มือใหม่หัดรีวิวนะคะ ผิดพบาดประการใดก็ขอโทษด้วยนะคะ
สำหรับใครหลายๆคนที่กำลังชั่งใจ ชั่งความคิดดูรีวิวต่างๆเก็บรายระเอียดในการตัดสินใจทำจมูก เราหวังว่ากระทู้เราจะช่วยอะไรได้บ้างนะคะ
ว่าด้วยเรื่องการทำศัลยกรรม ตอนนี้กลายเป็นเรื่องปกติไปด้วยสำหรับคนในประเทศเรา เขาบอกกันว่าคิ้วคือมงกุฎของหน้า แต่สำหรับเราจมูกเป็นมงกุฎของหน้าเรามากกว่า แต่เราดันเกิดมามีจมูกเป็นจุดบอดของใบหน้าเรา ยิ่งไปกว่านั้นพี่ชายของเราไปอ่านโหงวเฮ้งเกี่ยวกับลักษณะจมูกมา เราจำได้ดีเลย พี่เราบอกว่าเราเป็นจมูกหมู เป็นสิ่งที่ตอกย้ำผู้หญิงอย่างเรามาก ทำให้เราอยากจะเปลี่ยนจมูกบนใบหน้า ตอนที่เราอยู่ม6 เพื่อนๆหลายคนก็เริ่มไปทำกันบ้างแล้ว บางคนก็บินไปทำกทม บางคนก็ไปทำตามตจว. ตามความเชื่อ ความสบายใจของแต่ละคน ยิ่งทำให้เรามีความอยากทำเพิ่มขึ้น แต่ตอนนั้นเราอายุแค่ 8 ปียังไม่มีบรรลุนิติภาวะ ต้องมีผู้ปกครองเซ็นต์ เรารู้สึกว่าเราโชคดีที่สามารถทนรอให้เราโตขึ้นกว่านี้ ให้เราบรรลุนิติภาวะแล้วค่อยทำกันจะดีกว่านะเด็กๆ ที่เราจะพูดต่อไปนี้ เป็นความเชื่อส่วนบุคคลนะคะ เนื่องจากเรานับถือศาสนาพุทธ พี่เราแนะนำว่าเราควรไปทำบุญก่อนไปให้หมอทำจมูกให้ เพราะเหมือนกับการเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ รับสิ่งใหม่ๆเข้ามาในชีวิต จากนี้หน้าเราจะไม่มีจมูกแบบเดิม การทำบุญช่วยให้เราสบายใจมากขึ้นค่ะ ^_____^
มาดูรูปเราก่อนการเปลี่ยนแปลง
อย่างที่เห็นจมูกที่เราเรียกมันว่าจุดบอดบนในหน้า 5555
และแล้วก็ถึงฤกษ์ยามงามดีเราทำวันที่ 27 พฤษภา 58 ที่คลีนิคสมเพชร เชียงใหม่ เราเลือกทำราคาซิลิโคน 37,000 พร้อมตัดปีกอีก 10,000 บาท รวมงบประมาณในการทำครั้งนี้ 47,000 บาท สำหรับใครที่ยังไม่ลังเล สามารถปรึกษาคุณหมอได้ก่อนนะคะ แต่มีค่าใช้จ่ายจำนวน 300 บาท แต่ถ้าทำกับคุณหมอ จะได้เงินคืน 300 บาทค่ะ หลังจากทำบุญเสร็จ ก็ถึงเวลานัดคิวทำกับคุณหมอ เป็นช่วงเย็นๆค่ะ เพราะจะได้กลับบ้านแล้วนอนเลย5555 ด้วยความกลัวว่าต้องเจ็บปวดมากแน่ๆ ถึงคิวเราแล้ว คุณหมอก็จะถามเราว่าเราอยากได้ทรงแบบไหน สูงโด่งแค่ไหน ให้เราปรึกษาถามคุณหมอได้ทุกอย่าง ก่อนที่จะลงมือถือ เราตอบคุณหมอว่า ทรงไหนก็ได้ค่ะที่เข้ากับหน้าหนูก็พอค่ะ คุณหมอดีอย่างหนึ่งคือคุณหมอจะบอกเราว่า เนื้อจมูกของเราสามารถโด่งได้ถึงแค่ไหน เช่น ถ้าคุณเออยากได้จมูกสูงๆโด่งๆ แต่เนื้อจมูกคุณเอบาง คุณหมอก็จะบอกเขาก่อนถึงผลที่จะตามมา ประมาณนี้ค่ะ หลังจากคุยเรื่องจมูกเสร็จ ก็ถึงเวลาลงมือทำ ความรู้สึกตอนนั้นตื่นเต้นมากๆๆเลยค่ะ กลัวจะออกมาเบี้ยวบ้าง เอียงบ้าง หรือมีปัญหาต่างๆ ขณะที่กำลังรู้สึกตื่นเต้น กังวล กลัวอยู่ วินาทีนั้นเข็มมาปักที่สันจมูกของเราแล้วค่ะ พอจิ้มครั้งที่สองที่กลางดั้งน้ำตาลเริ่มคอเบาๆ จิ้มที่ปีกจมูกเท่านั้นแหละค่ะ ไหลเลยเจ็บจริงๆการฉีดยาชา ในใจตอนนั้นคิดว่า ไม่น่าเลยจะตายไหมเนี่ย 5555555555 เพราะเราไม่เคยทำอะไรเกี่ยวกับหน้าเลยคิดแบบนี้ หลังจากนั้นจมูกเราก็ชาไม่รู้สึกอะไรเลย และคุณหมอก็ลงมือถือด้วยความรวดเร็ว ด้วยความที่ปีกจมูกเราเป็นทรงแบบที่ทำให้การทำยากนิดหน่อย และรูจมูกเราไม่เท่ากัน แต่คุณหมอบอกว่าจะพยายามทำให้มันดูไม่ต่างกันมาก ปกติทั่วไปคุณหมอใช้เวลาทำเพียง 5-10 นาที เคสเรายากหน่อย เลยใช้เวลาทำประมาณ 20 นาทีเสร็จ หลังจากทำเสร็จเรากิบยาแก้ปวดไว้เลยค่ะ พอยาหมดฤทธิ์เราก็ไม่ได้รู้สึกปวดอะไรมากเลย ปวดตัวมากกว่าที่ต้องนอนหงายตัวตรงทั้งคืนเป็นเวลา 1-2 อาทิตย์ มาดูภาพที่เป็นอวตาลกันค่ะ
แนะนำเพื่อนๆให้ซื้อน้ำข้าวโพด 100% หรือใบบัวบก ดื่มเยอะๆ แทนน้ำเปล่าได้เลยยิ่งดี เพราะจะช่วยหายแผลเราหายช้ำไวมากที่สุด มันช่วยได้ดีจริงๆดีที่สุดเลย5555 ไม่ได้เวอร์นะคะ ดีจริงๆค่ะ ประคบเย็นบ่อยๆ หน้าก็ล้างไม่ได้ เช็ดแต่น้ำเกลือ ยิ่งเป็นคนหน้ามันยิ่งรู้สึกอึดอัดหัวใจมาก ที่ไม่ได้ล้างหน้า ทาอาหารอ่อนๆจะดีที่สุดนะคะ เลี่ยงต่อการกินอาหารแสลง กันไว้ดีกว่าแก้ค่ะ ช่วงแรกๆอดทนหน่อยนะคะ ผ่านไปได้ก็สบายแล้ว หลังจาก 7วันต้องไปตัดไหมที่ปีกจมูกคะ
มาดูกันว่าหลังจากผ่านไป 1 เดือนแล้วจะเป็นไงบ้าง
จมูกยังไม่เข้าที่เท่าไหร่ และจขกท.ตัดปีกจมูก แผลที่จมูกข้างๆยังไม่หายสนิท ต้องขยันเท่าครีมลดลอยแผลเป็น
หลังจาก 1 ปีแล้ว มีการการชนโน่นนั่นนี่บ้าง แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไรเลย แต่คุณครั้งที่ชนเราจะกังวลว่าจะทะลุรึเปล่า 5555555555 (เป็นความวิตกส่วนตัว) พยายามหารูปที่เป็นมุมเสย กับด้านข้างจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนขึ้น
