ถูกร้องเรียนเรื่องการเลี้ยงสัตว์ ควรทำอย่างไรดี

สวัสดีค่ะ พอดีที่บ้านเลี้ยงสุนัขและแมวไว้จำนวนหนึ่ง  ซึ่งที่บ้านจะเลี้ยงเป็นระบบปิด ไม่ได้ปล่อยออกไปรบกวนใคร และบ้านก็มีบริเวณพอสมควรที่จะให้สุนัขวิ่งเล่น มีรั้วรอบขอบชิดที่แน่นหนา และรั้วก็สูงพอสมควร ประมาณ 2 เมตรกว่าๆ ส่วนแมวนั้นที่บ้านเราจะสร้างห้องทำเหมือนบ้านให้เขาอยู่กัน ภายในมีทรายแมวให้ขับถ่าย และเราก็คิดว่าเราทำถูกสุขลักษณะ มีการล้างคอกด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อเป็นประจำทุกสัปดาห์ ที่บ้านเราเลี้ยงแมวมาตั้งแต่เราจำความได้ ตอนนี้ก็ประมาณ 30 กว่าปีแล้ว ไม่เคยมีปัญหากับใครหรือได้รับการฟ้องร้องใดๆ พอดีเมื่อไม่นานมานี้ เรากับเพื่อนบ้านมีข้อขัดข้องหมองใจกันเล็กน้อย เนื่องจากสุนัขของเราหลุดออกจากบ้านและวิ่งเข้าไปที่บ้านของเขา โดนที่สุนัขของเราไม่ได้ไปทำร้ายใครทั้งสิ่น เพียงแต่ว่าด้วยความที่เขาไม่เคยออกจากบ้านไปวิ่งเล่นข้างนอก เขาจึงวิ่งวนดมโน้นนี่นั้นไปทั่ว เราก็ได้วิ่งออกไปตาม แต่พบว่าเขาให้ไม้ตีสุนัขของเราจนได้รับบาดเจ็บและกล่าวหาว่าสุนัขเราเป็นบ้า ด้วยความโมโหเราจึงบอกว่าเราจะแจ้งความ เดี๋ยวนี้เขามี พรบ.คุ้มครองสัตว์ เราจะเอาเรื่อง แล้วเราก็พาสุนัขเรากลับมา แต่เราก็ไม่ได้ดำเนินเรื่องเอาผิดแต่อย่างใด เพราะที่บ้านไม่อยากมีเรื่อง คือไม่อยากให้เรื่องมันยาวหรือยุ่งยากเพียงเพราะสุนัขตัวเดียว แต่หลังจากนั้นหลายเดือนต่อมา ที่บ้านได้รับหนังสือขอเข้าตรวจการเลี้ยงสัตว์ของที่บ้านจากทางเทศบาล เนื่องจากมีผู้ร้องเรียนว่าที่บ้านเราเลี้ยงสัตว์รบกวนผู้อื่น วันนั้นมีนายสัตวแพทย์มาตรวจ มาพูดคุย ขอดูสภาพความเป็นอยู่ของสัตว์เลี้ยงเรา แม่เราก็ให้เขาตรวจสอบ ลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน เขาก็บอกว่าเราเลี้ยงได้ถูกสุขลัษณะดี ส่วนเรื่องของเสียงรบกวนคงเป็นเรื่องธรรมชาติของสุนัข เพราะเขาไม่ได้เห่าตลอดเวลา มีบ้างเป็นธรรมดา เรานึกว่าเรื่องราวจะจบที่ตรงนั้น แต่เปล่าเลย เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีนายสัตวแพทย์คนเดิม กลับมาของตรวจเหมือนเดิม บอกว่ามีผู้ไปร้องเรียน ซึ่งก็คือหลังบ้านของคุณ ให้คุณไปคุยกับเขาให้เรียบร้อย และขอตรวจสอบ ถ่ายรูปห้องแมว กรงสุนัข และบริเวณบ้านของเราไป แม่เราก็ให้เขาถ่ายรูปไป พาเยี่ยมชม ด้วยความบริสุทธิ์ใจ และเมื่อกลางวันวันนี้ แม่เราได้โทรมาบอกว่า นายสัตวแพทย์คนเดิม โทรมาบอกว่า เรื่องที่เราเลี้ยงสัตว์รบกวนเพื่อนบ้าน