Central International WatchFair 2016 งานเดียวจบครบทุกแบรนด์ดัง กับนวัตกรรมนาฬิการะดับเวิลด์คลาสที่ชาวWatchlover ห้ามพลาด

กระทู้ข่าว


ไม่ต้องบินไปดูนาฬิกาหรูไกลถึง “บาเซิลเวิลด์” หรือ “SIHH” ที่สวิตเซอร์แลนด์ แค่นั่งรถไฟฟ้าหรือขับรถมาเซ็นทรัลชิดลม ก็ได้ยลโฉมทัพนาฬิกาเรือนหรูแบรนด์ดังระดับโลกมากมายแล้ว ทั้งคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุด รุ่นหายากสุดฮอต รุ่นลิมิเต็ด อิดิชั่นสุดฮิต ชนิดที่มีไม่ถึง 10 เรือนในโลก ก็มีมาให้ลองใส่และสัมผัสตัวจริงกันได้ในงานเลยครับ รักชอบเรือนไหนมีโปรโมชั่นลดพิเศษทุกเรือน รีบตามมาดูกันเลยดีกว่า ว่าจะมีเรือนไหนเป๊ะ..ปัง..โดนใจ
อลังวังเว่อร์ กันบ้าง


เริ่มด้วยนาฬิกากลุ่ม Mid-Range  สวยล้ำนำเทรนด์ในราคาที่จับต้องได้ มีให้เลือกหลากหลาย แบรนด์แฟชั่น คอลเลคชั่นใหม่ๆ ก็มีให้ชม เช่น Casio, ISSEY MIYAKE, Guess, Luminox, Seiko, Victorinox Swiss Army ฯลฯ




ISSEY MIYAKE - “C” Series ชิ้นงานมาสเตอร์พีชล่าสุด โดดเด่นด้วยหน้าปัดโครโนกราฟ ที่ดีไซน์ให้ดูเรียบ สะอาดตา อันเป็นซิกเนเจอร์ในการออกแบบของ อิชิโระ อิวาซากิ เพิ่มลุคหรู ด้วยตัวเรือนขัดเงา หน้าปัดถูกดีไซน์เรียบง่ายด้วยสองโทนสีสุดคลาสสิค ดำหรือขาว ทั้งสายหนังและ
สายเสตนเลสสตีลหรือสายผ้าไนลอน สวมใส่ได้ทุกเวลาและทุกโอกาส ราคาเบาๆ ที่ 15,900 บาทครับ




นวัตกรรมใหม่ล่าสุดจาก CASIO เปิดตัวครั้งแรกในไทยที่งานนี้เลย กับ GWF-D1000 G-Shock Frogman มาพร้อมเทคโนโลยี Triple Sensor
การันตีความสมบุกสมบัน สำรองพลังงานได้ถึง 23 เดือน สามารถวัดระดับความลึกใต้น้ำได้ และยังวัดอุณหภูมิน้ำได้ด้วยเช่นกัน ราคาเหมาะสมกับความสามารถที่ 40,000 บาท



Daniel Wellington รุ่น Classic Canterbury 40 0102DW และ Classic Oxford 0501DW ดีไซน์เรียบง่ายที่แฝงความโดดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์ บ่งบอกความมีสไตล์ไว้บนข้อมือได้แบบไม่ยุ่งยากและลงตัวสุดๆ ราคาน่ารักมากๆ 6,990 และ 6,250 บาท ลำดับตามรุ่นเลยครับ



การผสมผสานระหว่างฟังก์ชั่นแนวสปอร์ตกับสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์เลยทำให้ Guess - Fuel เรือนนี้เป็นไอเทมที่เหมาะกับการใช้งานในทุกๆ วัน ไม่ว่าจะเข้าฟิตเนส ออฟฟิศ หรือไปสังสรรค์ปาร์ตี้ ไม่ถึงหมื่นครับเรือนนี้ 9,800 บาท



