กลับมาอีกครั้งกับการรีวิวการเข้าใช้บริการของคลินิกดูแลผิวพรรณ วันนี้แวะมารีวิวความประทับใจหลังเข้ารับบริการของคลินิกเสริมความงาม ธ. สาขาสีลม
ตัวเราซื้อคอร์สดูแลรักษาสิว ชื่อคอร์สจำไม่ได้ล่ะ แต่ในบัตรนัด เขียนว่า ML 5 ครั้ง ราคา 6,000 บาท (ตอนนั้นรูดบัตรเครดิตเต็มจำนวน ไม่ผ่อนนะคะ)
คอร์สนี้ก็จะประกอบด้วยกดสิว ฉีดสิว (ถ้ามีสิวอักเสบ) มาส์กหน้า และฉายแสงนะคะ ซึ่งขอเล่ารวมๆ หลังจากเข้ารับบริการโดยรวมนะคะ
เกริ่นก่อนเลยว่าก่อนหน้านี้เป็นสิวอักเสบค่ะ กว่าจะเลิกงานก็ค่ำล่ะ ทุ่มกว่าๆ ก็หาคลินิกแถวๆ สีลม เพราะเราทำงานแถวๆ นั้น ประเด็นคือตอนนั้นสิวอักเสบมากจึงอยากเอาออกแบบด่วนๆ เป็นประมาณ 3-4 เม็ดบนใบหน้า ตอนแรกเดินไปคลินิก อ. ไม่มีหมอ จบค่ะ ถัดมาคลินิก น. เคาเตอร์แจ้งว่าให้ซื้อคอร์สก่อนได้ แต่หมอไม่อยู่นะ ไม่สามารถตรวจอะไรได้ จบอีกครั้ง เลยมาเจอคลินิกที่ 3 คือคลินิก ธ. ปรากฎว่าคุณหมออยู่เลยได้ซื้อคอร์สและตรวจ พร้อมรับบริการเลย
โดยรวมบริการที่นี่ขอกล่าวเป็นข้อๆนะคะ หากคนที่ทำงานเลิกค่ำหลายๆ คนก็คงเจอเหมือนๆ กัน เพราะลูกค้าที่นั้นค่อข้างเยอะ
1. ขั้นตอนระหว่างรอฉีดสิวที่ต้องรอหมอ นานมากกกกกทุกครั้ง ซึ่งห้องด้านหลังหมออยู่เป็นเตียงฉีดสิว ช่วงที่รอก็ได้ยินหมอกำลังคุยอะไรกับใครอยู่ตลอดเวลา จึงทราบว่ากำลังคุยกับพนักงานหรือลูกค้า โดยสิ่งได้ยินคือเสียงหยอกล้อมากกว่าที่จะเป็นคำแนะนำแก่ลูกค้า
2. ว่าด้วยเรื่องการฉีดสิว ครั้งนึงเรานอนรอเพื่อฉีดสิว พอหมอมาฉีดเสร็จก็เดินออกไปเลยไปเลย แล้วก็ไม่มีผู้ช่วยหรือพนักงานคนใดมาดูแลต่อ ก็นอนหนองอาบหน้าไปค่ะโดยไม่ได้พูดอะไร ปล่อยเรานอนรอ จนพนักงานเคาเตอร์เดินมา แล้วพูดว่า "อ้าวฉีดสิวแล้วหรือค่ะ ไม่เห็นใครรู้เลย" นึกในใจเออดีเนอะ แล้วน้องคนนั้นก็มาจัดการให้เช็ดเลือดเช็ดหนองออกให้ จนเสร็จขั้นตอน
3. ขั้นตอนการเรียงลำดับของการกดมาส์ก ฉายแสง ไม่มีอะไรแน่นอนนะคะ ขึ้นอยู่กับว่าห้องไหนว่างค่ะ ทำก่อนหลังเหมือนกัน (เหรอออ)
4. การดูแลของพนักงานทรีตเมนท์ไม่เพียงพอ มีครั้งหนึ่งเรานอนรอหลังจากมาส์กหน้าเสร็จ นานมากล่ะ มีพนักงานที่เคาเตอร์ (น้องคนนี้เป็นผู้ช่วยผู้จัดการร้าน ถามมาเรียบร้อยค่ะ) มาคลีนหน้าให้ และหลังฉายแสงก็เป็นน้องคนนี้ที่จัดการทาครีมหลังจบสิ้นกระบวนการให้ ซึ่งจริงๆ จะเป็นคนละส่วนงานกัน แต่ก็สามารถทำได้
5. ที่สำคัญที่ทำให้ถึงจุดพีคคือ การทำ CRM ของที่นี่ค่ะ วันนั้นครั้งสุดท้ายของการเข้าคอร์สล่ะ มีเด็กสาวคนนึง กำลังเรียนอยู่มธ. เดินมาพร้อมกับขออนุญาตสอบถามความพึงพอใจ ประมาณ 5 หน้ากระดาษ A4 เยอะมากกกก เราก็แจ้งความประทับใจอย่างตรงไปตรงมาค่ะ ทั้งหมดก็เกี่ยวกับการรับบริการทั้งหมดที่ได้รับ แล้วเค้าก็ทิ้งทวนว่าเดี๋ยวจะดำเนินการแก้ไข แจ้งไปยังผู้เกี่ยวข้องให้นะคะ และบอกว่าเดี๋ยวจะมีเจ้าหน้าที่นัดส่งผลิตภัณฑ์เพื่อเป็นของสมนาคุณให้นะคะ (ผ่านไปหลายเดือนค่ะ ตอนนี้ยังไม่ได้อะไรเลยจากที่นี่) และถัดจากวันนั้น 1 วันมีเจ้าหน้าที่อีกท่านโทรมาค่ะว่าจะจัดการให้บลาาาาา แล้วจะแจ้งความคืบหน้าอีกครั้งนะคะ แล้วก็หายไปอีกคน !!
