สวัสดีค่ะ นี่เป็นกระทู้แรงบันดาลใจ ในการสมัครสมาชิคพันทิพย์ของเราเลย


ทริปนี้เป็นการไปเที่ยวเชียงรายครั้งแรกของเราและชาวทริป
เกิดจากวันนึงเพื่อนมาบอกว่ากำลังจะมีโปรโมชั่น Bangkok airways
เราก็ตั้งตารอหน้าคอม เป้าหมายคือจังหวัดอะไรก็ได้ที่จะได้โปร
และแล้วก็คว้าโปรมาจนได้ ในราคา เที่ยวละ 690 บาท

ตอนนั้นยังไม่รู้จักจังหวัดเชียงรายเลยด้วยซ้ำ ไร่ชงไร่ชาก็ไม่รู้จักเลยค่ะ

พอได้ตั๋วมาก็ เปิดพันทิพย์ กาง google map แล้วก็ลิสสถานที่ไว้เลย ทำการบ้านหนักมาก
แต่คุ้มมากค่ะ รู้สึกทุกอย่างเหมาะเหม๋ง ลงตัว
เลยอยากจะแชร์ทริปเชียงราย ที่ไปได้ง่ายๆ แบบไม่ต้องขึ้นเขา ลงห้วยเยอะ
ไปที่ที่ทางสะดวก ขับรถไม่อันตราย ตระเวณถ่ายรูปร้านกาแฟชื่อดัง
กินของอร่อย ด้วยงบประหยัด มาดู check list ของทริปนี้กันค่ะ











ใช่ค่ะ ทริปนี้เราได้นั่ง Bangkok Airways ที่อยากจะลองมาแสนนาน
ออกจากสุวรรณภูมิ 7:35 am ถึงเชียงราย 8:55 am
แต่เราไปถึงกันตั้งแต่ตี5 เพื่อสิ่งนี้



:: Bangkok Airways Lounge



:: ข้าวต้มมัดที่รอคอย รสชาติดีเลย



:: วันนี้ขอเสนอ ข้าวมัสหมั่นไก่ค่ะ อร่อยมั๊ก ข้าวนุ๊มนุ่ม




พอเครื่องลงจอด เราก็ได้ยินเสียงดนตรีบรรเลงเป็นเสียงเพลงเหนือๆ
เพราะมากๆ พยายามมองหาว่าเสียงจากไหน แถวนั้นไม่มีลำโพงเลย
และก็มาเฉลย ตอนเดินลงมาถึงสายพานรับกระเป๋า



:: เป็นการต้อนรับที่น่ารักและอบอุ่นมากจิงๆ
สามารถมโนได้ว่าเราเป็นแขกพิเศษยังไง หยั่งงั้น




ทริปนี้เราเช่ารถจาก Hertz ค่ะ ได้ voucher มาในราคาเจ็ดร้ายกว่าบาท
เราได้แจส รุ่นใหม่ คันใหม่เอี่ยมเลย ขับไปหมื่นกิโลนิดๆ
มาเที่ยวเชียงราย แนะนำว่าเช่ารถก็สะดวกดีนะคะ



:: ถนนที่นี่บางเส้นมี bike lane ด้วยนะ





:: มาเที่ยวต่างถิ่น ที่แรกที่คิดว่าควรมาคือมากราบพระคู่บ้านคู่เมือง



::วัดพระแก้วแห่งนี้ก็ไม่ไกลจากสนามบินค่ะ ขับมาประมาน 15นาที




ออกจากวัดมาแวะร้านกาแฟชื่อดังกันซะหน่อยค่ะ “ชีวิตธรรมดา”
ร้านนี้เรากะจะมากินบรรยากาศ ดื่มน้ำเย็นๆให้ชื่นใจ
แล้วค่อยไปต่อของหนักที่ร้านถัดไปกัน








