมานมากจิงๆ สงสารและหดหู่ไปพร้อมๆ กัน ลองคิดเล่นๆว่าปีหน้า ทุกคนมาในเวลาที่ ร.ร.เปิดประตูตอนเช้า ใครมาก่อนก็ยืนประจำจุดก่อนเรียงกันไปเรื่อยๆ มันอาจจะวุ่นวายหน่อย แต่ก็ไม่ต้องเบียดเสียดกัน เพื่อนเป็นคิวแรกๆ มาถึงก็ต่อคิวไปเรื่อยๆ เพราะยังไงก็จับฉลาก มันจะไม่ได้ดีหรอ ไม่ต้องมีใครทรมาน ไม่ต้องมีใครวุ่นวาย ไม่ต้องสุขภาพจิตเสีย ไม่ต้องอีกหลายๆๆอย่างที่เกิดอย่างเช่นหลายๆปีที่ผ่านมา ไม่ต้องมาบ่นกร่นด่า ร.ร. กันในพันทิป มันจะดีกว่าไหม
เราบอกเลยค่า ว่าเรารู้สึกผิด เสียดายเงินกับการจองคิวด้วย เพราะยังไงก็มาจับฉลากอีกอยู่ดี เสียเวลานอน เสียเวลาอยู่กับลูก และสงสารคนที่มารอแล้วช้ำใจกลับบ้าน ทั้งที่มีความหวังอยุ่เต็มหัวใจ สงสารคนที่ไม่ได้มารอ แต่ก็ต้องเสียใจกลับไปอยู่ดี แต่เค้าก็ยังได้ใช้สิทธิ์เค้า ดีกว่ามาแล้วต้องกลับเลย โดยที่ยังไม่ได้พยายามเพื่อลูก
เราบอกแล้วว่าโพสนี้เป็นความรู้สึกส่วนตัวลึกๆๆนะค่ะ ไม่ต้องมาด่าเรานะ และไม่ต้องมาด่ามาเถียงกันในโพสนี้น้า เราขอร้อง ถ้าไม่พอใจกัน อ่านแล้วจบปิดไปเลยค่า แต่ถ้าจะมาแสดงความคิดเห็นขอให้สุภาพ อย่าพาดพิงถึงใครนะค่ะ ในโพสนี้เราไม่ได้พาดพิงใครน้า แต่เราอยากจะเล่าในส่วนของเราเท่านั้น ขอบคุณทุกๆ คนที่เข้ามาอ่าน และแสดงความคิดเห็นอย่างสุภาพ
เราแท็กเกี่ยวกับ โรงเรียน และโรงเรียนอนุบาล เพราะเกี่ยวข้องกัน
แท็กครอบครัว เพราะต้องมีครอบครัวหลายๆครอบครัวเข้ามารวมกันจึงเกิดเหตูการณ์เช่นนี้
แท็กการศึกษา เพราะเรามาเพื่อจุดมุ่งหมายเดียวกันเพื่อการศึกษาของลูก
เราแท็กสังคมคุณแม่ เพื่ออยาก แชร์ความรู้สึกและไม่อยากให้ใครทรมานแบบนี้อีก
ใจจริงเราก็อยากแท็กสังคมคุณพ่อ แต่ไม่รู้ว่ามีรึเปล่า เพราะเหตุการณ์ที่ผ่านมา คุณพ่อกลายๆ ครอบครัวก็มีบทบาทเพื่อลูกไม่ได้น้อยไปกว่าคุณแม่เลย
ข้อคิดจากการมอบตัวลูก รร. เอกบูรพาฯ
