เที่ยวแบบไหน? ที่เรียกว่ายั่งยืน
ไม่ได้มาแนวจริงจังอะไรหรอกครับ เพียงแค่ระยะหลังได้ยินคนถามคำนี้บ่อยขึ้นเรื่อยๆ ตอบตรงๆ เลยว่ามีหลายวิธีและหลากขั้นตอน เอาเป็นว่าแค่ออกไปเที่ยวเมืองไทยก็เริ่มต้นดีแล้วครับ แต่ถ้าออกแนวทางเห็นผลเร็วๆ ต้องเก็บกระเป๋าและไป “เที่ยวโฮมสเตย์” กัน
โฮมสเตย์อธิบายได้ง่ายๆ ว่าเป็นการเที่ยวแบบ “อยู่แบบเขา กินแบบเขา ใช้ชีวิตแบบเขา” ถ้าเข้าหมวดวิชาการหน่อยๆ ก็จะถือว่าพวกเขาเป็นรากฐานของปิรามิดการท่องเที่ยว โดยมีรีสอร์ทระดับกลางๆ อยู่ถัดมา และที่พักระดับ 5 – 6 ดาวเป็นยอดสูงที่สุดครับ แน่นอนว่าถ้าเราสามารถทำให้รากฐานการท่องเที่ยวแข็งแรงได้ ความมั่นคงยั่งยืนจะไปไหนเสีย และหากอยากลองเที่ยวโฮมสเตย์เป็นครั้งแรก ต้องไปที่นี่ครับ “บ้านนาต้นจั่น อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย” รับรองว่าคำว่าผิดหวัง--ไม่มีในพจนานุกรมฉบับทริปนี้แน่นอน
เหตุผลคือที่นี่ได้รับรางวัลการันตีมากมาย ตัวอย่างเช่น พาต้า โกลด์ อวอร์ด ด้านชุมชนท่องเที่ยว ไทยแลนด์ ทัวร์ริซึ่ม อวอร์ด และล่าสุดได้รับรางวัลกลุ่มโฮมสเตย์รางวัลกินรี ซึ่งถือเป็นสุดยอดของรางวัลการท่องเที่ยวไทย ภายใต้การดูแลของป้าเสงี่ยม ประธานกลุ่มฯ เอาเป็นว่าโด่งดังระดับอินเตอร์จนชาวต่างนิยมมาท่องเที่ยวกันอย่างมากมาย คนไทยเองก็ตามมาเที่ยวติดๆ ตั้งแต่ปี 2550
บ้านนาต้นจั่นมีภูมิปัญญาและธรรมชาติที่มหัศจรรย์มากมาย โอบล้อมด้วยหุบเขาน้อยใหญ่ ดังนั้นการปั่นจักรยานรอบๆ หมู่บ้านชมทุ่งนาสีเขียวๆ จึงเป็นการเช็คอินแรกของการเปิดทริปโฮมสเตย์ที่นี่ ใครไม่ถนัดแนวนี้ก็เดินเล่นรอบๆ หมู่บ้านก็ได้ ไม่ต้องกลัวหลงครับ มีไกด์เด็กคอยประกบตลอด ออกแรงแบบนี้ต้องหิวแน่นอน แนะนำว่าสั่ง “ข้าวเปิ๊บ” ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวได้เลย ภูมิปัญญาต้นกำเนิดอาหารสุดพิเศษ หากินได้ที่นี่เท่านั้น ลักษณะจะคล้ายกับก๋วยเตี๋ยว แต่พวกผัก วุ้นเส้น ไข่ จะใช้วิธีนึ่งเท่านั้น และขั้นตอนการใช้ไม้พายตลบแป้งเพื่อห่อเครื่องเครามาใส่ถ้วยนี้เองเรียกว่า “เปิ๊บ” ก่อนราดน้ำซุปพร้อมเสิร์ฟ รสชาติกลมกล่อม อร่อยสุดๆ อิ่มแล้วเดินย่อยช้อปปิ้ง “ผ้าหมักโคลน” ด้านข้างได้เลย OTOP ที่ค้นพบด้วยความบังเอิญจากการทำนา เวลาดำนาบริเวณชายผ้าถุงจะจุ่มโคลนที่อยู่กับดินตลอดเวลา พอนำมาซักสังเกตว่าจุดที่เปื้อนโคลนทุกวันๆ นั้นกลับนิ่มกว่าส่วนที่ไม่โดนโคลนเลย จึงนำมาต่อยอดและย้อมสีธรรมชาติจากต้นไม้ต่างๆ หนึ่งในนั้นคือ “ต้นจั่น” ซึ่งเป็นที่มาชื่อหมู่บ้าน
