ก่อนอื่นเลย ต้องขอขอบคุณกองเชียร์สายอดทนที่ไปบู๊กับฟ้าฝนและรถติดถึงราชมังฯ สิ่งที่ข้าเจ้าอยากได้ยินอย่างการเชียร์เป็น Code เดียวกันทั้งสนามก็ได้ยินเป็นบุญหู We support Thailand ...ดังก้องและคมลั่นจอที่ข้าเจ้าไปดูข้างนอกเลย ...และช่วง Code เชียร์นี้ ก็เป็นช่วงที่เราบุกโต้กลับไปในช่วงครึ่งแรก ...น่าจะเป็นคาถาศักสิทธิ์ที่ถ้ากองเชียร์เราร่ายมนต์ออกมา นักเตะเราได้มีพลังเต็มหลอด คู่แข่งเสีย Shield ไปชั่วขณะได้ ...นับถือในความแข็งแกร่งและพร้อมเพรียง อดทน และสู้ไปกับนักฟุตบอลจนจบเกมฮะ
ต่อมา ...กรรมการที่เป๊ะมาก ...ทรงผมเซตเจลแบบฝนมันตกนะเว้ยเฮ้ย!! จะเปียกย้อยลงมาบ้างก็ได้ ..นี่พี่แกอย่างกับใส่วิก ล่อซะจนจบเกมผมก็ยังอยู่ทรงดีแท้ ... ส่วนการเป่า ถือว่าทำได้มาตรฐาน ไม่มีอะไรให้น่าหงุดหงิด ...ล้ำหน้าก็ไว ฟาล์วไม่ชัดเจนก็ปล่อยเกมไหล รับมือกับเกมฝนตกได้ดีทีเดียว ...เข้มกับกฎชนิดที่ข้าเจ้าเองก็เกือบจะลืมไปเลยว่ามันมีเรื่องของการหยุดเกมโดยไม่มีเหตุอันควรจะทำให้ได้ใบเหลืองด้วย ...กรรมการเคร่งดีแท้ ...
... มาว่ากันที่การเล่น ... วันนี้ สิ่งที่ข้าเจ้าเคยมองว่าน่าจะเป็นวิธีการเล่นที่สามารถเบียดกับญี่ปุ่นได้บ้างอย่างการน่าจะใช้การต่อบอลเร็วและถ่างรูปแบบการยืนรับส่งบอลให้ไกลขึ้น ถ่ายบอลให้ไวและแม่มยำขึ้น ...มันได้ถูกนำมาใช้จริงๆ ซะด้วย ...
ปัญหาคือ ...มันเป็นญี่ปุ่นที่ดันเอามาใช้ ..โค้ชซิโก้ยังเลือกใช้แท็คติกเดิมกับการรับมือทีมที่มีศักยภาพสูงกว่าเราด้วยโซนซ้อน 2 ไลน์ในเกมรับ ...จริงๆ มันก็แทบจะไม่มีอะไรผิดพลาดแล้วนะ เราทำได้ตามศักยภาพนักเตะเท่าที่เรามีจริงๆ ...แต่
- ญี่ปุ่น แก้เกมตั้งแต่ก่อนลงสนามโดยเลือกที่จะใช้ตัวที่กำลังมาแรงอย่างอาซาโนะลงเป็นกองหน้าแทนที่จะใช้โอกาซากิ ...อาซาโนะ ถ้าแฟนปืนก็คงจะทราบดีว่าเป็นตัวที่เพิ่งจะซื้อมา แต่ติดเรื่อง Work permit ต้องปล่อยยืมให้สตุทการ์ทยืม 1 ฤดู เป็นนักเตะที่มีทั้งความไว สด แรงปะทะดีทั้งๆ ที่ไม่สูงมาก (170 cm.) ...