แนวกินอีสานบ้านเฮา 100 เมนู ตอนที่ 15 เมนูที่ 15 อ่อมอีกะปูนา


แนวกินอีสานบ้านเฮา 100 เมนู ตอนที่ 15 เมนูที่ 15
อ่อมอีกะปูนา



กลับมาพ้อกันอีกแล้วเนาะครับเนาะ พ่อแม่พี่น้องของบักอ้าย
สำหรับมื้อนี้กะกลับมาพร้อมกับแนวกินอีสานบ้านเฮา
ที่ถือได้ว่า หากินได้ยากพอสมควร สำหรับคนที่เข้ามาอาศัยอยู่ในเมือง
ส่วนคนอีสานบ้านนา กะเริ่มหากินยากคือกัน ย้อนว่านาข้าว
คุมื้อนี้เต็มไปด้วยสารเคมี กะเลยเฮ็ดให้จำนวนอีกะปูนาลดน้อยถอยลงไปนำ
แม่นแล้วครับ เมนูที่บักอ้ายที่เอามาฝากมื้อนี้ คือ
อ่อมอีกะปูนา

ตอนที่แล้วอ้ายกะได้เว้าพื้นแม่ใหญ่นวลให้ฟังไปแล้ว
ตอนนี้อ้ายกะสิเว้าพื้นพ่อใหญ่ชายให้ฟังอีกผุหนึ่ง
อ้ายชายเลาอยู่บ้านเหล่า ส่วนสาวนวลเพิ้นอยู่บ้านกุดจิก สองหมู่บ้านนี้อยู่ติดกัน
โดยเฉพาะที่นาของอ้ายชายกับสาวนวล เฮ็ดให้ทั้งสองต้องพ้อหน้ากันอยู่คุมื้อ


อ้ายชายเรามีน้องสาวผุหนึ่ง ถ้านับญาติกับบักอ้ายกะต้องเอิ้นว่า อา
น้องสาวอ้ายชายชื่อว่า กาย
สมัยที่หัวที่เข้าโรงเรียนชั้น ปอ หนึ่ง เด็กหญิง กาย ก็ลุกขึ้นแนะนำโตหน้าชั้นเรียน
“สวัสดีค่ะ ชื่อว่าเด็กหญิง กาย ค่ะ”
“ชื่อเธอแปลว่าอีหยัง เด็กหญิงกาย”ครูถามขึ้น
“กาย ที่ แปลว่า ผู้ชาย ใช่บ่”
“บ่แม่นค่ะครู ตอนที่อีแม่เบ่งหนูออกมาจากท้อง อีพ่อบอกว่า
มีหนูมันแล่นกายมา อีพ่อเลยตั้งชื่อให้ว่า หนูกายค่ะ”
นั่นกะคือที่มาของชื่อเด็กหญิงกาย คือ หนูวิ่งผ่านไปตอนลืมตาเบิ่งโลกนั่นเอง


เว้าเรื่องชื่อเสียงเรียงนามขึ้นมา อ้ายกะขอเว้าต่อแน่เนาะ
เด็กน้อยคุมื้อนี้มักตั้งชื่อมันเอิ้นยากๆ ชื่อไทยแบบสมัยอ้ายแทบบ่มีแล้ว

จักเช่น บักหมัก บักโจ่ย บักตึ๋ง บักเหมียน บักแหวง แบบนี้แม้

ส่วนนี้ยุคสมัยนี้กลายเป็น

บักแบรี่ บักเวียร์ บักอาร์ บักท๊อฟฟี่ โอ้ยมีแต่ชื่อฝรั่งๆ

ส่วนชื่อจริง กะสรรหาคำยากๆมาตั้ง ยกตัวอย่างเช่นลูกชายของญาติบักอ้าย
พ่อมันชื่อ มานะ ตั้งชื่อลูกชายว่า เด็กชาย นฤกฤษณะณ์ ชื่อเล่น น้องฟิวโล่
เป็นจั่งได๋ ตั้งชื่อลูกซะอ้ายอ่านบ่ออก

หลายๆคนกะคือจะเปลี่ยนชื่อเจ้าของมาเป็นลักษณะนี้คือกัน
เว้าเรื่องเปลี่ยนชื่อแล้ว อ้ายเว้าพื้นพ่อใหญ่ชายให้ฟังต่อเนาะ


หลังจากที่อ้ายชายเอาปลามาให้สาวนวลคุมื้อ จู่ๆมื้อหนึ่งอ้ายชายเพิ้นกะหายหน้าไป
จากมื้อหนึ่ง เป็นสองมื้อ จากสองมื้อ กลายเป็นหนึ่งสัปดาห์ สาวนวลกะเริ่มผิดสังเกต
จนอยู่บ่สุขแหลว ย่อนว่าเพิ้นมักอ้ายชายแล้วแม้ พอตกยามแลง ยามลงไปอาบน้ำในแม่น้ำมอ
หมดเพลงถ่านไฟฉายตากบ อ้ายชายกะยังบ่โผล่หน้ามา
สาวนวลกะสอดส่องสายตาแนมหา แต่กะบ่พ้อ
หัวใจของผู้สาวกะเริ่มห่อเหี่ยวฮั่นแหลว
อุตส่าห์เอาสบู่นกแก้วก้อนใหม่มาท่าให้เขามายืมถู แต่เขากะบ่มา