เรื่องที่หลับที่นอนไม่ต้องเป็นห่วง มีมากถึง 17 หลัง เสน่ห์โฮมสเตย์ก็อยู่ตรงนี้แหละครับ คือได้ใช้ชีวิตชาวบ้าน กินอยู่กับเขา ถือเป็นการเที่ยวที่หาไม่ได้จากwการพักโรงแรมทั่วไป อีกอย่างที่เป็นไฮไลท์คือ “น้ำพริกซอกไข่” ฟังชื่อก็แอบขำครับ แต่พอถามพี่แหม่ม ผู้จัดการโฮมสเตย์แล้ว ก็ถึงบางอ้อว่า “ซอก แปลว่า ตำ” เสียงซอกๆๆ ก็คือจังหวะการตำน้ำพริกนั่นเอง ส่วนผสมก็มีพริกป่น น้ำปลา มะนาว ไข่ไก่ ซึ่งเป็นหนึ่งในอาหารมื้อเย็นร่วมกับพวกห่อหมก ปลาทอด ต้มข่าไก่บ้าน ผักต้มอีกมากมาย เอาเป็นว่าใครกินหมด ผมยกนิ้วกดไลค์ให้เลย
มาที่นี่อย่าพลาดการตื่นเช้านะครับ เพราะมีนัดกับพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกที่ “จุดชมวิวห้วยต้นไฮ” เดินขึ้นเขา 800 เมตร ใช้เวลา 45 นาที ด้านบนมีแคร่ไม้ไผ่แข็งแรงขนาดใหญ่ แถมด้วยบันไดเล็กๆ ให้ปีนขึ้นต้นไม้ชมวิวมุมสูงแบบส่วนตัว เพื่อดูดวงอาทิตย์โผล่พ้นทิวเขา พร้อมทะเลหมอกจางๆ บางๆ ที่ไหลเอื่อยๆ ยิ่งในฤดูหนาวจะอัดแน่นด้วยทะเลหมอกทุกตารางเมตร ความฟินยังไม่หมดเท่านี้ครับ เราจะได้จิบกาแฟ เครื่องดื่มร้อนๆ กับสไตล์แก้วกระบอกไม้ไผ่แบบน่ารักๆ รับรองว่านั่งชมวิวชิลล์จนไม่อยากเดินลงเลย
แต่งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา ก่อนกลับอย่าลืมแวะ “ตุ๊กตาบาร์โหน” ภูมิปัญญาของเล่นที่ “ตาวงศ์” คิดขึ้นเองนะครับ เกิดจากในสมัยเด็กๆ อยากสูง แต่ไม่มีเงินซื้อนมกิน เลยต้องไปโหนกิ่งไม้เพื่อให้ตัวสูง เลยนำไอเดียนี้มาทำเป็นของเล่นไม้ โดยจะเป็นด้ามยาวๆ 2 แท่งสำหรับบีบ เพื่อให้ตุ๊กตาตรงกลางที่โหนบาร์เปลี่ยนท่าไปได้ตามแรงบีบมือ ทั้งหมดมี 12 ท่า ผมนั่งบีบอยู่ตั้งนานได้แค่ 6 ท่าเอง ส่วนพี่อุดม ลูกชายคุณตาวงศ์ ปัจจุบันเป็นคนผลิตของเล่นนี้ ทำได้ 12 ท่าแบบเป๊ะๆ เลย ผมจึงซื้อติดมือกลับมาตัวหนึ่ง กะฝึกให้เก่งๆ แล้วกลับไปประลองกับพี่อุดมอีกสักรอบ
ส่วนตัวนะครับ ผมเชื่อว่าในเวลาไม่กี่ปีถัดจากนี้ เทรนด์การเที่ยวโฮมสเตย์จะได้รับความนิยมขึ้นเรื่อยๆ เพราะทุกอย่างดูเป็นธรรมชาติ ไม่ปรุงแต่งทั้งเรื่องของสถานที่และจิตใจผู้คน พิธีรีตรองไม่มีมากมาย มีแต่ความจริงใจของชาวบ้าน นักท่องเที่ยวที่ไปพักผ่อนต่างต้องการสิ่งเหล่านี้ทั้งนั้นครับ...สูงสุดคืน สู่สามัญ กลับสู่ธรรมชาติที่ช่วยชาร์จแบตให้ชีวิตให้กลับมีพลังอีกครั้ง
