(ทางเลือกแบบวิดีโอครับ มีภาพประกอบ)



สวัสดีทุกท่านที่เข้ามาด้วยนะครับ.. สำหรับในกระทู้นี้ผมก็จะมาพูดถึงการ “สปอยล์หนัง” ครับ... พอดีว่าช่วงนี้มีกระแสเรื่องการสปอยล์หนังแรงขึ้นเรื่อยๆ เลยทำให้ผมเองอยากจะมาพูดถึงเรื่องนี้กันซักหน่อย และผมเชื่อว่าหลายคนคงรู้จักการสปอยล์หนังกันอยู่แล้วแหละ แต่ผมก็เชื่อว่ายังมีอีกหลายคนเหมือนกันที่ยังไม่รู้.. ซึ่งผมก็จะมาพูดให้ฟังกันแบบคร่าวๆพร้อมกับยกตัวอย่างประกอบครับ

การสปอยล์หนังก็คือ “การบอกจุดสำคัญของหนัง” หรือ “การทำให้คนที่ยังไม่ได้ดูหนังนั้น.. เสียอรรถรสก่อนรับชมหรือในระหว่างรับชม” ครับ อันนี้คือสิ่งที่หลายคนพูดตรงกันเลย คือประมาณว่าถ้าคนที่ยังไม่ได้ดูรู้ปุ๊บ จะทำให้หนังเรื่องนั้นลดความน่าสนใจลง หรือถ้าได้ดูหนังเรื่องนั้นก็จะไม่อยากติดตามเรื่องราวต่อ  เพราะรู้ทุกอย่างล่วงหน้าจากการโดนสปอยล์แล้ว..

ส่วนจุดสำคัญที่ผมพูดถึงก็เช่น.. จุดที่หนังพยายามสร้างความประหลาดใจ.. หรือจุดเปลี่ยนบางอย่างที่ส่งผลต่อตัวหนัง หรือจุดที่หนังตั้งใจปิดบังไว้ไม่อยากให้คนดูรู้ก่อนการได้รับชม แต่คนที่ยังไม่ได้ดูดันไปรู้ก่อน นั่นก็คือการโดนสปอยล์ครับ

ดังนั้นเราจะเห็นเลยว่าการสปอยล์หนังนั้นค่อนข้างจะมีความหมายในทางลบอย่างชัดเจน เป็นอะไรที่คนทำหนังหรือตัวหนังเองไม่อยากให้เกิดขึ้นกับคนที่ยังไม่ได้ดูอยู่แล้วครับ ซึ่งผมจะยกตัวอย่างให้เห็นกันชัดๆเลยดีกว่าว่าเขาไม่อยากให้คนที่ยังไม่ได้ดูรู้จริงๆ..

อันแรกเลยนะครับถ้าเราดู “ตัวอย่างหนัง” เราก็จะเห็นว่าเขาตัดมาให้เราพอรู้ว่าหนังน่าจะมีอะไรอยู่บ้าง มีลักษณะเป็นยังไง คือทำให้เรารู้จักหนังแบบคร่าวๆหรือทำให้เราอยากดู อันต่อมาให้ลองสังเกต “รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง” เวลาเราเช่าหรือซื้อหนัง.. ที่จะมีเขียนไว้ด้านหลังน่ะครับ ลักษณะก็คล้ายกันเลยกับตัวอย่างหนัง คือจะไม่มีเนื้อหาสปอยล์ เพราะเขาแค่อยากให้รู้ข้อมูลคร่าวๆของหนัง ส่วนอีกอันก็ขอยกจากเว็บ Pantip นี่แหละ.. ปุ่มซ่อนสปอยล์นั่นเอง เพราะว่าเป็นการสปอยล์เขาก็เลยทำปุ่มซ่อนไว้ให้ คือถ้าเราจะสปอยล์ก็ซ่อนไว้ ส่วนใครไม่อยากอ่านสปอยล์ก็จะได้ข้าม หรือคนที่อยากอ่านก็แค่กดดู.. นั่นแหละครับ..