“กลับบ้านกันเถอะเอื้อย”สาวจันทร์เมืองชวน

มื้อนั่นหมดคืนสาวนวลกะถึงกับกินบ่ได้นอนบ่หลับ
พอตื่นเช้ากะฟ้าวย่างลัดทุ่งไปบ้านเหล่า โดยที่บ่ได้บอกผู้ได๋จักคน
ย่างตรงไปยังเฮือนของอ้ายชาย ปรากฏว่าพ้อแต่สาวกาย น้องสาวของอ้ายชาย

“อ้ายชายไปได๋จ้า”สาวนวลถาม

“อ้ายชายเพิ้นถืกเอิ้นไปลานตระเวนชายแดนสระแก้ว”
สาวกายตอบ ท่อนั้นล่ะกะเฮ็ดให้สาวนวลโล่งอกโล่งใจ


อ้ายชายเลาเป็นทหารพราน เลากะมักสิถูกเรียกตัวให้ไปช่อยงานราชการทหารอยู่บ่อยๆ
แต่เทื่อนี้กำลังลาดตระเวนเข้าไปในป่า จู่ๆ หมู่ของอ้ายชายที่ย่างนำหน้าไป กะเหยียบกับระเบิดดัง
“ตู้ม”
อ้ายชายต้องฟ้าวเขาไปช่อยหามออกมา ปรากฏว่าทหารพรานผุนั้นขาขาดต้องตัดทิ่ม


อ้ายชายกลับมาอีพ่ออีแม่เพิ้นกะเลยสู่ขวัญให้ แล้วๆหมอธรรมบอกว่าดวงอ้ายชายบ่ดี
ต้องแก้เคล็ดโดยการเปลี่ยนชื่อให้ใหม่
จากชื่อว่า "อ้ายชาย" เปลี่ยนให้เป็น "อ้ายเคน" แทน


พอแล้วธุระ อ้ายเคนกะฟ้าวมาหาสาวนวลด้วยความคึดฮอด
ในมือหอบหิ้วของฝากของต้อนมาเต็ม สาวนวลกำลังนั่งเลี้ยงควายอยู่ใต้ต้นดอกจาน
พอเห็นหน้าผู้บ่าวกะดีใจแล่นเข้าไปหา ฮับเอาของฝากของต้อนมาด้วยหัวใจพองใหญ่

“สำบายดีบ่อ อ้ายชาย”สาวนวลถาม

“อ้ายเปลี่ยนชื่อใหม่แล้วเด้ ชื่อ อ้ายเคน”อ้ายเคนบอกทั้งอยากอายชื่อใหม่เจ้าของ

“เป็นหยังจั่งเปลี่ยน”

“หมอธรรมบอกอ้ายมีเคาะห์”ว่าสั่น

“ลองเอิ้นเบิ่งดู่”เพิ่นบอกผู้สาว

“อ้ายเคน”

“ปุด”เสียงดังมาจากทางอ้ายเคน เพิ้นยืนบิดไปบิดมาอยู่

“เป็นหยัง อ้ายเคน”

“ปู้ด”บัดทีนี้เสียงดังชัดเจน อ้ายเคนเพิ่นตด กะหยังว่า
อ้ายเคนหน้าแดงก่ำ ฟ้าวแล่นลงทุ่งไปทันที สาวนวลนั่งลงหัวร่อจนท้องแข็ง

พอแล้วธุระ อ้ายเคนกะย่างกลับมา อยากอ้ายผู้สาวหลายเด้บัดทีนี่

“อ้ายขอโทษเด้อ จู่ๆอ้ายกะเจ็บท้อง สงสัยมื้อเซ้ากินซุบหน่อไม้ส้มหลายโพด”

“อ้ายเคน”สาวนวลเอิ้นอีก

“ปุด”มันมาอีกแล้ว

“อ้ายเคน”สาวนวลเป็นห่วง เห็นอ้ายเคนยืนตัวบิดไปมาอีกแล้ว

“ปู้ด”มาทั้งกลิ่นทั้งก้อน อ้ายเคนหน้าเสีย กระโจนลงแม่น้ำมอแทบบ่ทัน

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาอ้ายชายบอกว่า
"คันผู้ได๋เอิ้นกรูว่าอ้ายเคนอีก กรูสิเตะปากมันให้แตก"เลาประกาศก้อง

เพราะทุกทื้อที่เพิ้นได้ยินคำว่าอ้ายเคน เพิ้นกะสิคิดเห็นภาพเพิ้นขี้แตกใส่ซ่งต่อหน้าต่อตาสาวนวล
สุดท้ายอ้ายเคนกะเลยเปลี่ยนชื่อกลับมาเป็นอ้ายชายคือเก่า

