ลูกป่วยเป็นไข้ตัวร้อน...อย่าลืมนึกถึงโรคคาวาซากิ

กระทู้สนทนา
กระทู้นี้ผมเขียนขึ้นเพื่อเป็นข้อคิดและเป็นความรู้สำหรับพ่อแม่ทุกๆคนที่มีลูกอายุต่ำกว่า 5 ขวบ…ขอให้เป็นวิทยาทานเพื่อช่วยให้ลูกชายผมหายป่วยจากภาวะแทรกซ้อนเส้นเลือดหัวใจโป่งพองกลับมาเป็นปกติในเร็ววัน…
Day1-3  : ลูกผมป่วยเป็นไข้โดยไข้สูงเริ่มในวันที่ 2  ผมให้ยาลดไข้ที่บ้าน และติดตามอาการ พบว่ากลางวันลูกชายยังเล่นได้ดีในช่วง 2 วันแรก แต่วันที่ 3 งอแงมาก ส่วนกลางคืนงอแงมากขึ้นในคืนที่ 2,3  ซึ่งตอนแรกผมก็คิดว่าลูกไม่น่าจะเป็นอะไรมาก?
Day 4 :08:00 น. ผมพาลูกไปหาหมอที่ รพ. เอกชนในตัวจังหวัด หมอที่รับ Admit เจาะเลือดหาโรคใข้เลือดออกและไข้หวัดใหญ่แต่ไม่พบทั้ง 2 โรค แต่พบว่าค่าการอักเสบสูงมาก หมอเลยรับ Admit โดยการให้น้ำเกลือ,ยาลดไข้และยาฆ่าเชื้อ (ไม่รู้ชื่อยา?) เพราะลูกชายเพลียมาก ไม่ยอมกินข้าวและนม และงอแงไม่ยอมนอน (วางให้นอนเดี่ยวๆไม่ได้ ยกเว้นนอนบนพ่อหรือแม่ แต่หลับไม่สนิท) ผ่านไป 2 วันอาการไข้สูงก็ยังไม่ดีขึ้น (กินยาลดไข้ลงสักพักแล้วก็กลับมาไข้สูงต่อ)
Day 6: -09:00 น. หมอสั่งตรวจเลือดเพื่อหาใข้เลือดออกอีกรอบแต่ก็ไม่พบ หมอสงสัยเป็นโรคคาวาซากิ (เป็นครั้งที่ 2 ที่ผมได้ยินชื่อโรคนี้ ครั้งแรกเคยได้ยินจากคนในหมู่บ้านเดียวกันที่ลูกวัย 3 เดือนเขาเคยป่วยเป็นโรคนี้ แต่ไม่ได้สนใจอะไร) ผมตัดสินใจย้าย รพ. เพื่อพาลูกไปรักษาตัวที่กรุงเทพ เป็น รพ.เอกชนชื่อดัง (ซึ่งลูกผมเคยไป Admit มาหลายครั้งด้วยโรคหวัด) โดยผมค้นหาหมอที่ชำนาญเฉพาะทางของโรคนี้
-    17:00 น. วันที่ 6 ลูกผมก็ถึงมือหมอ โดยหมอสอบถามอาการต่างๆ ผมก็เล่าให้ฟังพร้อมกับจดหมายของหมอจาก รพ.เดิม พูดคุยกับหมอมากกว่าครึ่งชั่วโมง หมอฟังอาการแล้วก็พยายามพูดให้ฟังเรื่องเกี่ยวกับโรคนี้ ทั้งที่บอกว่าโรคนี้สามารถเป็นและหายเองได้ และภาวะแทรกซ้อนที่น่ากลัวของโรคนี้คือภาวะเส้นเลือดหัวใจโป่งพอง ซึ่งหมอบอกว่ามียาที่ราคาแพงมากจะช่วยป้องกันปัญหาดังกล่าวได้ โดยยาดังกล่าวไม่มีผลเสียอะไร นอกจากเสียตังส์ถ้าไม่ได้เป็นโรคนี้ ผมก็รับได้กับทุกอย่าง หมอจะให้ยาดังกล่าวในคืนนี้เลย โดยให้เขียนรายการสำรองยาไว้แล้วส่งตรวจเลือดลูกผมอีกครั้ง  (ความรู้สึกผมตอนนั้นใจหนึ่งก็ภาวนาอย่าให้ลูกเป็นโรคดังกล่าวเลย เพราะค่ายาแพงมาก ผมมาหาความรู้เองในคืนนั้นพบว่ายาชื่อ IVIG เป็นยาที่แพงมาก ใน รพ.เอกชน ยาดังกล่าวต่อ 1 โดสอาจจะเป็นแสนบาท)
-    21:00 น. หมอโทรมาแจ้งว่ายังจะไม่ให้ยาตัวแพง เพราะค่าเลือดยังไม่สื่อว่าเป็นโรคาวาซากิ ให้สังเกตอาการไข้ โดยตั้งแต่ช่วง 18:00 น. หมอได้สั่งจ่ายยาลดไข้สูงชื่อ Brusil (ชื่อสามัญ Ibrufen) และยาฆ่าเชื้อมั๊ยผมไม่แน่ใจ แต่ผมอ่านเจอทีหลังว่าถ้ามีการให้ยาชนิดนี้อาจจะบดบังอาการของโรคคาวาซากิได้..?
