หลังจากที่หนังShin Godzilla เข้ามาไม่กี่วัน ก็มีเสียงวิพากท์ออกมาสองแบบคือ สนุกมาก กับน่าเบื่อสุดๆ ซึ่งความน่าเบื่อของหนังที่ทุกคนบ่นกันก็คือเนื้อเรื่องที่เนิบนาบ การเมืองสุดๆ ซึ่งก็ไม่แปลกที่คนจะไม่ชอบ เพราะเมื่อพูดถึงหนังสัตว์ประหลาดถล่มเมือง คนก็จะคิดว่าต้องเป็นหนังบู๊ล้างผลาน ระเบิดตู้มตาม เหมือนGodzilla 2014 แต่ในShin Godzillaก็มีฉากเหล่านี้นะ แต่น้อย ตัวเรื่องไปโฟกัสที่การหาทางรับมือกับเหตุการณ์ของฝ่ายบริหารมากกว่า ทำให้บางคนติดภาพมาจากภาคของฝั่งอเมริกา เราเลยลองมาเปรียบเทียบ ความเหมือน และแตกต่างของทั้ง2เรื่อง 2ประเทศดู
ต้องบอกเลยว่าตอนแรกไม่ชอบก็อตตัวนี้มาก อคติเลย เพราะติดภาพจาก2014 แต่พอได้อ่านสปอย ทำให้รู้สึกสนใจ เลยไปดูปรากฎว่าชอบหวะ มันใช่เลย ค่อนข้างสมจริงในเรื่องการรับมือ ตัวคนมันไม่เวอร์เกิน มันไม่ฮีโร่เกิน แต่ตอนท้ายเรื่องนี่แบบมาหมดทั้งฮีโร่ ทั้งเวอร์ ซึ่งก็เข้าใจถ้าปล่อยให้พี่ก็อตกลับลงทะเลแล้วมนุษย์แพ้ หรือปล่อยให้ทิ้งระเบิดนิวเคลียแล้วเมืองวินาศก็คงหดหู่ไป
- ภาพรวมของเรื่อง และมุมมองของตัวคนดู
+ Godzilla 2014
- จะเป็นการเล่าถึงMutoสัตว์ประหลาดที่มากจากไหนก็ไม่รู้ซึ่งคาดว่าจะเป็นสัตว์ยุคโบราณ แล้วก็ตื่นขึ้นมากินแหล่งกัมตรังสี และผสมขยายพันธุ์ ตัวพี่ก็อตก็เป็นสัตว์ยุคโบราณที่หลับๆอยู่แล้วพอได้ยินเสียงเรียกของMutoสองตัว นางคงรำคาญไม่ก็กลัวว่าอิสองผัวเมียเนี่ยจะมาแย่งถิ่นที่อยู่ (ตามสัญชาตญาณสัตว์) ก็เลยต้องลุกขึ้นมาปกป้องถิ่นที่อยู่ แล้วก็สู้กัน /// ถ้าให้เดาว่าทำไมถึงเล่าถึงมูโตมากกว่าพี่ก็อตก็เพราะว่า คนดูรู้จักพี่ก็อตดีอยู่แล้ว และต้องการบอกคนดูถึงความเป็นมาของมูโตที่เป็นสัตว์ประหลาดตัวใหม่ในโลกภาพยนต์ คนดูจะได้ไม่งงว่า สองผัวเมียนี่มาจากไหน
- ตัวหนังได้มีการอธิบายทุกอย่างให้คนดูได้รู้ถึงที่มาของทั้งพี่ก็อตและมูโตผ่านการคาดเดาและวิเคราะห์ของนักวิทยาศาสตร์เพื่อเป็นการปูเรื่องให้คนดูเข้าใจ และดำเนิดเรื่องผ่านตัวทหาร + นักวิทย์ + คนทั่วไป
- คนดูจะเสมือนตัวเองเป็นทหารบนเรือบ้าง คนทั่วไปบ้าง และนักวิทย์บ้าง
+ Shin Godzilla 2016