ร.ร. เอกบูรพาฯ ปีนี้มีเด็กผ่านเกรณ์การคัดสรร 300 กว่าคน รับจริง 180 คน โดยให้สิทธิ์คนที่มีพี่น้องท้องเดียวกันที่ยังเรียนอยู่ก่อน เหลือเท่าไหร่ ถึงรับเข้าเพิ่ม คุณแม่หรือคุณพ่อที่พาลูกๆไปสมัครเรียนที่ ร.ร. เอกบูรพาฯ คงจะทราบกันดีว่าวันนี้รายงานมอบตัวลูก จ่ายเงินเพื่อให้ได้เรียนปีหน้า อนุบาล 1 ค่ะ จากการที่หลายปีผ่านมา มีกระแสว่า ต้องไปจองคิว ไปรอกันข้ามคืนค่ะ เราเป็นอีกคนนึงที่รู้ข่าว และติดตามมาตลอด เราขอไม่เอ่ยถึงประเด็นนั้นนะค่ะ แต่เราก็เป็นอีกคนที่อยากให้ลูกเข้า ร.ร. นี้มากๆ ค่ะ ด้วยทางผู้ใหญ่ๆ และใครต่างๆ ที่บอกว่าอนุบาลที่นี้ดีมาก เราก็ภยายามทำทุกอย่างเพื่อที่จะได้เป็นคิวต้นๆ ฟังข่าวว่ามีใครมาจัดคิวรึยัง จนถึงขั้นหาคนมาเฝ้าหน้าร.ร. เพื่อที่ว่าหากมีการจัดคิว จะได้คิวทันที
...จนสุดท้ายเราเราได้คิวต้นๆอย่างที่หวังค่ะ ท๊อป 10 เลยค่ะ เราดีใจมาก จ้างคนอยุ่รอต่อคิวตลอดทั้งคืน มีแวะไปเยี่ยมเยือนฟังข่าว และดูการเรียกคิวบ้าง แล้วเราก็ไปถึงร.ร. ตี 4 ของวันมอบตัวค่ะ พอไปถึง ก็รอเรียกคิวกันไป คนเต็มไปหมด ทุกคนดูอ่อนล้าจากการไม่ได้นอนตลอดทั้งคืน ลมก็มีพัดมาบ้าง ยุงก็เยอะมากเช่นกัน บางคนต้องหอบลูกมาด้วย ปู่ย่าตายายมากันหมด บางบ้าน มากันทั้งบ้านเพื่อพลัดกันนอน มันดูทรมานทั้งจิตใจและร่างกายกันไปหมด
6 โมงเช้า คนที่ไม่ได้เข้าคิวเมื่อคืนต่างทยอยมากันเรื่อยๆ มาเป็นคิวหลังๆ ซึ่งเราคิดว่า เค้าพลาดแน่ๆ มาช้า เพราะทุกปีใครต่อคิวก่อนเข้าไปจ่ายเงินก่อนคือจบค่ะ ได้ไป ส่วนคนที่มาช้าก็อดไปตามระเบียบค่ะ กลับบ้านและต้องไปหาที่เรียนให้ลูกใหม่ แต่ปีนี้เค้าประกาศในเอกสารชัดเจนค่ะว่าถ้ามาลงทะเบียนเกินจากที่รับได้จะจับฉลาก แต่ในใจเราก็ยังกลัวว่าหากเป็นเหมือนปีก่อนๆ จะทำอย่างไร เราจะพลาดโอกาสไป เราไม่อยากเสียโอกาสนี้เลย
ตลอดที่รอ มีกระแสข่าวต่างๆ มากมาย ว่ามี รมต. ท่านนึงมาตอนเช้า แล้วไม่พอใจที่ได้คิวหลังๆ จึงเข้าไปคุยกับ ร.ร. อ้างเอกสารการประกาศ นั้นนุ้นี้ ต้องจับฉลากเพื่อให้แฟร์สำหรับทุกคน บางข่าวก็ไม่จับแล้ว ใครมาก่อนได้แล้วบางคนที่มาทีหลังก็พูดเยาะเย้ย รอจะสมน้ำหน้า หากจับฉลากแล้วคนที่มารอทั้งคืนไม่ได้ขึ้นมา ข่าวอย่างนี้สลับกันไปมาตลอดทั้ง ชั่วโมง โดยไม่มีการแจ้งจากทาง ร.ร. มันเป็นช่วงเวลาที่ลุ้นรัทึกอย่างทรมานว่าจะจบอย่างไร เวลาก็เริ่มเดินช้าขึ้นทุกที มันยิ่งบีบหัวใจคนเป็นแม่ยิ่งนัก