และถ้าจำไม่ผิด คนยิงประตูเราทั้ง 2 คนเป็นตัวที่ไม่ได้ลงในเกมนัดที่แล้วด้วย เพราะงั้น อย่างน้อยก็เหมือนกับว่าเค้าเปลี่ยนแปลงผู้เล่นที่คาดว่าเราจะวางแผนมารับมือเป็นตัวอื่นแทน ... พอเริ่มเกม ด้วยความที่เค้าแพ้มาก่อนนัดแรก ทำให้เค้าจำเป็นต้องกำจัดความกดดันให้เร็วที่สุดด้วยการโหมบุกกระหน่ำเพื่อทำสกอร์นำให้ได้เร็วที่สุด เพื่อที่จะได้เข้าสู่แผนรอโต้และคอนโทรลความเร็วเกมได้ตามตำรา ..ซึ่งหากเรายันเสมอจนจบครึ่งแรกได้ ข้าเจ้าว่าเค้าน่าจะเริ่มเครียดและกดดันจนเกมเกร็งไปเอง สังเกตได้ว่าครึ่งหลังเค้ารับแล้วโต้เต็มตัว เพราะต้องสงวนแรงให้มีสมาธิกับเกมจนจบให้ได้ 1 แต้มในเกมนี้ไม่เป็นผลดีกับญี่ปุ่นแน่ๆ
- การรับส่งบอลของญี่ปุ่น เป็นไปตามเบสิคของนักเตะประสบการณ์ในลึกยุโรป คือ ใช้การให้แล้วไป ภาษาหมอเมา Sport Guide ของ FM 99 ชอบเรียก
Pass
and Move ...มันเป็นวิธีการเล่นที่ใช้รับมือกับการเข้าเพรสเร็ว คือ ให้แล้วไป สับเปลี่ยนตำแหน่งถ่ายบอล เพราะถ้ายังยืนเป็นบื้อหลังจากให้ไปแล้ว นอกจากบอลจะไม่เกิดช่อง แม้แต่ตัวรับบอลหากไม่เล่น 1 touch ก็จะเจอผู้เล่นลีกยุโรปอัดกระเด็นด้วยความรวดเร็ว ...เป็นบอลที่ผู้เล่นต้องมีทั้งความเข้าใจในการเคลื่อนที่ และคนใช้ต้อง Sense บอลทันกัน นั่นคือสิ่งที่เป็นความต่างของ Class บอลของเรากับเค้า เพราะต่อให้เราเล่นเหมือนกัน แต่ถ้าผู้เล่นไม่ทันกัน ความเร็วไม่ได้อยู่ระดับเดียวกัน มันก็จะดูเป็นบอลช้า ตะกุกตะกัก พร้อมโดนตัดบอลตลอดเวลา ... ญี่ปุ่นใช้การเคลื่อนที่แบบนี้ในการพยายามเจาะจุดเจาะของเรา ...ใช่ !! อีกแล้วครับท่าน ...เจาะฝั่งโดอีกแล้ว ... มันรักอะไรนักหนากับน้องโดของแม่ยกทั้งหลาย เกือบทุกทีมทำการบ้านมาเหมือนกันหมด ถ้าฝั่งซ้ายมีนักเตะที่ AFC ชื่นชอบอย่างเจ้าอุ้มอยู่ ก็จะพากันมาเล่นอีกฝั่งกันแทนซะงั้น ...เรื่องของเรื่องคือ เกมที่แล้ว เราโดนบี้แบ๊คขวาแล้วขึ้นทางซ้ายได้ ...แต่เกมนี้ ขึ้นทางซ้ายเราก็ยังไม่ได้เลย ...เกมเลยจะโดนบีบอยู่หน้ากรอบเขตโทษเราตลอดเกือบ 80% ของเกม ..ส่วนเจ้าโด ก็งานหนัก เจอลูกครึ่งเยอรมันหน้าหล่อกดตลอด เรียกว่าเจอกับการส่งบอล P&M ทั้งตั้มทั้งต้นต้องสลับกันมาดักซ้อนตลอด แต่ส่วนตัวข้าเจ้าว่าทั้งเกมเจ้าโดทำได้ค่อนข้างดีเลยนะกับการเป็นตัวตามประกบเกมรุกฝั่งนี้ ...