- จะเป็นการเล่าถึงการระเบิดของอะไรซักอย่างใต้อ่าวโตเกียว และมีการจัดประชุมของนักการเมืองเพื่อถกกันถึงสาเหตุของสิ่งที่เกิดขึ้น ในระหว่างการการประชุมหาสาเหตุนั้น ก็มีการขึ้นบกของสัตว์ประหลาดยักษ์ ที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันขึ้นมาทำไม เพราะตัวหนังไม่ได้อธิบายไว้ชัดเจน ออกมาเดินๆ แล้วก็วิวัฒนาการร่าง นักการเมืองก็ได้แต่นั่งเงิบ เพราะไม่เคยเห็นมาก่อน ทำอะไรไม่ถูก เพราะไม่มีข้อมูลอะไรเลย นักวิทย์ก็ช่วยไม่ได้ แล้วนางก็ลงน้ำไป เพราะร่างกายร้อนเกิน ในกลางเรื่องถึงได้เฉลยว่าสัตว์ตัวนี้เกิดจากสัตว์ทะเลที่ไปกินกากกัมตรสีที่ถูกทิ้งลงในทะเล แล้วกลายพันธุ์
- ตัวหนังจะไม่อธิบายถึงเรื่องราวให้คนดูได้รู้ แต่จะค่อยๆเฉลยให้รู้ไปพร้อมๆกับตัวละครในเรื่องผ่านการค้นหา และข้อมูลที่มีอาจารย์ท่านหนึ่งทิ้งไว้ให้ และข้อมูลจากทางฝั่งอเมริกา ตัวหนังจะดำเนินเรื่องผ่านเหล่านักการเมืองฝ่ายบริหารประเทศ
- คนดูจะเสมือนตัวเองเป็นหนึ่งในนักการเมือง หรือเป็นเลขาที่คอยดูสถานการณ์อยู่ในห้องประชุม
- ที่มาของตัวGodZilla
+ 2014
- หนังได้เล่าว่าพี่ก็อตเป็นนักล่ายุคสร้างโลก ที่กินสารกัมตรังสีเป็นอาหาร เมื่อสารกัมตรังสีในอากาศหมดลง พี่แกเลยต้องลงไปใช้ชีวิตกินอยู่ใต้โลกที่ยังมีสารกัมตรังสีอยู่ แล้วขึ้นมาเล่นบนพื้นโลก(ในทะเล)บ้างเป็นบางครั้ง ตันเรื่องจะเห็นว่าพี่แกขึ้นมาบนพื้นโลกแล้วพอพวกนักวิทย์รู้ก็กลัวแล้วคิดจะกำจัดพี่แก เลยทิ้งบอม แต่พี่แกไม่ตาย /// มีเกร็ดเล็กน้อยในฉากนี้ ตอนทิ้งบอม คนทั่วไปจะคิดว่ามันคือการทดลองระเบิด แต่นักวิทย์ได้เล่าว่ามันคือการกำจัดก็อต ซึ่งเป็นฉากเดียวกับGodzilla 1998 ที่เล่าว่ามีการทดลองระเบิด แล้วกิ้งก่าได้รับสารเลยกลายพันธ์ุ ถ้าจะผูกทั้งสองภาคเข้าด้วยกัน คงเป็นฉากนี้แหละ
+ 2016
- หนังได้เล่าว่าพี่ก็อตภาคนี้แต่เดิมเป็นสัตว์น้ำ ซึ่งไปกินกากนิวเคลียที่มีสารกัมตรังสี เลยกลายพันธ์ุ ซึ่งถ้าเราย้อนกลับไปในภาคเริ่มต้น พี่ก็อตก็เกี่ยวพันธุ์กับระเบิดนิวเคลีย แต่ในปัจจุบันระเบิดนิวเคลียก็ไม่ได้ระเบิดนานแล้ว เลยเล่นประเด็นการทิ้งขยะนิวเคลียลงทะเลไปเลย
- สถานะของพี่ก็อต
+ 2014
- ในภาคนี้หลายคนคิดว่าพี่ก็อตคือพระเอกช่วยกอบกู้โลก ซึ่งไม่แปลกเพราะดูจากการกระทำ และข่าวในท้ายเรื่องที่ว่าสัตว์ประหลาดช่วยเมือง ซึ่งพอมาลองดูดีๆ พี่แกก็ไม่ใช่พระเอกนะ พี่แกก็อยู่เฉยๆของแกในถิ่นที่อยู่แก อยู่เฉยๆก็มีตัวบ้าอะไรไม่รู้เกิดขึ้นมาแล้วจะมาขยายพันธุ์ในถิ่นแกอีก(โลกทั้งใบ) เป็นเราเราก็ไม่พอใจ เลยต้องออกมาสั่งสอนซักหน่อย พอฆ่าทิ้งหมดทั้งผัวเมียแล้ว แกก็กลับไปนอนต่อ ถ้าตัวหนังไม่ใส่ฉากข่าวตอนท้าย กับเสียงเฮของคนตอนพี่ก็อตตื่น คนดูคงไม่คิดว่าพี่ก็อตเป็นพระเอกช่วยเมืองหรอก
