คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยจนตอนนี้นอนไม่หลับแล้วค่ะ เลยมาตั้งกระทู้นี้...เริ่มเลยแล้วกันนะคะจะได้ไม่เสียเวลา ^^ คือเริ่มจาก เรากะแฟนคบกันมาตั้งแต่มัธยม มันเป็นความรักที่ไม่ได้ตั้งใจจะให้มันเกิดขึ้นเลยค่ะ ที่มาเป็นยังไงนั้นข้ามมันไปแล้วกันนะคะ รู้แค่ว่าพอคุยกันไปสักพักมารู้ตัวอีกทีก็เริ่มกลายเป็นความรักไปเองโดยที่เราก็ไม่รู้ตัว ตอนนั้นเรารักกันมาก อาจจะเป็นเพราะช่วงแรกๆด้วยมั้ง คบกันไปสักพักเราก็ต้องแยกย้ายกันค่ะโดยที่เราต้องมาเรียนต่อที่มหาลัย แต่เขาไม่ได้เรียนต่อ ช่วงที่เข้ามหาลัยใหม่ๆนี่ร้องไห้อยากกลับบ้านทุกอาทิตย์เลยค่ะ เพราะคิดถึงกัน เป็นห่วงกันไม่อยากห่างกัน แต่ก็อย่างว่าแหละค่ะ กิจกรรมในมหาลัยมันเยอะเราก็เริ่มไม่ค่อยมีเวลาให้กันเท่าไร แต่ก็ยังคุยกันเหมือนเดิมนะ ยังหวานกันเหมือนเดิม
ก็คบกันมาได้จน2ปี ไม่มีอะไรให้หนักใจ จนพอเข้าปีที่3 นี่แหละค่ะ มันก็เริ่มมีเรื่องราวหลายเรื่องเกิดขึ้นเยอะแยะเลยค่ะ ไม่ว่าจะเรื่องผู้หญิง การพนัน เที่ยว บลาๆๆๆ (แต่ขอข้ามไปไม่พูดถึงแล้วกัน แต่เหตุการณ์ทั้งหมดนั้นก็ทำให้เราหมดความรู้สึกไปเยอะเหมือนกัน)
ลืมบอก...(แฟนเราเป็นคนไม่หล่อนะคะ แต่รวย(เพราะเงินพ่อแม่) ส่วนตัวเราก็ไม่ได้ดูดีอะไรมากมายก็พอไปวัดไปวาได้ อีกอย่างแฟนเราเป็นคนสปอร์ตค่ะ ใจดี กล้าได้กล้าเสีย ชอบตามใจเรา อยากไปไหนก็พาไป อยากได้อะไรก็หามาให้ทุกอย่าง ย้ำนะคะว่าทุกอย่าง!! ไม่เคยให้เราต้องลำบาก) จนบางทีก็คิดว่าตัวเองสบายเกินไป เขาดูแลเราดีจนเราเคยตัว และตลอดเวลาที่อยู่มหาลัยเขาก็เป็นคนส่งเสียเลี้ยงดูเราทุกอย่างค่ะส่งเงินให้ทุกเดือน จนเราแทบไม่ต้องขอพ่อแม่เลย ไม่เคยขอเลยก็ว่าได้ เพราะเหตุการณ์เหล่านี้อีกเช่นกันที่เป็นจุดเริ่มต้นให้ต้องตั้งกระทู้แล้วแหละ เรามาพูดถึงเรื่องครอบครัวเราดีกว่า คือครอบครัวเราค่อนข้างลำบาก เกือบจนเลยก็ว่าได้ ถ้าเทียบกับครอบครัวเขาแล้วแตกต่างกันลิบลับค่ะ เขารู้ว่าครอบครัวเราเป็นยังไงเขาก็รับได้ ยอมรับและช่วยเหลือเรามาตลอด และครอบครัวเขาก็รักเรามากให้นู่นให้นี่ทุกสิ่งทุกอย่างเงินทองของใช้ จนบางทีเราก็รู้สึกเกรงใจเพราะทุกสิ่งที่ได้มาเราไม่เคยเอ่ยปากขอ แต่เขาให้เรามาเอง