จากกรณีที่ น.ส.สุมนา อุดมมั่นถาวร อายุ 45 ปี ร้องเรียนว่าถูกรถกระบะติดสติ๊กเกอร์ท้ายว่า “รถตรวจการณ์” และที่กระจกหลังเขียนว่า “Road Safety Audit” ความหมายคือรถตรวจความปลอดภัยทางถนน เบียดแซงจนสุดท้ายทำให้รถที่ตนนั่งมาตกถนน โดยมาด้วยกัน 6 คน เป็นชาย 1 คนเป็นคนขับรถ หญิง 4 คน และเด็กหญิงอายุ 14 ปี 1 คน เดินทางไปเที่ยวและไหว้พระในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน จ.ปราจีนบุรี ขณะที่จะเดินทางกลับ จ.ชลบุรี โดยใช้เส้นทางสาย 304 อ.วังน้ำเขียว – อ.นาดี ช่วงโรงเรียนร่มเกล้าเลยที่ทำการอุทยานแห่งชาติทับลานมาประมาณ 2 กม. มุ่งหน้า อ.กบินทร์บุรี
ทั้งนี้ น.ส.สุมนา เปิดเผยว่า รถคันดังกล่าวได้ขับตามมาหลังจากนั้นได้แซงซ้าย และได้ปาดหน้าและวิ่งบังเส้นทางมาตลอดไม่ยอมให้แซง จนกระทั่งมาถึงทางโค้งรถเก๋งที่ขับมาพยายามจะแซงขวา แต่ถูกรถกระบะเบียด จึงได้หักหลบเพราะกลัวจะเฉี่ยวชนกันขึ้น จึงทำให้เสียหลักตกลงไปข้างถนน ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 6 คน และสาหัสได้รับกระทบกระเทือนทางสมอง 1 คนยังอยู่ระหว่างการรักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.ชลบุรี
หลังจากเกิดเหตุผู้รับบาดเจ็บได้ถูกนำส่งโรงพยาบาล 3 คน ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยได้ไปโรงพัก โดยผู้เสียหายเปิดเผยว่า ได้ยืนยันให้ตรวจปัสสาวะคนขับรถกระบะ กลับถูกย้อนว่าเป็นเรื่องของตำรวจ ทั้งที่คนขับของตนก็พร้อมที่จะให้ตรวจปัสสาวะเช่นกัน นอกจากนี้ทางฝ่ายรถกระบะได้นำเอาใครก็ไม่รู้เป็นชายอายุ 59 ปีอ้างว่าเป็นคนขับรถกระบะ ทั้งที่ช่วงที่ขับรถน่าจะเป็นวัยรุ่นมากกว่า ที่สำคัญเป็นเรื่องที่แปลกช่วงไปแจ้งความมีตำรวจลงบันทึกประจำวันเพียงคนเดียวปฏิบัติหน้าที่ ไม่รู้ตำรวจหายไปไหนกันหมด หรือว่าเป็นวันหยุดหรือเปล่า นอกจากนี้ยังไม่มีตำรวจไปสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการเกิดอุบัติเหตุที่โรงพยาบาลอีกด้วย
ระทึก !! รถตรวจการณ์ ปาดแซงเบียดตบเก๋งตกถนน สาวร้องขอความเป็นธรรม
ทั้งนี้ น.ส.สุมนา เปิดเผยว่า รถคันดังกล่าวได้ขับตามมาหลังจากนั้นได้แซงซ้าย และได้ปาดหน้าและวิ่งบังเส้นทางมาตลอดไม่ยอมให้แซง จนกระทั่งมาถึงทางโค้งรถเก๋งที่ขับมาพยายามจะแซงขวา แต่ถูกรถกระบะเบียด จึงได้หักหลบเพราะกลัวจะเฉี่ยวชนกันขึ้น จึงทำให้เสียหลักตกลงไปข้างถนน ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 6 คน และสาหัสได้รับกระทบกระเทือนทางสมอง 1 คนยังอยู่ระหว่างการรักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.ชลบุรี
หลังจากเกิดเหตุผู้รับบาดเจ็บได้ถูกนำส่งโรงพยาบาล 3 คน ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยได้ไปโรงพัก โดยผู้เสียหายเปิดเผยว่า ได้ยืนยันให้ตรวจปัสสาวะคนขับรถกระบะ กลับถูกย้อนว่าเป็นเรื่องของตำรวจ ทั้งที่คนขับของตนก็พร้อมที่จะให้ตรวจปัสสาวะเช่นกัน นอกจากนี้ทางฝ่ายรถกระบะได้นำเอาใครก็ไม่รู้เป็นชายอายุ 59 ปีอ้างว่าเป็นคนขับรถกระบะ ทั้งที่ช่วงที่ขับรถน่าจะเป็นวัยรุ่นมากกว่า ที่สำคัญเป็นเรื่องที่แปลกช่วงไปแจ้งความมีตำรวจลงบันทึกประจำวันเพียงคนเดียวปฏิบัติหน้าที่ ไม่รู้ตำรวจหายไปไหนกันหมด หรือว่าเป็นวันหยุดหรือเปล่า นอกจากนี้ยังไม่มีตำรวจไปสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการเกิดอุบัติเหตุที่โรงพยาบาลอีกด้วย