จุดเจาะฝั่งนี้เมื่อมันเจาะลำบาก สุดท้ายก็เหมือนกับซาอุฯ... ญี่ปุ่นต้องหันมาใช้เกมโยนตัดแนวหลังแล้วใช้การเบียดการชิงจังหวะในกรอบเขตโทษจากทั้งคากาวะและฮอนดะ การย้ายแกนอย่างรวดเร็วยามเราเผลอ ซึ่งได้ผลในกรณีประตูแรกที่พออุ้มหลุดตำแหน่งเค้าก็บุกมาเปิดบอลได้ การเสียประตูแรกเป็นความผิดพลาดที่ประกบตัวไม่หมด ซึ่งบอลระดับนี้แล้ว พลาดนิดเดียวมันไม่ใช่แค่ความเสียว แต่มันคือแตกเป็นสกอร์ได้เลย 1 น้ำ ......บอล P&M ของเค้าจะเป็นบอลคิดไวทำไว เพราะแม้แต่บอลที่เป็นประตูของเค้าทั้ง 2 ลูก ก็เกิดจากการคิดไวทำไว ..ประตูที่ 2 อาจจะต้องยอมรับใน Class ผู้เล่นของเค้าที่อาซาโนะกำลังเป็นผู้เล่นมาแรงจริงๆ เราจะไปโทษตั้มอย่างเดียวก็ไม่ได้เพราะเราเองก็ดันเกมสูงเพื่อเสี่ยงเอาแต้มเหมือนกัน การเบียดผู้เล่นก็ทำได้ยากเพราะอีกก้าวเดียวก็เขตโทษแล้ว ..ส่วนลูกแรกเป็นลูกสูตรที่เราพลาดเรื่องตัวประกบ
- เรื่องฝนตกน่าจะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้บอลเล่นยาก สภาพอากาศไม่มีผลต่อญี่ปุ่นเพราะมันเป็นสภาพอากาศปกติที่เกาะญี่ปุ่นก็มี ความจริงเราน่าจะคุ้นชินด้วยซ้ำเพราะเราชอบเปิดลีกตอนเข้าหน้าฝนอยู๋เรื่อย ...ถ้าคนที่เคยเล่นบอลสนามใหญ่ตอนฝนตกจะเข้าใจได้ไม่ยากว่ามันบั่นทอนพละกำลังมากขนาดไหน ...บอลหนักน้ำ คอลโทรลยาก เกร็งขากันชนิดที่ตะคริวจะขึ้นได้ทั้งๆ ที่ไม่ต้องรอท้ายเกม การต่อบอลเรียดบอลเร็วกับพื้นทำได้ยากมากๆ ..แต่สิ่งที่เรากับญี่ปุ่นต่างกันคือ ทักษะการแก้ปัญหาในการเล่นกับสภาพอากาศแบบนี้ ผู้เล่นแนวรุกของเค้าเล่นลีกต่างชาติในยุโรปกันทั้งนั้น และการที่ต้องรับมือกับบอลเร็วหนักท่ามกลางสายฝนด้วยเป็นสิ่งที่ทำให้เค้าได้เปรียบกว่าเรา เพราะคุณภาพลีกที่เล่นมันยกระดับศักยภาพผู้เล่นไปด้วย ...ถ้าดูดีๆ การรับส่งบอลของญี่ปุ่นวันนี้บอลจะมีความเร็วกระแทกมาก แต่ผู้เล่นสามารถรับส่งได้อย่างแม่นยำ และโดยส่วนใหญ่บอลแทบจะไม่ค่อยวิ่งไปกับพื้น จะเป็นบอลกระแทกพ้นพื้นกันซะเยอะ ในขณะที่เค้ามี Sense บอลสูงกว่าและยังทันกันหลายๆ ตัว เค้าจึงทำเกมกดเราได้ตลอด รวมกับการเพรสเร็วเพื่อเอาบอลคืน ... แต่ต่อให้สนามแห้งฝนไม่ตก เค้าก็ยังจะต่อบอลแบบนี้อยู่แน่ๆ เพราะมันทำให้บอลเคลื่อนที่เร็ว เปลี่ยนทางได้เร็ว ...ในขณะที่เราอาจจะได้ประสิทธิภาพในเกมรูกมากขึ้นมาบ้าง ซึ่งนั่นคงต้องไปดูกันอีกทีในเกมนัดเยือน