แรกๆที่คบกันพ่อแม่เราก็ไม่สนับสนุนหรอกค่ะ ไม่ค่อยให้ไปเที่ยวไหนด้วยกันไม่ให้ไปบ้านเขา ไม่ให้ไปค้างคืนที่บ้านเขา คือข้อห้ามเยอะอ่ะค่ะ จนมาถึงช่วงกลางๆปีที่3 มันเป็นช่วงที่แฟนเราติดการพนันงอมแงมเลยค่ะ จากที่เคยสนใจเรา ส่งเสียเราก็ไม่ทำเช่นเคย ชอบผิดคำพูดผิดคำสัญญากะเราบ่อยๆจนเสียความรู้ไปไม่รู้กี่ครั้งนับไม่ถ้วน จนช่วงปลายปี เราพยายามคิดตัดสินใจอย่างหนักเลยค่ะว่าจะเลิกกะเขาดีมั้ย แต่คำตอบสุดท้ายแล้ว "ก็เลิกกันจริงๆค่ะ" เราเสียใจมากกับสิ่งที่เราทำลงไปเราบอกเลิกเขา เราทิ้งเขา เพราะว่าเราแคร์ความรู้สึกของตัวเองมากกว่า แต่เราก็คิดว่ามันหมดความรู้สึกแล้วจริงๆ มันเบื่อแล้วกับการต้องมานั่งฟังคำสัญญาลวงๆไปวันๆ แต่พอเวลาผ่านไปไม่นานเราก็มีแฟนใหม่ค่ะ แฟนใหม่นี้ก็ดีกับเราอยู่หรอกค่ะ แต่แค่ช่วง 3 เดือนแรกเท่านั้น จนมันทำให้เราต้องหวนกลับมาคิดถึงอดีตแฟนคนแรกของเราอีกครั้ง มีข้อเปรียบเทียบมากมายให้เราต้องรู้สึกผิดกับสิ่งที่เราทำลงไป แต่ตอนนั้นเราก็คิดว่ามันสายไปแล้วค่ะ เพราะครอบครัวเขาได้เกลียดเราไปแล้วเมื่อรู้ว่าเรามีแฟนใหม่ เขาด่าเขาว่าเราสารพัด จนเราคิดว่า นี่หรอคนที่เคยบอกว่ารักเรา? นี่หรอคนที่เคยให้เกียรติเรามาตลอด?เขาดูถูกเราได้แบบไม่มีวันลืม จนเราจำได้ขึ้นใจมาจนทุกวันนี้เลยค่ะ พอหลังจากเราคบกะแฟนใหม่ไปสักพักไม่นานเราก็เลิกกันค่ะ แต่ยอมรับเลยว่าช่วงนั้นลำบากมากกกกกก จนเราอดนึกถึงแฟนเก่าไม่ได้แล้วก็ได้ติดต่อกันตลอดจนเลิกกะแฟนใหม่(ช่วงนั้นดูเลวมากที่แอบคุยกัน)
ต่อมาก็ฉากนี้อีกแล้วค่ะ แฟนเก่าช่วยเหลือเราไว้อีกแล้วเขากลับมาช่วยเราอีกแล้ว แต่ไม่รู้นะคะตลอดเวลาที่ติดต่อกับแฟนเก่า ไม่ได้คิดอยากกลับไปคบกัน เพราะคิดว่าความรู้สึกเรามันไม่เหมือนเดิมแล้ว ไม่อยากกลับไปอดทนอะไรกันอีก แต่คุยกันในสถานะเพื่อนแล้วมันดูเข้าใจกันมากกว่าเราโอเคกับแบบนี้ แต่เขาไม่ค่ะ...เขาหวังแต่จะให้เรากลับไปคบกัน จนสุดท้ายเราก็ได้กลับมาคบกันจริงๆค่ะ แต่เป็นสถานการณ์บังคับ(บอกไม่ได้)