:: รู้สึกเหมือนเข้ามาบ้านคุณยายของนู๋น้อยหมวดแดง



:: Buterfly Pea Honey Soda ราคา 95 บาท




ออกมาจากชีวิตธรรมดาหนึ่งซอย ก็มาถึง ร้านที่เราจะมากินข้าวเที่ยงกันค่ะ
ความลับคือจากการรีวิว เราได้ข่าวมาว่าชีวิตธรมดานี่ราคาไม่ธรรมดาเลย
เราเลยคิดกันไว้ ว่าจิบน้ำซะหน่อยก็พอ ค่อยมากินข้าวร้านมโนรมย์ ราคาน่าจะไหวกว่า
แต่ข้อสรุปก็คือ ราคาพอๆกันเลย แต่ก็ถือว่าได้เก็บแต้ม 2 ร้าน





:: ม โ น ร ม ย์         M a n o r o m



:: สปาเก็ตตี้เบคอนพริกแห้ง แห้งกำลังดี เผ็ดนิดหน่อย แต่อร่อยค่ะ



:: ข้าวแพนงหมู ไข่เค็ม ปอเปี๊ยะ ผักทอด ชื่ออะไรประมาณนี้
หน้าตาดี แพนงหวานไปนิด แต่หมูคือดีมาก ไม่มีความเหนียวเลย ผักทอดก็กร๊อบกรอบค่ะ




ออกจากมโนรมณ์เราก็เข้าไป check-in เอากระเป๋าไปเก็บที่พักกัน
ทริปนี้เราพักที่ “ eat.sleep cafe&bed ”
อยู่ในเมือง ริมแม่น้ำกก ค่ะ ประทับใจอีกเหมือนกัน
ถ่ายรูปมาครบทุกห้องเลย กะว่าจะทำรีวิวแยกอีกอันค่ะ รอติดตามนะ


ออกจากที่พักเราก็ไปต่อกันเรย.....

บ่ายนี้เรามุ่งหน้าไปทางทิศใต้ค่ะ
เป้าหมายคือ
-    วัดร่องขุ่น
-    Ryokan cafe
-    ไร่บุญรอด ร้านอาหาร ภูภิรมย์
แล้วค่อยกลับเข้าเมืองมาเดินโต้รุ่ง ดูหอนาฬิกากัน




ประมาณบ่ายสองโมง เราขับรถออกจากที่พัก ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ก็ถึงค่ะ



:: วัดร่องขุ่น
ตอนแรกไม่ได้ตั้งความหวังใดๆกับที่นี่เลยค่ะ เห็นใครๆก็มากัน
แต่คิดว่าต้องมาทางนี้อยู่แล้ว และไหนๆก็มาเชียงราย คงต้องมาที่นี่ด้วย
มาถึงนี่ตะลึง ตึง ตึง ตึง ตึ่ง เลยค่ะ
สีขาวสะท้อนกับแสงแดด ยังกะอยู่เมืองสวรรค์ในวรรณคดี
ทุกอย่างดูมีศิลป อย่างมีที่มาที่ไป





:: ชอบที่เค้าให้ทีมงานทุกคนที่ร่วมกันสร้างวันร่องขุ่น ใส่เสื้อแบบนี้ค่ะ
"  ห นึ่ ง ใ น ผู้ ส ร้ า ง  "    น่าภูมิในแทนจริงๆ



หน้าวัดเค้ารีวิวกันว่ามีหมูยอนึ่งอร่อยค่ะ เราชิมไป1 ไม้ 13บาท
สู้หมูยออุบลไม่ได้เรยสักนิดค่ะ ^^

เราใช้เวลาที่นี่ประมาณ 1 ชม.ค่ะ เพลินไปหน่อย
แล้วก็ขับรถไป Ryokan café ซึ่งอยู่ไม่ไกลกันเท่าไหร่ค่ะ ตามอากู๋แมพไปเรย




:: วิ่งออกมารับเลย ดูสิ



:: เย็นจื้นไจ๋ มากๆ จำชื่อเครื่องดื่มนี้ไม่ได้แล้วค่ะ
อุส่าเก็บบิลไว้ ก็ทำหายยกเซ็ทเลย



:: โอนิกิริ เป็นข้าวปั้นสามเหลี่ยม เสริฟกับซุปมิโซะ เข้ากับคอนเซ็ปร้านที่ดูญี่ปุ้นญี่ปุ่นค่ะ
โอนิกิริไม่มีใส้นะคะ เป็นข้าวคลุกอะไรสักอย่าง เค็มๆ อร่อยดีค่ะ



