ที่ผมต้องมาเขียนบอกเล่าเรื่องราว เพราะเรื่องนี้ยังไม่มีการดำเนินการใดๆจาก ธนาคารกสิกร ทั้งที่เรื่องผ่านมาเป็นปีกว่าๆ พยายามติดตามเรื่องก็ยังได้รับคำตอบเดิมๆ คือ ต้องรอ ( ตอนนี้ปีกว่าแล้วนะครับ จะต้องรออีกกี่ปี )
ขอเล่ารายละเอียดเท่าที่พอจะจำได้ครับ
วันที่ 19/05/58 ผมเดินทางไปกรุงเทพพร้อมเพื่อนชายอีกคน ลงที่สนามบินดอนเมือง เมื่อถึงสนามบินได้ติดต่อเช่ารถจาก บริษัท AVIS
การเช่ารถครั้งนี้เป็นการเช่ารถครั้งแรกของผมและจะจำไปจนวันตายเลยครับ
เมื่อผมเลือกรุ่นรถเสร็จแล้ว จึงได้สอบถามเรื่องการรับประกันอบัติเหตุ พนักงานแจ้งว่า เป็นประกันประเภท 3 ผมจึงได้เปลี่ยนเป็นให้เป็น ประกันประเภท 1 ยอมเสียเงินซื้อประกันเพิ่ม เพื่อความอุ่นใจครับ
ในวันที่ 21/05/58 ช่วงเวลาประมาณ 19.00 ได้เกิดอุบัติเหตุขึ้น มีมอไซด์มาชนท้ายรถที่เช่ามาซึ่งช่วงเกิดเหตุเพื่อนผมเป็นคนขับรถเช่า
และผมเองไม่ได้อยู่จุดเกิดเหตุ ( เพราะให้เพื่อนขับรถตามไป พัทยา โดยตัวผมเองเดินทางล่วงหน้าไปก่อน )
ด้วยความโง่ของผมเองที่ยังเข้าใจว่ารถเช่ามีประกันประเภท 1 เดี๋ยวประกันก็เคลีย จึงให้เพื่อนประสานบริษัทประกัน และ ผมเองโทรติดต่อบริษัท AVIS
แจ้งจุดเกิดเหตุและลักษณะอุบัติเหตุคร่าวๆ ดังนี้
ผม --- ตอนนี้รถเกิดอุบัติเหตุครับ
พนักงาน --- แจ้งประกันรึยังค่ะ
ผม --- แจ้งแล้วครับ
พนักงาน --- อุบัติเกิดที่ไหนค่ะ
ผม --- แจ้งจุดเกิดเหตุไป บลาๆๆๆๆ
พนักงาน --- ใครเป็นคนขับค่ะ
ผม --- เพื่อนผมครับ อยู่ที่จุดเกิดเหตุ
พนักงาน --- ขอทราบชื่อและเบอร์โทรเพื่อนคุณด้วยค่ะ
ผม --- ( แจ้งชื่อและเบอร์โทรเพื่อนไป ) สอบถามเพิ่มนะครับ ตรงนี้ประกันดูแลใช่ไหมครับ
พนักงาน --- กรณีนำรถให้ผู้อื่นขับ ผู้เช่าต้องรับผิดชอบเองทั้งหมด <<<< ซึ่งตรงนี้เอง ผมจะแจ้งว่าผมโง่เองไม่ได้อ่านในสัญญาเช่าดีๆ มีข้อความตัวหนังสือเล็กมากๆอยู่ด้านล่างในสัญญาเช่า ###
ผม --- ห๊าาาา!! ผมแจ้งทำประกันชั้น 1 ไปแล้วนะครับพี่ ( ตอนนี้เริ่มเกิดอาการมึนหัวขึ้นมาทันทีเลยครับ )
พนักงาน --- ใช่ค่ะ แต่คุณไม่ได้แจ้งให้ ADD Driver ( ซึ่งหมายถึงจะรับผิดชอบเมื่อผมขับเพียงคนเดียวเท่านั้น )
ผม --- ทำไมพี่ถึงไม่แจ้งผมละครับ ตอนไปเช่ารถก็ไปกัน 2 คนนะครับพี่
พนักงาน --- คุณก็ไม่ได้แจ้งพี่นิค่ะ ว่าคุณจะให้เพื่อนคุณขับด้วย - -"
ด้วยความมึนผมจึงวางสายสนทนาไป ในใจคิดละ กูโดนแล้ว !!!
