ทริปนี้เกิดจากเมื่อต้นปีดันไปเห็นตั๋วเครื่องบินราคาถูกของสายการบินเวียดนามแอร์ไลน์ ซึ่งเป็นสายการบิน Full service ในราคาประมาณ 8,200บาท จากเพจติดโปรhttps://www.facebook.com/TidPromo/ ดีงามจริงๆค่ะ จึงรีบชวนเพื่อนและหาวันหยุด เมื่อได้คนไปด้วยและวันหยุดแล้วก็กดจอง จ่ายเงินทันทีค่ะ โดยไม่ได้มีการศึกษาก่อนเลยว่าเป็นฤดูอะไร --" จนมารู้ว่าอ้าววว...อ้าวจริงๆค่ะ เพราะเป็นฤดูร้อนนั่นเอง อ่านรีวิวมีแต่คนบอกว่าร้อนมาก แต่ในใจคิด จะมีร้อนกว่าไทยอีกหรอ??? เราจึงมีการเตรียมตัวและวางแผนไปอย่างดีค่ะ

จนมาถึงวันเดินทาง ขออนุญาตรีวิวสายการบินเวียดนามแอร์ไลน์สั้นๆก่อนเลยนะคะ สายการบินเวียดนามแอร์ไลน์เป็นสายการบิน Full service ค่ะ สามารถโหลดกระเป๋าได้ถึง 30kg. และถือขึ้นเครื่องได้อีก 7kg. ซึ่งเส้นทางบินขาไปจะเป็น BKK-Ho Chi Min city-Narita และขากลับ Narita- Hanoi- BKK

สำหรับขาไปญี่ปุ่น เส้นทางบินระยะสั้นระหว่างกรุงเทพฯ กับ เวียดนาม จะเป็นเครื่องลำเล็ก ที่นั่ง 2ฝั่ง ฝั่งละ 3 ที่นั่งค่ะ มีอาหารเสริฟค่ะ แต่เนื่องจากขาไป Ho Chi Min เราออกเดินทางตอนเย็นจึงได้เป็น snack ซึ่งได้เป็นสลัด ขนมปัง และผลไม้ค่ะ เมื่อถึง Ho chi min city สนามบินเค้าไม่ใหญ่มาก ดูเหมือนดอนเมืองบ้านเรา แต่สนามบินมีการจัดการที่ยังไม่ค่อยดีเท่าไหร มีการเปลี่ยน gate หลายครั้งค่ะ


เมื่อถึงเวลาขึ้นเครื่องไป Narita เครื่องลำใหญ่ เป็นที่นั่งแบบ 3-3-3 มีจอทีวี ให้ดูหนัง เล่นเกมส์ ส่วนอาหารมีให้เลือก 2 แบบค่ะ เป็น Asian หรือ Japanese style ซึ่งเราก็เลือกให้เข้ากับบรรยากาศ เป็น Japanese style จึงได้พบกับปลาแซลมอลชิ้นน้อยค่ะ

สำหรับขากลับจาก Narita ไป Hanoi ก็เป็นเครื่องลำใหญ่ ที่นั่ง 3-3-3 มีจอทีวีเช่นเดิมค่ะ อาหารก็มีให้เลือกเหมือนเดิม แต่ขากลับขอเปลี่ยนเป็น Asian Style จึงได้เป็นข้าวหน้าเนื้อมาแทน กินเสร็จก็นอนค่ะ สนามบินที่ Ha noi ดีที่เดียวค่ะ เหมือนสุวรรณภูมิบ้านเราเลย ห้องน้ำก็ดี วิวนอกสนามบินก็สวยค่ะ และขากลับ BKK ก็ได้อาหารเป็น noodle ค่ะ

ภาพรวมของสายการบิน บริการดีใช้ได้ค่ะ ที่นั่งสบาย กว้างพอๆ กันกับสายการบิน Full service ทั่วไป อาหารรสชาติใช้ได้ค่ะ จริงๆสายการบินนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นสายการบินแห่งการ delay แต่เราโชคดีค่ะไม่เจอเลย ^^

