ทำยังไงให้ลูกเลี้ยง ไม่เกียจเเม่เลี้ยง ทำดีแค่ไหนเค้าถึงจะเห็นค่า

กระทู้คำถาม
ลบค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 18
อายุมากกว่า4ปี เต็มที่ก็แค่พี่สาว ใครจะมาเคารพคุณ ปัญญาอ่อนละ อายุห่างกันแค่นี้ทำตัวขี้ฟ้องมาก คุณเองก็มีผัวแต่เด็กไม่ใช่ไง แถมเอาผัวแก่อีก ยังมีหน้าไปด่าเค้าอีก ด่าเค้าแรดเงียบ ถามจริงๆคุณไม่แรดไง? คงอยากจะให้เค้าห่างจากพ่อเค้ามากว่า ทำไมมาพูดเป็นนางเอก ดัจริต

เป็นเราเราก็ไม่ชอบคุณหรอก เอาเรื่องของเราไปฟ้องพ่อ ถ้าคุณหวังดีกับแกทำไมไม่พูดกับแกเองหละ หรืออยากให้พ่อด่าลูกอยู่แล้ว ตั้งกระทู้เรียกคะแนนนางเอก น้องเราทำไม่ดี เรายังสั่งสอนน้องเอง เรื่องไม่ได้ใหญ่ขนาดนั้น ไม่ฟ้องพ่อแม่ ทำแบบนี้มีแต่จะทำร้ายความสัมพันธ์ เกลียดคนประเภทนี้จริง ทำเป็นหวังดี ทั้งที่ในใจคืออีกอย่าง พูดให้ตัวเองดูดี

อายุห่างกัน4ปี ทำตัวเป็นแม่เค้าอีก ตลก ใครเค้าจะมีลูกตอนอายุ4ขวบ? คนที่หวังดีเค้าไม่เอาแต่ขี้ฟ้องหรอก ขี้ฟ้องไม่ใช่หวังดี
ความคิดเห็นที่ 7
เอาตรงๆนะคะ  ถ้าเราเจอคนอายุมากกว่าแค่ 4 ปี
มาวางท่าทำตัวเป็นแม่ ทั้งที่ก็ไม่เคยเลี้ยงดูมาแต่เด็กเราก็คงไม่ชอบค่ะ
ถ้าเข้าหาแบบพี่ แบบเพื่อน ยังพอจะเป็นมิตรคบได้มากกว่า
แต่ได้ตำแหน่งนี้มาเพียงเพราะนอนกับพ่อ แต่วางตัวเล่นใหญ่รัชดามากๆ
บอกตรงๆ เป็นใครก็ไม่ชอบหรอกค่ะ  หรือ คุณ จขกท เอง จะรู้สึกชอบได้ลงคะ

ส่วนที่ว่า พ่อทำงานตัวเป็นเกลียว อันนี้บอกยากนะคะ เรื่องครอบครัวเขาน่ะ
ในเมื่อพ่อใช้เงินซื้อความรักของลูกมาตลอด เวลาก็ไม่ให้ลูก แต่ให้เมียใหม่ได้
ลูกเขาโตมามีพฤติกรรมแบบนั้น ไม่แปลกเลยค่ะ เพราะตัวพ่อเองยินดีที่จะให้ลูกคิดว่า
การที่พ่อทำงานมากๆ ทั้งหมดก็เพื่อยกระดับให้ลูกมีไม่น้อยหน้ากว่าใคร เป็นความรักที่พ่อให้ลูก
เพราะงั้นอย่าโทษเด็กค่ะ  แต่ผู้ใหญ่ต้องสอนเด็กด้วยการปรับพฤติกรรมที่ตัวผู้ใหญ่ตังหาก
ไม่ใช่ไปปรับที่เด็กก่อนหันมองตัวเองว่าทำอะไรลงไป และปลูกฝังมานานแค่ไหนแล้ว
ไม่ใช่จู่ๆถึงจะมาหักด้ามพร้าด้วยเข่า แต่ลืมไปว่า ที่ผ่านมาสอนเด็กมาแบบไหน
ทั้งที่ตัวพ่อเองก็ได้ค่าตอบแทนเหมือนกันว่า สุขใจที่ได้ทำหน้าที่พ่อด้วยเงิน
แทนที่จะทำหน้าที่พ่อด้วยความรักและเวลา แต่พอถึงจุดหนึ่งกลับโทษแต่เด็กอย่างเดียว

ส่วนเรื่องว่าเด็ก ไปเรียนหรือไปหาผัว ควรเลิกใช้ เลิกคิดตรงนี้กับเด็กนะคะ
เพราะคุณเองอายุก็ห่างไม่ได้เท่าไหร่ ยังแต่งงานมีผัวเป็นพ่อของเขาเลย
การจะสอนใครเขา บางครั้งเราก็ต้องทำตัวเองเป็นตัวอย่างก่อน คำพูดคำสอนเราถึงมีน้ำหนัก
และหากคำพูดเรามีน้ำหนักแล้ว ถ้าเขาเชื่อถือ เขาก็ให้ความเคารพ เขาก็รับฟังเราเองแหล่ะ