--ลองเริ่มต้นที่นี่ครับ แล้วทุกคนจะหลงรักธรรมชาติที่มหัศจรรย์...ฮักนะนาต้นจั่น
• แพ็คเกจโฮมสเตย์บ้านนาต้นจั่น เริ่มต้นที่ 600 บาท/คน/คืน รวมอาหาร 2 มื้อ (เย็นและเช้า) พร้อมนำเที่ยว
• จุดชมวิวห้วยต้นไฮ สามารถกางเต็นท์พักแรมได้ รับจำนวน 5 คนขึ้นไปครับ
• โฮมสเตย์หลังที่ 17 บ้านไร่ชายเขา--อยู่บนเนินสวยงาม เคยใช้เป็นที่ถ่ายละคร แม้ไม่ได้พักก็แวะไปถ่ายภาพได้ครับ
Go to :
จาก กทม. ใช้ทางหลวงสายเอเชีย (32) ผ่านอยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี ชัยนาท อุทัยธานี นครสวรรค มุ่งหน้าสู่ทางหลวงหมายเลข 117 ผ่านพิจิตร พิษณุโลก มุ่งหน้าสุโขทัย ผ่านอำเภอกงไกรลาศสู่ทางหลวงหมายเลข 102 (อุตรดิตถ์ - ศรีสัชนาลัย) ผ่านอำเภอศรีสัชนาลัย เลี้ยวซ้ายแยกบ้านตึก เข้าบ้านนาต้นจั่น รวมระยะทางประมาณ 500 กม.
Contact & Camping :
• คุณแหม่ม ผู้จัดการโฮมสเตย์บ้านนาต้นจั่น 088-495-7738 / 089-885-1639
• ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวบ้านนาต้นจั่น 055-677-209
• ททท. สำนักงานสุโขทัย (สุโขทัย กำแพงเพชร) 055-616-228 ถึง 9
[CR] มหัศจรรย์โฮมสเตย์…ฮักนะนาต้นจั่น By หนุ่ม สุดยอดแฟนพันธุ์แท้ ท่องเที่ยวไทย 2014
เที่ยวแบบไหน? ที่เรียกว่ายั่งยืน
ไม่ได้มาแนวจริงจังอะไรหรอกครับ เพียงแค่ระยะหลังได้ยินคนถามคำนี้บ่อยขึ้นเรื่อยๆ ตอบตรงๆ เลยว่ามีหลายวิธีและหลากขั้นตอน เอาเป็นว่าแค่ออกไปเที่ยวเมืองไทยก็เริ่มต้นดีแล้วครับ แต่ถ้าออกแนวทางเห็นผลเร็วๆ ต้องเก็บกระเป๋าและไป “เที่ยวโฮมสเตย์” กัน
โฮมสเตย์อธิบายได้ง่ายๆ ว่าเป็นการเที่ยวแบบ “อยู่แบบเขา กินแบบเขา ใช้ชีวิตแบบเขา” ถ้าเข้าหมวดวิชาการหน่อยๆ ก็จะถือว่าพวกเขาเป็นรากฐานของปิรามิดการท่องเที่ยว โดยมีรีสอร์ทระดับกลางๆ อยู่ถัดมา และที่พักระดับ 5 – 6 ดาวเป็นยอดสูงที่สุดครับ แน่นอนว่าถ้าเราสามารถทำให้รากฐานการท่องเที่ยวแข็งแรงได้ ความมั่นคงยั่งยืนจะไปไหนเสีย และหากอยากลองเที่ยวโฮมสเตย์เป็นครั้งแรก ต้องไปที่นี่ครับ “บ้านนาต้นจั่น อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย” รับรองว่าคำว่าผิดหวัง--ไม่มีในพจนานุกรมฉบับทริปนี้แน่นอน
เหตุผลคือที่นี่ได้รับรางวัลการันตีมากมาย ตัวอย่างเช่น พาต้า โกลด์ อวอร์ด ด้านชุมชนท่องเที่ยว ไทยแลนด์ ทัวร์ริซึ่ม อวอร์ด และล่าสุดได้รับรางวัลกลุ่มโฮมสเตย์รางวัลกินรี ซึ่งถือเป็นสุดยอดของรางวัลการท่องเที่ยวไทย ภายใต้การดูแลของป้าเสงี่ยม ประธานกลุ่มฯ เอาเป็นว่าโด่งดังระดับอินเตอร์จนชาวต่างนิยมมาท่องเที่ยวกันอย่างมากมาย คนไทยเองก็ตามมาเที่ยวติดๆ ตั้งแต่ปี 2550