-    คืนนั้นทั้งคืนพยาบาลก็เข้ามาวัดไข้และเมื่อไข้สูงก็ ให้ยาลดไข้ต่อเนื่องจน 08:00 น. ของเช้าวันที่ 7
Day 7: -09:00 น. หมอมาตามอาการต่อ และห้ามให้พยาบาลให้ยาลดไข้อีกแล้ว เพื่อตามผลของไข้  จนเวลาประมาณ 14:00 น. ลูกผมก็กลับมาตัวร้อนต่อ ไข้อยู่ที่ 37.9 พยาบาลให้ยาลดไข้ต่ำ
                  -15:00 น.  หมอโทรมาบอกว่ายังไม่ให้ยาตัวดังกล่าว แต่จะให้หมอเฉพาะทางด้านโรคติดเชื้อมาช่วยดูอาการว่าเกิดจากอะไร
                  -21:00 น. หมอเฉพาะทางโรคติดเชื้อมา แจ้งว่าขอติดตามผล 2 วันเพื่อดูอาการไข้ โดยจะให้ยาฆ่าเชื้อ โดยหมอสงสัยเป็นโรคเห็บหนู?
***ช่วงวันที่ 6-7 ที่ผมต้องเล่าละเอียดเพราะเป็นช่วงเวลาที่สำคัญมากในการวินิจฉัยโรคคาวาซากิของลูกผม เพราะพอเข้าวันที่ 8 หลังจากได้รับยาฆ่าเชื้อตัวใหม่ ลูกผมไข้ลดลงต่อเนื่องจนไม่มีไข้ ในตอนนั้นผมก็ดีใจว่าลูกหายใข้แล้วและไม่เป็นโรคดังกล่าว ***
Day 8: หมอมาตามผลของไข้ ก็ไม่มีไข้
Day 9: หมอมาตามผลของไข้ ก็ไม่มีไข้ และให้ลูกผมไปทำ Echo หัวใจในช่วงบ่ายของวันที่ 9 ผลการทำ Echo หมอสรุปว่าลูกผมไม่เป็นโรคคาวาซากิ มันยิ่งตอกย้ำให้ผมดีใจและมั่นใจในข้อสรุปของหมอ
Day 10: หมอมาตามผลของไข้ ก็ไม่มีไข้จึงให้ลูกผมกลับบ้านได้ โดยใม่ได้นัดมาติดตามผล
Day11-13: ลูกผมกลับมามากินข้าวได้ นอนหลับ เล่นซนเหมือนปกติ โดยใน Day 13 ลูกผมเริ่มมีปลายนิ้วลอก (ซึ่งอาการนี้เป็นอีกอาการของโรคคาวาซากิ) เช้าวันรุ่งนี้ผมพยายามโทรเข้าไปที่รพ.เพื่อคุยกับหมอ จนโทรติด หมอให้ผมพาลูกไปหาในวันรุ่งขึ้น
Day 15: หมอเห็นปลายอาการลอกของนิ้วมือแล้วก็ฟันธงว่าเป็นโรคคาวาซากิ สิ่งที่ผมดีใจไปตลอดช่วงเกือบสัปดาห์ที่ผ่านมาไม่เป็นเช่นนั้น หมอให้ลูกผมไปทำ Echo หัวใจอีกครั้ง พบว่าลูกผมเริ่มมีเส้นเลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจโป่งพองแล้ว???
***ตั้งแต่หมอสรุปว่าเป็นโรคคาวาซากิที่เห็นจากนิ้วลอก และอธิบายผล Echo และสรุปว่าเส้นเลือดโป่งพอง โดยต้องให้ยา aspirin ไปทาน เพื่อป้องกันภาวะลิ่มเลือดอุดตัน (ถ้าไม่มาตรวจ และไม่ได้ยา aspirin ไปกินลูกผมจะหยุดหายใจไปช่วงไหนก็ได้) สมองผมก็ตื้อไปหมด เพราะงงๆกับชีวิตว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกชายผมที่เป็นเด็กปกติ ป่วยเป็นไข้ตัวร้อน ผมก็พาไปหาหมอในเวลาที่ผมคิดว่าเหมาะสม และก็ย้าย รพ.เพื่อหาหมอเฉพาะทางในโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังในกรุงเทพ ซึ่งในเวลานั้นผมมั่นใจมากว่าไม่ว่าลูกผมจะเป็นโรคอะไรยังงัยก็แล้วแต่ลูกผมจะหายเป็นปกติเพราะผมเชื่อมั่นในหมอและโรงพยาบาล แต่สิ่งที่เกิดขึ้นมันไม่ใช่…???***
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่