จนถึงเวลา 7 โมงเช้า ครูให้ ผปค. เข้าไปรับบัตรลงทะเบียนและนั่งรอ รอต่อไป ขณะที่รอ ก็ยังมี ผปค.ท่านอื่นๆ ทยอยมาเรื่อยๆ จนเราก็หวั่นใจว่า ต้องจับฉลากแน่เลยเป็นแบบนี้ จะจับได้ไหม ไม่ได้จะเรียนที่ไหน ความคิดมันวุ่นวายอยู่ในหัวเต็มไปหมด
8 โมง คุณครูสรุปตัวเลขว่า ผปค. ที่ลูกมีสิทธิ์เข้าได้เลย 44 ท่าน รับเพิ่มอีก 136 ท่าน แต่มีพ่อแม่มาทั้งหมด 171 ท่าน ดังนั้นต้องตามกติกา .... โดยที่คุณครูไม่บอกว่าทำอะไร ในใจเราก็เอาแล้วจับฉลากแน่เลย แล้วก็รอไปๆๆๆอีก 8.30 คุณครูต่างเดินเข้ามา พร้อมกล่องและบัตรต่างๆ เห้ยยยย จับฉลากจิงๆ จิตใจเรามันเริ่มจะไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ใจเต้นไม่หยุด แทบจะอยากออกมาเต้นข้างนอก มือสั่น แสบจมูก หายใจติดขัดไปหมด ความหวังและการเรียนขอลูกอยู่ในมือเราแล้ว ถ้าเราพลาด ลูกเราก็ไม่ได้เรียนที่นี้แน่นอน อารมณ์กดดันมากๆๆ คุณครูใส่ใบผ่านลงไปก่อน แล้วตามด้วยใบสำรองไว้ด้านบน แล้วเขย่าๆ เราคิดไว้เลย ว่าไม่มีทางที่กระดาษเคลือบจะกระจายกันอย่างทั่วถึง ใบไม่ผ่านต้องอยุ่บนๆแน่ๆ กระดาษเป็นแผ่นๆ ใหญ่กว่าบัตรเครดิต ไม่สามารถที่จะกลิ้งคลุกเคล้ากันได้เป็นแน่ๆ สุดท้าย...
เป็นไปตามที่คาด คนแรกจับได้ใบสำรอง ความหดหู่ของเรา และความเศร้า ความเสียใจ ความเห็นใจ ความสงสาร ความกดดัน มาถาถมเข้ามาหมด คนแรกเค้าเป็นตัวตั้งตัวตีในการจัดคิว คิยดูแลหลายๆ คนที่มาเข้าคิว เค้าเป็นคนดีและมีน้ำใจทีเดียว พอถึงตาเรา ล้วงเข้าไปแล้ว ลงให้สุดกล่อง หยิบใบล้างสุด เพื่อกันว่าจะมีการคละกับมาแล้วจากหลายๆ คนล้วงมาก่อนหน้า ค่อยๆ ดึงขึ้นมาพร้อมใจที่สั่นจนไม่รุ้ว่าความดันเกินรึยัง ความมืดเริ่มคลอบคลุมตา การรับรู้สัมผัสจากภายนอก มันเริ่มลดลง เหงื่อเริ่มก่อเม็ดเม็ดๆ บนใบหน้า ร้อนวูบวาบไปหมด พอดึงขึ้นมาเท่านั้น เป็นใบผ่าน เราดีใจมากเลย ทุกสิ่งทุกอย่างมันเหมือนถูกยกออกจากใจเราไปหมด มันดีใจ น้ำตาคลอ ความรุ้สึกต่างๆ มันหายไปหมด รู้สึกใจเต้นแรงเหมือนเลือดกลับมาสูบฉีดอีกครั้ง
แต่พอหลังเหตุการณ์นั้นผ่านไป สิ่งที่เราเห็นผ่านตาและความรูสึกเข้ามาวิเคราะห์ไตร่ตรอง มันถูกแล้วหรอ กับสิ่งที่เกิดขึ้นตลอด 2 วัน 1 คืน มันใช่แล้วหรอ มันคือสิ่งที่ถูกต้องแล้วหรอ...