ถ้าถามเรา ถามว่าสนใจไหม ก็เฉยๆ นะเสียความรู้สึกมากกว่าทั้งการบริการที่ได้รับและการทำ CRM โดยแจ้งเกี่ยวกับของสมนาคุณไรแบบนี้ กลับมาคิดในอีกมุม มุมของผู้บริโภคก็แอบคิดไม่ได้ค่ะ คือถ้าไม่คิดจะทำ CRM จริงจัง อย่าทำเลยค่ะ คุณให้ลูกค้ามานั่งสัมภาษณ์แบบสอบถามมากขนาดนั้น เพื่อให้คลินิกได้รับทราบข้อมูลงานบริการของคุณ แต่กลับไม่ใส่ใจทำให้จบกระบวนการ ซึ่งการทำ CRM จริงๆ แล้วต้องทำทั้งระบบ ไม่ใช่แค่ส่วนใดส่วนนึง ทั้งหมดแสดงให้เห็นถึงความไม่ใส่ใจในการบริการอย่างจริงจัง แม้ภาพลักษณ์จะดีขนาดไหน ก็คงช่วยให้การบอกต่อในมุมที่ดีไม่ได้นะคะ
รีวิวคลินิก ธ ย่านสีลม หลังเข้ารับบริการ..!!
ตัวเราซื้อคอร์สดูแลรักษาสิว ชื่อคอร์สจำไม่ได้ล่ะ แต่ในบัตรนัด เขียนว่า ML 5 ครั้ง ราคา 6,000 บาท (ตอนนั้นรูดบัตรเครดิตเต็มจำนวน ไม่ผ่อนนะคะ)
คอร์สนี้ก็จะประกอบด้วยกดสิว ฉีดสิว (ถ้ามีสิวอักเสบ) มาส์กหน้า และฉายแสงนะคะ ซึ่งขอเล่ารวมๆ หลังจากเข้ารับบริการโดยรวมนะคะ
เกริ่นก่อนเลยว่าก่อนหน้านี้เป็นสิวอักเสบค่ะ กว่าจะเลิกงานก็ค่ำล่ะ ทุ่มกว่าๆ ก็หาคลินิกแถวๆ สีลม เพราะเราทำงานแถวๆ นั้น ประเด็นคือตอนนั้นสิวอักเสบมากจึงอยากเอาออกแบบด่วนๆ เป็นประมาณ 3-4 เม็ดบนใบหน้า ตอนแรกเดินไปคลินิก อ. ไม่มีหมอ จบค่ะ ถัดมาคลินิก น. เคาเตอร์แจ้งว่าให้ซื้อคอร์สก่อนได้ แต่หมอไม่อยู่นะ ไม่สามารถตรวจอะไรได้ จบอีกครั้ง เลยมาเจอคลินิกที่ 3 คือคลินิก ธ. ปรากฎว่าคุณหมออยู่เลยได้ซื้อคอร์สและตรวจ พร้อมรับบริการเลย
โดยรวมบริการที่นี่ขอกล่าวเป็นข้อๆนะคะ หากคนที่ทำงานเลิกค่ำหลายๆ คนก็คงเจอเหมือนๆ กัน เพราะลูกค้าที่นั้นค่อข้างเยอะ
1. ขั้นตอนระหว่างรอฉีดสิวที่ต้องรอหมอ นานมากกกกกทุกครั้ง ซึ่งห้องด้านหลังหมออยู่เป็นเตียงฉีดสิว ช่วงที่รอก็ได้ยินหมอกำลังคุยอะไรกับใครอยู่ตลอดเวลา จึงทราบว่ากำลังคุยกับพนักงานหรือลูกค้า โดยสิ่งได้ยินคือเสียงหยอกล้อมากกว่าที่จะเป็นคำแนะนำแก่ลูกค้า