:: เรียวกังคาเฟ่เป็นร้านกาแฟชิคๆ อยู่กลางหมู่บ้าน ที่มีทุ่งนา ป่าเขา บรรยากาศเงียบสงบ ผ่อนคลาย
เหมาะกับการมาพักใจ ใช้ชีวิตช้าๆ มากค่ะ ที่นี่ไม่มีห้องแอร์นะคะ ลมธรรมชาติล้วนๆ แต่ก็เย็นสบายดี
มีเครื่องดื่มร้อนเย็น ไอศครีมโฮมเมด มีรสวาซาบิ ด้วยนะ



:: เดินไปตรงข้ามก็มีสวนของที่นี่ค่ะ พนักงานชวนให้ไปเดินเล่น
พี่โทโทโร่ รอเราอยู่ที่นี่เอง



:: ที่ Ryokan café นี่มีที่พักด้วยนะคะ เป็นสไตล์ ryokan สมชื่อค่ะ
น่าจะสงบๆดี มาน่าหนาวคงฟินน่าดู
ใครสนใจลอง หารีวิวเพิ่มเติมนะคะ




หลังจากนั้นเราก็ขับรถมุ่งหน้าไป ไร่สิงห์ / ไร่บุญรอด / สิงห์พาร์ค
(เค้าเรียกกันอย่างงี้ค่ะ ไม่รู้ชื่อไหนกันแน่)




:: เข้าไปขับรถเล่น ดูไร่อันยิ่งใหญ่ของพี่สิงห์เขา



:: ตอนแรกเราตั้งใจจะไปทานมื้อเย็นที่ร้านภูภิรมณ์กันค่ะ
รีวิวมาว่าไก่ย่างที่นี่เด็ด  แต่พอไปถึงยังไม่หิวเลย
และเพื่อเป็นการประหยัดงบ ไปกินที่โต้รุ่งกันดีกว่า....




ออกจากไร่สิงห์ เรากลับเข้าเมืองกันนะคะ มาถึงหอนาฬิกาใช้เวลาประมาณ 25 นาทีค่ะ
เรามาถึงประมาน 6:20 pm หาที่จอดรถแถวๆนั้นได้เลยค่ะ ไม่ยากอย่างที่คิด
การแสดงแสงสีเสียงที่หอนาฬิกา เริ่ม หนึ่งทุ่มค่ะ



:: เดินหาของกินไปเรื่อยๆ



:: กลิ่นข้าวซอยร้านนี้เตะจมูกข้ามมาอีกฝั่งถนน ได้กลิ่นตั้งแต่มาถึง



:: ข้าวซอยไก่ อร่อยเหมือนที่เห็นเลยค่ะ



:: นั่งทานข้าวซอยไปเรื่อยๆก็ถึง ก็ถึงเวลาการแสดงพอดี
น่ารักดีค่ะ นั่งกินข้าวซอยไป ดูไฟไป ฟังเพลงไป ดี๊ดี
ร้านนี้เหมาะมากจิงๆ



:: ชอบสีนี้ที่สุด เลยถ่ายมาฝาก


หมดวันแรกแล้ว เก็บแต้มไปได้หลายที่เหมือนกัน
กลับไปนอนพักผ่อนกันเถอะ พรุ่งนี้ออกเดินทางแต่เช้าค่ะ....


ไว้มาต่อ day2 วันหลังนะคะ
#ทำรีวิวพันทิพย์ไม่ง่ายอย่างที่คิด  ซึ้งในบุญคุณของทุกรีวิวจิงๆค่ะ
กว่าจะสมัครสมาชิคได้
กว่ากระทู้นี้จะเป็นรูปเป็นร่าง ใช้เวลาหลายวันเลยค่ะ


ผิดพลาดยังไงต้องขอโทดไว้ล่วงหน้านะคะ มือใหม่หัดรีวิวค่ะ ถ่ายรูปชัดบ้างเบอลบ้าง ไม่ว่ากันนุ๊
เป็นกำลังใจให้ด้วย แชร์ให้ก็จะดีเลยค่ะ