- เกมนี้ เป็นเกมที่ไม่มีอะไรเป็นปัญหานะ แม้แต่ใบแดงของประกิต เพราะเป็นไปตามกติกาจริงๆ เราเข้าพรวดในแบบสวนกับผู้เล่นเค้า อย่าไปติดภาพบอล EPL เด็ดขาดว่าเจอแบบนี้เป็นปกติผู้ตัดสินก็แค่เป่าฟาล์ว ...นั่นมัน EPL แต่นี่เป็น Match FIFA การตัดสินและมุมมองจะเป็นไปตามตำรา การเข้าบอลอันตรายยังไงก็มีสิทธิ์ได้ใบเหลือง
- ถามว่าเราได้อะไรจากเกมนี้ ... จริงๆ ได้กันทั้ง PLT เลยหละ ...เพราะถ้าโค้ชแบนเอาไปปรับใช้กับระบบฝึกนักเตะใน MTUD ตัวทีมชาติก็จะได้อานิสงส์ไปด้วย หรือแม้แต่ทีมอื่นๆ ก็ตาม ...การรับส่งบอลแบบ P&M อาจจะไม่เท่าลีกยุโรป แต่มันช่วยในเรื่องการยกระดับประสิทธิภาพผู้เล่นในเรื่องความเข้าในการเคลื่อนที่ ...เพราะในเกมนี้ ผู้เล่นที่ไม่ได้อยู่ MTUD จะค่อนข้างชัดว่ามีความเข้าใจหรือการตัดสินใจที่ต่างจากผู้เล่นที่มาจากทีมเดียวกันอย่างชัดเจน ... หลายจังหวะของเราเป็นการคิดช้าทำช้า ...ในระดับอาเซียน เราก็ประมาณนี้ แต่เพราะคู่ต่อสู้ของเราเข้าเพรสช้า แถมรูปแบบการรับส่งบอลยังไม่รวดเร็วแม่นยำเท่าญี่ปุ่น (เราตัดบอลญี่ปุ่นได้ยากมากเพราะการรับส่งที่เร็วในระยะกลางเนี่ยแหละ) เราจึงเล่นได้สบายและเคยชินกับความเร็วเกมที่ช้ากว่านี้ ...การแพ้ที่ดี คือแพ้และสามารถเรียนรู้เพื่อพัฒนาได้ เพราะเราไม่ได้เข้ามารอบนี้ได้บ่อยๆ นั่นทำให้เกมต่อๆ ไปของเรา ถ้าโค้ชซิโก้หรือโค้ชใน PLT เก็บเกี่ยวเกมนี้ได้เต็มที่ คิดว่าเดือน พ.ย. ที่เราจะเจอกับออสซี่อาจจะเป็นเกมที่สนุกขึ้นอย่างแน่นอน (แต่ก็นั่นแหละ ทำใจไว้บ้างก็ดีนะ) .. ข้าเจ้าคงไม่อยากจะไปเจาะจงว่าผู้เล่นคนไหนของเราไม่ทันชาวบ้าน คิดช้าทำช้า ...เพราะยังไงซะ ก็รับผิดชอบกันเป็นทีม ถ้าจะพลาด ก็เกิดจากการซ้อม ไม่ควรไปคิดว่าเพราะผู้เล่นที่ทำได้ดันกองอยู่ในสโมสรเดียวกันซะส่วนใหญ่ ไม่อยากให้เกิดความคิดแบ่งพรรคแบ่งค่ายในทีมชาติ ...ประทับใจอย่างก็คือปีโป้ ..เล่นได้กล้าดี แววไม่น่าจะได้อยู๋กับอุบล UMT ได้นานนะเนี่ย ถ้าได้ลงในนัดต่อๆ ไป ถือว่าสร้างมูลค่ามาก ...