ใช่การที่เรามารอก่อนข้ามวันข้ามคืน มันเป็นสิทธิ์ของเรา แต่มันก็เป็นสิทธิ์ของคนอื่นๆ เช่นกันที่เค้าก็มีโอกาสที่จะมาร่วมคว้า แม้เค้าไม่ได้มานั่งรอก็ตาม เรากำลังเห็นแก่ตัว โดยใช้คำว่ามันเป็นสิทธิ์ของเรา มาบดบังสิทธิ์ของคนอื่นอยู่รึเปล่า ซึ่งจริงๆ ทุกคนมีสิทธิ์จะได้เท่ากัน เรากลับมองว่า ปีนี้ทาง ร.ร.นั้นแฟร์ที่สุด คือคุณอยากมารอ เราไม่ห้าม แต่ก็ไม่ใช่ว่าคุณจะได้สิทธิ์เกนือคนอื่น การเล่นกันตามกติกาแล้วผลมันออกมา เราทุกคนควรจะยอมรับ เพราะเราได้ใช้สิทธิ์ของตัวเอง และน้อมรับสิทธ์ของคนอื่นอย่างเท่าเทียม เรามองว่า แม้ว่าวันนี้หากเราไม่มานอนแล้วเราได้ ถือว่าเราโชคดี แต่ถ้ามานอนแล้วไม่ได้ นั้นก็ถือว่า เราทุ่มเทเต็มที่แล้ว พยายามเต็มที่แล้ว แต่เราก็ต้องเคารพกติกา และสิทธิ์คนอื่นเช่นกัน วันนี้เราโชคดีมาก ที่เราได้สิทธ์จับก่อน เราโชคดีที่มีคนมารอเข้าคิวให้ เราโชคดีที่มีพี่เลี้ยงช่วยดูแลลูก เราโชคดีหลายๆ อย่าง แต่ท่านอื่นไม่ คนที่ไม่สามารถที่จะจ่าย หรือไม่อยากจ่ายเพื่อให้ใครมารอแทน คนที่ไม่สาทารถให้คนอื่นดูแลลูกได้ ต้องพาลูกมานอนข้ามวันข้ามคืน ทรมาน และคนในครอบครัวคนอื่นๆ ที่มาทรมานด้วย หรือคนที่เค้าไม่สามารถมานอนได้ เพราะอะไรก็ตาม เค้าควรที่จะได้ใช้สิทธิ์เหมือนกันใช่ไหม
เราไม่ได้โลกสวยนะ บางคนชอบใช้คำว่าโลกสวยเป็นข้ออ้างเพื่อเอาเปรียบคนอื่น บางคนชอบเอาคำว่าน้ำใจ มาเป็นข้ออ้างเพื่ออยากได้หรือเอาของคนอื่น หรือเอาเปรียบคนอื่น ซึ่ง ุกวันนี้คนเอาเปรียบกันมากขึ้น คนที่เสียเปรียบก็อาจจะเสียเปรียบอยู่ร่ำไป หรือพยายามเอาเปรียบคนอื่นเพื่อเอาคืน สังคมมันถึงอยุ่อยากกันขึ้นทุกวัน