+ 2016
- อยากให้ทุกคนลืมภาพจำของก็อตในยุคหลังๆของญี่ปุ่น เพราะนี่คือการรีบ็ตใหม่หมด ในภาคนี้สถานะของพี่ก็อตคือสัตว์ประหลาดจริงๆ ไม่รู้ที่มาที่ไปที่ชัดเจน ไม่มีคู่ปรับ ไม่รู้สาเหตุการขึ้นมา เดินอยู่ดีๆก็มีคนาทิ้งระเบิดใส่ ก็เลยระบายด้วยการพ่นไฟ เป็นการตอบสนองพื้นฐานของสิ่งมีชีวิตเมื่อมีคนมาทำให้เจ็บ เหมือนคนโดนยุงกันแล้วต้องตบ และสถานะทางปรัชญาพี่ก็อตคือตัวแทนของผลกระทบของนิวเคลีย และสารกัมตรังสี ตัวที่ตะปุ่มตะปั่มคือผลกระทบของสารกัมตรังสี เพราะเคยเห็นใครซักคนบอกว่าคนที่โดนสารก็มีผิดคล้ายๆแบบนี้เหมือนกัน แขนที่ลีบ และหางที่ใหญ่ผิดปกติก็เหมือนความผิดปกติของร่างกาย หรือมะเร็ง ภาพตอนท้ายที่หางของพี่แกที่มีเหมือนกระดูกคนที่งอกออกมา ก็เปรียบเหมือนคนที่ทุกข์ทรมารจากนิเคลียที่ผ่านๆมา ดูๆแล้วถ้าให้เดา พี่แกคงขึ้นมาระบายอารมณ์เฉยๆแหละ
- การเล่าเรื่องผ่านตัวละคร
+ 2014
- ในภาคนี้หนังได้เล่าเรื่องผ่านมุมมองของนักวิทยาศาสตร์ที่ต้องการจะศึกษามัน ทำให้เรารู้ถึงที่มาของพี่ก็อต และมูโต พฤติกรรมของทั้งสอง ที่ผ่านการศึกษามาหลายปี ได้เล่าผ่านมุมมองของทหาร ทั้งกองทัพเรือ และนายทหาร(พระเอก) ทำให้เราได้เห็นฉากการกินนิวเคลียของมูโต การได้เห็นฉากว่ายน้ำของพี่ก็อต ทำให้เห็นฉากต่อสู้กันแบบเอ็กคลูซีบ(ผ่านสายตาของพระเอก) และเล่าผ่านมุมมองของคนทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นนางเอกเอย ลูกนางเอกเอย และคนทั่วไป ทำให้เราได้เห็นพี่ก็อตแปปๆบ้าง เห็นแต่ขาบ้าง เห็นในทีวีบ้าง ด้วยความที่เล่าผ่านมุมมองของหลายๆคน คนดูเลยรู้สึกอินเหมือนอยู่ใกล้ๆ และสนุก
+ 2016
- ในภาคนี้หนังได้เล่าผ่านมุมมองของนักการเมือง ผู้ตัดสินใจทุกอย่าง ตั้งแต่การประชุมวางแผน การวิเคราะห์ผลกระทบ การติดต่อกับต่างชาติ ทำให้คนดูได้เห็นถึงเบื่องหลังการสั่งการทั้งหมดก่อนที่จะเป็นการยิงกันตู้มตาม ทำให้เราได้เห็นกระบวนการคิดทั้งหมด ว่าในการยิงแต่ละนัด คนสั่งการเค้าคิดอะไรบ้าง ซึ่งแน่นอน คนดูอย่างเราไม่อิน เพราะเราไม่คุ้นชินกับการตัดสินใจแบบนี้ เราคือคนธรรมดาที่ต้องการแค่จะเห็นสัตว์ประหลาดยักษ์ที่มาทำลายบ้านเราตายๆไปก็พอ โดยที่ไม่สนหรอกว่าการยิงหนึ่งครั้งจะทำให้ใครโดนลูกหลงบ้าง หรือมีผลกระทบอะไร ทำให้คนดูรู้สึกเบื่อที่ว่าโอ้ยยย จะประชุมอะไรกันนักหนา ยิงๆไปก็จบ ระเบิดๆไปก็จบ ซึ่งนะจุดนี้ความคิดแบบนี้เกิดจากความกลัวสัตว์ประหลาด แต่ไม่ได้กลัวผลกระทบ เพราะคนทั่วไปไม่รู้ว่าฝ่ายบริการจะจัดการในรูปแบบไหน