- เรื่องการเข้ารอบนั้น อาจจะต้องมองว่า เราคงต้องหวังให้แต้มได้ 12 แต้มก่อนเป็นอย่างน้อยก่อน (เหลืออีก 24 แต้มให้เก็บ แต่ตัดไปเลย 9 แต้มกับเหย้าเยือนออสซี่ และเยือนญี่ปุ่น อีก 3 แต้มก็เผื่อเสมออาหรับอีก 3 ทีม) แล้วไปลุ้นที่เหลือเป็นโบนัส ...มันหวังได้ ความจริงอีกเรื่อง แต่ไม่ใช่เราจะไม่สู้ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเรียนรู้และพัฒนาจากเกมที่แพ้ได้แค่ไหน ... ส่วนตัวมองว่า กับทีมจากอาหรับ ถึงเวลาที่เราจะวัดรอยเท้าได้แล้ว (ถ้าเราจะวางเรื่องกรรมการไว้ก่อนนะ) โดยเอาเกมกับออสซี่และญี่ปุ่นเป็นตำราค้นหาจุดอ่อนกับทีมเรา ... จริงๆ ถ้าจะให้ดี มันน่าจะเอาไปพัฒนาได้ทั้ง PLT อย่างที่ข้าเจ้าว่าไว้ข้างบนด้วยนะ เกมนี้มันชัดจริงๆ ในเรื่องการสร้างเกม โจมตี ความเร็ว การแก้ทางบอลไทย ... ส่วนเรื่อง Class ผู้เล่นมันเป็นเรื่องที่อาจจะเข้าถึงยาก ทำได้ใกล้เคียงที่สุดไม่ใช่อยากจะส่งผู้เล่นไปต่างแดนอย่างเดียว เราก็สามารถฝึกกับผู้เล่นต่างชาติของลีกเราได้ ...หาแมทช์อุ่นเครื่องกับทีมจากญี่ปุ่น เกาหลีใต้ หรือยุโรปเรื่อยๆ เจอกันบ่อยๆ พยายามทำอันดับ FIFA Ranking ให้นักเตะเราพอเตะตาลีกนอกได้ เดี๋ยวก็มาเอง ...
....
สุดท้ายแล้ว รอบนี้อาจจะยังเร็วไปสำหรับบอลโลก ...แต่อีก 10 ข้างหน้า มันก็น่าลุ้นจริงๆ หละถ้าเราไม่ถอยหลังลงคลองไปเองซะก่อน
บทสรุปนัดที่สอง ไทย 0-2 ญี่ปุ่น FIFA World Cup Asian Qualifiers ...
ก่อนอื่นเลย ต้องขอขอบคุณกองเชียร์สายอดทนที่ไปบู๊กับฟ้าฝนและรถติดถึงราชมังฯ สิ่งที่ข้าเจ้าอยากได้ยินอย่างการเชียร์เป็น Code เดียวกันทั้งสนามก็ได้ยินเป็นบุญหู We support Thailand ...ดังก้องและคมลั่นจอที่ข้าเจ้าไปดูข้างนอกเลย ...และช่วง Code เชียร์นี้ ก็เป็นช่วงที่เราบุกโต้กลับไปในช่วงครึ่งแรก ...น่าจะเป็นคาถาศักสิทธิ์ที่ถ้ากองเชียร์เราร่ายมนต์ออกมา นักเตะเราได้มีพลังเต็มหลอด คู่แข่งเสีย Shield ไปชั่วขณะได้ ...นับถือในความแข็งแกร่งและพร้อมเพรียง อดทน และสู้ไปกับนักฟุตบอลจนจบเกมฮะ
ต่อมา ...กรรมการที่เป๊ะมาก ...ทรงผมเซตเจลแบบฝนมันตกนะเว้ยเฮ้ย!! จะเปียกย้อยลงมาบ้างก็ได้ ..นี่พี่แกอย่างกับใส่วิก ล่อซะจนจบเกมผมก็ยังอยู่ทรงดีแท้ ... ส่วนการเป่า ถือว่าทำได้มาตรฐาน ไม่มีอะไรให้น่าหงุดหงิด ...ล้ำหน้าก็ไว ฟาล์วไม่ชัดเจนก็ปล่อยเกมไหล รับมือกับเกมฝนตกได้ดีทีเดียว ...เข้มกับกฎชนิดที่ข้าเจ้าเองก็เกือบจะลืมไปเลยว่ามันมีเรื่องของการหยุดเกมโดยไม่มีเหตุอันควรจะทำให้ได้ใบเหลืองด้วย ...กรรมการเคร่งดีแท้ ...
