สวัสดีครับ วันนี้ผมขอมาแบ่งปันข้อมูลบ้างนะครับ หลังจากเป็นผู้สูบมานาน
การเที่ยวครั้งนี้ ต้องขอขอบคุณโปรการสายการบินหางแดง ที่จัดโปร0บาทขึ้น ทำให้การไปเชียงรายครั้งนี้เกิดขึ้น

จุดเริ่มต้นคือจองไปกระบี่เสร็จ แล้วลองดูที่อื่น เจอเชียงรายเที่ยวล่ะ100บาท จึงกดจองโดยไม่คิดครับ แถมไปคนเดียวด้วย
เริ่มเดินทางจากดอนเมือง 7:20น. ถึงเชียงราย 8:40น. ขากลับจากเชียงราย 9:10น. นั้นหมายความว่าผมมีเวลาอยู่ที่เชียงราย แค่24ชั่วโมงเท่านั้น การวางแผนเที่ยวจึงสำคัญมากๆครับ

ก่อนไป วางแผน นั่งรถสองแถวไปวัดร่องขุ่น แล้วกลับมานั่งรถรางชมเมือง นอน1คืน เช้าบินกลับ
ซึ่งจำเป็นต้องเช็คคิวรถรางกันดีๆนะครับ เพราะ
-ถ้ามีคนสนใจไปเที่ยวไม่เกิน5คน รถรางไม่ออก
-อาจเจอะคณะทัวร์เหมายกคัน

ซึ่งผมเช็คแล้วครับ ว่ามีคณะช่วงเช้า ก็เลยยังมีหวังช่วงบ่ายครับ
(รถรางชมเมือง ให้บริการฟรี มีรอบ 9โมงเฃ้า และบ่ายโมง สำหรับนักท่องเที่ยว ต้องไปลงชื่อเท่านั้น ไม่รับจองผ่านทางโทรศัพท์(เสี่ยงดวงล้วนๆ))

วันจริง
ออกจากบ้านแถวศรีนครินทร์ โดยรถด่วนพิเศษ145 ไปลงbtsหมอชิต ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงครับ
จากนั้นต่อรถสาย ปอ.510 ไปลงสนามบิน อีกครึ่งชั่วโมงครับ

วันนี้เดินมางด้วยคาราบาว


อากาศครึ้มๆครับ หวังว่าที่เชียงรายจะสดใส


ผ่านมาสักพักแดดแรง ฟ้าสวย มีหวัง


แต่พอเครื่องลง....


หมดกันครับ เฃียงรายต้อนรับผมด้วยเม็ดฝน อย่างต่อเนื่อง ไร้ลมที่จะฃ่วยพัดกลุ่มเมฆฝนให้ไปที่อื่น แพลนเที่ยวจึงต้องว่างใหม่หมด

เมื่อเข้ามาในอาคารผู้โดยสาร สนามบินมีวงดนตรีต้อนรับด้วยครับ


การเดินทาง ผมจองห้องพักที่The North hotel 1คืน โดยทางที่พัก จะให้เช็คอินเวลาเที่ยงเป็นต้นไป ผมเลยติดต่องั้นขอฝากกระเป๋าไว้ก่อนครับ เที่ยวเสร็จจะกลับมาพัก
ด้วยข้อมูลในพันทิป ได้บอกเล่าความโหดของค่าโดยสารแท็กซี่สนามบิน ผมเลยเลือกใช้บริการgrabครับ โดยจะคิดค่าเรียกเพิ่มจากค่าโดยสาร 20บาทครับ นั่งรอคนขับรับงานประมาณ3-5นาที จึงได้รถ ที่เชียงรายแท็กซี่จะคิดค่าโดยสาร โดยดูจากระยะทางกี่กิโลเมตรนะครับ ไม่ได้ดูจากค่ามิเตอร์เหมือนกรุงเทพ(พี่คนขับฝากมาบอก)

ใช้เวลาเดินทางออกจากสนามบิน ถึงที่พักประมาณครึ่งชั่วโมงครับ ขาเข้าเมืองรถไม่ติด

แต่ฝนก็ยังไม่หยุดตก โทรไปเช็ครถราง ด้วยความหวัง ก็ได้คำตอบจากเจ้าหน้าที่ว่า"ถ้าฝนตก รถก็จะไม่ออกให้บริการครับ" และคณะที่จองช่วงเช้า ก็เลื่อนไปเป็นช่วงบ่ายเรียบร้อย นั้นทำให้ผมอดไปโดยอัตโนมัติ ด้วยที่พักอยู่ใกล้กับบขส.เก่า และไนท์บาร์ซ่า ทำให้เรื่องอาหารการกิน หาได้ง่าย และราคาไม่แพงมากครับ มื้อแรกจึงฝากท้องไว้กับร้านอาหารตามสั่ง(ขออภัย ช่วงนี้ไม่มีรูปนะครับ ไม่กล้าเอากล้องออกมาโดยน้ำฝน)

เมื่ออิ่มท้อง กับรอฝนเบา ก็ถามแม่ค้าขายข้าวล่ะครับ ว่าควรไปเที่ยวไหนดี ฝนตกบ่อยไหม สรุปวันที่ผมไป ฝนตกรอทั้งแต่เมื่อคืนแล้วครับ จึงเริ่มวางแผนใหม่ เป็น ไปวัดร่องขุ่น>บ้านดำ>วัดพระธาตุดอยตุง>ตามรอยรถราง โดยควรจะเช่ามอเตอร์ไซค์