คนดูบ้านเราอาจไม่ชินกับวัฒนธรรมของญี่ปุ่น ที่ทุกชีวิตมีค่า การสูญเสียชีวิตน้อยที่สุดคือดีที่สุดถ้าทำได้ จากฉากการหยุดยิ่งเพื่อให้สองตายายหนี และหนังยังมีการเหน็บแนมอเมริกาเรื่องนี้ด้วย จากฉากการที่จะทิ้งระเบิดนิวเคลีย แล้วญี่ปุ่นไม่อยากให้ทิ้งเพราะผลกระทบต่อประชากรมัมมีมาก แต่มีฉากที่บอกจากปากตัวละครที่ว่า ถ้าก็อตไปขึ้นที่นิวยอค อเมริการก็ทิ้งระเบิดแน่แบบไม่คิดอะไรมากเท่าไหร่
ซึ่งยอมรับว่าเราอาจติดภาพจากก็อตภาคก่อนๆที่ทิ้งบอมเลย ยิงเลย สั่งการจากหัวหน้าทหาร ซึ่งภาคก่อนๆนั้นเค้าไม่ได้เล่าถึงเบื้องหลังอีกที ว่ากว่าที่ทหารจะยิงได้ใครคือคนตัดสินใจ ใครคือคนวางแผน ใครคือคนสั่งการที่แท้จริง
ทำให้ภาคนี้ที่เลือกจะเล่าถึงเบื้องหลังคำสั่งเหล่านั้น เกือบทั้งเรื่องจึงมีแต่การประชุมๆ เพราะหนังเลือกที่จะเล่าจากมุมเดียว ถ้ามีตัวละครเอกเป็นคนธรรมดา เราคงจะได้เห็นฉากหนีตาย ฉากร้องไห้กลัว แน่นอน
ที่เล่ามาทั้งหมด ซึ่งไม่รู้ว่าบ่นอะไร อยากจะให้คนที่ตัดสินใจดูShin Godzilla หรือดูมาแล้วแล้วไม่เข้าใจจริงๆ และคิดว่าคงเหมือนภาคปี2014 ได้ลองเข้าใจจุดของหนังว่าทำไมถึงออกมาเป็นแบบนี้ดู
หนังShin Godzilla ภาคนี้ไม่ใช่หนังแอคชั่น ที่เด็กดูได้ แต่มันคือหนังการเมืองเทคเรียส ในคราบหนังสัตว์ประหลาด การที่จะดูให้สนุกสำหรับคนต่างชาติคือต้องเข้าใจวัฒนธรรมของญี่ปุ่น มีการศึกษาจุดประสงค์ของหนัง มันคือหนังที่อยากจะแฉนักการเมืองของประเทศตัวเอง ว่าอืดอาดขนาดไหน แก่ขนาดไหน เอาแต่ใจขนาดไหน มันคือหนังที่จะเล่าถึงขั้นตอนการรับมือภัยพิบัติของญี่ปุ่น ที่มีก็อตเป็นเหมือนภัยพิบัติ เพราะถ้าจะเล่าผ่านซึนามิ หรือแผ่นดินไหว มันอาจจะไม่สนุกเพราะไม่เห็นตัวกระทำ
หนังShin Godzillaเหมาะกับใคร ที่จริงก็เหมาะกับทุกคนแหละ แต่มันจะเหมาะมากกับคนที่คลั้งก็อต ชอบหนังหายนะ ชอบหนังวางแผน ชอบหนังการรับมือภัยพิบัติ ชอบแค่ฉาคพ่นไฟแล้วหลับ
ไม่เหมาะกับคนที่ติดภาพเก่าๆของก็อต ติดภาพของ2014 หรือไม่ชอบหนังคุยกันการเมือง ไม่เหมาะกับเด็ก และคนที่คาดหวังจะให้เหมือน 2014 และยุคหลังที่ตบกับสัตว์ตัวอื่น