การที่เรากลับมาคบกันครั้งนี้เราไม่ทันได้ตั้งตัวเลยค่ะ ทุกอย่างมันดูรวดเร็วไปหมด และทุกอย่างมันก็ไม่เหมือนเดิมแล้วโดยเฉพาะครอบครัว ครั้งนี้ครอบครัวเขารักเรามากกว่าเดิมค่ะ เอาใจใส่เรามากกว่าเดิมทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เราทำให้เขาผิดหวังมาก แต่เขาก็ยังให้อภัยแถมยังรอเรากลับมาอีกต่างหาก ซึ่งต่างจากครอบครัวเราจนเราเองยังตกใจ...คือครอบครัวเราจากที่เคยห้ามนู่นนี่ทุกอย่าง กลับกลายเป็นว่าสนับสนุนให้เราคบกะแฟนเก่า ให้เราไปหาเขาที่บ้าน ให้เราไปนอนบ้านเขา เพียงเพื่อไปเอาเงินจากเขามาใช้จ่ายไปวันๆ ช่วงปิดเทอมนี่ตื่นเช้ามาก็ถามแล้วว่าวันนี้จะไปบ้านเขามั้ย ไปนอนบ้านเขาสักคืนมั้ย!! คือเฮ๊ยยยยยยย!! เห็นเราเป็นตัวอะไร ทำไมยอมง่ายอย่างนี้ ทำไมผลักไสไล่ส่งเราแบบนี้ ถามความสมัครใจเราสักครั้งมั้ย เคยถามเราบ้างมั้ยว่าเราอยากไปรึป่าว ทั้งๆที่เราก็เคยพูดว่าเวลาที่เราอยู่บ้านเขาเรารู้สึกอึดอัดยังไง เรากดดันแค่ไหน (ถึงเขาจะรักเราขนาดนั้นแต่ถ้าก้าวก่ายชีวิตเราเกินไปเราก็ไม่ชอบนะ) เรารู้สึกไม่โอเคกับระบบครอบครัวของเขาที่ทั้งเราและเขาก็ถูกเลี้ยงดูมากันคนละแบบ และก็คงไม่แปลกที่เราจะไม่ชอบการเลี้ยงดูแบบของเขา เราอยู่บ้านเราแล้วเรารู้สึกเป็นตัวของตัวเองกว่า เราสบายใจกว่า แต่ทำไมคนที่บ้านเรากลับผลักไสให้เราไปที่อื่น เพราะอะไรน่ะหรอ? "ก็เงินไงล่ะ" เงินสำคัญที่สุดในความคิดของคนแก่ๆ แต่ความสุขเราล่ะ ความสบายใจเราล่ะ เราไม่ได้อยากได้อะไรของเขาขนาดนั้น เราไม่อยากให้เขามาว่าได้อีกว่าครอบครัวเราเป็นยังไง เราคิดถึงความสุขในอนาคต แต่ไม่ได้คิดถึงความสบายในอนาคต เราไม่รู้ว่าในอนาคตเราจะเรียนจบได้ทำงานที่ไหน เจอผู้คนอีกเยอะแยะมากมายแค่ไหน ไม่รู้ว่าอนาคตจะลำบากขนาดไหนแต่เราแค่อยากได้ความเป็นอิสระ การไม่ต้องผูกมัด ซึ่งการกลับมาคบกันนี้มันก็เป็นการที่กลับมาคบกันแบบไม่ได้ตั้งใจอีก เราไม่ได้รักเขาเหมือนเดิม ความรู้สึกดีๆของเรามันไม่มีเหมือนเดิม เพียงแค่เราปฎิเสธความหวังดีของเขาไม่ได้ มันจึงทำให้เป็นบ่วงพัวพัน ที่ไม่รู้จะทำยังไง ไม่รู้จะตัดสินใจยังไง ทุกอย่างมันมืดแปดด้านไปหมด ถ้าครั้งนี้เราบอกเลิกเขาอีกเราก็ผิดอีก เลวอีก แต่ถ้าไม่บอกเราก็มีความรักเหลือให้เขาน้อยมากแล้วเขาจะไม่เสียใจหรอแล้วเราจะทนอยู่กันยังไงหรอ สถานการณ์ตอนนี้มันบีบบังคับให้เราต้องตัดสินใจเร็วๆเพื่อที่อะไรๆมันจะได้จบลงสักที
"จะเดินต่อหรือจะหยุด ควรทำยังไงดีคะ?"
