วันนี้จะมารีวิวประสบการณ์เที่ยวเกาะช้างคนเดียว 4 วัน 3 คืน และที่พัก Pajamas Hostel (พาจามัส) นะค่ะ
ผิดพลาดประการใดติชมได้ พร้อมแล้วลุยกันเลย !!!



วิธีการเดินทางเริ่มจากนั่งรถตู้ที่พัทยา (อยู่ในกระทู้ก่อนหน้านะ)
ขึ้นเรือจากท่าเรืออ่าวธรรมชาติ ไปถึงเกาะช้างใช้เวลาประมาณ 40 นาที ระหว่างทางก็ชมวิวแล้วถ่ายรูปไปพลาง ๆ



เรือที่นั่งไปเป็นเรือโดยสารแบบที่เอารถยนต์ รถจักรยานยนต์ ขึ้นไปได้ด้วย
ช่วงวันที่เดินทางเป็นช่วงเข้าพรรษา คนไทยค่อนข้างเยอะ มีต่างชาติบ้างนิดหน่อยนะ



สำหรับสาว ๆ ที่นั่งเรือคนเดียว ก็ไม่ต้องกังวล เรานั่งคนเดียวมีกลุ่มวัยรุ่นต่างชาติมาชวนคุย
คุยกันสนุกตลอดทาง จนเรือถึงฝั่งก็แยกย้ายกันไป พอดีเราจองโรงแรมล่วงหน้ามาก่อนแล้ว
เลยไม่ได้ตามไปพักตามคำชวนของพวกนาง
พอขึ้นฝั่งสายตาก็พยายามมองหาแท๊กซี่ ตามคำบอกเล่าที่อ่านจากกระทู้ก่อนมา
ในจินตนาการคิดว่าเป็นรถเก๋งหรืออะไรแบบนั้น เพราะในรีวิวบอกว่าแท๊กซี่ พอไปถึง ไม่ใช่นะ 555 !!!
เป็นรถกระบะแบบว่าเอามาใส่หลังคาด้านหลัง แล้วก็เอาม้านั่งมาวางฝั่ง ซ้าย-ขวา คงพอนึกออกเน๊อะ
แต่เอาละ เราไปได้หมดอยู่ละ จัดแจงบอกชื่อที่พักกับลุง

" ลุงไปพาจามัส เท่าไหร่ค่ะ "
" 60 บาทครับ แต่รอคนเต็มรถก่อนนะ "

เราตอบตกลงแล้วกระโดดขึ้นหลังรถ หลังเราก็มีฝรั่ง คนไทย ขึ้นตามมา พอรถเต็มลุงก็ออก
ลุงทยอยส่งคนแล้วคนเล่า สุดท้าก็มาถึงตาเรา

Pajamas Hostel !!



ในภาพด้านบนเป็นพื้นที่ Check in ของโรงแรม เราก็จัดแจงแจ้งชื่อการจอง (อันนี้เราจองจาก Booking)
จริง ๆ เราจองแค่ 2 คืนแต่ติดลมก็เลยมาแจ้งขอเพิ่มทีหลังอีก 1 คืน พอดีช่วงนั่น low season คนไม่เยอะเลยไม่มีปัญหาในการจองต่อ
พอ Check in เสร็จเราก็เอาของไปเก็บในห้องพัก ซึ่งเราจองห้องพักแบบหญิงล้วน ในห้องมีทั้งหมด 8 เตียงเป็นเตียง 2 ชั้น เตียงหน้าตาแบบนี้นะ



ที่เตียงก็จะมีโคมไฟดวงนึง จัดวางของเล็ก ๆ และก็เต้าเสียบไฟ 2 แห่ง เวลานอนเราก็เลื่อนม่านปิดได้เพิ่มความเป็นส่วนตัวนิดนึง
ส่วนห้องน้ำที่ใช้จะเป็นห้องน้ำรวม แต่แบ่งเป็นห้องสุขา และห้องอาบน้ำ ในห้องน้ำมีไดร์เป่าผมไว้บริการฟรี
แต่รอบนี้แอบเสียใจนิดนึง เพราะลืมถ่ายรูปห้องน้ำมาให้ดู
พอเราเก็บกระเป๋าเสร็จ ก็เดินเล่นรอบ ๆ โรงแรมเพื่อดูบรรยากาศ ช่วงนั้นคนไม่เยอะนะ ส่วนใหญ่เป็นฝรั่ง
คนไทยน้อยมาก (สำหรับสาว ๆ ติ่งฝรั่งคงแอบกรี๊ด 555) บอกก่อนตั้งแต่เริ่มนอนโฮสเทลมาที่นี่เวิร์คมาก เพราะว่ามีสระว่ายน้ำ
และก็พื้นที่ส่วนกลางมีอะไรให้ทำหลายอย่าง เช่น X-box CD หนัง โต๊ะพลู พวกเกมส์กระดานก็เยอะ ที่สำคัญพื้นที่ทำครัวใหญ่
ด้านล่างเป็นภาพพื้นที่ส่วนนั่งเล่นชิว ๆ ตรงนี้จะเปิดเพลงเบา ๆ คลอไปทั้งวัน แอบเห็นมีกีตาร์โป่งด้วยแหละ













