เล่าประสบการณ์จากคนกลัวหมอฟัน นั่ง BTS ไปผ่าฟันคุดแบบชิลล์ ๆ

กระทู้สนทนา
สวัสดีค่า กลับมาแล้ววว หายไปพักนึง เพราะแอบไปผ่าฟันคุดมาค่ะ 555 กระทู้นี้เป็นการบอกเล่าประสบการณ์  “ผ่าฟันคุด” ของสาววัย 24 ที่กล้า ๆ กลัว ๆ มาตั้งนาน พอเอาออกไปแล้วก็ชิลล์ ๆ  ด้วยความสตรองที่ต้องบอกเลยว่านั่ง BTS ไปกลับ 5555

เริ่มต้นจากการที่เรามาหาหมอฟันคราวก่อน ก็ขูดหินปูนประจำปีไปตามเรื่องตามราว  และคุณหมอก็ถามว่า

"เรามีฟันคุดนะ พร้อมเอาออกเลยไหม?? มันไม่โผล่พ้นออกมา แบบนี้ต้องผ่าออก"

ตอนแรกเรากลัวมากกกกก พอได้ยินว่าต้องผ่าออก ถอนไม่ได้ แต่ก็ทำใจดีสู้เสือ ไป x-ray ค่ะ ผลปรากฏว่า….

มีฟันคุดทั้งหมด 4 ซี่ ไม่มีซี่ไหนงอกออกมาเต็ม ๆ ให้ถอนได้เลย 5555 โชคชะตาฟ้าลิขิต ฮือออ ถามคุณหมอว่า ไม่เอาออกได้ไหมคะ กลัวเลือด กลัวการผ่าตัด ตอนนี้ไม่ปวดไม่อะไรเลย ก็ได้คำตอบประมาณว่า (จำคำพูดคุณหมอเป๊ะ ๆ ไม่ได้ มีการ search หาข้อมูลประกอบเพิ่มเติมนะคะ อยากให้เป็นประโยชน์ต่อผู้หาข้อมูลที่สุดค่ะ)


“ฟันคุด เป็นอีกหนึ่งปัญหาใหญ่ในช่องปาก มันคือฟันส่วนเกินที่ไม่จำเป็น บางคนอาจโชคดีเก็บไว้แล้วไม่เป็นอะไร แต่บางคนก็ต้องทรมานเพราะอาการข้างเคียงของฟันคุด เช่น ฟันผุเพราะไม่สามารถแปรงได้ทั่วถึง หรือฟันซ้อนเกในอนาคต และอาจปวดฟันจนต้องทรมานร้องมาหาหมอเลยนะ รีบเอาออกยิ่งดี อายุยังไม่มาก แผลก็หายไว” ได้ยินแบบนี้ก็เริ่มเสียวสันหลัง เอาวะ คิดเอาเองว่า รอผ่าตอนมีอาการปวด จะต้องทวีความระบมชัวร์ ๆ เราเลยตัดสินใจทำนัดเลยค่ะ กลับไปทำใจก่อน กระซิก ๆ


คลินิกที่เราเลือกผ่าฟันคุดก็คือที่เดิมที่มาขูดหินปูนนี่แหละค่ะ ชื่อคลินิกทันตกรรมเด้นท์โฮม สาขาสะพานควาย   [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

สาเหตุที่เลือกที่นี่เพราะเราเดินทางสะดวก คลินิกอยู่แยกสะพานควาย เราลง BTS สะพานควายแล้วเดินตรงมา ผ่าน รพ. เปาโล / Big C จนมาถึงคลินิกค่ะ อยู่ซ้ายมือ เดินไม่ไกล หาไม่ยาก อันนี้หน้าคลินิกค่ะ…





พอเข้ามาก็จะเป็นบรรยากาศสบาย ๆ จากการที่เคยผ่านการขูดหินปูน-ฟอกสีฟันที่นี่ แอบกระซิบว่าคุณหมอน่ารักทุกคนเลยค่ะ ที่สำคัญคือ นัดไม่ยาก ถ้าไม่ได้เจาะจงคุณหมอ เพราะมีหมอเข้าทุกวัน เห็นตอนนี้มี Promotion จัดฟัน เลยมีวัยรุ่นเข้ามาเยอะ อาจต้องรอคิวซักนิดหากไม่ได้นัด  วันนี้เราเลือกนัดคิวคุณหมอนกค่ะ ประทับใจ คุณหมอเสียงหวาน มือเบา ><