อีกเรือนจาก Guess สำหรับคุณผู้หญิงยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยความแอกทีฟ หากคุณกำลังมองหานาฬิกา ที่มาพร้อมฟังก์ชั่นหลากหลาย บวกกับสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ต้องเรือนนี้เลยครับ Guess- Willow นาฬิกาดีไซน์เก๋ไก๋เรือนนี้สามารถตอบโจทย์นั้นได้อย่างแน่นอน ราคาสวยๆ ครับ 8,900 บาท



ต่อกันด้วยนาฬิกากลุ่ม Hi-End กับหลากหลายแบรนด์เอ็กซ์คลูซีฟระดับโลก มีมาให้ชมที่งานนี้ด้วย ตัวเด่นๆ เลยก็มีแบรนด์ Frederique Constant, Graham, Longines, TAG Heuer, Gucci, Breitling ฯลฯ


เรือนนี้ Longines รุ่น Longines Symphonette ทุกองค์ประกอบของการออกแบบที่สง่างาม แบบร่วมสมัย ดูลงตัวเหมือนท่วงทำนองของบทเพลงที่ไพเราะ ตั้งแต่ตัวเรือนรูปทรงรีไม่เหมือนใคร หน้าปัดที่มีระดับ หลากรุ่น โดดเด่นด้วยความเรืองรองของแสตนเลสสตีล ทอง และเพชร ช่วยเพิ่มความงดงามให้กับหน้าปัด สายนาฬิกาเป็นสไตล์เมชที่มีลวดลายบรรจงซ้อนสลับ เสมือนโน้ตเพลง “ลองจินส์ ซิมโฟแน็ตต์” ได้รับการออกแบบมาเพื่อผู้หญิงที่ต้องการใส่เรือนเวลาที่สง่างาม แต่ทันสมัยส่องประกายแม้ในยามค่ำคืน ราคางดงาม 136,500 บาท


ปิดท้ายกันด้วยไฮไลท์ของงาน นาฬิกากลุ่ม Luxury รับรองว่าถูกอกถูกใจคนที่ชอบแบรนด์หรู ระดับเวิลด์คลาสที่เป็นรุ่นที่หายาก นักสะสมนาฬิกาห้ามพลาด แค่ได้ดูก็อิ่มแล้วครับ และแบรนด์ที่เป็นไฮไลท์ในงานคือ Corum, Frank Muller, Grand Seiko ฯลฯ


CORUM - รุ่น Heritage Minute Repeater เป็นนาฬิกาที่มีค้อน 4 ชุด แต่ละชุดมีเสียงที่แตกต่างกัน โดยจะตีทีจังหวะละ 2 ชุด เพื่อให้เกิดเป็นเสียงดนตรีประสานกัน และมีบาร์แรลแยกอีกชุดหนึ่งเป็นของตนเองเพื่อไม่ให้กระทบกับการทำงานของกลไก ตัวเรือนทำจากทองคำชมพูขนาด 41 มม. กระจกแซฟไฟร์ หน้าปัดสลักร่องบอกเวลาชั่วโมงบนขอบตัวเรือนด้านใน กลไกไขลาน มินิทรีพีทเตอร์ CO102 สำรองพลังงาน 100 ชั่วโมง มาพร้อมกับสายหนังจระเข้สีน้ำตาล เรือนนี้ 10 ล้านกับอีก 3 แสนกว่าๆ ครับ