พออ่านมาถึงตรงนี้เราก็จะเห็นชัดเจนขึ้นอีกเลยครับว่าการสปอยล์หนังไม่ใช่สิ่งที่เขาอยากให้เกิดขึ้น ตัวผู้กำกับเวลาพูดถึงหนังของตัวเอง.. ปกติเขาก็จะไม่บอกส่วนสำคัญกับเราเหมือนกันครับเวลาให้สัมภาษณ์ ซึ่งผมก็มีเรื่องเล่าสั้นๆให้ฟังด้วย.. จะได้เข้าใจขึ้นอีก..

สมมุตินะครับว่าเรามีเรื่องบางอย่างจะพูดให้เพื่อน 2 คนฟัง เช่น เล่าเรื่องผี.. เราเล่าให้คนแรกฟังแล้ว แต่ทีนี้กำลังจะเล่าให้คนที่สองฟัง.. แต่คนแรกดันมาพูดหมดเปลือกแบบสั้นๆให้คนที่สองฟังเลย อันนี้แหละครับคือการสปอยล์.. ความตั้งใจที่เราจะค่อยๆเล่าให้คนที่สองฟังแบบลุ้นๆก็จะหายวับไปกับตาเลย เหมือนกันกับการพยายามจะเล่าเรื่องตลกครับ.. ถ้ามีคนมาสปอยล์มุขตลกของเรา.. ก็จะทำให้คนฟังไม่ฮาแล้ว..

“การเล่าอะไรก็ตามจะมีจังหวะของมันอยู่แล้วครับ มีช่วงเวลาที่ผู้เล่าอยากให้ค่อยๆรับรู้กันเอาเองเมื่อเวลานั้นมาถึง ไม่ใช่มารับรู้ก่อน” ซึ่งถ้าเรามองในมุมของคนเล่าเรื่อง.. โดยสมมุติว่าเราเองเป็นคนเล่าก็จะยิ่งเห็นชัดเลยว่าถ้าเป็นเรา.. ก็คงไม่ต้องการให้มีการสปอยล์เหมือนกัน..

แต่ทีนี้.. การสปอยล์ก็ไม่ได้เป็นข้อเสียเพียงอย่างเดียวครับ เพราะถ้าเราจะคุยเรื่องหนังกันแต่ไม่พูดถึงเนื้อหาสำคัญของหนังเลย.. ก็คงจะคุยกันได้แค่เพียงผิวเผิน การสปอยล์ก็เป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ ซึ่งถ้าจะพูดกันถึงระดับนี้แล้วก็แปลว่าคนพูดต้องดูหนังมาแล้ว และคนฟังก็ต้องดูหนังมาแล้วด้วยเหมือนกัน พูดง่ายๆก็คือการสปอยล์หนังควรเป็นการพูดกันเองในหมู่คนที่ได้ดูหนังแล้ว เพื่อการแลกเปลี่ยนหรือแบ่งปันความคิดเกี่ยวกับหนังเรื่องนั้นๆ ซึ่งปกติแล้ว.. คนที่จะสปอยล์ก็ควรต้องบอกล่วงหน้าอยู่แล้วครับ ถ้าหากเป็นพื้นที่สาธารณะก็ยิ่งต้องบอกเลย และปกติเขาก็บอกกันนะ...

ผมจะขอยกตัวอย่างพื้นที่สาธารณะที่เป็นที่นิยมมากในยุคนี้ประกอบไปด้วยนะครับ นั่นก็คือโลกโซเชียล.. ซึ่งแน่นอนครับว่าก็คงต้องพูดถึงเฟสบุ๊คแหละ.. มันง่ายดี โดยปกติแล้ว.. เฟสของเราก็เป็นสาธารณะนะครับ ถ้าเราไม่กำหนดให้เป็นส่วนตัว ดังนั้นเวลาเราโพสอะไรลงไปและสถานะยังคงเป็นสาธารณะอยู่ “นั่นหมายความว่าคนอื่นสามารถเห็นหรือเข้าถึงข้อมูลนั้นได้ครับ”

..หลายคนอาจจะยังเข้าใจว่าเฟสตัวเองเป็นพื้นที่ส่วนตัว แต่ความจริงแล้วไม่ใช่นะครับ.. ถ้าคุณไม่ไปกำหนดให้มันเป็นส่วนตัว พวกเพจหรือกลุ่มเองก็เหมือนกัน ถ้าเขาไม่ได้กำหนดให้เป็นกลุ่มปิด.. ใครก็เห็นและเข้าถึงสิ่งที่เขาโพสได้ ดังนั้นอะไรเหล่านี้ถือว่ามีความเป็นสาธารณะอยู่แล้วนะครับ..