มาพบหมอก็ยื่นบัตรที่ชั้นล่างตรงนี้ มีทีวีให้ดูก่อนขึ้นเขียง 55555 ก็นั่งรอเรียกคิว ละก็ขึ้นไปห้องทำฟันเลยค่ะ ชั้น 2



มาชั้นสอง นี่คือหน้าห้องทำฟัน ก็มีทีวีอีกเครื่องให้รีแลกซ์ ตอนรอหน้าห้องนี้แอบตื่นเต้น แต่ยังใจดีสู้เสือเก็บบรรยากาศส่งให้แฟนดู 55555 ฉันจะเลือดกลบปากแล้วแกกกกกก

ถึงเวลาหมอเรียก ก็เก็บกล้อง รวบรวมความกล้าขึ้นไปบนเตียงค่ะ คุณหมอคนสวยใจดีก็ชวนคุย ฉีดยาชาเบา ๆ เจ็บจึ้ก ๆ แบบทนได้ พอเริ่มชาก็โซโล่ในปากเราทันที มีผู้ช่วย 1 คน

เนื่องจากฟันเราขึ้นเป็นแนวนอน และไม่โผล่พ้นเหงือก เลยต้องมีการกรีดเหงือกก่อน แล้วใช้อะไรสักอย่างตัดแบ่งฟัน ก่อนจะค่อย ๆ คีบออกมา ทุกขั้นตอนคุณหมอจะคอยถามว่า เจ็บไหม ให้ยกมือบอก ถึงจะฟังดูน่ากลัว แต่ตอนนี้แค่รู้สึกตึง ๆ งัด ๆ เท่านั้นค่ะ ยาชามันออกฤทธิ์แล้วว ก็บอกเลยว่าชิลล์ ๆ แต่แอบนอนเหงื่อแตก 5555

สักพักก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี บ้วนปากเสร็จก็ลงมารอรับยาและน้ำแข็งประคบเย็น ได้ยาฆ่าเชื้อและยาแก้ปวดมาค่ะ สรุปค่าเสียหาย 3,500 บาท (รวมค่ายา) เพราะว่าเป็นเคสที่ค่อนข้างยาก



กลับมาถึงบ้านก็ยังชิลล์ เพราะยาชายังคงออกฤทธิ์ แต่หลังจากนั้นไม่นาน…… ปวดแผลมากกกก T^T แต่พอกินยาก็บรรเทาลงค่ะ วันรุ่งขึ้นตื่นมาหน้าบวมนิดหน่อย ทานได้แต่ของเบา ๆ ที่ไม่ต้องเคี้ยวหนัก  ใช้วิธีเคี้ยวอีกข้างที่ไม่ได้ผ่าแทน แต่จากนั้นอีกไม่นานก็กลับมากินดุเหมือนปกติ 555555 อีกอาทิตย์ก็ไปตัดไหมค่า

จบแล้วค่ะ สำหรับรีวิวการทำฟันครั้งนี้ โดยรวมเราประทับใจในการบริการและบรรยากาศที่นี่นะ ราคาก็มาตรฐาน ตอนนั่งเม้าท์กับพี่ที่เค้าเตอร์ เค้าบอกว่ามีเคสจากรายการ Let me in มาจัดฟันที่นีด้วย แอบถ่ายโปรจัดฟันมาฝากกันค่ะ



สุดท้ายก็อยากฝากให้ทุกคนไปพบทันตแพทย์ทุก 6 เดือนและทำตามคำแนะนำของคุณหมออย่างเคร่งครัดนะคะ ใครมีฟันคุดยิ่งเอาออกเร็วยิ่งดีค่ะ เก็บไว้ก็มีแต่ปัญหา เราเองเหลืออีก 3 ซี่จะรีบจัดการให้ครบ อิอิ วันนี้ขอลาไปก่อนน้า เจอกันใหม่กระทู้หน้าค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่