และขอบอกว่านี่เป็นแค่การวิเคราะห์เล่นๆหลังดูจบ เป็นความเห็นของเราคนเดียว บางเรื่องอาจเข้าใจผิด หรือตกหล่นไปก็ต้องขออภัย และทักท้วง หรือสอบถาม และแชร์ความรู้กันได้ ไม่ชอบจุดไหนของเรื่อง เพราะอาจจะเป็นจุดเดียวกับที่เราไม่ชอบก็ได้ หรือไม่ชอบจุดนี้เพราะไม่เข้าใจก็แชร์กันได้
แต่ไม่เอาแบบไม่ชอบแบบอคติ ไม่มีเหตุผลนะ
(วิเคราะห์แบบเละๆเทะๆ) หนังShin Godzilla 2016 และ Godzilla 2014 (สปอยสุดชีวิตแบบไม่ปิดบัง)
ต้องบอกเลยว่าตอนแรกไม่ชอบก็อตตัวนี้มาก อคติเลย เพราะติดภาพจาก2014 แต่พอได้อ่านสปอย ทำให้รู้สึกสนใจ เลยไปดูปรากฎว่าชอบหวะ มันใช่เลย ค่อนข้างสมจริงในเรื่องการรับมือ ตัวคนมันไม่เวอร์เกิน มันไม่ฮีโร่เกิน แต่ตอนท้ายเรื่องนี่แบบมาหมดทั้งฮีโร่ ทั้งเวอร์ ซึ่งก็เข้าใจถ้าปล่อยให้พี่ก็อตกลับลงทะเลแล้วมนุษย์แพ้ หรือปล่อยให้ทิ้งระเบิดนิวเคลียแล้วเมืองวินาศก็คงหดหู่ไป
- ภาพรวมของเรื่อง และมุมมองของตัวคนดู
+ Godzilla 2014
- จะเป็นการเล่าถึงMutoสัตว์ประหลาดที่มากจากไหนก็ไม่รู้ซึ่งคาดว่าจะเป็นสัตว์ยุคโบราณ แล้วก็ตื่นขึ้นมากินแหล่งกัมตรังสี และผสมขยายพันธุ์ ตัวพี่ก็อตก็เป็นสัตว์ยุคโบราณที่หลับๆอยู่แล้วพอได้ยินเสียงเรียกของMutoสองตัว นางคงรำคาญไม่ก็กลัวว่าอิสองผัวเมียเนี่ยจะมาแย่งถิ่นที่อยู่ (ตามสัญชาตญาณสัตว์) ก็เลยต้องลุกขึ้นมาปกป้องถิ่นที่อยู่ แล้วก็สู้กัน /// ถ้าให้เดาว่าทำไมถึงเล่าถึงมูโตมากกว่าพี่ก็อตก็เพราะว่า คนดูรู้จักพี่ก็อตดีอยู่แล้ว และต้องการบอกคนดูถึงความเป็นมาของมูโตที่เป็นสัตว์ประหลาดตัวใหม่ในโลกภาพยนต์ คนดูจะได้ไม่งงว่า สองผัวเมียนี่มาจากไหน
- ตัวหนังได้มีการอธิบายทุกอย่างให้คนดูได้รู้ถึงที่มาของทั้งพี่ก็อตและมูโตผ่านการคาดเดาและวิเคราะห์ของนักวิทยาศาสตร์เพื่อเป็นการปูเรื่องให้คนดูเข้าใจ และดำเนิดเรื่องผ่านตัวทหาร + นักวิทย์ + คนทั่วไป
- คนดูจะเสมือนตัวเองเป็นทหารบนเรือบ้าง คนทั่วไปบ้าง และนักวิทย์บ้าง
+ Shin Godzilla 2016
- จะเป็นการเล่าถึงการระเบิดของอะไรซักอย่างใต้อ่าวโตเกียว และมีการจัดประชุมของนักการเมืองเพื่อถกกันถึงสาเหตุของสิ่งที่เกิดขึ้น ในระหว่างการการประชุมหาสาเหตุนั้น ก็มีการขึ้นบกของสัตว์ประหลาดยักษ์ ที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันขึ้นมาทำไม เพราะตัวหนังไม่ได้อธิบายไว้ชัดเจน ออกมาเดินๆ แล้วก็วิวัฒนาการร่าง นักการเมืองก็ได้แต่นั่งเงิบ เพราะไม่เคยเห็นมาก่อน ทำอะไรไม่ถูก เพราะไม่มีข้อมูลอะไรเลย นักวิทย์ก็ช่วยไม่ได้ แล้วนางก็ลงน้ำไป เพราะร่างกายร้อนเกิน ในกลางเรื่องถึงได้เฉลยว่าสัตว์ตัวนี้เกิดจากสัตว์ทะเลที่ไปกินกากกัมตรสีที่ถูกทิ้งลงในทะเล แล้วกลายพันธุ์
