สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
พรรคแต่ละพรรคจะมีรายได้อยู่ อย่างเส้าหลินเป็นวัดก็ออกบิณฑบาตกับเงินทำบุญ
ถ้าเป็นพรรคของลัทธิเต๋าอย่างบู๊ตึ๋งก็มีเงินบริจาค ขายพวกเครื่องรางของขลัง รับแต่งบ้านตามหลักฮวงจุ้ย
พวกพรรคใหญ่ประจำขุนเขาทั้งหลายที่มีที่ดินเยอะ ก็ปล่อยเช่าที่ ทำไร่ไถนา
ส่วนพรรคกระยาจก พวกนี้คือขอทานอยู่แล้ว ก็อยู่ตามมีตามเกิด
พวกนี้คือผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ส่วนใหญ่จะอยู่ตามชนบทที่ทางการไม่ค่อยส่งคนมาดูแล
ชาวบ้านก็ต้องดูแลกันเอง นานๆไปก็รวมตัวกัน ตั้งเป็นสำนักขึ้นมา ชาวบ้านก็แบ่งๆผลผลิตมาให้ เพื่อให้สำนักอยู่ได้
พวกตัวละครหนังจีน ส่วนใหญ่คือตัวท๊อปของสำนัก พวกนี้สบาย ไม่ต้องทำงานจิปาถะ ออกท่องยุทธภพ สร้างชื่อให้สำนักอย่างเดียว
ถ้าเป็นพรรคของลัทธิเต๋าอย่างบู๊ตึ๋งก็มีเงินบริจาค ขายพวกเครื่องรางของขลัง รับแต่งบ้านตามหลักฮวงจุ้ย
พวกพรรคใหญ่ประจำขุนเขาทั้งหลายที่มีที่ดินเยอะ ก็ปล่อยเช่าที่ ทำไร่ไถนา
ส่วนพรรคกระยาจก พวกนี้คือขอทานอยู่แล้ว ก็อยู่ตามมีตามเกิด
พวกนี้คือผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ส่วนใหญ่จะอยู่ตามชนบทที่ทางการไม่ค่อยส่งคนมาดูแล
ชาวบ้านก็ต้องดูแลกันเอง นานๆไปก็รวมตัวกัน ตั้งเป็นสำนักขึ้นมา ชาวบ้านก็แบ่งๆผลผลิตมาให้ เพื่อให้สำนักอยู่ได้
พวกตัวละครหนังจีน ส่วนใหญ่คือตัวท๊อปของสำนัก พวกนี้สบาย ไม่ต้องทำงานจิปาถะ ออกท่องยุทธภพ สร้างชื่อให้สำนักอย่างเดียว
ความคิดเห็นที่ 31
ยุทธภพ หรือยุทธจักร สมัยที่ จำลอง พิศนาคะ แปลเรื่อง มังกรหยก ใช้คำว่า "วงนักเลง"
เพราะจอมยุทธ หรือชาวยุทธ จริง ๆ ก็คือ นักเลง
ทีนี้แถบที่นักเลงชุม เป็นจุดที่เรียกว่า กังโอ๊ว คือ จุดระหว่างแม่นำ้สองสาย เพราะมีนักแสวงโชค นักเดินทาง ทำการค้าขาย
และแน่นอน ทางการยังเข้าไปควบคุมได้ไม่ทั่วถึง
ธุรกิจเหล่านี้ จึงต้องพึ่งพา นักเลง หรือเหล่าจอมยุทธ ซึ่งสมัยก่อนไม่มีปืน เลยต้องใช้ฝีมือวัดกัน
จอมยุทธเหล่านี้ ต้องหาทางเรียนวิชาต่อสู้จากสำนักต่าง ๆ มีชื่อเสียงบ้าง เรียนจากครูไม่มีสังกัดบ้าง
และต้องวัดฝีมือกันเรื่อย ๆ
บางคนก็เป็นคนมาจากตระกูลพ่อค้า ขุนนางอยู่แล้ว บางคนก็ยากจน
แต่หากมีฝีมือ ก็ทำเงินได้ ทั้งคบไว้เป็นพวก คุมบ่อน คุมการค้า รับจ้างใช้ฝีมือทำแบบพวกนักเลง มาเฟีย ยากูซ่าพวกนี้แหละ