ระหว่างรอประกันมา ผมก็ได้สอบถามเพื่อนถึงลักษณะการเกิดเหตุ จึงได้ใจความมาว่า จอดข้างทางเปิดไปกระพริบ เปิดไฟหน้าตามปกติเพื่อคุยโทรศัพท์
คุยได้ประมาณ 3 - 4 นาที ก็มีมอไซด์มาชนท้ายรถ สอบถามถึงคนเจ็บแจ้งว่า นำส่ง รพ. แล้ว
( เรื่องคดีความและคนเจ็บข้อข้ามไปเนื่องจากคดีเรียบร้อยแล้วครับ )
วันเกิดเหตุ รถเช่า ยังไม่สามารถนำกลับได้ต้องจอดไว้ที่โรงพัก เจ้าหน้าที่ประกันคุ้มภัย ขับรถมาส่งเพื่อนผมในพัทยา
ผมติดต่อ AVIS แจ้งว่าจะนำรถอีกคันมาส่งให้ตอนเช้าวันที่ 22/05/58 ที่พัทยา
10.00 22/05/58 AVIS พัทยา นำรถมาส่งให้ที่โรงแรม วันเดียวกัน ผมขับรถคันใหม่กลับมาส่งคืนที่ ดอนเมือง ถึงเวลาประมาณ 14.00 ม
หลังจากส่งรถแล้วสอบถามพนักงานหน้าเคาว์เตอร์แจ้งว่าจะมีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานใหญ่ติดต่อมาภายหลัง
วันที่ 23/05/58 ยอดวงเงินที่บล็อกไว้จำนวน 20,000 บาท ได้ถูกเรียกเก็บ ทั้งหมดจากบริษัท
โดยที่ยังไม่มีเจ้าหน้าที่จาก AVIS ติดต่อผมเลย
****** วันที่ 29/05/58 มียอดหักเงินในบัตรเครดิต เพิ่มอีก 10,000 บาท จาก AVIS โดยที่ยังไม่มีพนักงานติดต่อมาเลยตั้งแต่คืนรถเรียบร้อย
ยอด 10,000 บาทหลังนี้เป็นยอดที่ข้องใจมาก เพราะบัตรเครดิตก็อยู่กับตัวผมเอง ซึ่งเวลานั้นผมอยู่บ้านที่เชียงใหม่แล้ว แต่มีการหักเงินใน บัตรจากบริษัท AVIS โดยไม่ได้รับการยินยอมจากผม เมื่อโทรไปหาธนาคารกสิกร แจ้งให้ส่งหนังสือทักท้วง ผมส่งไปเป็นปียังไม่มีความคืบหน้าอะไรเลย สรุป ยอดรวม 30,000 ทางธนาคารพักยอดไว้ ปีกว่าๆแล้วครับ T T
## คดีได้สิ้นสุดแล้ว ซึ่งฝ่ายมอไซด์เป็นฝ่ายผิด แต่เหตุใดจึงไม่ไปเก็บเงินที่ฝ่ายมอไซด์
## ในเมื่อผมทำประกันประเภท 1 ไว้ เมื่อเกิดเหตุ ประกันก็รับผิดชอบ แต่ทาง AVIS ยังมาเอากำไรในส่วนนี้กับลูกค้าอีก รู้สึกแย่มากๆ
## ธนาคารกสิกร ทำไมให้หักบัตรเครดิตได้อย่างไร ความปลอดภัยในการใช้บัตรของลูกค้าอยู่ตรงไหนครับ
### อุบัติเหตุครั้งนี้ผมอยากให้เป็นเพื่อนๆศึกษาข้อมูลดีๆก่อนเช่ารถ ผมเหมือนโดนปล้นยังไงไม่รู้ครับ ทั้งที่ไม่ได้เป็นฝ่ายผิด รถเสียหายไม่มาก
และ ทางบริษัทก็ได้ทำประกันประเภท 1 ไว้แล้ว แต่ AVIS มาทำกำไรจากตรงนี้ไม่ยุติธรรมเท่าไหร่