- ตัวหนังจะไม่อธิบายถึงเรื่องราวให้คนดูได้รู้ แต่จะค่อยๆเฉลยให้รู้ไปพร้อมๆกับตัวละครในเรื่องผ่านการค้นหา และข้อมูลที่มีอาจารย์ท่านหนึ่งทิ้งไว้ให้ และข้อมูลจากทางฝั่งอเมริกา ตัวหนังจะดำเนินเรื่องผ่านเหล่านักการเมืองฝ่ายบริหารประเทศ
- คนดูจะเสมือนตัวเองเป็นหนึ่งในนักการเมือง หรือเป็นเลขาที่คอยดูสถานการณ์อยู่ในห้องประชุม
- ที่มาของตัวGodZilla
+ 2014
- หนังได้เล่าว่าพี่ก็อตเป็นนักล่ายุคสร้างโลก ที่กินสารกัมตรังสีเป็นอาหาร เมื่อสารกัมตรังสีในอากาศหมดลง พี่แกเลยต้องลงไปใช้ชีวิตกินอยู่ใต้โลกที่ยังมีสารกัมตรังสีอยู่ แล้วขึ้นมาเล่นบนพื้นโลก(ในทะเล)บ้างเป็นบางครั้ง ตันเรื่องจะเห็นว่าพี่แกขึ้นมาบนพื้นโลกแล้วพอพวกนักวิทย์รู้ก็กลัวแล้วคิดจะกำจัดพี่แก เลยทิ้งบอม แต่พี่แกไม่ตาย /// มีเกร็ดเล็กน้อยในฉากนี้ ตอนทิ้งบอม คนทั่วไปจะคิดว่ามันคือการทดลองระเบิด แต่นักวิทย์ได้เล่าว่ามันคือการกำจัดก็อต ซึ่งเป็นฉากเดียวกับGodzilla 1998 ที่เล่าว่ามีการทดลองระเบิด แล้วกิ้งก่าได้รับสารเลยกลายพันธ์ุ ถ้าจะผูกทั้งสองภาคเข้าด้วยกัน คงเป็นฉากนี้แหละ
+ 2016
- หนังได้เล่าว่าพี่ก็อตภาคนี้แต่เดิมเป็นสัตว์น้ำ ซึ่งไปกินกากนิวเคลียที่มีสารกัมตรังสี เลยกลายพันธ์ุ ซึ่งถ้าเราย้อนกลับไปในภาคเริ่มต้น พี่ก็อตก็เกี่ยวพันธุ์กับระเบิดนิวเคลีย แต่ในปัจจุบันระเบิดนิวเคลียก็ไม่ได้ระเบิดนานแล้ว เลยเล่นประเด็นการทิ้งขยะนิวเคลียลงทะเลไปเลย
- สถานะของพี่ก็อต
+ 2014
- ในภาคนี้หลายคนคิดว่าพี่ก็อตคือพระเอกช่วยกอบกู้โลก ซึ่งไม่แปลกเพราะดูจากการกระทำ และข่าวในท้ายเรื่องที่ว่าสัตว์ประหลาดช่วยเมือง ซึ่งพอมาลองดูดีๆ พี่แกก็ไม่ใช่พระเอกนะ พี่แกก็อยู่เฉยๆของแกในถิ่นที่อยู่แก อยู่เฉยๆก็มีตัวบ้าอะไรไม่รู้เกิดขึ้นมาแล้วจะมาขยายพันธุ์ในถิ่นแกอีก(โลกทั้งใบ) เป็นเราเราก็ไม่พอใจ เลยต้องออกมาสั่งสอนซักหน่อย พอฆ่าทิ้งหมดทั้งผัวเมียแล้ว แกก็กลับไปนอนต่อ ถ้าตัวหนังไม่ใส่ฉากข่าวตอนท้าย กับเสียงเฮของคนตอนพี่ก็อตตื่น คนดูคงไม่คิดว่าพี่ก็อตเป็นพระเอกช่วยเมืองหรอก
+ 2016