..มีสิ่งนึงที่ผมอยากจะพูดมากๆในกระทู้เลยก็คือ “ไม่มีหนังเรื่องใดในโลกที่ทุกคนได้ดูแล้วครับ” จะเป็นหนังทำเงินสูงสุดในโลกหรือหนังดังมากที่สุดเลยก็ตาม ต้องมีคนที่ยังไม่เคยดูครับ นั่นหมายความว่า “เราไม่ควรสปอยล์หนังเรื่องใดเลยโดยไม่เตือนคนอื่นก่อน” นอกซะจากว่าเราจะไม่สนคนอื่นน่ะนะ

แล้วก็การบอกล่วงหน้าว่าสปอยล์.. ก็ไม่ได้ยากมากมายนะครับ พูดบอกก็แค่ไม่กี่คำเอง หรือจะเขียนบอกก็ไม่กี่วิหรอก ซึ่งก็เป็นอะไรที่โอเคกับทุกฝ่ายนะ สำหรับคนที่ชอบรู้สปอยล์ก่อนก็แค่อ่านต่อจากคำเตือน.. ส่วนคนไม่ต้องการสปอยล์ก็แค่ข้ามตรงนั้นไป.. เห็นมั้ยครับว่ามันโอเค เพียงแค่บอกล่วงหน้าก็พอละ..

ประเด็นทั้งหมดที่ผมพูดมาก็คือ อยากให้เราเข้าใจตรงกันว่าสปอยล์หนังคืออะไรครับ และถ้าจะสปอยล์หนังควรสปอยล์ยังไง.. ซึ่งผมก็พูดถึงวิธีสากลที่เขาทำกันนั่นแหละ ไม่ได้ทึกทักเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง แล้วก็เพียงแค่ต้องการให้ทุกฝ่ายอยู่ด้วยกันได้นะครับ บางทีเห็นคนไม่เดือดร้อนกับสปอยล์มาทะเลาะกับคนที่เดือดร้อนกับสปอยล์แล้วรู้สึกแปลกๆ บางคนต้องมาผิดใจกันเพราะเรื่องนี้ ทั้งที่ประเด็นเริ่มมาจากคนที่สปอยล์โดยไม่บอก ซึ่งบางทีเขาก็อาจจะไม่รู้ แต่ถ้าเขารู้แล้วก็แก้ได้โดยการให้เขาบอกล่วงหน้าแค่นั้นเองครับ..

แต่ความจริงมักจะไม่ง่ายดายแบบนั้นอยู่แล้ว.. ใช่ว่ามีวิธีแก้แล้วทุกคนจะแก้ บางคนอาจจะรู้อยู่แล้วแต่ตั้งใจไม่บอกล่วงหน้า ซึ่งอาจจะคิดว่าลำบากเกินไปหรือได้ประโยชน์บางอย่างจากการไม่บอกก็แล้วแต่.. เราก็คงทำอะไรไม่ได้แล้วแหละครับ เพราะนี่เป็นธรรมชาติของมนุษย์ เราไม่สามารถให้ทุกคนเป็นอย่างที่เราอยากให้เป็นได้ ก็คงต้องทำใจและหาทางรับมือในแบบของเราเอาเอง...


สุดท้ายครับ.. ย้ำอีกที.. “ไม่มีหนังเรื่องใดในโลกที่ทุกคนได้ดูแล้ว.. เราไม่ควรสปอยล์หนังเรื่องใดเลยโดยไม่เตือนคนอื่นก่อนนะครับ”


(Spoil) สปอยล์หนังคืออะไร ? และควรสปอยล์หรือไม่ ?