... มาว่ากันที่การเล่น ... วันนี้ สิ่งที่ข้าเจ้าเคยมองว่าน่าจะเป็นวิธีการเล่นที่สามารถเบียดกับญี่ปุ่นได้บ้างอย่างการน่าจะใช้การต่อบอลเร็วและถ่างรูปแบบการยืนรับส่งบอลให้ไกลขึ้น ถ่ายบอลให้ไวและแม่มยำขึ้น ...มันได้ถูกนำมาใช้จริงๆ ซะด้วย ...
ปัญหาคือ ...มันเป็นญี่ปุ่นที่ดันเอามาใช้ ..โค้ชซิโก้ยังเลือกใช้แท็คติกเดิมกับการรับมือทีมที่มีศักยภาพสูงกว่าเราด้วยโซนซ้อน 2 ไลน์ในเกมรับ ...จริงๆ มันก็แทบจะไม่มีอะไรผิดพลาดแล้วนะ เราทำได้ตามศักยภาพนักเตะเท่าที่เรามีจริงๆ ...แต่
- ญี่ปุ่น แก้เกมตั้งแต่ก่อนลงสนามโดยเลือกที่จะใช้ตัวที่กำลังมาแรงอย่างอาซาโนะลงเป็นกองหน้าแทนที่จะใช้โอกาซากิ ...อาซาโนะ ถ้าแฟนปืนก็คงจะทราบดีว่าเป็นตัวที่เพิ่งจะซื้อมา แต่ติดเรื่อง Work permit ต้องปล่อยยืมให้สตุทการ์ทยืม 1 ฤดู เป็นนักเตะที่มีทั้งความไว สด แรงปะทะดีทั้งๆ ที่ไม่สูงมาก (170 cm.) ...และถ้าจำไม่ผิด คนยิงประตูเราทั้ง 2 คนเป็นตัวที่ไม่ได้ลงในเกมนัดที่แล้วด้วย เพราะงั้น อย่างน้อยก็เหมือนกับว่าเค้าเปลี่ยนแปลงผู้เล่นที่คาดว่าเราจะวางแผนมารับมือเป็นตัวอื่นแทน ... พอเริ่มเกม ด้วยความที่เค้าแพ้มาก่อนนัดแรก ทำให้เค้าจำเป็นต้องกำจัดความกดดันให้เร็วที่สุดด้วยการโหมบุกกระหน่ำเพื่อทำสกอร์นำให้ได้เร็วที่สุด เพื่อที่จะได้เข้าสู่แผนรอโต้และคอนโทรลความเร็วเกมได้ตามตำรา ..ซึ่งหากเรายันเสมอจนจบครึ่งแรกได้ ข้าเจ้าว่าเค้าน่าจะเริ่มเครียดและกดดันจนเกมเกร็งไปเอง สังเกตได้ว่าครึ่งหลังเค้ารับแล้วโต้เต็มตัว เพราะต้องสงวนแรงให้มีสมาธิกับเกมจนจบให้ได้ 1 แต้มในเกมนี้ไม่เป็นผลดีกับญี่ปุ่นแน่ๆ
- การรับส่งบอลของญี่ปุ่น เป็นไปตามเบสิคของนักเตะประสบการณ์ในลึกยุโรป คือ ใช้การให้แล้วไป ภาษาหมอเมา Sport Guide ของ FM 99 ชอบเรียก Pass and Move ...มันเป็นวิธีการเล่นที่ใช้รับมือกับการเข้าเพรสเร็ว คือ ให้แล้วไป สับเปลี่ยนตำแหน่งถ่ายบอล เพราะถ้ายังยืนเป็นบื้อหลังจากให้ไปแล้ว นอกจากบอลจะไม่เกิดช่อง แม้แต่ตัวรับบอลหากไม่เล่น 1 touch ก็จะเจอผู้เล่นลีกยุโรปอัดกระเด็นด้วยความรวดเร็ว ...