พวกที่พอมีกติกา มีกฏเกณฑ์ ก็เป็นจอมยุทธฝ่ายคุณธรรมไป พวกที่ไร้กฏเกณฑ์ ก็กลายเป็นฝ่ายอธรรม
ดังนั้น จอมยุทธ = นักเลง มาเฟีย ยากูซ่า แต่จะมีทั้งฝ่ายมีกฏ และไร้กฏ ฝ่ายเทพ มาร ต่างจากนักเลง ยากูซ่า มาเฟีย ในยุคนี้ ที่มักจะเป็นฝ่ายอธรรมฝ่ายเดียว
สรุปคือ มาเฟีย นักเลง ยากูซ่า ได้เงินมาแบบไหน จอมยุทธก็ได้มาแบบนั้น
นักเลง ยากูซ่า มาเฟีย ฆ่าด้วยปืน และไร้กฏเกณฑ์ แต่จอมยุทธ ใช้ฝีมือ ใช้ศิลปการต่อสู้ และบ้างมีกฏ บ้างก็ไม่มีกฏ
และสำนักต่าง ๆ ที่ฝึกฝีมือให้ บ้างก็เป็นแหล่งรวมนักเลง บ้างก็เป็นโรงเรียนวิชาศิลปป้องกันตัว รายได้ ทั้งกิจการสำนักเอง ทั้งค่าเรียน ค่าทำบุญ (ในกรณีเป็นวัด) และที่ศิษย์ได้ดิบได้ดีมาบริจาค
พอกระบวนการยุติธรรม ทหาร ตำรวจ เข้มแข็ง จอมยุทธก็หมดไปเหมือนนักเลง แต่ที่ยังมีอยู่ ก็แอบ ๆ มีอิทธิพลกันไป
เพราะจอมยุทธ หรือชาวยุทธ จริง ๆ ก็คือ นักเลง
ทีนี้แถบที่นักเลงชุม เป็นจุดที่เรียกว่า กังโอ๊ว คือ จุดระหว่างแม่นำ้สองสาย เพราะมีนักแสวงโชค นักเดินทาง ทำการค้าขาย
และแน่นอน ทางการยังเข้าไปควบคุมได้ไม่ทั่วถึง
ธุรกิจเหล่านี้ จึงต้องพึ่งพา นักเลง หรือเหล่าจอมยุทธ ซึ่งสมัยก่อนไม่มีปืน เลยต้องใช้ฝีมือวัดกัน
จอมยุทธเหล่านี้ ต้องหาทางเรียนวิชาต่อสู้จากสำนักต่าง ๆ มีชื่อเสียงบ้าง เรียนจากครูไม่มีสังกัดบ้าง
และต้องวัดฝีมือกันเรื่อย ๆ
บางคนก็เป็นคนมาจากตระกูลพ่อค้า ขุนนางอยู่แล้ว บางคนก็ยากจน
แต่หากมีฝีมือ ก็ทำเงินได้ ทั้งคบไว้เป็นพวก คุมบ่อน คุมการค้า รับจ้างใช้ฝีมือทำแบบพวกนักเลง มาเฟีย ยากูซ่าพวกนี้แหละ
พวกที่พอมีกติกา มีกฏเกณฑ์ ก็เป็นจอมยุทธฝ่ายคุณธรรมไป พวกที่ไร้กฏเกณฑ์ ก็กลายเป็นฝ่ายอธรรม
ดังนั้น จอมยุทธ = นักเลง มาเฟีย ยากูซ่า แต่จะมีทั้งฝ่ายมีกฏ และไร้กฏ ฝ่ายเทพ มาร ต่างจากนักเลง ยากูซ่า มาเฟีย ในยุคนี้ ที่มักจะเป็นฝ่ายอธรรมฝ่ายเดียว
สรุปคือ มาเฟีย นักเลง ยากูซ่า ได้เงินมาแบบไหน จอมยุทธก็ได้มาแบบนั้น
นักเลง ยากูซ่า มาเฟีย ฆ่าด้วยปืน และไร้กฏเกณฑ์ แต่จอมยุทธ ใช้ฝีมือ ใช้ศิลปการต่อสู้ และบ้างมีกฏ บ้างก็ไม่มีกฏ
และสำนักต่าง ๆ ที่ฝึกฝีมือให้ บ้างก็เป็นแหล่งรวมนักเลง บ้างก็เป็นโรงเรียนวิชาศิลปป้องกันตัว รายได้ ทั้งกิจการสำนักเอง ทั้งค่าเรียน ค่าทำบุญ (ในกรณีเป็นวัด) และที่ศิษย์ได้ดิบได้ดีมาบริจาค