เรารู้สึกแฮปปี้กับสิ่งที่ได้มา และไม่คิดจจะเปลี่ยนเป็นครั้งที่สอง เราทำแค่จมูกจริงๆ ไม่ได้ทำอย่างอื่นเพิ่มเติม Botox ฉีดต่างๆไม่เคย เวลาเพื่อนๆจะทำอะไรให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในชีวิต อย่าลืมคำนี้ "นานาจิตตัง" เราฟังได้ แต่อย่าใส่ใจมากเกินไป อย่าฟังความยุยงมากเกินไป จนลืมเป็นตัวเราเองนะคะ เหมือนจขกท.หลังจากทำมาตลอดระยะเวลา1ปีกับอีก 2เดือน บางคนก็ทักว่าเสริมคางมา ทำตามา บางคนก็ว่าไม่โด่งเท่าไหร่ บางคนก็บอกหน้าใหญ่(โดนเป็นผู้ชายด้วยที่ชอบว่า T_T ไม่เข้าใจว่าผู้ชายชอบแต่ผู้หญิงหน้าเล็กๆเรียวๆ V shape จะรู้บ้างไหมว่าค่า Botox มันแพง5555) บางคนก็ชมว่าเข้ากับเรา ต่างๆนานาค่ะ ต้องหนักแน่นให้มากๆนะคะ ไม่อย่างนั้นเราก็จะกังวล ขาดความมั่นใจ ไม่มีความสุขเลย เราชอบที่คุณหมอตั้งใจทำเราจริงๆ ไม่ได้สนว่าตอนนั้นคุณจะหน้าตาเป็นแบบไหน เรารู้สึกขอบคุณคุณหมอมากๆ เลยอยากทำกระทู้นี้รีวิว เพื่อเป็นการขอบคุณ ^__^
[CR] รีวิวทำดั้งที่เชียงใหม่ใครทำก็สวยได้ (ครั้งแรก)
สำหรับใครหลายๆคนที่กำลังชั่งใจ ชั่งความคิดดูรีวิวต่างๆเก็บรายระเอียดในการตัดสินใจทำจมูก เราหวังว่ากระทู้เราจะช่วยอะไรได้บ้างนะคะ
ว่าด้วยเรื่องการทำศัลยกรรม ตอนนี้กลายเป็นเรื่องปกติไปด้วยสำหรับคนในประเทศเรา เขาบอกกันว่าคิ้วคือมงกุฎของหน้า แต่สำหรับเราจมูกเป็นมงกุฎของหน้าเรามากกว่า แต่เราดันเกิดมามีจมูกเป็นจุดบอดของใบหน้าเรา ยิ่งไปกว่านั้นพี่ชายของเราไปอ่านโหงวเฮ้งเกี่ยวกับลักษณะจมูกมา เราจำได้ดีเลย พี่เราบอกว่าเราเป็นจมูกหมู เป็นสิ่งที่ตอกย้ำผู้หญิงอย่างเรามาก ทำให้เราอยากจะเปลี่ยนจมูกบนใบหน้า ตอนที่เราอยู่ม6 เพื่อนๆหลายคนก็เริ่มไปทำกันบ้างแล้ว บางคนก็บินไปทำกทม บางคนก็ไปทำตามตจว. ตามความเชื่อ ความสบายใจของแต่ละคน ยิ่งทำให้เรามีความอยากทำเพิ่มขึ้น แต่ตอนนั้นเราอายุแค่ 8 ปียังไม่มีบรรลุนิติภาวะ ต้องมีผู้ปกครองเซ็นต์ เรารู้สึกว่าเราโชคดีที่สามารถทนรอให้เราโตขึ้นกว่านี้ ให้เราบรรลุนิติภาวะแล้วค่อยทำกันจะดีกว่านะเด็กๆ ที่เราจะพูดต่อไปนี้ เป็นความเชื่อส่วนบุคคลนะคะ เนื่องจากเรานับถือศาสนาพุทธ พี่เราแนะนำว่าเราควรไปทำบุญก่อนไปให้หมอทำจมูกให้ เพราะเหมือนกับการเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ รับสิ่งใหม่ๆเข้ามาในชีวิต จากนี้หน้าเราจะไม่มีจมูกแบบเดิม การทำบุญช่วยให้เราสบายใจมากขึ้นค่ะ ^_____^
