คุยก่อนอ่าน
1. ไปอ่านเจอมาครับ คนโพสไม่ได้ระบุต้นทาง ไม่ทราบว่าจะให้เครดิตยังไง
2. ไม่ได้เข้ามาอ่านนานมาก ไม่ทราบมีคนแปลไปรึยัง เลยถือวิสาสะแปลเลยละกัน ><"
3. เรื่องนี้ไม่ทราบเท็จจริงแค่ไหน ขอให้ใช้วิจารณญาณในการอ่านกันด้วยนะครับ ^^"

---

กระทู้นี้ได้รับการแปลจากเวปไซท์ของเกาหลี ซึ่งเขียนโดยภาษาเกาหลีทั้งหมด, ต้นทางได้ขอให้เพื่อนชาวเกาหลีของเค้าช่วยแปลให้. ซึ่งภาษาอังกฤษของ Ha Neul(คนแปล) ก็แย่มากๆ, ดังนั้นต้นทางจึงได้เรียบเรียงใหม่ โดยพยายามทำให้มันคงความหมายเดิมมากที่สุด. โพสนี้ได้ถูกลบหลังจากโพสได้เพียง 3-4 ชม. เพราะชาวเน็ตเข้ามาโจมตี 2NE1 และ Park Bom อย่างหนัก.

ทำไม Minzy ถึงออกจาก 2NE1?

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ในปี 2013, CL ได้รับข้อเสนอจาก School Boy Records ใน US แต่เธอก็ได้ปฏิเสธไป. แต่หลังจากนั้นภายในปีเดียวกัน, เธอก็ได้รับข้อเสนออีกอันจากค่ายเดิม, School Boy และในครั้งนี้เอง, CL ก็ได้ตัดสินใจที่จะลองพยายามดูสักครั้ง. และนี่เป็นเรื่องที่เกิดก่อนการคัมแบ็คอัลบั้ม CRUSH ทั้งหมด.
ระหว่างการทัวร์  All or Nothing, Park Bom ได้ถูกโจมตีอย่างหนัก เกี่ยวกับข้อกล่าวหาที่ว่าเธอได้ลักลอบนำยาต้องห้ามเข้ามาในประเทศ ซึ่งได้ถูกตรวจสอบโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่รัฐ, ซึ่งผลสรุปออกมาว่าเป็นข้อกล่าวหาที่ไม่มีมูล. หลังจากนั้น, Park Bom ก็ได้ตัดสินใจที่จะหยุดทบทวนการกระทำของตัวเอง และหยุดการโปรโมตทุกๆอย่าง.

ระหว่างที่ 2NE1 ได้หยุดการโปรโมต, ในปี 2014, CL ได้บินไปอัดเพลงที่อเมริกา, ได้ทำงานร่วมกับโปรดิวเซอร์มากมาย และเดินทางไปหลายเมือง เพื่อรับเดโม่ และบันทึกเสียงในสตูดิโอต่างๆ. ซึ่งช่วงนี้เอง, CL ก็เริ่มมีความคิดที่จะนำทั้งวงมาเดบิวที่อเมริกา หลังจากที่เธอได้เดบิวแล้ว.

หลายเดือนถัดมา, หลังจากการตัดสินใจจะเดบิวที่อเมริกา, Minzy ก็ได้ตัดสินใจที่จะฝึกร้อง และแต่งเพลงเป็นภาษาอังกฤษ. เพราะเธอเป็นสมาชิกคนเดียวในวง ที่ยังพูดภาษาอังกฤษไม่คล่อง, ซึ่งเธอก็ได้เป็นเพื่อนกับนักดนตรีชาวอเมริกัน, Kloe Shinn ซึ่งเป้นคนช่วย Minzy ในการฝึงภาษาอังกฤษด้านต่างๆ, เช่นการออกเสียง. แต่  Minzy ล้มเหลว.

