ปกติเวลาผมจะไปไหนมาไหน ผมมักจะชอบเขียนหนังสือและพิมพ์งานอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเวลาอยู่ในบ้าน ออกไปเที่ยวข้างนอก หรือแม้แต่ช่วงเวลาว่าง ผมก็มักจะหยิบคีย์บอร์ดมาพิมพ์เรื่องราว ถ้าผมอยู่ในบ้าน ก็จะมีคอมพิวเตอร์สำหรับพิมพ์งานอยู่ในห้องส่วนตัวของผมซึ่งผมใช้มันทำงานเป็นประจำอยู่แล้ว

แล้วด้วยความที่ผมชอบพิมพ์งานนั่นเอง ทำให้ผมต้องพกคีย์บอร์ดไร้สายสำหรับใช้กับมือถือติดตัวในเวลาที่ผมออกข้างนอกไปด้วยเสมอ



แต่เมื่อเวลาผมเขียนหนังสือ หรือพิมพ์งานที่บ้าน กลับไม่มีความสุขเท่าที่ควร และเมื่อพิมพ์งานไปนานๆ ก็จะรู้สึกเมื่อยที่มืออยู่ตลอดเวลา เพราะทุกครั้งที่ผมพิมพ์งาน ผมต้องพึ่งพาคีย์บอร์ดอยู่ตลอดเวลา และคีย์บอร์ดที่ผมใช้ เป็นคีย์บอร์ดที่ใช้แบบหน่วงๆ พิมพ์งานแล้วรู้สึกเบื่อหน่าย ไม่มีเสียงให้บันเทิงในตอนพิมพ์งานเลย

ผมได้ศึกษากระทู้ [CR]Review : คีย์บอร์ด 50 บาท vs คีย์บอร์ด 5,000 บาท (หลายตัว) ต่างกันแค่ไหน คุ้มไหม อย่างไร ของคุณ primetime หรือสมาชิกหมายเลข 804151 แล้วผมจึงทราบว่า คีย์บอร์ดแบบราคาถูกๆ ที่หาได้ตามตลาดนัด ห้างสรรพสินค้าทั่วๆ ไป หรือร้านขายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ทั่วๆ ไป นั้น เป็นคีย์บอร์ดที่ไม่มีคุณภาพเอาเสียเลย

ซึ่งคีย์บอร์ดเดิมที่ใช้เป็นคีย์บอร์ดแบบ Rubber Dome ซึ่งเป็นคีย์บอร์ดที่มีแต่ยางมารองรับการกดปุ่มของคีย์บอร์ด ยิ่งคีย์บอร์ดที่มีราคาถูกๆ แล้ว คุณภาพของยาง Rubber Dome ที่ใช้อยู่นั้นเป็นคุณภาพที่ต่ำมาก เรียกว่าคุณภาพไปตามราคาและยถากรรมก็แล้วกันครับ




คีย์บอร์ดบางตัวไม่มีแผ่นยาง แต่เป็น Rubber Dome เฉพาะปุ่ม



ซึ่งเมื่อใช้ไปนานๆ สักระยะหนึ่ง อายุของมันก็จะสั้นลง เนื่องด้วยอายุของยาง Rubber Dome เอง และจากการพิมพ์งานมากๆ เข้า จะทำให้ยางเสื่อมลงได้เร็ว ส่งผลทำให้คีย์บอร์ดเสีย และคีย์บอร์ดเหล่านี้ก็ไม่สามารถซ่อมแซมได้เนื่องจากไม่มี Rubber Dome ของยี่ห้อนั้นๆ เข้ามาทดแทน ทำให้ต้องทิ้งเพียงอย่างเดียวแทนที่จะซ่อมเพื่อให้มันกลับมาใช้การได้ตามปกติ

ผมได้ศึกษาคีย์บอร์ดที่ดีกว่าคีย์บอร์ดทั่วๆ ไปแบบเดิม และก็พบว่าคีย์บอร์ดแบบ Mechanical ซึ่งเป็นคีย์บอร์ดที่เกมเมอร์ใช้กัน เป็นคีย์บอร์ดที่ใช้งานได้ดีแม้ว่าจะไม่ได้ใช้เล่นเกมก็ตาม ผมจึงตัดสินใจค้นหาคีย์บอร์ดที่ใช่กับตัวเอง

