[Spoil] Danganronpa 3 The End of Kibougamine Gakuen - Mirai Hen ตอนที่ 10



เปิดด้วยฉากลำลึกความหลังที่คิริกิริเคยช่วยนาเอกิเอาไว้ตอนที่ถูกทิ้งในห้องขยะ

พอได้ยินเสียงประกาศของมุนาคาตะ นาเอกิก็เช็ดเลือดบนหน้าของคิริกิริออกแล้วตัดสินใจไปเผชิญหน้าตามคำท้าทาย




จำนวนผู้รอดชีวิต 6 ท่าน (การที่เลขหายจากตอนที่แล้วไปแค่ 3 นี่มันน่าสนุกจริง ๆ อุปุ๊ปุ๊ปุ๊)
ซาคาคุระ รูรูกะ สภาพแบบนั้นตายจริงแน่นอน แต่อีกศพหนึ่งก็ยังปล่อยให้เดากันต่อไปว่าจะนับหุ่นที่โดนผ่าครึ่งด้วยหรือไม่
ถ้านับว่าหุ่นตายได้ด้วยก็แสดงว่าคิริกิริก็ยังมีโอกาสรอดรอด แต่ถ้าไม่นับก็แปลว่ามีตัวละครลับแฝงอยู่เพิ่มอีกหนึ่ง (จากเดิมที่อาจจะมีอยู่แล้วหนึ่งถ้าไม่นับว่าหมอดูเป็นหนึ่งในสิบหก)


นาเอกิบอกให้อนิเมเตอร์อยู่กับอาซาฮินะในระหว่างที่ตัวเองจะไปสะสางเรื่องทั้งหมดกับมุนาคาตะ




นาเอกิเดินผ่านซากหุ่นสองซีกระหว่างเดินทางมุ่งหน้าสู่ห้องบอส


มุนาคาตะนั่งกำรูปภาพพลางนึกถึงอดีตที่จิสะมานั่งร้องไห้กับตัวเองที่มาช่วยเด็ก ๆ ไม่ทัน
คำถามของจิสะที่ว่าต้องทำอย่างไรจึงจะสามารถกำจัดความสิ้นหวังให้หมดไปจากโลกนี้ได้นั้น ทำให้เคียวสุเกะตัดสินใจว่าจะกำจัดความสิ้นหวังให้สิ้นซากไม่ว่าจะต้องฆ่าให้หมดทุกคนก็ตาม




นาเอกินึกถึงความหวังของเขาที่ได้รับมาจากทุกคน ๆ และตัดสินใจจะหยุดมุนาคาตะ
มุนาคาตะเชื่อว่าความสิ้นหวังจะแพร่กระจายต่อไปหากไม่กำจัดให้สิ้นซากและตัดสินใจจะช่วยนาเอกิโดยการฆ่าทิ้ง





แล้วทั้งสองก็มาเผชิญหน้ากัน นาเอกิขอให้มุนาคาตะหยุดไล่ฆ่าแล้วมาช่วยกันเคลียร์เกม แต่มุนาคาตะก็ไม่สนใจคำพูดของนาเอกิแล้วเปิดบังไคใส่




นาเอกิหลบได้แล้วรีบวิ่งหนีออกจากห้องไป
ส่วนมุนาคาตะก็ยังคงฟันกระจกทิ้งตามสไตล์ก็เลยตามนาเอกิที่วิ่งในทางเดินไม่ได้ไปไม่ทัน





ระหว่างนั้นอาซาฮินะก็สังเกตเห็นสมุดบันทึกที่คิริกิรินอนทับเอาไว้



พอมุนาคาตะตามนาเอกิเข้าไปในห้องก็พบกับกับดักม่านควัน


ตามด้วยคาถาน้ำโปรยปราย




ปิดฉากด้วยพลังไฟฟ้า 220 โวลท์



แต่การโจมตีของนาเอกิไม่เป็นผล เพราะโดนสวนกลับด้วยกระบวนท่าดาบระเหยแอ่งน้ำ



ตามด้วยมีดบินปักขาไปหนึ่งดอก




นาเอกิเลยต้องถอยไปตั้งหลักใหม่อีกครั้ง




แล้วนาเอกิก็ได้อาวุธใหม่เป็นถังดับเพลิง ส่วนวิธีใช้อาวุธชนิดนี้ก็คือ...