บ้านนาต้นจั่นมีภูมิปัญญาและธรรมชาติที่มหัศจรรย์มากมาย โอบล้อมด้วยหุบเขาน้อยใหญ่ ดังนั้นการปั่นจักรยานรอบๆ หมู่บ้านชมทุ่งนาสีเขียวๆ จึงเป็นการเช็คอินแรกของการเปิดทริปโฮมสเตย์ที่นี่ ใครไม่ถนัดแนวนี้ก็เดินเล่นรอบๆ หมู่บ้านก็ได้ ไม่ต้องกลัวหลงครับ มีไกด์เด็กคอยประกบตลอด ออกแรงแบบนี้ต้องหิวแน่นอน แนะนำว่าสั่ง “ข้าวเปิ๊บ” ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวได้เลย ภูมิปัญญาต้นกำเนิดอาหารสุดพิเศษ หากินได้ที่นี่เท่านั้น ลักษณะจะคล้ายกับก๋วยเตี๋ยว แต่พวกผัก วุ้นเส้น ไข่ จะใช้วิธีนึ่งเท่านั้น และขั้นตอนการใช้ไม้พายตลบแป้งเพื่อห่อเครื่องเครามาใส่ถ้วยนี้เองเรียกว่า “เปิ๊บ” ก่อนราดน้ำซุปพร้อมเสิร์ฟ รสชาติกลมกล่อม อร่อยสุดๆ อิ่มแล้วเดินย่อยช้อปปิ้ง “ผ้าหมักโคลน” ด้านข้างได้เลย OTOP ที่ค้นพบด้วยความบังเอิญจากการทำนา เวลาดำนาบริเวณชายผ้าถุงจะจุ่มโคลนที่อยู่กับดินตลอดเวลา พอนำมาซักสังเกตว่าจุดที่เปื้อนโคลนทุกวันๆ นั้นกลับนิ่มกว่าส่วนที่ไม่โดนโคลนเลย จึงนำมาต่อยอดและย้อมสีธรรมชาติจากต้นไม้ต่างๆ หนึ่งในนั้นคือ “ต้นจั่น” ซึ่งเป็นที่มาชื่อหมู่บ้าน
เรื่องที่หลับที่นอนไม่ต้องเป็นห่วง มีมากถึง 17 หลัง เสน่ห์โฮมสเตย์ก็อยู่ตรงนี้แหละครับ คือได้ใช้ชีวิตชาวบ้าน กินอยู่กับเขา ถือเป็นการเที่ยวที่หาไม่ได้จากwการพักโรงแรมทั่วไป อีกอย่างที่เป็นไฮไลท์คือ “น้ำพริกซอกไข่” ฟังชื่อก็แอบขำครับ แต่พอถามพี่แหม่ม ผู้จัดการโฮมสเตย์แล้ว ก็ถึงบางอ้อว่า “ซอก แปลว่า ตำ” เสียงซอกๆๆ ก็คือจังหวะการตำน้ำพริกนั่นเอง ส่วนผสมก็มีพริกป่น น้ำปลา มะนาว ไข่ไก่ ซึ่งเป็นหนึ่งในอาหารมื้อเย็นร่วมกับพวกห่อหมก ปลาทอด ต้มข่าไก่บ้าน ผักต้มอีกมากมาย เอาเป็นว่าใครกินหมด ผมยกนิ้วกดไลค์ให้เลย
มาที่นี่อย่าพลาดการตื่นเช้านะครับ เพราะมีนัดกับพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกที่ “จุดชมวิวห้วยต้นไฮ” เดินขึ้นเขา 800 เมตร ใช้เวลา 45 นาที ด้านบนมีแคร่ไม้ไผ่แข็งแรงขนาดใหญ่ แถมด้วยบันไดเล็กๆ ให้ปีนขึ้นต้นไม้ชมวิวมุมสูงแบบส่วนตัว เพื่อดูดวงอาทิตย์โผล่พ้นทิวเขา พร้อมทะเลหมอกจางๆ บางๆ ที่ไหลเอื่อยๆ ยิ่งในฤดูหนาวจะอัดแน่นด้วยทะเลหมอกทุกตารางเมตร ความฟินยังไม่หมดเท่านี้ครับ เราจะได้จิบกาแฟ เครื่องดื่มร้อนๆ กับสไตล์แก้วกระบอกไม้ไผ่แบบน่ารักๆ รับรองว่านั่งชมวิวชิลล์จนไม่อยากเดินลงเลย