ต่อมาเป็นส่วนของสระว่ายน้ำ ซึ่งอยู่ในโซนเดียวกับพื้นที่นั่งเล่นแต่เป็นส่วนกลางแจ้ง
ขนาดสระน้ำไม่ใหญ่ และก็ไม่ลึก ใครว่ายน้ำไม่เป็นไม่ต้องห่วงนะ ยืนได้สบาย มีห่วงยาง ลูกบอลให้เล่นฟรี







จริง ๆ ที่นี่มีห้องพักเดียวที่เป็นเตียงคู่ด้วย ลองเช็คราคาดูนะ ส่วนห้องพักเรา 450 บาทต่อคืน
แต่ราคาน่าจะปรับเปลี่ยนไปตามฤดูด้วย ยังไงก่อนมาก็ลองเช็คราคาผ่าน Booking หรือ Agoda
ทีนี้มาถึงกิจกกรมที่เราจะทำบนเกาะนี้กันบ้าง ซึ่งอันนี้ง่ายมาก เราจัดการจองทัวร์ดำน้ำ 4 เกาะได้จากที่เคาท์เตอร์ของโรงแรม
มีโบร์ชัวร์เตรียมไว้ให้ ไม่ว่าจะเป็นดำน้ำ เดินป่า ขี่ช้าง ตกหมึก ฯลฯ แต่เราจองสปีดโบ๊ททัวร์ 4 เกาะราคา 800 บาท
จริง ๆ แล้วมีแบบเรือไม้ราคา 600 บาทถูกกว่า แต่เราเลือกสปีดโบ๊ทเพราะว่าอยากกลับถึงที่พักเร็ว ๆ แหะๆ
รถจะมารับเรา 8 โมงเช้าที่โรงแรม ลืมบอกเรื่องการเดินทางบนเกาะ เราไม่ได้เช่ามอเตอร์ไซค์นะ เพราะว่าขี่ไม่เก่งแล้วทางชันพอสมควร
ก็เลยเที่ยวไปมาโดยแท๊กซี่ที่ว่านั่นแหละ แต่แอบถามค่าเช่ามอเตอร์ไซค์ที่โรงแรมมา 250 บาทต่อวัน

คืนแรกอยู่ว่าง ๆ เลยอยากจะรู้ว่าที่นี่มีสถานที่ท่องเที่ยวยามราตรีบ้างไหม พึ่งพี่กูอยู่แป๊บนึงไม่ค่อยได้ความ
เลยเดินไปถามพนักงานโรงแรมบอกว่าให้ไป Lonely beach พอมีร้านให้นั่งชิวบ้าง จริง ๆ ตอนเอากระเป๋าไปเก็บในห้อง
เจอพี่คนไทย 2 สาวเลยขอไลน์ไว้เผื่อนัดกันไปเที่ยว ก็เลยไลน์ไปชวนพี่ 2 สาวว่าไป Lonely beach ด้วยกันไหม
พี่ 2 สาวตอบตกลงทันใด บอก 4 ทุ่มเจอกันนะ (แอบกังวลนิดนึงจะไปนั่งดื่มคนเดียว หาเพื่อนไปด้วยดีกว่า)
ยืนโบกแท๊กซี่อยู่หน้าโรงแรมพักนึงก็จอด 150 บาทเพื่อไป Lonely beach (แอบแพง =_=") แต่ค่อนข้างไกลจากที่พัก
พอสมควรเลย เพราะว่าเราอยู่หาดคลองพร้าว
แอบเสียใจอีกละ ไม่มีรูปร้านที่ไปนั่งมาให้ดู แต่มีไรจะเล่าให้ฟัง ที่นี่จะเป็นซอย ๆ นึงที่ในซอยจะมีร้านเหล้า
ติด ๆ กันอยู่ประมาณ 3-4 ร้าน ซึ่งแต่ละร้านก็จะวนเวียนกันจัดปาร์ตี้ เช่น ร้าน A วันจันทร์ ร้าน B วันอังคาร เป็นต้น
วันปาร์ตี้สำคัญยังไงอ่ะ ไม่แน่ใจ แต่เห็นว่าคนเยอะเป็นพิเศษ 555 ใครรู้มาตอบด้วยนะ แต่ในขณะที่ร้านนึงจัดปาร์ตี้
ร้านที่เหลือก็เปิดตามปกติ แต่จะเงียบ ๆ ง่ะ เราก็เข้าไปในร้านที่มีปาร์ตี้นั่นแหละ
ฝรั่งเกือบ 100% คนไทยแทบไม่มีเลย เปิดเพลงโดย DJ ปิดกี่โมงไม่แน่ใจ แต่ออกมาตอนตี 1 ยังเปิดอยู่
เรื่องขากลับไม่ต้องกังวล เพราะว่าแท๊กซี่วิ่งทั้งคืน โดยเฉพาะตรงที่เป็นร้านเหล้านั่นแหละ จอดต่อคิวยาวเลย
รถจอดหน้าโรงแรมแอบตกใจ ปิดไฟปิดประตูมืดเลย ลองใช้คีย์การ์ดแตะประตูโรงแรมเข้าไปได้ โล่งใจ นึกว่าจะไม่มีที่นอนซะละ

เดี๋ยวมาต่อ ถ้าอ่านอยู่ก็ส่งเสียงบ้างนะ 555

ฝากเพจนิดนึงพึ่งสร้าง กดไลค์ ถามคำถามได้ ^^
https://www.facebook.com/Alonegirlbackpacker/