ความรักระหว่าง...อนาคตที่สบายแต่อึดอัดกับการเป็นอิสระแต่ลำบาก...เป็นคุณจะเลือกอะไร?
ก็คบกันมาได้จน2ปี ไม่มีอะไรให้หนักใจ จนพอเข้าปีที่3 นี่แหละค่ะ มันก็เริ่มมีเรื่องราวหลายเรื่องเกิดขึ้นเยอะแยะเลยค่ะ ไม่ว่าจะเรื่องผู้หญิง การพนัน เที่ยว บลาๆๆๆ (แต่ขอข้ามไปไม่พูดถึงแล้วกัน แต่เหตุการณ์ทั้งหมดนั้นก็ทำให้เราหมดความรู้สึกไปเยอะเหมือนกัน)
ลืมบอก...(แฟนเราเป็นคนไม่หล่อนะคะ แต่รวย(เพราะเงินพ่อแม่) ส่วนตัวเราก็ไม่ได้ดูดีอะไรมากมายก็พอไปวัดไปวาได้ อีกอย่างแฟนเราเป็นคนสปอร์ตค่ะ ใจดี กล้าได้กล้าเสีย ชอบตามใจเรา อยากไปไหนก็พาไป อยากได้อะไรก็หามาให้ทุกอย่าง ย้ำนะคะว่าทุกอย่าง!! ไม่เคยให้เราต้องลำบาก) จนบางทีก็คิดว่าตัวเองสบายเกินไป เขาดูแลเราดีจนเราเคยตัว และตลอดเวลาที่อยู่มหาลัยเขาก็เป็นคนส่งเสียเลี้ยงดูเราทุกอย่างค่ะส่งเงินให้ทุกเดือน จนเราแทบไม่ต้องขอพ่อแม่เลย ไม่เคยขอเลยก็ว่าได้ เพราะเหตุการณ์เหล่านี้อีกเช่นกันที่เป็นจุดเริ่มต้นให้ต้องตั้งกระทู้แล้วแหละ เรามาพูดถึงเรื่องครอบครัวเราดีกว่า คือครอบครัวเราค่อนข้างลำบาก เกือบจนเลยก็ว่าได้ ถ้าเทียบกับครอบครัวเขาแล้วแตกต่างกันลิบลับค่ะ เขารู้ว่าครอบครัวเราเป็นยังไงเขาก็รับได้ ยอมรับและช่วยเหลือเรามาตลอด และครอบครัวเขาก็รักเรามากให้นู่นให้นี่ทุกสิ่งทุกอย่างเงินทองของใช้ จนบางทีเราก็รู้สึกเกรงใจเพราะทุกสิ่งที่ได้มาเราไม่เคยเอ่ยปากขอ แต่เขาให้เรามาเอง แรกๆที่คบกันพ่อแม่เราก็ไม่สนับสนุนหรอกค่ะ ไม่ค่อยให้ไปเที่ยวไหนด้วยกันไม่ให้ไปบ้านเขา ไม่ให้ไปค้างคืนที่บ้านเขา คือข้อห้ามเยอะอ่ะค่ะ จนมาถึงช่วงกลางๆปีที่3 มันเป็นช่วงที่แฟนเราติดการพนันงอมแงมเลยค่ะ จากที่เคยสนใจเรา ส่งเสียเราก็ไม่ทำเช่นเคย ชอบผิดคำพูดผิดคำสัญญากะเราบ่อยๆจนเสียความรู้ไปไม่รู้กี่ครั้งนับไม่ถ้วน จนช่วงปลายปี เราพยายามคิดตัดสินใจอย่างหนักเลยค่ะว่าจะเลิกกะเขาดีมั้ย แต่คำตอบสุดท้ายแล้ว "ก็เลิกกันจริงๆค่ะ" เราเสียใจมากกับสิ่งที่เราทำลงไปเราบอกเลิกเขา