และแล้วเราก็มาถึงสนามบินนาริตะ พอถึงจุด ตม. ก็มาเขียนเอกสารแล้วต่อคิวค่ะ ซึ่งเราไปกับเพื่อนผู้หญิงสองคนจึงเข้าไปพร้อมกัน ทางเจ้าหน้าที่ก็ถามว่ามากี่คน มาทำอะไร พักที่ไหน จะไปไหนบ้าง ซึ่งเราก็เตรียมเอกสารที่พักมาด้วยค่ะ และท่าทางของเราก็เหมื่อนนักท่องเที่ยว^^ จึงผ่านมาได้ฉลุยค่ะ ก็มารับกระเป๋า และไปซื้อตัวรถไฟ เราก็ได้อ่านรีวิว หาข้อมูลมาเรียบร้อย จึงเลือกซื้อตั๋ว package ของ Keisei Skyliner & Tokyo Subway Ticket ซึ่งประกอบไปด้วยตั๋ว Keisei Skyliner ไปกลับสนามบิน และตั๋วแบบ Tokyo Subway แบบ 3 days pass สามารถขึ้นรถไฟใต้ดินทั้งแบบ Tokyo metro และ Toei line ค่ะ ทั้งหมดนี้เราซื้อมาในราคา 5,400 เยน ซึ่งใช้เวลาจากสนามบินเข้าไป ueno เพียง 40 นาทีค่ะ แต่เมื่อได้ตั๋วมาก็จะมีเวลา โบกี้ และที่นั่งค่ะ ดูกันให้ดีนะคะ เพราะเรากับเพื่อนเพิ่งไปครั้งแรกทั้งคู่จึงนั่งถูกที่ แต่ผิดโบกี้ค่ะ

เมื่อเราถึงที่หมายสถานี Keisei Ueno เราก็เปิด Google Map เพื่อหาทางไปโรงแรมค่ะ เพราะที่พักของเราก็อยู่ ueno ด้วย แล้วเราก็เดินตาม Google Map เพียง 3 นาทีก็ถึงค่ะ เรากับเพื่อนดีใจมาก เพราะที่พักใกล้สถานีเลย เราก็เข้าไปจะไปฝากกระเป๋าก่อนเพราะยังไม่ถึงเวลา Check-in ค่ะ แต่พนักงานบอกว่า... เรามาผิดที่ค่ะ TT เพราะโรงแรมเป็นเครือเดียวกันชื่อใกล้เคียงกันมากค่ะ โรงแรมที่เราไปผิดชื่อ APA Hotel Keisei Ueno-Ekimae แต่ที่เราจองคือ APA Hotel Ueno-Ekimae ซึ่งชื่อต่างกัน 1 คำ แต่ระยะทางต่างกันมากค่ะ เดินไปอีกค่อนข้างไกล ใช้เวลาเดินจากสถานีรถไฟ Ueno ประมาณ 15-20 นาทีเลยถึงจะถึงโรงแรม ต่อไปขอมา review โรงแรมบ้างนะคะ

โรงแรม APA เป็นโรงแรมที่มีสาขาอยู่ในหลายๆเมืองในประเทศญี่ปุ่นค่ะ ซึ่งสาขาที่เราไป ห้องขนาดเล็กกระทัดรัด แต่น่าจะเป็น size ปกติของญี่ปุ่นนะคะ ขนาดเตียงประมาณ 5ฟุต มีที่เป่าผม มีสบู่ แชมพู ครีมนวด ให้ค่ะ มีทุกอย่างที่โรงแรมทั่วไปให้ค่ะ แต่สิ่งที่ไม่มีคือ น้ำค่ะ เรากับเพื่อนก็ไม่รู้ว่าเป็นปกติของญี่ปุ่นรึเปล่า จึงต้มน้ำดื่มกันค่ะ แต่พออีกวันทางโรงแรมก็เอาน้ำมาให้ค่ะ เราจึงมารู้ว่าทางโรงแรมมีนโยบายรักษาสิ่งแวดล้อม ประหยัด อะไรประมาณนี้ค่ะ ทางโรงแรมจึงไม่ได้ให้น้ำ แต่พอเราทำตาม ทางโรงแรมจึงตอบแทนด้วยการเอาน้ำมาให้ 1 ขวดค่ะ โดยรวมโรงแรมดีค่ะ เตียงนุ่ม นอนสบาย พนักงานอัธยาศัยดีค่ะ เสียอย่างเดียวไกลจากสถานีรถไฟใต้ดิน ueno ไปหน่อยค่ะ

พอเราเข้าไปฝากกระเป๋ากับทางโรงแรมเรียบร้อยเรากับเพื่อนก็เริ่มออกชมเมืองโตเกียวกันเลยค่ะ

เดี่ยวมาเล่าต่อนะคะ ^^