- อยากให้ทุกคนลืมภาพจำของก็อตในยุคหลังๆของญี่ปุ่น เพราะนี่คือการรีบ็ตใหม่หมด ในภาคนี้สถานะของพี่ก็อตคือสัตว์ประหลาดจริงๆ ไม่รู้ที่มาที่ไปที่ชัดเจน ไม่มีคู่ปรับ ไม่รู้สาเหตุการขึ้นมา เดินอยู่ดีๆก็มีคนาทิ้งระเบิดใส่ ก็เลยระบายด้วยการพ่นไฟ เป็นการตอบสนองพื้นฐานของสิ่งมีชีวิตเมื่อมีคนมาทำให้เจ็บ เหมือนคนโดนยุงกันแล้วต้องตบ และสถานะทางปรัชญาพี่ก็อตคือตัวแทนของผลกระทบของนิวเคลีย และสารกัมตรังสี ตัวที่ตะปุ่มตะปั่มคือผลกระทบของสารกัมตรังสี เพราะเคยเห็นใครซักคนบอกว่าคนที่โดนสารก็มีผิดคล้ายๆแบบนี้เหมือนกัน แขนที่ลีบ และหางที่ใหญ่ผิดปกติก็เหมือนความผิดปกติของร่างกาย หรือมะเร็ง ภาพตอนท้ายที่หางของพี่แกที่มีเหมือนกระดูกคนที่งอกออกมา ก็เปรียบเหมือนคนที่ทุกข์ทรมารจากนิเคลียที่ผ่านๆมา ดูๆแล้วถ้าให้เดา พี่แกคงขึ้นมาระบายอารมณ์เฉยๆแหละ
- การเล่าเรื่องผ่านตัวละคร
+ 2014
- ในภาคนี้หนังได้เล่าเรื่องผ่านมุมมองของนักวิทยาศาสตร์ที่ต้องการจะศึกษามัน ทำให้เรารู้ถึงที่มาของพี่ก็อต และมูโต พฤติกรรมของทั้งสอง ที่ผ่านการศึกษามาหลายปี ได้เล่าผ่านมุมมองของทหาร ทั้งกองทัพเรือ และนายทหาร(พระเอก) ทำให้เราได้เห็นฉากการกินนิวเคลียของมูโต การได้เห็นฉากว่ายน้ำของพี่ก็อต ทำให้เห็นฉากต่อสู้กันแบบเอ็กคลูซีบ(ผ่านสายตาของพระเอก) และเล่าผ่านมุมมองของคนทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นนางเอกเอย ลูกนางเอกเอย และคนทั่วไป ทำให้เราได้เห็นพี่ก็อตแปปๆบ้าง เห็นแต่ขาบ้าง เห็นในทีวีบ้าง ด้วยความที่เล่าผ่านมุมมองของหลายๆคน คนดูเลยรู้สึกอินเหมือนอยู่ใกล้ๆ และสนุก
+ 2016
- ในภาคนี้หนังได้เล่าผ่านมุมมองของนักการเมือง ผู้ตัดสินใจทุกอย่าง ตั้งแต่การประชุมวางแผน การวิเคราะห์ผลกระทบ การติดต่อกับต่างชาติ ทำให้คนดูได้เห็นถึงเบื่องหลังการสั่งการทั้งหมดก่อนที่จะเป็นการยิงกันตู้มตาม ทำให้เราได้เห็นกระบวนการคิดทั้งหมด ว่าในการยิงแต่ละนัด คนสั่งการเค้าคิดอะไรบ้าง ซึ่งแน่นอน คนดูอย่างเราไม่อิน เพราะเราไม่คุ้นชินกับการตัดสินใจแบบนี้ เราคือคนธรรมดาที่ต้องการแค่จะเห็นสัตว์ประหลาดยักษ์ที่มาทำลายบ้านเราตายๆไปก็พอ โดยที่ไม่สนหรอกว่าการยิงหนึ่งครั้งจะทำให้ใครโดนลูกหลงบ้าง หรือมีผลกระทบอะไร ทำให้คนดูรู้สึกเบื่อที่ว่าโอ้ยยย จะประชุมอะไรกันนักหนา ยิงๆไปก็จบ ระเบิดๆไปก็จบ ซึ่งนะจุดนี้ความคิดแบบนี้เกิดจากความกลัวสัตว์ประหลาด แต่ไม่ได้กลัวผลกระทบ เพราะคนทั่วไปไม่รู้ว่าฝ่ายบริการจะจัดการในรูปแบบไหน