พอกระบวนการยุติธรรม ทหาร ตำรวจ เข้มแข็ง จอมยุทธก็หมดไปเหมือนนักเลง แต่ที่ยังมีอยู่ ก็แอบ ๆ มีอิทธิพลกันไป
ความคิดเห็นที่ 24
ริจะเป็นจอมยุทธ ต้องพร้อม เริ่มแรกต้องไปเรียนวิชากับอาจารย์หลายปี ไม่ได้เรียนหนังสือเพื่อทำมาหากิน ดังนั้นต้องรู้วิธีหาเงินมาใช้ ซึ่งในหนังมักไม่บอกเราว่า จอมยุทธ์หาเงินมาได้อย่างไร
แต่ที่แน่ๆ โดเรม่อนยังอาย กระเป๋าโดเรม่อนหรือจะสู้แขนเสื้อจอมยุทธ์ อยากได้อะไรก็ล้วงเอาจากในนั้น ทั้งคำภีร์ดาบ ตำรากระบี่ และคู่มือฝึกหมัดมวย ล้วงทีไรได้ออกมาทุกครั้ง ตั๋วแลกเงิน เงินแท่งทองแท่ง อีแปะ ล้วนแล้วแต่ล้วงออกมาได้จากแขนเสื้อ และแปลกมากที่เวลาประลองยุทธ์ สิ่งขงเหล่านี้ไม่เคยหล่นออกมาจากแขนเสื้อเลยสักครั้ง ยกเว้นมันจะเป้นของสำคัญที่ทำหายแล้วเกิดเรื่อง แบบนั้นหล่นหายได้
อาชีพหนึ่งที่จอมยุทธ์น่าจะทำได้ คือสำนักคุ้มกันภัย เนื่องด้วยในยุทธภพนั้น โจรชุมยิ่งกว่ายุง ใครจะเดินทาง ส่งของ ส่งทรัพย์สินเงินทอง เป็นต้องโดนโจรปล้นทุกครั้งไป สำนักคุ้มกันภัยจึงสำคัญ และมักจะจ้างจอมยุทธ์มาเป็นผู้คุ้มกัน เพราะเก่งกว่าโจรกระจอกมาก
อีกอาชีพหนึ่งเห็นจะได้แก่ รับคุ้มครองสำนักคณิกา เพราะนี่เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่มีเรื่องเป็นประจำ เพราะมักจะมีคุณชายมาแย่งนางคณิกาประจำสำนัก จอมยุทธ์จึงจำเป็นสำหรับการป้องปราม เพียงเอาป้ายชื่อมาติดไว้ คล้ายๆป้ายเภสัชกรตามร้านขายยา ซึ่งตัวไม่ต้องอยู่ก็ได้ เหล่าอันธพาลและคุณชายจอมเกเร เพียงเห็นชื่อว่ามีจอมยุทธ์คุ้มครอง ก็มักจะขยาด คล้ายๆผู้กว้างขวางแถวผับบาร์ย่านอาร์ซีเอหรือทองหล่อ ลองขึ้นชื่อว่าที่นี่ใครคุม นักเลงมักไม่กล้าตอแย
ส่วนตามโรงเตี๊ยมโรงเหล้า ขอเพียงจอมยุทธมานั่งร่ำสุรา ก็เหมือนได้บารมีมาคุ้มกัน ทั้งนี้ยกเว้นจอมยุทธสองคนมาอยู่ในโรงเตี๊ยมเดียวกัน เหมือนเสือสองตัวมาอยู่ถ้ำเดียวกัน ถ้าไม่ใช่ตัวผู้ตัวหนึ่งกับตัวเมียตัวหนึ่งแล้ว มักจะกัดกันเล่นแก้กลุ้ม และเสือนั้นมันไม่ชอบไม้ป่าเดียวกัน จอมยุทธ์ก็เช่นกัน ตั้งแต่ผู้ตอบอ่านหนังสือจีนมา ก็ยังไม่เคยพบจอมยุทธ์เล่นรถไฟกันเลย ดังนั้นเมื่จมยุทธ์มาพบกันในโรงเตี๊ยม ก็จะต้องประลองฝีมือกัน แต่กระนั้นถึงร้านจะพังไปบ้าง เมื่อจบศึกแล้วซ่อมรา้นใหม่ ผู้คนก็มักจะแห่มาดูสถานที่ที่จอมยุทธ์ประลองกัน ยิ่งถ้าถึงตายไปรายหนึ่ง โรงเตี๊ยมก็จะยิ่งดัง ขายดิบขายดี