กลับมาที่เด็ก สิ่งที่เขาทำ มันก็ใช่ว่าจะถูกต้อง บางอย่างก็คงต้องปรับบ้าง
แต่ไม่ใช่เด็กฝ่ายเดียวที่ต้องปรับ พ่อและญาติๆเขาก็ต้องปรับทั้งการเลี้ยงดู การให้เวลาร่วมกัน

แต่ไม่ใช่การที่คุณจะไปบอกว่า เด็กมีปัญหา ตัวเด็กเองอาจไม่ได้รู้สึกว่า ตัวเองมีปัญหานะคะ  
เขามีแม่ เขามีพ่อ เขามีพี่น้องและญาติดูแลส่งเสียอยู่ เขารู้ว่า เขาได้รับความรักนะคะ
เขาถึงกล้าที่จะต่อรองความรัก และรู้ดีว่า ยังไงพ่อก็เลือกเขาอยู่แล้ว เหมือนที่คุณก็คิด
วิธีนี้ คนไม่มั่นใจว่าได้รับความรัก ทำไม่ได้หรอกค่ะ ไม่กล้าต่อรองหรอกค่ะ เพราะเดี๋ยวเสียไปจริงๆ
หรือ คุณจะลองดูบ้างคะ คุณมั่นใจในความรักที่ได้รับเหมือนที่เด็กมั่นใจไหม
เพราะงั้นอย่าพึ่งรีบตัดสินว่า เด็กมีปัญหา ไม่ได้รับความรักจากพ่อเด็กเท่าที่ควรค่ะ

ดังนั้นการไปบอกว่า เด็กมีปัญหา อาจเป็นแค่การตัดสินของคุณ แค่มองว่า ก็ไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ = มีปัญหา
ซึ่งตรงนี้มันก็ไม่มีใครชอบอีกเช่นกัน ที่มีคนอื่นมาบอกว่า คุณมีปัญหาครอบครัว
ทั้งที่เขาก็รักใคร่กันดี ทั้งตระกูล มีแค่คุณที่ยังเข้ากับตระกูลเขาไม่ได้ แต่บอกว่า เขามีปัญหาซะแล้ว
อยากเป็น 1 ในครอบครัว ต้องทำตัวกลมเกลียวค่ะ  จับถูก ไม่ใช่ จับผิด  มองหาสิ่งดี ไม่ใช่มองหาปัญหานะคะ
ความคิดเห็นที่ 3
จากที่อ่าน ภาษาของคุณ ก็น่าจะแรงไม่ใช่น้อย
จริงๆ ไม่ค้องขนาดเป็นแม่เลี้ยงหรอกค่ะ ถ้าอายุห่างแค่ 4 ปี สำหรับเรา อีกอย่าง คำว่าไปเรียน ไม่ใช่ไปหาผัว เราว่ามันแรงนะคะ เด็กวัยนี้ ต้องใช้ความเมตตา เพราะเค้าน่าจะสัมผัสได้ถึงรังษีอะไรบางอย่าง
ถ้าคุณทำดีที่สุดอย่างที่เล่า ก็ไม่ต้องแคร์อะไรหรอกค่ะ ก็ทำตามปกติของคุณไป
ความคิดเห็นที่ 6
ทำไมแฟนคุณเวลาให้คุณได้ แต่กับลูกเขาเอง ทำไมหาเวลาให้ไม่ได้เลย
อย่างนี้เราว่าพ่อกับลูกก็พอๆกัน ในเมื่อคนเป็นพ่อ พอว่างก็เลือกที่จะใช้เวลากับแม่เลี้ยง
ลูกสาวเองพอว่างก็เลือกที่จะไปใช้เวลากับแฟนของเขาเช่นกัน ทำอะไรก็ได้อย่างนั้น
ถ้าอยากให้ลูกรัก ก็ต้องสนใจลูกบ้าง ไม่ใช่คิดแต่ว่าให้เงินแล้วก็พอ
ตอนเด็กๆ เวลาเราเป็นเด็ก พ่อแม่ก็ให้เวลาเรา ไปเที่ยวกับเรา ไม่ได้ให้แต่เงินหรือเปล่า

ถ้าเป็นอย่างนี้นะ ให้เด็กไปอยู่กับแม่กับน้องเขา แล้วพ่อส่งเงินไปให้แทนซะยังจะดีกว่า เพราะอย่างน้อยก็คงมีคนให้เวลาเขาได้
เอามาเลี้ยงแต่ให้เวลาไม่ได้ แล้วสุดท้ายเด็กก็ขาดความอบอุ่นจนต้องไปทำตัวอย่างนั้น
เรื่องแบบนี้โทษแต่เด็กไม่ได้หรอก ถ้าครอบครัวดีจริง เด็กคงไม่ต้องออกไปหาความสุขจากคนอื่น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่