เป็นบอลที่ผู้เล่นต้องมีทั้งความเข้าใจในการเคลื่อนที่ และคนใช้ต้อง Sense บอลทันกัน นั่นคือสิ่งที่เป็นความต่างของ Class บอลของเรากับเค้า เพราะต่อให้เราเล่นเหมือนกัน แต่ถ้าผู้เล่นไม่ทันกัน ความเร็วไม่ได้อยู่ระดับเดียวกัน มันก็จะดูเป็นบอลช้า ตะกุกตะกัก พร้อมโดนตัดบอลตลอดเวลา ... ญี่ปุ่นใช้การเคลื่อนที่แบบนี้ในการพยายามเจาะจุดเจาะของเรา ...ใช่ !! อีกแล้วครับท่าน ...เจาะฝั่งโดอีกแล้ว ... มันรักอะไรนักหนากับน้องโดของแม่ยกทั้งหลาย เกือบทุกทีมทำการบ้านมาเหมือนกันหมด ถ้าฝั่งซ้ายมีนักเตะที่ AFC ชื่นชอบอย่างเจ้าอุ้มอยู่ ก็จะพากันมาเล่นอีกฝั่งกันแทนซะงั้น ...เรื่องของเรื่องคือ เกมที่แล้ว เราโดนบี้แบ๊คขวาแล้วขึ้นทางซ้ายได้ ...แต่เกมนี้ ขึ้นทางซ้ายเราก็ยังไม่ได้เลย ...เกมเลยจะโดนบีบอยู่หน้ากรอบเขตโทษเราตลอดเกือบ 80% ของเกม ..ส่วนเจ้าโด ก็งานหนัก เจอลูกครึ่งเยอรมันหน้าหล่อกดตลอด เรียกว่าเจอกับการส่งบอล P&M ทั้งตั้มทั้งต้นต้องสลับกันมาดักซ้อนตลอด แต่ส่วนตัวข้าเจ้าว่าทั้งเกมเจ้าโดทำได้ค่อนข้างดีเลยนะกับการเป็นตัวตามประกบเกมรุกฝั่งนี้ ...จุดเจาะฝั่งนี้เมื่อมันเจาะลำบาก สุดท้ายก็เหมือนกับซาอุฯ... ญี่ปุ่นต้องหันมาใช้เกมโยนตัดแนวหลังแล้วใช้การเบียดการชิงจังหวะในกรอบเขตโทษจากทั้งคากาวะและฮอนดะ การย้ายแกนอย่างรวดเร็วยามเราเผลอ ซึ่งได้ผลในกรณีประตูแรกที่พออุ้มหลุดตำแหน่งเค้าก็บุกมาเปิดบอลได้ การเสียประตูแรกเป็นความผิดพลาดที่ประกบตัวไม่หมด ซึ่งบอลระดับนี้แล้ว พลาดนิดเดียวมันไม่ใช่แค่ความเสียว แต่มันคือแตกเป็นสกอร์ได้เลย 1 น้ำ ......บอล P&M ของเค้าจะเป็นบอลคิดไวทำไว เพราะแม้แต่บอลที่เป็นประตูของเค้าทั้ง 2 ลูก ก็เกิดจากการคิดไวทำไว ..ประตูที่ 2 อาจจะต้องยอมรับใน Class ผู้เล่นของเค้าที่อาซาโนะกำลังเป็นผู้เล่นมาแรงจริงๆ เราจะไปโทษตั้มอย่างเดียวก็ไม่ได้เพราะเราเองก็ดันเกมสูงเพื่อเสี่ยงเอาแต้มเหมือนกัน การเบียดผู้เล่นก็ทำได้ยากเพราะอีกก้าวเดียวก็เขตโทษแล้ว ..ส่วนลูกแรกเป็นลูกสูตรที่เราพลาดเรื่องตัวประกบ