ความพยายามครั้งที่หนึ่ง: เอาถังดับเพลิงไล่ฟาดแต่โดนเตะสวน



ความพยายามครั้งที่สอง: พ่นควันใส่แต่พ่นไม่ออก


ความพยายามครั้งที่สาม: โยนถังใส่แต่ก็โดนปัดทิ้ง


สุดท้ายเลยต้องอาศัยพลังดวง ถังดับเพลิงที่โดนปัดทิ้งจู่ ๆ ก็พุ่งกลับมาใส่มุนาคาตะจากด้านหลัง





ผลลัพธ์สุดท้ายของการต่อสู้ ถึงนาเอกิจะล้มมุนาคาตะไม่ได้แต่ก็สามารถหยุดมุนาคาตะไม่ให้ฆ่าตัวเองทันทีได้





นาเอกิบอกว่า NG code ของมุนาคาตะคือ[เปิดประตู] เนื่องจากนาเอกิสามารถล่อมุนาคาตะมาในห้องปิดตายได้ ถ้านาเอกิตายในตอนนี้มุนาคาตะก็จะไม่สามารถออกจากห้องได้




นาเอกิยังคงพยายามขอความร่วมมือจากมุนาคาตะ แต่มุนาคาตะก็ยังคงเชื่อว่านาเอกิสิ้นหวังไปแล้ว
มุนาคาตะประกาศชัดเจนว่าความหวังคือการกำจัดความสิ้นหวังให้หมดไป และเขาพร้อมจะทำเช่นนั้นไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม
นาเอกิเลยสวนไปด้วย "Sore wa chigau yo!" เพราะต่อให้กำจัดความสิ้นหวังให้หมดไปได้ ถึงตอนนั้นก็ไม่มีความหวังเหลืออยู่เช่นกัน



มุนาคาตะเลยบอกคำพูดของเท็นกันให้นาเอกิฟังว่าทุก ๆ คนในมิไรคิคังนั้นต่างก็เป็นผู้โจมตีด้วยกันทั้งนั้น รวมถึงจิสะด้วย



ประกอบกับหลักฐานรูปถ่ายที่แสดงให้เห็นว่าจิสะโกหกเรื่องที่ไปช่วยเด็กไม่ทัน (ใครเป็นตากล้องให้ล่ะนั่น...)




มุนาคาตะบอกให้นาเอกิฟังอีกว่า แม้ความสิ้นหวังจะอยู่ในรูปแบบความทรงจำ เขาก็จะกำจัดมันทิ้งด้วยเช่นกัน
พอนาเอกิห้ามไม่ให้มุนาคาตะลืมจิสะก็โดนอัดจนน่วม
แต่นาเอกิก็ยังคงพูดต่อไปว่า ต่อให้คิริกิริกลายเป็นพวกสิ้นหวังแล้วหักหลังทุกคนจนตัวเองต้องหยุดยั้งด้วยการฆ่า เขาก็จะยังคงยินดีที่ครั้งหนึ่งเคยได้พบกับเธอ




ในที่สุดพลังของคำพูดนาเอกิก็สามารถทำให้มุนาคาตะหัวเย็นลงได้







มุนาคาตะตระหนักได้แล้วว่าตัวเองเลือกตัดสินใจผิดไป และในตอนนั้นเองกลุ่มอาซาฮินะก็วิ่งมาหานาเอกิ






อาซาฮินะหันมาหามุนาคาตะพร้อมกับประกาศจบเกมฆาตกรรม เพราะตัวตนที่แท้จริงของคนร้ายถูกระบุอยู่ในสมุดของคิริกิริแล้ว




ตอนต่อไปน่าจะตัดไปทางกลุ่มของฮินาตะก่อนที่จะได้เห็นความหวังทั้งสอง(หรือสาม)ร่วมมือกันปราบบอสแล้วล่ะนะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่