เขาดำเนินเรื่องถึงศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ให้เราเตรียมตัวย้ายสุนัขและแมวของให้ไปไว้ที่อื่น แม่เราท่านเป็นกำลังหลักในการเลี้ยง ท่านเกษียณออกมาก็อยู่กับสัตว์เลี้ยงของท่านทั้งวัน ท่านถึงกลับร้องไห้เพราะคำพูดของนายสัตวแพทย์ที่แจ้งว่าจะให้บ้านเราเตรียมหาที่เลี้ยงสัตว์แห่งใหม่ ท่านกังวลว่าเราจะทำอย่างไรดี เราเลี้ยงเขามาตั้งนาน ไม่เคยมีปัญหาอะไร แล้วสัตว์ที่เราเลี้ยงมา ถ้าคนที่รักและเคยเลี้ยงจะเข้าใจว่าถ้าเรานำเขาไปอยู่ที่อื่น เขาอาจเกิดภาวะเครียด อดข้าวอดน้ำ และถึงตายได้ สิ่งที่เราสงสัยคือ ทำไมนายสัตวแพทย์ผู้นั้น ถึงไม่คำนึงจุดนี้ และหาวิธีเสนอแนะแนวทางที่ดีกว่านี้ ทั้งๆที่ทั้ง 2 ครั้ง ที่เขามาตรวจ บอกให้บ้านเราทำอะไร เราก็ทำ ให้เราล้างบริเวณที่อยู่อาศัยสัตว์บ่อยๆ ตอนนี้ที่บ้านเราก็ทำทุกวัน คืออะไรที่เขาบอกมา เราทำให้หมดทุกอย่าง แต่วันนี้กลับโทรมาแจ้งว่าต้องนำสัตว์ทั้งหมดไปไว้ที่อื่น เอาตรงๆ คือเราคงทำให้ไม่ได้ เราไม่ได้เลี้ยงสัตว์เพื่อการพาณิชย์ใดๆ เราไม่มีแมวพันธุ์ เรามีแต่แมวจร สนุขจร ที่คนทิ้งไว้ แล้วเก็บมาดูแล เราเคยสัญญากับพวกเขาว่า เขามีบ้านแล้ว เราคงทำใจเอาเขาไปไว้ที่อื่นไม่ได้ เรายอมรับเรื่องของเสียงเห่าหอนของสนุข แต่เขาก็ไม่ได้เห่าทั้งวันทั้งคืน มันไปรบกวนจิตใตเขามากมายขนาดนั้นเลยหรือ นี่คือความอัดอั้นของเรา สิ่งที่กล่าวมาทั้งหมด คืออยากจะขอคำแนะนำว่า เราความจะทำอย่างไร หาเรื่องถึงศูนย์ดำรงธรรมจริงอย่างที่นายสัตวแพทย์แจ้ง เราจะมีแนวทางแก้ปัญหาอย่างไร เรื่องสุขอนามัยเรามั่นใจ ว่าเราดูแลดีแล้ว ไม่มีมลภาวะทางกลิ่นแน่นอน แต่ถ้าเรื่องของเสียง ก็ต้องยอมรับว่ามีบ้าง ที่บ้างครั้งสุนัขก็เห่าหอนในยามวิกาล ใครมีแนวทางแก้ปัญหา หรือมีข้อเสนอแนะ รบกวนแนะนำด้วยนะคะ
ปล. เราเคยคุยกับเพื่อนบ้านแล้วนะคะ ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้รับการตรวจ เขาบอกว่าไม่ได้แจ้ง ไม่เกี่ยวกัน และไม่คุยกับเรา แต่รอบ 2 ที่ได้รับการตรวจ สัตวแพทย์แจ้งว่าเพื่อนบ้านที่อยู่บ้านด้านหลังเราเป็นผู้แจ้ง ส่วนวันนี้แม่เราได้ถามสัตวแพทย์ขอทราบข้อมูลผู้แจ้ง จะได้ไปขอคุยกับเขาก่อน เพื่อที่เรื่องจะได้ไม่ลุกลาม นายสัตวแพทย์เขาบอกว่าให้ข้อมูลไม่ได้ เราจึงไม่รู้ว่าจะต้องเจรจากับใครค่ะ รบกวนเพื่อนๆในพันทิปชี้แนะด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ
ปล.2 เรื่องยาวไปนิด ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่