แต่งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา ก่อนกลับอย่าลืมแวะ “ตุ๊กตาบาร์โหน” ภูมิปัญญาของเล่นที่ “ตาวงศ์” คิดขึ้นเองนะครับ เกิดจากในสมัยเด็กๆ อยากสูง แต่ไม่มีเงินซื้อนมกิน เลยต้องไปโหนกิ่งไม้เพื่อให้ตัวสูง เลยนำไอเดียนี้มาทำเป็นของเล่นไม้ โดยจะเป็นด้ามยาวๆ 2 แท่งสำหรับบีบ เพื่อให้ตุ๊กตาตรงกลางที่โหนบาร์เปลี่ยนท่าไปได้ตามแรงบีบมือ ทั้งหมดมี 12 ท่า ผมนั่งบีบอยู่ตั้งนานได้แค่ 6 ท่าเอง ส่วนพี่อุดม ลูกชายคุณตาวงศ์ ปัจจุบันเป็นคนผลิตของเล่นนี้ ทำได้ 12 ท่าแบบเป๊ะๆ เลย ผมจึงซื้อติดมือกลับมาตัวหนึ่ง กะฝึกให้เก่งๆ แล้วกลับไปประลองกับพี่อุดมอีกสักรอบ
ส่วนตัวนะครับ ผมเชื่อว่าในเวลาไม่กี่ปีถัดจากนี้ เทรนด์การเที่ยวโฮมสเตย์จะได้รับความนิยมขึ้นเรื่อยๆ เพราะทุกอย่างดูเป็นธรรมชาติ ไม่ปรุงแต่งทั้งเรื่องของสถานที่และจิตใจผู้คน พิธีรีตรองไม่มีมากมาย มีแต่ความจริงใจของชาวบ้าน นักท่องเที่ยวที่ไปพักผ่อนต่างต้องการสิ่งเหล่านี้ทั้งนั้นครับ...สูงสุดคืน สู่สามัญ กลับสู่ธรรมชาติที่ช่วยชาร์จแบตให้ชีวิตให้กลับมีพลังอีกครั้ง
--ลองเริ่มต้นที่นี่ครับ แล้วทุกคนจะหลงรักธรรมชาติที่มหัศจรรย์...ฮักนะนาต้นจั่น
• แพ็คเกจโฮมสเตย์บ้านนาต้นจั่น เริ่มต้นที่ 600 บาท/คน/คืน รวมอาหาร 2 มื้อ (เย็นและเช้า) พร้อมนำเที่ยว
• จุดชมวิวห้วยต้นไฮ สามารถกางเต็นท์พักแรมได้ รับจำนวน 5 คนขึ้นไปครับ
• โฮมสเตย์หลังที่ 17 บ้านไร่ชายเขา--อยู่บนเนินสวยงาม เคยใช้เป็นที่ถ่ายละคร แม้ไม่ได้พักก็แวะไปถ่ายภาพได้ครับ
Go to :
จาก กทม. ใช้ทางหลวงสายเอเชีย (32) ผ่านอยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี ชัยนาท อุทัยธานี นครสวรรค มุ่งหน้าสู่ทางหลวงหมายเลข 117 ผ่านพิจิตร พิษณุโลก มุ่งหน้าสุโขทัย ผ่านอำเภอกงไกรลาศสู่ทางหลวงหมายเลข 102 (อุตรดิตถ์ - ศรีสัชนาลัย) ผ่านอำเภอศรีสัชนาลัย เลี้ยวซ้ายแยกบ้านตึก เข้าบ้านนาต้นจั่น รวมระยะทางประมาณ 500 กม.
Contact & Camping :
• คุณแหม่ม ผู้จัดการโฮมสเตย์บ้านนาต้นจั่น 088-495-7738 / 089-885-1639
• ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวบ้านนาต้นจั่น 055-677-209
• ททท. สำนักงานสุโขทัย (สุโขทัย กำแพงเพชร) 055-616-228 ถึง 9
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น