2. ว่าด้วยเรื่องการฉีดสิว ครั้งนึงเรานอนรอเพื่อฉีดสิว พอหมอมาฉีดเสร็จก็เดินออกไปเลยไปเลย แล้วก็ไม่มีผู้ช่วยหรือพนักงานคนใดมาดูแลต่อ ก็นอนหนองอาบหน้าไปค่ะโดยไม่ได้พูดอะไร ปล่อยเรานอนรอ จนพนักงานเคาเตอร์เดินมา แล้วพูดว่า "อ้าวฉีดสิวแล้วหรือค่ะ ไม่เห็นใครรู้เลย" นึกในใจเออดีเนอะ แล้วน้องคนนั้นก็มาจัดการให้เช็ดเลือดเช็ดหนองออกให้ จนเสร็จขั้นตอน
3. ขั้นตอนการเรียงลำดับของการกดมาส์ก ฉายแสง ไม่มีอะไรแน่นอนนะคะ ขึ้นอยู่กับว่าห้องไหนว่างค่ะ ทำก่อนหลังเหมือนกัน (เหรอออ)
4. การดูแลของพนักงานทรีตเมนท์ไม่เพียงพอ มีครั้งหนึ่งเรานอนรอหลังจากมาส์กหน้าเสร็จ นานมากล่ะ มีพนักงานที่เคาเตอร์ (น้องคนนี้เป็นผู้ช่วยผู้จัดการร้าน ถามมาเรียบร้อยค่ะ) มาคลีนหน้าให้ และหลังฉายแสงก็เป็นน้องคนนี้ที่จัดการทาครีมหลังจบสิ้นกระบวนการให้ ซึ่งจริงๆ จะเป็นคนละส่วนงานกัน แต่ก็สามารถทำได้
5. ที่สำคัญที่ทำให้ถึงจุดพีคคือ การทำ CRM ของที่นี่ค่ะ วันนั้นครั้งสุดท้ายของการเข้าคอร์สล่ะ มีเด็กสาวคนนึง กำลังเรียนอยู่มธ. เดินมาพร้อมกับขออนุญาตสอบถามความพึงพอใจ ประมาณ 5 หน้ากระดาษ A4 เยอะมากกกก เราก็แจ้งความประทับใจอย่างตรงไปตรงมาค่ะ ทั้งหมดก็เกี่ยวกับการรับบริการทั้งหมดที่ได้รับ แล้วเค้าก็ทิ้งทวนว่าเดี๋ยวจะดำเนินการแก้ไข แจ้งไปยังผู้เกี่ยวข้องให้นะคะ และบอกว่าเดี๋ยวจะมีเจ้าหน้าที่นัดส่งผลิตภัณฑ์เพื่อเป็นของสมนาคุณให้นะคะ (ผ่านไปหลายเดือนค่ะ ตอนนี้ยังไม่ได้อะไรเลยจากที่นี่) และถัดจากวันนั้น 1 วันมีเจ้าหน้าที่อีกท่านโทรมาค่ะว่าจะจัดการให้บลาาาาา แล้วจะแจ้งความคืบหน้าอีกครั้งนะคะ แล้วก็หายไปอีกคน !!
ถ้าถามเรา ถามว่าสนใจไหม ก็เฉยๆ นะเสียความรู้สึกมากกว่าทั้งการบริการที่ได้รับและการทำ CRM โดยแจ้งเกี่ยวกับของสมนาคุณไรแบบนี้ กลับมาคิดในอีกมุม มุมของผู้บริโภคก็แอบคิดไม่ได้ค่ะ คือถ้าไม่คิดจะทำ CRM จริงจัง อย่าทำเลยค่ะ คุณให้ลูกค้ามานั่งสัมภาษณ์แบบสอบถามมากขนาดนั้น เพื่อให้คลินิกได้รับทราบข้อมูลงานบริการของคุณ แต่กลับไม่ใส่ใจทำให้จบกระบวนการ ซึ่งการทำ CRM จริงๆ แล้วต้องทำทั้งระบบ ไม่ใช่แค่ส่วนใดส่วนนึง ทั้งหมดแสดงให้เห็นถึงความไม่ใส่ใจในการบริการอย่างจริงจัง แม้ภาพลักษณ์จะดีขนาดไหน ก็คงช่วยให้การบอกต่อในมุมที่ดีไม่ได้นะคะ