มาดูรูปเราก่อนการเปลี่ยนแปลง
อย่างที่เห็นจมูกที่เราเรียกมันว่าจุดบอดบนในหน้า 5555
และแล้วก็ถึงฤกษ์ยามงามดีเราทำวันที่ 27 พฤษภา 58 ที่คลีนิคสมเพชร เชียงใหม่ เราเลือกทำราคาซิลิโคน 37,000 พร้อมตัดปีกอีก 10,000 บาท รวมงบประมาณในการทำครั้งนี้ 47,000 บาท สำหรับใครที่ยังไม่ลังเล สามารถปรึกษาคุณหมอได้ก่อนนะคะ แต่มีค่าใช้จ่ายจำนวน 300 บาท แต่ถ้าทำกับคุณหมอ จะได้เงินคืน 300 บาทค่ะ หลังจากทำบุญเสร็จ ก็ถึงเวลานัดคิวทำกับคุณหมอ เป็นช่วงเย็นๆค่ะ เพราะจะได้กลับบ้านแล้วนอนเลย5555 ด้วยความกลัวว่าต้องเจ็บปวดมากแน่ๆ ถึงคิวเราแล้ว คุณหมอก็จะถามเราว่าเราอยากได้ทรงแบบไหน สูงโด่งแค่ไหน ให้เราปรึกษาถามคุณหมอได้ทุกอย่าง ก่อนที่จะลงมือถือ เราตอบคุณหมอว่า ทรงไหนก็ได้ค่ะที่เข้ากับหน้าหนูก็พอค่ะ คุณหมอดีอย่างหนึ่งคือคุณหมอจะบอกเราว่า เนื้อจมูกของเราสามารถโด่งได้ถึงแค่ไหน เช่น ถ้าคุณเออยากได้จมูกสูงๆโด่งๆ แต่เนื้อจมูกคุณเอบาง คุณหมอก็จะบอกเขาก่อนถึงผลที่จะตามมา ประมาณนี้ค่ะ หลังจากคุยเรื่องจมูกเสร็จ ก็ถึงเวลาลงมือทำ ความรู้สึกตอนนั้นตื่นเต้นมากๆๆเลยค่ะ กลัวจะออกมาเบี้ยวบ้าง เอียงบ้าง หรือมีปัญหาต่างๆ ขณะที่กำลังรู้สึกตื่นเต้น กังวล กลัวอยู่ วินาทีนั้นเข็มมาปักที่สันจมูกของเราแล้วค่ะ พอจิ้มครั้งที่สองที่กลางดั้งน้ำตาลเริ่มคอเบาๆ จิ้มที่ปีกจมูกเท่านั้นแหละค่ะ ไหลเลยเจ็บจริงๆการฉีดยาชา ในใจตอนนั้นคิดว่า ไม่น่าเลยจะตายไหมเนี่ย 5555555555 เพราะเราไม่เคยทำอะไรเกี่ยวกับหน้าเลยคิดแบบนี้ หลังจากนั้นจมูกเราก็ชาไม่รู้สึกอะไรเลย และคุณหมอก็ลงมือถือด้วยความรวดเร็ว ด้วยความที่ปีกจมูกเราเป็นทรงแบบที่ทำให้การทำยากนิดหน่อย และรูจมูกเราไม่เท่ากัน แต่คุณหมอบอกว่าจะพยายามทำให้มันดูไม่ต่างกันมาก ปกติทั่วไปคุณหมอใช้เวลาทำเพียง 5-10 นาที เคสเรายากหน่อย เลยใช้เวลาทำประมาณ 20 นาทีเสร็จ หลังจากทำเสร็จเรากิบยาแก้ปวดไว้เลยค่ะ พอยาหมดฤทธิ์เราก็ไม่ได้รู้สึกปวดอะไรมากเลย ปวดตัวมากกว่าที่ต้องนอนหงายตัวตรงทั้งคืนเป็นเวลา 1-2 อาทิตย์ มาดูภาพที่เป็นอวตาลกันค่ะ