YG เองก็รู้ว่า 2NE1 จะไม่เป็นที่นิยมในเกาหลีเหมือนเดิม หลังจากผ่านเรื่องราวทั้งหมด, แถมยังมีสมาชิกถึง 2 คน ที่อายุอยู่ในช่วงเลข 3, เขาจึงยอมปล่อยให้พวกเธอเดบิวใน US. ซึ่งหลังจากนั้น, ด้วยความช่วยเหลือของ School Boy Records และตัว CL เอง, 2NE1 ก้ได้เซ็นสัญญากับ Capitol records, และเพลงของพวกเธอ, I Am the Best ก็ถูกเปิดตามคลื่นวิทยุ.

เพื่อเร่งการเดบิวในอเมริกา, Sandara Park ก็บินไป LA เพื่ออัดเสียงร่วมกับ CL ในขณะที่  Minzy และ Park Bom อัดเสียงอยุ่ในเกาหลี. แต่ในช่วงเวลานี้เอง, Minzy ก็แสดงออกถึงการขาดแรงบัลดาลใจในการที่จะต้องร้องเพลงเป็นภาษาอังกฤษ และความคืบหน้าของอัลบั้มของพวกเธอก็ต้องหยุดชะงักลง. หลายเดือนต่อมา, Minzy ลบคำว่า ‘21’ ออกจากชื่อ Instagram ของเธอ.

เพราะรู้ว่า 2NE1 อาจไม่ได้โปรโมตในเกาหลีอีกแล้ว, Minzy ก็ได้ตัดสินใจที่จะกลับไปเรียนต่อ และเปิดอคาเดมี่สอนเต้นของตัวเอง ซึ่งการกระทำนี้ ได้สร้างความกังวลใจกับสมาชิกคนอื่นเป็นอย่างมาก. จากนั้นไม่นาน, CL ก็ได้ตัดสินใจเซ็นสัญญาเดี่ยวกับ YG ในขณะที่ Sandara Park ก็รับงานแสดง และออกรายการวาไรตี้, ทั้งหมดนี่เพราะ 2NE1 อาจต้องยุบวง.

ในปี 2015, CL ได้ขอร้อง YG ให้ยอมปล่อย 2NE1 ขึ้นแสดงในงาน MAMA เพราะมันอาจเป็นโอกาสสุดท้าย ที่จะได้แสดงร่วมกับ Minzy. หลังจากการเจรจา, YG และทาง MAMA ก็ยินยอม. พวกเธอเลยได้แสดงเวทีสุดท้ายกับ Minzy, และทุกอย่างก็เป็นไปตามคาด, Minzy ใส่เต็มที่กับการแสดงครั้งสุดท้าย และทำให้ทุกคนขนลุกไปหมด.
หลังจากกการแสดงครั้งนั้น minzy ก็โพสว่า "mission accomplished" (ภารกิจ เสร็จสิ้น).

ข่าว Minzy ออกจากวง ได้ถูกเปิดเผยในปี 2016 และ  2NE1 จะโปรโมตต่อไปในฐานะวงที่มีสมาชิก 3 คน.

แต่การสูญเสียสมาชิกไป 1 คน เป็นหายนะในห้องอัดของพวกเธอ, YG ไม่พอใจกับการที่ 2NE1 มีสมาชิกแค่ 3 คน. เขารู้สึกว่าบางอย่างมันขาดหายไป. ดังนั้น, เขาจึงมีความคิดที่จะหาสมาชิกใหม่มาเพิ่มอีก 1 คน แต่สมาชิกดั้งเดิมของ 2NE1 ต่างก็ค้านหัวชนฝา. CL เลยโพสว่า, “too much on my plate”(เรื่องเข้ามาเยอะเกินไปแล้ว) แต่ก็ลบออกในเวลาต่อมา, ในขณะที่ Sandara Park ก็โพสว่า “healing”(กำลังรักษาบาดแผล).