ต้องเข้าใจก่อนนะครับว่า คีย์บอร์ดแบบ Mechanical จะมีโครงสร้างที่ไม่เหมือนกับคีย์บอร์ดแบบยางทั่วไปคือ เป็นคีย์บอร์ดที่มีปุ่มกดแบบ Caps สามารถนำปุ่มอื่นๆ มาสับเปลี่ยนได้ ข้างในคีย์บอร์ดจะเป็นปุ่มในลักษณะ Switch ซึ่งจะมีกลไกของมันตามภาพดังต่อไปนี้



ชั้นนอกจะเป็นปุ่ม Switch ชั้นต่อมาจะมีสปริง และจะมีกลไกในการกดของมัน จะมีกี่จังหวะ หรือมีเสียงหรือไม่ ก็ตามแต่สีของสวิตช์ (สีที่ต่างกัน ย่อมมีกลไกของสวิตช์ที่ต่างกัน) และจะมีก้านโลหะที่สัมผัสกับแผงวงจรที่อยู่ใต้คีย์บอร์ดอีกชั้นหนึ่ง



หลังจากผมได้ศึกษามาโดยละเอียดแล้ว ผมจึงตัดสินใจซื้อคีย์บอร์ดแบบนี้มา 1 ตัว



หลังจากที่ผมตัดสินใจซื้อคีย์บอร์ดแบบ Mechanical มาใช้ ผมพบว่า มันเป็นคีย์บอร์ดที่ใช้สำหรับผมเลย เป็นคีย์บอร์ดที่มีเสียง "คลิ๊ก" เช่นเดียวกับคีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์รุ่นก่อนๆ ที่ยังเน้นเรื่องคุณภาพมากกว่าปริมาณ

คีย์บอร์ดนี้ ทำให้ผมรู้สึกเหมือนได้ย้อนกลับไปในยุคที่คอมพิวเตอร์ยังเป็นของหายาก ยังเป็นของราคาแพง แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ เหมือนพิมพ์ดีด ที่พิมพ์แล้วรู้สึกมีเสียง ทำให้ชีวิตชีวาในการเขียนหนังสือและพิมพ์งานสามารถทำได้ดีกว่าเดิม



นอกจากนี้ คีย์บอร์ดแบบ Mechanical บางตัว ยังมีลูกเล่นอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น ปุ่มพิเศษสำหรับเล่นเกม (ผมไม่ได้เป็นคอเกมแต่ผมอาจใช้งานมันในตอนที่ผมทำงานอย่างอื่นก็ได้) หรือลูกเล่นของไฟในคีย์บอร์ด มันจึงทำให้การเขียนหนังสือและพิมพ์งานมันให้ความบันเทิงมากกว่า สามารถปรับแต่งการเล่นไฟให้เป็นไปตามอารมณ์ของการเขียนหนังสือ หรือจะทำแบบเรียบๆ เพื่อใช้พิมพ์งานก็ได้



อันนี้ผมไม่ได้อวยนะครับ แต่ผมยอมรับว่าหลังจากที่ใช้คีย์บอร์ดแบบนี้แล้ว ผมรู้สึกมีความสุขในการพิมพ์งานมากกว่าเดิมมาก จากเดิมที่ผมจะเบื่อหน่ายกับการพิมพ์งานในบ้าน ตอนนี้ผมรู้สึกไม่เบื่อหน่ายกับการพิมพ์งานอีกต่อไปแล้ว

ขอบคุณเพื่อนที่แนะนำคีย์บอร์ดดีๆ มาให้ ขอขอบคุณคุณ primetime หรือสมาชิกหมายเลข 804151 ที่นำเสนอกระทู้ดีๆ ขอบคุณคีย์บอร์ด Mechanical ที่ช่วยให้การพิมพ์งานนั้นไม่น่าเบื่ออีกต่อไป



ขอบคุณสำหรับการรีวิวในครั้งนี้ครับผม