## เอกสารทั้งหมดรวมถึงบันทึกประจำวัน ผมยังเก็บไว้อยู่ ซึ่งได้ส่งให้ธนาคารไปแล้วหากอยากได้อีกรอบติดต่อผมมาได้ครับ
สัญญาเช่ารถ รายละเอียดเรื่องผู้เช่าอยู่ด้านล่างตัวสีนำ้เงินเล็กนิดเดียว
โดนหักเงินในบัตรเครดิต ธนาคารกสิกร จากการเช่ารถยนต์ของ บริษัท AVIS
ขอเล่ารายละเอียดเท่าที่พอจะจำได้ครับ
วันที่ 19/05/58 ผมเดินทางไปกรุงเทพพร้อมเพื่อนชายอีกคน ลงที่สนามบินดอนเมือง เมื่อถึงสนามบินได้ติดต่อเช่ารถจาก บริษัท AVIS
การเช่ารถครั้งนี้เป็นการเช่ารถครั้งแรกของผมและจะจำไปจนวันตายเลยครับ
เมื่อผมเลือกรุ่นรถเสร็จแล้ว จึงได้สอบถามเรื่องการรับประกันอบัติเหตุ พนักงานแจ้งว่า เป็นประกันประเภท 3 ผมจึงได้เปลี่ยนเป็นให้เป็น ประกันประเภท 1 ยอมเสียเงินซื้อประกันเพิ่ม เพื่อความอุ่นใจครับ
ในวันที่ 21/05/58 ช่วงเวลาประมาณ 19.00 ได้เกิดอุบัติเหตุขึ้น มีมอไซด์มาชนท้ายรถที่เช่ามาซึ่งช่วงเกิดเหตุเพื่อนผมเป็นคนขับรถเช่า
และผมเองไม่ได้อยู่จุดเกิดเหตุ ( เพราะให้เพื่อนขับรถตามไป พัทยา โดยตัวผมเองเดินทางล่วงหน้าไปก่อน )
ด้วยความโง่ของผมเองที่ยังเข้าใจว่ารถเช่ามีประกันประเภท 1 เดี๋ยวประกันก็เคลีย จึงให้เพื่อนประสานบริษัทประกัน และ ผมเองโทรติดต่อบริษัท AVIS
แจ้งจุดเกิดเหตุและลักษณะอุบัติเหตุคร่าวๆ ดังนี้
ผม --- ตอนนี้รถเกิดอุบัติเหตุครับ
พนักงาน --- แจ้งประกันรึยังค่ะ
ผม --- แจ้งแล้วครับ
พนักงาน --- อุบัติเกิดที่ไหนค่ะ
ผม --- แจ้งจุดเกิดเหตุไป บลาๆๆๆๆ
พนักงาน --- ใครเป็นคนขับค่ะ
ผม --- เพื่อนผมครับ อยู่ที่จุดเกิดเหตุ
พนักงาน --- ขอทราบชื่อและเบอร์โทรเพื่อนคุณด้วยค่ะ
ผม --- ( แจ้งชื่อและเบอร์โทรเพื่อนไป ) สอบถามเพิ่มนะครับ ตรงนี้ประกันดูแลใช่ไหมครับ
พนักงาน --- กรณีนำรถให้ผู้อื่นขับ ผู้เช่าต้องรับผิดชอบเองทั้งหมด <<<< ซึ่งตรงนี้เอง ผมจะแจ้งว่าผมโง่เองไม่ได้อ่านในสัญญาเช่าดีๆ มีข้อความตัวหนังสือเล็กมากๆอยู่ด้านล่างในสัญญาเช่า ###
ผม --- ห๊าาาา!! ผมแจ้งทำประกันชั้น 1 ไปแล้วนะครับพี่ ( ตอนนี้เริ่มเกิดอาการมึนหัวขึ้นมาทันทีเลยครับ )
พนักงาน --- ใช่ค่ะ แต่คุณไม่ได้แจ้งให้ ADD Driver ( ซึ่งหมายถึงจะรับผิดชอบเมื่อผมขับเพียงคนเดียวเท่านั้น )
ผม --- ทำไมพี่ถึงไม่แจ้งผมละครับ ตอนไปเช่ารถก็ไปกัน 2 คนนะครับพี่
พนักงาน --- คุณก็ไม่ได้แจ้งพี่นิค่ะ ว่าคุณจะให้เพื่อนคุณขับด้วย - -"
ด้วยความมึนผมจึงวางสายสนทนาไป ในใจคิดละ กูโดนแล้ว !!!