ว่าแล้วก็จัดไป เช่ามอเตอร์ไซค์เป็นนูโวครับ เนื่องจากU-Box กว้างพอใส่กระเป๋ากล้องได้ แวะ7-11จัดเสื้อกันฝนราคาประหยัด แล้วไปวัดร่องขุ่นกันครับ
วัดร่องขุ่นห่างจากตัวเทืองเชียงรายราวๆ 14กิโลเมตร โดยผมเดินทางด้วยถนนหมายเลข1 ถนนดี รถน้อย ขี่สบายๆ80-90ก.ม./ช.ม. ใช้เวลาไม่เกินครึ่งชั่วโมงก็ถึงครับ(ขับมาได้ประมาณ5ก.ม. ฝนหยุดฟ้าเปิด ดีใจมากๆ)

วัดร่องขุ่น หลายท่านคงทราบข้อมูลกันดีนะครับ ผมขอข้ามตรงนี้ไปนะ เอารูปไปชมแทน
















ภายในโบสถ์ มีการปรับปรุงครับ(อดอีกแล้ว)



รอบๆวัดต่อ


















เปิดท้าย ด้วยเมรุ



สำหรับวัดร่องขุ่น คนไทยเข้าชมฟรีนะครับ มีพักเบรคช่วง12:00-13:00น. ถ้าคุณเป็นคนชอบศิลปะ บอกได้เลยว่าห้ามพลาด

ว่าแล้วเมื่อดูนาฬิกาใกล้ๆเที่ยงแล้ว ก็ไปต่อที่พิพิธภัณฑ์บ้านดำกันต่อ เพราะใช้เส้นทางหมายเลข1เหมือนเดิม และต่อไปยังวัดพระธาตุดอยตุงได้ ขี่ย้อนขึ้นไป จากวัดร่องขุ่นไปก็ราวๆ 24ก.ม. คำนวนคราวๆน่าจะ40-45นาทีถึง ความเร็วเท่าเดิม

แต่แล้วก็เหมือนสวรรค์แกล้ง ผมขี่เลยทางเข้าพิพิธภัณฑ์มา5ก.ม.ครับ เลยตรงไปวัดพระธาตุดอยตุงก่อนแล้วกัน

พระธาตุดอยช้างมูบ


อีกแล้วครับท่าน บอกตรงๆว่าหลงครับ มีทางแยกให้2ทาง เลยเลี้ยวซ้ายก่อนตรงไป จุดนี้แถบไม่มีนักท่องเที่ยวเลยครับ สงบร่มเย็น ลักษณะคล้ายๆรูปช้างหมอบ มีพระธาตุอยู่บนหลังครับ
ประวัติพระธาตุ
http://place.thai-tour.com/chiangrai/maefaluang/1180





ทางขึ้นวัดพระธาตุดอยตุง จะดีมากๆ จนกว่าจะเลยพระตำหนักดอยตุงนะครับ หลังจากนั้น ทางโหดพอควร ชันเป็นบางช่วง แต่โค้งเยอะมาก ผมเกือบล่มหลายรอบ เพราะแว่บมองวิวข้างทาง หันไปมองวิว หันกลับมา โค้งอีกแล้ว







มิชชั่น2 วัดพระธาตุดอยตุง ประวัติขอข้ามอีกเช่นเคยครับ ผมจอดรถไว้ด้านล่าง เพราะกลัวว่าขับต่อไปจะหลงอีก

ทางขึ้น

เดินขึ้นไม่ไกลครับ

ทางเดินร่มรื่นดี

พระธาตุ











ถ้าขับรถมา ให้ขับตามมางเลยจุดทางขึ้นนี้ได้นะครับ จะขึ้นถึงวัดเลย ไม่ต้องเดิน ผมเริ่มลงจากพระธาตุดอยตุงประมาณบ่าย3 เพราะต้องเก็บตามย้อนรถราง ระยะทางดูไม่ไกลครับ แต่ขี่ยาก ต้องขึ้นไม่ค่อยรู้สึกชัน แต่พอลงนี้ต้องใช้ทักษะพอสมควรเลย ถ้าเป็นมอเตอร์ไซค์ อย่าเบรคแช่นะครับ ให้กำจนเหมือนรถจะหยุดนิ่ง แล้วปล่อย ทำแบบนี้เป็นระยะ เบรคจะได้ไม่ไหม้(มีบ้างช่วงผมต้องเอาขาลากพื้นช่วยเหมือนกัน)

ด้วยระยะเวลา ผมเลยต้องเก็บพิพิธภัณฑ์บ้านดำไว้คราวหนา ถึงตัวเมืองราวๆ4โมงเย็นครับ สถานที่แรกคืออนุเสาวรีย์พ่อขุนเม็งราย



ข้างทางมีกำแพงเหมือนเชียงใหม่เลย



ไหว้และขอพรเสร็จก็ไปสถานที่สำคัญของพ่อขุนเม็งรายอีก1แห่ง นั้นคือวัดดอยงำเมือง ซึ่งเป็นที่เก็บพระอัฐิของท่าน