คนดูบ้านเราอาจไม่ชินกับวัฒนธรรมของญี่ปุ่น ที่ทุกชีวิตมีค่า การสูญเสียชีวิตน้อยที่สุดคือดีที่สุดถ้าทำได้ จากฉากการหยุดยิ่งเพื่อให้สองตายายหนี และหนังยังมีการเหน็บแนมอเมริกาเรื่องนี้ด้วย จากฉากการที่จะทิ้งระเบิดนิวเคลีย แล้วญี่ปุ่นไม่อยากให้ทิ้งเพราะผลกระทบต่อประชากรมัมมีมาก แต่มีฉากที่บอกจากปากตัวละครที่ว่า ถ้าก็อตไปขึ้นที่นิวยอค อเมริการก็ทิ้งระเบิดแน่แบบไม่คิดอะไรมากเท่าไหร่
ซึ่งยอมรับว่าเราอาจติดภาพจากก็อตภาคก่อนๆที่ทิ้งบอมเลย ยิงเลย สั่งการจากหัวหน้าทหาร ซึ่งภาคก่อนๆนั้นเค้าไม่ได้เล่าถึงเบื้องหลังอีกที ว่ากว่าที่ทหารจะยิงได้ใครคือคนตัดสินใจ ใครคือคนวางแผน ใครคือคนสั่งการที่แท้จริง
ทำให้ภาคนี้ที่เลือกจะเล่าถึงเบื้องหลังคำสั่งเหล่านั้น เกือบทั้งเรื่องจึงมีแต่การประชุมๆ เพราะหนังเลือกที่จะเล่าจากมุมเดียว ถ้ามีตัวละครเอกเป็นคนธรรมดา เราคงจะได้เห็นฉากหนีตาย ฉากร้องไห้กลัว แน่นอน
ที่เล่ามาทั้งหมด ซึ่งไม่รู้ว่าบ่นอะไร อยากจะให้คนที่ตัดสินใจดูShin Godzilla หรือดูมาแล้วแล้วไม่เข้าใจจริงๆ และคิดว่าคงเหมือนภาคปี2014 ได้ลองเข้าใจจุดของหนังว่าทำไมถึงออกมาเป็นแบบนี้ดู
หนังShin Godzilla ภาคนี้ไม่ใช่หนังแอคชั่น ที่เด็กดูได้ แต่มันคือหนังการเมืองเทคเรียส ในคราบหนังสัตว์ประหลาด การที่จะดูให้สนุกสำหรับคนต่างชาติคือต้องเข้าใจวัฒนธรรมของญี่ปุ่น มีการศึกษาจุดประสงค์ของหนัง มันคือหนังที่อยากจะแฉนักการเมืองของประเทศตัวเอง ว่าอืดอาดขนาดไหน แก่ขนาดไหน เอาแต่ใจขนาดไหน มันคือหนังที่จะเล่าถึงขั้นตอนการรับมือภัยพิบัติของญี่ปุ่น ที่มีก็อตเป็นเหมือนภัยพิบัติ เพราะถ้าจะเล่าผ่านซึนามิ หรือแผ่นดินไหว มันอาจจะไม่สนุกเพราะไม่เห็นตัวกระทำ
หนังShin Godzillaเหมาะกับใคร ที่จริงก็เหมาะกับทุกคนแหละ แต่มันจะเหมาะมากกับคนที่คลั้งก็อต ชอบหนังหายนะ ชอบหนังวางแผน ชอบหนังการรับมือภัยพิบัติ ชอบแค่ฉาคพ่นไฟแล้วหลับ
ไม่เหมาะกับคนที่ติดภาพเก่าๆของก็อต ติดภาพของ2014 หรือไม่ชอบหนังคุยกันการเมือง ไม่เหมาะกับเด็ก และคนที่คาดหวังจะให้เหมือน 2014 และยุคหลังที่ตบกับสัตว์ตัวอื่น
และขอบอกว่านี่เป็นแค่การวิเคราะห์เล่นๆหลังดูจบ เป็นความเห็นของเราคนเดียว บางเรื่องอาจเข้าใจผิด หรือตกหล่นไปก็ต้องขออภัย และทักท้วง หรือสอบถาม และแชร์ความรู้กันได้ ไม่ชอบจุดไหนของเรื่อง เพราะอาจจะเป็นจุดเดียวกับที่เราไม่ชอบก็ได้ หรือไม่ชอบจุดนี้เพราะไม่เข้าใจก็แชร์กันได้
แต่ไม่เอาแบบไม่ชอบแบบอคติ ไม่มีเหตุผลนะ