เราทิ้งเขา เพราะว่าเราแคร์ความรู้สึกของตัวเองมากกว่า แต่เราก็คิดว่ามันหมดความรู้สึกแล้วจริงๆ มันเบื่อแล้วกับการต้องมานั่งฟังคำสัญญาลวงๆไปวันๆ แต่พอเวลาผ่านไปไม่นานเราก็มีแฟนใหม่ค่ะ แฟนใหม่นี้ก็ดีกับเราอยู่หรอกค่ะ แต่แค่ช่วง 3 เดือนแรกเท่านั้น จนมันทำให้เราต้องหวนกลับมาคิดถึงอดีตแฟนคนแรกของเราอีกครั้ง มีข้อเปรียบเทียบมากมายให้เราต้องรู้สึกผิดกับสิ่งที่เราทำลงไป แต่ตอนนั้นเราก็คิดว่ามันสายไปแล้วค่ะ เพราะครอบครัวเขาได้เกลียดเราไปแล้วเมื่อรู้ว่าเรามีแฟนใหม่ เขาด่าเขาว่าเราสารพัด จนเราคิดว่า นี่หรอคนที่เคยบอกว่ารักเรา? นี่หรอคนที่เคยให้เกียรติเรามาตลอด?เขาดูถูกเราได้แบบไม่มีวันลืม จนเราจำได้ขึ้นใจมาจนทุกวันนี้เลยค่ะ พอหลังจากเราคบกะแฟนใหม่ไปสักพักไม่นานเราก็เลิกกันค่ะ แต่ยอมรับเลยว่าช่วงนั้นลำบากมากกกกกก จนเราอดนึกถึงแฟนเก่าไม่ได้แล้วก็ได้ติดต่อกันตลอดจนเลิกกะแฟนใหม่(ช่วงนั้นดูเลวมากที่แอบคุยกัน)
ต่อมาก็ฉากนี้อีกแล้วค่ะ แฟนเก่าช่วยเหลือเราไว้อีกแล้วเขากลับมาช่วยเราอีกแล้ว แต่ไม่รู้นะคะตลอดเวลาที่ติดต่อกับแฟนเก่า ไม่ได้คิดอยากกลับไปคบกัน เพราะคิดว่าความรู้สึกเรามันไม่เหมือนเดิมแล้ว ไม่อยากกลับไปอดทนอะไรกันอีก แต่คุยกันในสถานะเพื่อนแล้วมันดูเข้าใจกันมากกว่าเราโอเคกับแบบนี้ แต่เขาไม่ค่ะ...เขาหวังแต่จะให้เรากลับไปคบกัน จนสุดท้ายเราก็ได้กลับมาคบกันจริงๆค่ะ แต่เป็นสถานการณ์บังคับ(บอกไม่ได้)
การที่เรากลับมาคบกันครั้งนี้เราไม่ทันได้ตั้งตัวเลยค่ะ ทุกอย่างมันดูรวดเร็วไปหมด และทุกอย่างมันก็ไม่เหมือนเดิมแล้วโดยเฉพาะครอบครัว ครั้งนี้ครอบครัวเขารักเรามากกว่าเดิมค่ะ เอาใจใส่เรามากกว่าเดิมทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เราทำให้เขาผิดหวังมาก แต่เขาก็ยังให้อภัยแถมยังรอเรากลับมาอีกต่างหาก ซึ่งต่างจากครอบครัวเราจนเราเองยังตกใจ...