เราแค่เห็นภาพที่พ่อแม่พาลูกมาด้วย เด็กก็ร้องงอแง เพราะไม่สบายตัว ปู่ย่าตายายที่ต้องมานั่งเมื่อยหลังขดหลังแข็ง ยุงก็กัด ร่างกายก็อ่อนล้า หน้าตาก็ทรุดโทรม จิตใจก็ย่ำแย่ เราไม่อยากให้ใครต้องมาเจอเหตุการณ์อบบนี้อีก มันทรมานมากจิงๆ สงสารและหดหู่ไปพร้อมๆ กัน ลองคิดเล่นๆว่าปีหน้า ทุกคนมาในเวลาที่ ร.ร.เปิดประตูตอนเช้า ใครมาก่อนก็ยืนประจำจุดก่อนเรียงกันไปเรื่อยๆ มันอาจจะวุ่นวายหน่อย แต่ก็ไม่ต้องเบียดเสียดกัน เพื่อนเป็นคิวแรกๆ มาถึงก็ต่อคิวไปเรื่อยๆ เพราะยังไงก็จับฉลาก มันจะไม่ได้ดีหรอ ไม่ต้องมีใครทรมาน ไม่ต้องมีใครวุ่นวาย ไม่ต้องสุขภาพจิตเสีย ไม่ต้องอีกหลายๆๆอย่างที่เกิดอย่างเช่นหลายๆปีที่ผ่านมา ไม่ต้องมาบ่นกร่นด่า ร.ร. กันในพันทิป มันจะดีกว่าไหม
เราบอกเลยค่า ว่าเรารู้สึกผิด เสียดายเงินกับการจองคิวด้วย เพราะยังไงก็มาจับฉลากอีกอยู่ดี เสียเวลานอน เสียเวลาอยู่กับลูก และสงสารคนที่มารอแล้วช้ำใจกลับบ้าน ทั้งที่มีความหวังอยุ่เต็มหัวใจ สงสารคนที่ไม่ได้มารอ แต่ก็ต้องเสียใจกลับไปอยู่ดี แต่เค้าก็ยังได้ใช้สิทธิ์เค้า ดีกว่ามาแล้วต้องกลับเลย โดยที่ยังไม่ได้พยายามเพื่อลูก
เราบอกแล้วว่าโพสนี้เป็นความรู้สึกส่วนตัวลึกๆๆนะค่ะ ไม่ต้องมาด่าเรานะ และไม่ต้องมาด่ามาเถียงกันในโพสนี้น้า เราขอร้อง ถ้าไม่พอใจกัน อ่านแล้วจบปิดไปเลยค่า แต่ถ้าจะมาแสดงความคิดเห็นขอให้สุภาพ อย่าพาดพิงถึงใครนะค่ะ ในโพสนี้เราไม่ได้พาดพิงใครน้า แต่เราอยากจะเล่าในส่วนของเราเท่านั้น ขอบคุณทุกๆ คนที่เข้ามาอ่าน และแสดงความคิดเห็นอย่างสุภาพ
เราแท็กเกี่ยวกับ โรงเรียน และโรงเรียนอนุบาล เพราะเกี่ยวข้องกัน
แท็กครอบครัว เพราะต้องมีครอบครัวหลายๆครอบครัวเข้ามารวมกันจึงเกิดเหตูการณ์เช่นนี้
แท็กการศึกษา เพราะเรามาเพื่อจุดมุ่งหมายเดียวกันเพื่อการศึกษาของลูก
เราแท็กสังคมคุณแม่ เพื่ออยาก แชร์ความรู้สึกและไม่อยากให้ใครทรมานแบบนี้อีก
ใจจริงเราก็อยากแท็กสังคมคุณพ่อ แต่ไม่รู้ว่ามีรึเปล่า เพราะเหตุการณ์ที่ผ่านมา คุณพ่อกลายๆ ครอบครัวก็มีบทบาทเพื่อลูกไม่ได้น้อยไปกว่าคุณแม่เลย