“เซ้าเว้าๆ พ่ออยากอาย”พ่อใหญ่ชายยกมือขึ้นห้ามบักอ้าย
ส่วนแม่ใหญ่นวลกะเคี้ยวหมากอยู่ ทั้งเคี้ยวไปทั้งหัวร่อไปนำ



แสงแดดยามเช้าส่งเข้ามา ผู้ใหญ่ชายกับแม่ใหญ่นวลกำลังสิเตรียมเฮ็ดลานตีข้าว
เอาไว้ก่อนที่สิเกี่ยวข้าว หนีบ่อพ้นอ้ายที่ต้องเป็นผู้ช่อยเพิ้น ผู้ใหญ่ชายใช้บักจกถากพื้นนา
ที่อยู่ใกล้ๆเถียงนาให้เป็นลานดินกว้างๆ ถากทั้งกอข้าว ทั้งกอหญ้าออกจนมันแปน
แล้วจั่งให้อ้ายไปช่อยกันขนเอาขี้ควายที่ควายมันหัวแต่ขี้ ยังใหม่ๆออกมาจากคอก
เอามากองเอาไว้ เพื่อเฮ็ดลานนวดข้าว ส่วนแม่ใหญ่นวลกะไปหาบน้ำ
มาเทใส่ลานดินเพื่อบ่ให้หน้าดินมันแห้งเกินไป
    

“เหม็นบ่อ้าย”พ่อใหญ่ชายหัวร่ออ้าย เพราะว่าเห็นขี้ความติดเต็มหน้าอ้าย
เพราะว่าอ้ายกำลังช่อยเอาสองขาย่ำลงไปที่กองขี้ควายสดๆ
เพื่อที่ให้ขี้ควายละเอียดจนเป็นเนื้อเดียวกัน ส่วนพ่อใหญ่ชายเลากะกำลัง
เอาไม้ขัดมอญปัดกวาดผงดินออกให้ลานดินมันเรียบ

“พอแล้วหล้า”แม่ใหญ่นวลว่า หลังจากวางกะคุน้ำลง เลาเทน้ำลาดไปจนทั่ว
แล้วกะเอากะคุมาตักเอาขี้ควายไปให้ผัว พ่อใหญ่ชายเลาบอกลูกชายหล้าเราว่า
ขั้นตอนนี้เพิ้นเอิ้นว่า “ยาลาน”ว่าแล้วกะเอาขี้ควายทาไปทั่วๆหน้าลานดินจนเต็ม
แล้วจั่งทิ่มเอาไว้ให้ขี้ควายมันแห้ง ต้องทาให้ขี้ควายหนาและเรียบจักหน่อย

เพราะว่ายามตีข้าว เม็ดข้าวเปลือกสิได้บ่ต้องหลุดลงไปอยู่ในขุมในบ่อ
มื้อนั่นตัวของบักอ้ายกะเลยเต็มไปด้วยขี้ควาย ทั้งเหม็นทั้งม่วนแม้
กว่าจะยาลานแล้วกะบ่ายคล้อย พ่อใหญ่ชายเลากะเลาะไปขอเอาฟางข้าว
มาจากนาข้างๆที่เพิ้นเกี่ยวข้าวและตีข้าวขึ้นเล้าแล้วมาเฮ็ดเป็นกระท่อมเพื่อที่สิได้นอนนา
นอนเฝ้าข้าว เลาเฮ็ดสองหลัง หลังหนึ่งสินอนกับลูกชาย ส่วนอีกหลังสิให้เมียเลานอน
เมียเลากะแม่ใหญ่นวลแม่บักอ้ายนั้นล่ะ

“ไปๆสิพาไปขุดอีกะปูมากินแลง”สองผัวเมียว่า

“เหม็นขี้ควาย”บักอ้ายว่า

“ขุดอีปูแล้วค่อยกลับมากระโดดน้ำในสระ”พ่อใหญ่ชายบอก
สามคนพ่อแม่ลูกกะเลยย่างไปหาขุดอีกะปูตามท้องนาที่เกี่ยวข้าวออกมาจนหมดแล้ว
พอเห็นฮูกะขุดลงไป บ่โดนกะได้อีกะปูนามาหลายเติบ






“พอแล้วล่ะ”แม่ใหญ่นวลว่า
เวลาที่บักอ้ายรอคอยกะมาฮอดแล้ว ได้ไปกระโดดน้ำในสระข้างเถียงนาเล่น ดังต้ามๆ สมใจ

“อย่าเล่นโดนเด้อ เดี่ยวบักหอยหันมันกัดสิว่าแม่บ่บอก”
แม่ใหญ่นวลเอาอีกะปูไปขังให้มันคายดินออกเอาไว้ท่า ในขณะที่พ่อกับลูกยังลอยน้ำเล่นกันอยู่
แจ่แม่นปากแม่ใหญ่นวลเลาแม่นน้อ บ่ทันโดนทั้งบักอ้ายทั้งพ่อใหญ่ชายก็ต้องฟ้าวแล่นขึ้นมาจากน้ำ
เกาะขาเกาแขน เพราะว่าถืกบักหอยคันกัดฮั่นแหลว



(ขอบคุณรูปงามๆจากออนซอนอีสานเด้อครับ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่