FRANCK MULLER - Vanguard Collection รุ่น Vanguard Gravity ผลงานใหม่ล่าสุดของแวงการ์ด กราวิตี้ (Vanguard Gravity) บรรจุด้วย
กรงทูร์บิญอง และโครงสร้างของจักรกลซึ่งทำจากอลูมิเนียม โดยทั้งสะพานจักรและเสารองรับของทูร์บิญองถูกเปลี่ยนไปเป็นรูปทรงวงรี ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 21.2 มม. และ 7.7 มม. ครองพื้นที่ส่วนล่างทั้งหมดของหน้าปัดที่เปิดโชว์ความสวยงามของกรงทูร์บิญอง หมุนเต็มรอบในทุกๆ 60 วินาทีกับบาลานซ์ขนาดพิเศษ 4 มม. ขณะที่จักรกลอันโดดเด่นยังแสดงให้เห็นผ่านทางกระจกคริสตัลแซพไฟร์สีน้ำเงิน ทั้งบนหน้าปัดและฝาหลังนาฬิกาประกอบพร้อมกับสายซึ่งรองรับด้านในด้วยยาง มาพร้อมความหลากหลายของการตกแต่งทั้งผ้าและหนังจระเข้ ผสานเข้ากับตัวเรือนออกแบบและผลิตขึ้นทั้งหมดภายในโรงงานของตนเอง มีให้เลือกตัวเรือนไทเทเนียมและตัวเรือนชุบทองพิงค์โกลด์ 18 กะรัต หรือตัวเรือนชุบทองไวท์โกลด์ 18 กะรัต ราคา 5 ล้าน 3 แสนบาทถ้วน


Grand Seiko - Credor Masterpiece Collection รุ่น Tourbillion Engraving Limited Model ครั้งแรกสำหรับ Seiko ที่ผลิตเครื่อง Tourbillion โดยถูกพัฒนาจากกลไก 68-series ของ CREDOR ที่มีจุดเด่นที่ความบางโดยถือเป็นกลไก Tourbillion ที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก ด้วยงานฝีมือระดับสูงในการผลิตหน้าปัดในแบบ 3 มิติ ช่วยเพิ่มชีวิตชีวาและความงดงามของเกลียวคลื่นได้เป็นอย่างดี งานแกะสลักแผ่น white gold และ yellow gold ที่มีความหนาเพียง 1.6 มิลลิเมตร ฝาหลังเผยให้เห็นความงดงามแบบ 3 มิติเช่นเดียวกับหน้าปัด และยังสื่อถึงภาพวาด FUGAKU อีกด้วย ผลงานชิ้นเอกนี้ ใช้เวลาในการผลิตทั้งสิ้นมากกว่า 200 ชั่วโมงต่อเรือน และที่สำคัญ มีแค่ 8 เรือนทั่วโลกเท่านั้น ราคาอยู่ที่ 20 ล้านนิดๆ เท่านั้นเอง


นี่นับว่าเป็นแค่ตัวอย่างน้ำจิ้มเบาๆ ที่เราจะเจอในสุดยอดงานมหกรรมนาฬิกาแห่งภูมิภาคเอเชีย Central International Watch Fair 2016
และอีกหนึ่งพระเอกที่จะขาดไม่ได้ในงานนี้เลยนั่นคือ โปรโมชั่นที่เหนือกว่าเพียงปีละครั้งเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น เคาน์เตอร์ลดสูงสุดถึง 30% จากราคาปกติ, ลด Top up สูงสุดมากถึง 34% และรับสิทธิ์ผ่อน 0% นาน 10 เดือน จากบัตรเครดิตชั้นนำ พิเศษสุด! ลดเพิ่มสูงสุด 15% ด้วยคะแนนสะสม
The 1 Card และรับคะแนนสะสมพิเศษเพิ่มสูงสุด 80,000 คะแนน พร้อมรับคูปองส่วนลดแทนเงินสดฟรี สูงสุดถึง 80,000 บาท ลดแล้วลดอีกมีแค่ที่มหกรรมนาฬิกาแห่งภูมิภาคเอเชีย ประจำปี ครั้งที่ 18 “เซ็นทรัล อินเตอร์เนชั่นแนล วอทช์ แฟร์ 2016” ตั้งแต่วันนี้ ถึง 25 ก.ย. 59
ณ ดิ อีเว้นต์ฮอลล์ ชั้น 3 ห้างเซ็นทรัลชิดลม และแผนกนาฬิกา ห้างเซ็นทรัลทุกสาขา และเซน รายละเอียดเพิ่มเติมต่างๆ ดูได้ที่


[Advertorial]
แก้ไขข้อความเมื่อ
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่