ระหว่างรอประกันมา ผมก็ได้สอบถามเพื่อนถึงลักษณะการเกิดเหตุ จึงได้ใจความมาว่า จอดข้างทางเปิดไปกระพริบ เปิดไฟหน้าตามปกติเพื่อคุยโทรศัพท์
คุยได้ประมาณ 3 - 4 นาที ก็มีมอไซด์มาชนท้ายรถ สอบถามถึงคนเจ็บแจ้งว่า นำส่ง รพ. แล้ว
( เรื่องคดีความและคนเจ็บข้อข้ามไปเนื่องจากคดีเรียบร้อยแล้วครับ )
วันเกิดเหตุ รถเช่า ยังไม่สามารถนำกลับได้ต้องจอดไว้ที่โรงพัก เจ้าหน้าที่ประกันคุ้มภัย ขับรถมาส่งเพื่อนผมในพัทยา
ผมติดต่อ AVIS แจ้งว่าจะนำรถอีกคันมาส่งให้ตอนเช้าวันที่ 22/05/58 ที่พัทยา
10.00 22/05/58 AVIS พัทยา นำรถมาส่งให้ที่โรงแรม วันเดียวกัน ผมขับรถคันใหม่กลับมาส่งคืนที่ ดอนเมือง ถึงเวลาประมาณ 14.00 ม
หลังจากส่งรถแล้วสอบถามพนักงานหน้าเคาว์เตอร์แจ้งว่าจะมีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานใหญ่ติดต่อมาภายหลัง
วันที่ 23/05/58 ยอดวงเงินที่บล็อกไว้จำนวน 20,000 บาท ได้ถูกเรียกเก็บ ทั้งหมดจากบริษัท
โดยที่ยังไม่มีเจ้าหน้าที่จาก AVIS ติดต่อผมเลย
****** วันที่ 29/05/58 มียอดหักเงินในบัตรเครดิต เพิ่มอีก 10,000 บาท จาก AVIS โดยที่ยังไม่มีพนักงานติดต่อมาเลยตั้งแต่คืนรถเรียบร้อย
ยอด 10,000 บาทหลังนี้เป็นยอดที่ข้องใจมาก เพราะบัตรเครดิตก็อยู่กับตัวผมเอง ซึ่งเวลานั้นผมอยู่บ้านที่เชียงใหม่แล้ว แต่มีการหักเงินใน บัตรจากบริษัท AVIS โดยไม่ได้รับการยินยอมจากผม เมื่อโทรไปหาธนาคารกสิกร แจ้งให้ส่งหนังสือทักท้วง ผมส่งไปเป็นปียังไม่มีความคืบหน้าอะไรเลย สรุป ยอดรวม 30,000 ทางธนาคารพักยอดไว้ ปีกว่าๆแล้วครับ T T
## คดีได้สิ้นสุดแล้ว ซึ่งฝ่ายมอไซด์เป็นฝ่ายผิด แต่เหตุใดจึงไม่ไปเก็บเงินที่ฝ่ายมอไซด์
## ในเมื่อผมทำประกันประเภท 1 ไว้ เมื่อเกิดเหตุ ประกันก็รับผิดชอบ แต่ทาง AVIS ยังมาเอากำไรในส่วนนี้กับลูกค้าอีก รู้สึกแย่มากๆ
## ธนาคารกสิกร ทำไมให้หักบัตรเครดิตได้อย่างไร ความปลอดภัยในการใช้บัตรของลูกค้าอยู่ตรงไหนครับ
### อุบัติเหตุครั้งนี้ผมอยากให้เป็นเพื่อนๆศึกษาข้อมูลดีๆก่อนเช่ารถ ผมเหมือนโดนปล้นยังไงไม่รู้ครับ ทั้งที่ไม่ได้เป็นฝ่ายผิด รถเสียหายไม่มาก
และ ทางบริษัทก็ได้ทำประกันประเภท 1 ไว้แล้ว แต่ AVIS มาทำกำไรจากตรงนี้ไม่ยุติธรรมเท่าไหร่
## เอกสารทั้งหมดรวมถึงบันทึกประจำวัน ผมยังเก็บไว้อยู่ ซึ่งได้ส่งให้ธนาคารไปแล้วหากอยากได้อีกรอบติดต่อผมมาได้ครับ
สัญญาเช่ารถ รายละเอียดเรื่องผู้เช่าอยู่ด้านล่างตัวสีนำ้เงินเล็กนิดเดียว