ทั้งหมดนี้ผู้ตอบนั่งเทียนตอบ อันเป็นวิชาที่ฝึกปรือมาจากซือแป๋ เรียนมาหลายปีเชียวกว่าจะตอบมั่วๆได้แบบนี้
แต่ที่แน่ๆ โดเรม่อนยังอาย กระเป๋าโดเรม่อนหรือจะสู้แขนเสื้อจอมยุทธ์ อยากได้อะไรก็ล้วงเอาจากในนั้น ทั้งคำภีร์ดาบ ตำรากระบี่ และคู่มือฝึกหมัดมวย ล้วงทีไรได้ออกมาทุกครั้ง ตั๋วแลกเงิน เงินแท่งทองแท่ง อีแปะ ล้วนแล้วแต่ล้วงออกมาได้จากแขนเสื้อ และแปลกมากที่เวลาประลองยุทธ์ สิ่งขงเหล่านี้ไม่เคยหล่นออกมาจากแขนเสื้อเลยสักครั้ง ยกเว้นมันจะเป้นของสำคัญที่ทำหายแล้วเกิดเรื่อง แบบนั้นหล่นหายได้
อาชีพหนึ่งที่จอมยุทธ์น่าจะทำได้ คือสำนักคุ้มกันภัย เนื่องด้วยในยุทธภพนั้น โจรชุมยิ่งกว่ายุง ใครจะเดินทาง ส่งของ ส่งทรัพย์สินเงินทอง เป็นต้องโดนโจรปล้นทุกครั้งไป สำนักคุ้มกันภัยจึงสำคัญ และมักจะจ้างจอมยุทธ์มาเป็นผู้คุ้มกัน เพราะเก่งกว่าโจรกระจอกมาก
อีกอาชีพหนึ่งเห็นจะได้แก่ รับคุ้มครองสำนักคณิกา เพราะนี่เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่มีเรื่องเป็นประจำ เพราะมักจะมีคุณชายมาแย่งนางคณิกาประจำสำนัก จอมยุทธ์จึงจำเป็นสำหรับการป้องปราม เพียงเอาป้ายชื่อมาติดไว้ คล้ายๆป้ายเภสัชกรตามร้านขายยา ซึ่งตัวไม่ต้องอยู่ก็ได้ เหล่าอันธพาลและคุณชายจอมเกเร เพียงเห็นชื่อว่ามีจอมยุทธ์คุ้มครอง ก็มักจะขยาด คล้ายๆผู้กว้างขวางแถวผับบาร์ย่านอาร์ซีเอหรือทองหล่อ ลองขึ้นชื่อว่าที่นี่ใครคุม นักเลงมักไม่กล้าตอแย
ส่วนตามโรงเตี๊ยมโรงเหล้า ขอเพียงจอมยุทธมานั่งร่ำสุรา ก็เหมือนได้บารมีมาคุ้มกัน ทั้งนี้ยกเว้นจอมยุทธสองคนมาอยู่ในโรงเตี๊ยมเดียวกัน เหมือนเสือสองตัวมาอยู่ถ้ำเดียวกัน ถ้าไม่ใช่ตัวผู้ตัวหนึ่งกับตัวเมียตัวหนึ่งแล้ว มักจะกัดกันเล่นแก้กลุ้ม และเสือนั้นมันไม่ชอบไม้ป่าเดียวกัน จอมยุทธ์ก็เช่นกัน ตั้งแต่ผู้ตอบอ่านหนังสือจีนมา ก็ยังไม่เคยพบจอมยุทธ์เล่นรถไฟกันเลย ดังนั้นเมื่จมยุทธ์มาพบกันในโรงเตี๊ยม ก็จะต้องประลองฝีมือกัน แต่กระนั้นถึงร้านจะพังไปบ้าง เมื่อจบศึกแล้วซ่อมรา้นใหม่ ผู้คนก็มักจะแห่มาดูสถานที่ที่จอมยุทธ์ประลองกัน ยิ่งถ้าถึงตายไปรายหนึ่ง โรงเตี๊ยมก็จะยิ่งดัง ขายดิบขายดี
ทั้งหมดนี้ผู้ตอบนั่งเทียนตอบ อันเป็นวิชาที่ฝึกปรือมาจากซือแป๋ เรียนมาหลายปีเชียวกว่าจะตอบมั่วๆได้แบบนี้
แสดงความคิดเห็น
จอมยุทธ์ในหนังจีนอยู่กินยังไงหรอคะ