คือครอบครัวเราจากที่เคยห้ามนู่นนี่ทุกอย่าง กลับกลายเป็นว่าสนับสนุนให้เราคบกะแฟนเก่า ให้เราไปหาเขาที่บ้าน ให้เราไปนอนบ้านเขา เพียงเพื่อไปเอาเงินจากเขามาใช้จ่ายไปวันๆ ช่วงปิดเทอมนี่ตื่นเช้ามาก็ถามแล้วว่าวันนี้จะไปบ้านเขามั้ย ไปนอนบ้านเขาสักคืนมั้ย!! คือเฮ๊ยยยยยยย!! เห็นเราเป็นตัวอะไร ทำไมยอมง่ายอย่างนี้ ทำไมผลักไสไล่ส่งเราแบบนี้ ถามความสมัครใจเราสักครั้งมั้ย เคยถามเราบ้างมั้ยว่าเราอยากไปรึป่าว ทั้งๆที่เราก็เคยพูดว่าเวลาที่เราอยู่บ้านเขาเรารู้สึกอึดอัดยังไง เรากดดันแค่ไหน (ถึงเขาจะรักเราขนาดนั้นแต่ถ้าก้าวก่ายชีวิตเราเกินไปเราก็ไม่ชอบนะ) เรารู้สึกไม่โอเคกับระบบครอบครัวของเขาที่ทั้งเราและเขาก็ถูกเลี้ยงดูมากันคนละแบบ และก็คงไม่แปลกที่เราจะไม่ชอบการเลี้ยงดูแบบของเขา เราอยู่บ้านเราแล้วเรารู้สึกเป็นตัวของตัวเองกว่า เราสบายใจกว่า แต่ทำไมคนที่บ้านเรากลับผลักไสให้เราไปที่อื่น เพราะอะไรน่ะหรอ? "ก็เงินไงล่ะ" เงินสำคัญที่สุดในความคิดของคนแก่ๆ แต่ความสุขเราล่ะ ความสบายใจเราล่ะ เราไม่ได้อยากได้อะไรของเขาขนาดนั้น เราไม่อยากให้เขามาว่าได้อีกว่าครอบครัวเราเป็นยังไง เราคิดถึงความสุขในอนาคต แต่ไม่ได้คิดถึงความสบายในอนาคต เราไม่รู้ว่าในอนาคตเราจะเรียนจบได้ทำงานที่ไหน เจอผู้คนอีกเยอะแยะมากมายแค่ไหน ไม่รู้ว่าอนาคตจะลำบากขนาดไหนแต่เราแค่อยากได้ความเป็นอิสระ การไม่ต้องผูกมัด ซึ่งการกลับมาคบกันนี้มันก็เป็นการที่กลับมาคบกันแบบไม่ได้ตั้งใจอีก เราไม่ได้รักเขาเหมือนเดิม ความรู้สึกดีๆของเรามันไม่มีเหมือนเดิม เพียงแค่เราปฎิเสธความหวังดีของเขาไม่ได้ มันจึงทำให้เป็นบ่วงพัวพัน ที่ไม่รู้จะทำยังไง ไม่รู้จะตัดสินใจยังไง ทุกอย่างมันมืดแปดด้านไปหมด ถ้าครั้งนี้เราบอกเลิกเขาอีกเราก็ผิดอีก เลวอีก แต่ถ้าไม่บอกเราก็มีความรักเหลือให้เขาน้อยมากแล้วเขาจะไม่เสียใจหรอแล้วเราจะทนอยู่กันยังไงหรอ สถานการณ์ตอนนี้มันบีบบังคับให้เราต้องตัดสินใจเร็วๆเพื่อที่อะไรๆมันจะได้จบลงสักที
"จะเดินต่อหรือจะหยุด ควรทำยังไงดีคะ?"