แนะนำเพื่อนๆให้ซื้อน้ำข้าวโพด 100% หรือใบบัวบก ดื่มเยอะๆ แทนน้ำเปล่าได้เลยยิ่งดี เพราะจะช่วยหายแผลเราหายช้ำไวมากที่สุด มันช่วยได้ดีจริงๆดีที่สุดเลย5555 ไม่ได้เวอร์นะคะ ดีจริงๆค่ะ ประคบเย็นบ่อยๆ หน้าก็ล้างไม่ได้ เช็ดแต่น้ำเกลือ ยิ่งเป็นคนหน้ามันยิ่งรู้สึกอึดอัดหัวใจมาก ที่ไม่ได้ล้างหน้า ทาอาหารอ่อนๆจะดีที่สุดนะคะ เลี่ยงต่อการกินอาหารแสลง กันไว้ดีกว่าแก้ค่ะ ช่วงแรกๆอดทนหน่อยนะคะ ผ่านไปได้ก็สบายแล้ว หลังจาก 7วันต้องไปตัดไหมที่ปีกจมูกคะ
มาดูกันว่าหลังจากผ่านไป 1 เดือนแล้วจะเป็นไงบ้าง
จมูกยังไม่เข้าที่เท่าไหร่ และจขกท.ตัดปีกจมูก แผลที่จมูกข้างๆยังไม่หายสนิท ต้องขยันเท่าครีมลดลอยแผลเป็น
หลังจาก 1 ปีแล้ว มีการการชนโน่นนั่นนี่บ้าง แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไรเลย แต่คุณครั้งที่ชนเราจะกังวลว่าจะทะลุรึเปล่า 5555555555 (เป็นความวิตกส่วนตัว) พยายามหารูปที่เป็นมุมเสย กับด้านข้างจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนขึ้น
เรารู้สึกแฮปปี้กับสิ่งที่ได้มา และไม่คิดจจะเปลี่ยนเป็นครั้งที่สอง เราทำแค่จมูกจริงๆ ไม่ได้ทำอย่างอื่นเพิ่มเติม Botox ฉีดต่างๆไม่เคย เวลาเพื่อนๆจะทำอะไรให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในชีวิต อย่าลืมคำนี้ "นานาจิตตัง" เราฟังได้ แต่อย่าใส่ใจมากเกินไป อย่าฟังความยุยงมากเกินไป จนลืมเป็นตัวเราเองนะคะ เหมือนจขกท.หลังจากทำมาตลอดระยะเวลา1ปีกับอีก 2เดือน บางคนก็ทักว่าเสริมคางมา ทำตามา บางคนก็ว่าไม่โด่งเท่าไหร่ บางคนก็บอกหน้าใหญ่(โดนเป็นผู้ชายด้วยที่ชอบว่า T_T ไม่เข้าใจว่าผู้ชายชอบแต่ผู้หญิงหน้าเล็กๆเรียวๆ V shape จะรู้บ้างไหมว่าค่า Botox มันแพง5555) บางคนก็ชมว่าเข้ากับเรา ต่างๆนานาค่ะ ต้องหนักแน่นให้มากๆนะคะ ไม่อย่างนั้นเราก็จะกังวล ขาดความมั่นใจ ไม่มีความสุขเลย เราชอบที่คุณหมอตั้งใจทำเราจริงๆ ไม่ได้สนว่าตอนนั้นคุณจะหน้าตาเป็นแบบไหน เรารู้สึกขอบคุณคุณหมอมากๆ เลยอยากทำกระทู้นี้รีวิว เพื่อเป็นการขอบคุณ ^__^
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น