- เรื่องฝนตกน่าจะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้บอลเล่นยาก สภาพอากาศไม่มีผลต่อญี่ปุ่นเพราะมันเป็นสภาพอากาศปกติที่เกาะญี่ปุ่นก็มี ความจริงเราน่าจะคุ้นชินด้วยซ้ำเพราะเราชอบเปิดลีกตอนเข้าหน้าฝนอยู๋เรื่อย ...ถ้าคนที่เคยเล่นบอลสนามใหญ่ตอนฝนตกจะเข้าใจได้ไม่ยากว่ามันบั่นทอนพละกำลังมากขนาดไหน ...บอลหนักน้ำ คอลโทรลยาก เกร็งขากันชนิดที่ตะคริวจะขึ้นได้ทั้งๆ ที่ไม่ต้องรอท้ายเกม การต่อบอลเรียดบอลเร็วกับพื้นทำได้ยากมากๆ ..แต่สิ่งที่เรากับญี่ปุ่นต่างกันคือ ทักษะการแก้ปัญหาในการเล่นกับสภาพอากาศแบบนี้ ผู้เล่นแนวรุกของเค้าเล่นลีกต่างชาติในยุโรปกันทั้งนั้น และการที่ต้องรับมือกับบอลเร็วหนักท่ามกลางสายฝนด้วยเป็นสิ่งที่ทำให้เค้าได้เปรียบกว่าเรา เพราะคุณภาพลีกที่เล่นมันยกระดับศักยภาพผู้เล่นไปด้วย ...ถ้าดูดีๆ การรับส่งบอลของญี่ปุ่นวันนี้บอลจะมีความเร็วกระแทกมาก แต่ผู้เล่นสามารถรับส่งได้อย่างแม่นยำ และโดยส่วนใหญ่บอลแทบจะไม่ค่อยวิ่งไปกับพื้น จะเป็นบอลกระแทกพ้นพื้นกันซะเยอะ ในขณะที่เค้ามี Sense บอลสูงกว่าและยังทันกันหลายๆ ตัว เค้าจึงทำเกมกดเราได้ตลอด รวมกับการเพรสเร็วเพื่อเอาบอลคืน ... แต่ต่อให้สนามแห้งฝนไม่ตก เค้าก็ยังจะต่อบอลแบบนี้อยู่แน่ๆ เพราะมันทำให้บอลเคลื่อนที่เร็ว เปลี่ยนทางได้เร็ว ...ในขณะที่เราอาจจะได้ประสิทธิภาพในเกมรูกมากขึ้นมาบ้าง ซึ่งนั่นคงต้องไปดูกันอีกทีในเกมนัดเยือน
- เกมนี้ เป็นเกมที่ไม่มีอะไรเป็นปัญหานะ แม้แต่ใบแดงของประกิต เพราะเป็นไปตามกติกาจริงๆ เราเข้าพรวดในแบบสวนกับผู้เล่นเค้า อย่าไปติดภาพบอล EPL เด็ดขาดว่าเจอแบบนี้เป็นปกติผู้ตัดสินก็แค่เป่าฟาล์ว ...นั่นมัน EPL แต่นี่เป็น Match FIFA การตัดสินและมุมมองจะเป็นไปตามตำรา การเข้าบอลอันตรายยังไงก็มีสิทธิ์ได้ใบเหลือง
- ถามว่าเราได้อะไรจากเกมนี้ ... จริงๆ ได้กันทั้ง PLT เลยหละ ...เพราะถ้าโค้ชแบนเอาไปปรับใช้กับระบบฝึกนักเตะใน MTUD ตัวทีมชาติก็จะได้อานิสงส์ไปด้วย หรือแม้แต่ทีมอื่นๆ ก็ตาม ...การรับส่งบอลแบบ P&M อาจจะไม่เท่าลีกยุโรป แต่มันช่วยในเรื่องการยกระดับประสิทธิภาพผู้เล่นในเรื่องความเข้าในการเคลื่อนที่ ...เพราะในเกมนี้ ผู้เล่นที่ไม่ได้อยู่ MTUD จะค่อนข้างชัดว่ามีความเข้าใจหรือการตัดสินใจที่ต่างจากผู้เล่นที่มาจากทีมเดียวกันอย่างชัดเจน ... หลายจังหวะของเราเป็นการคิดช้าทำช้า ...ในระดับอาเซียน เราก็ประมาณนี้ แต่เพราะคู่ต่อสู้ของเราเข้าเพรสช้า แถมรูปแบบการรับส่งบอลยังไม่รวดเร็วแม่นยำเท่าญี่ปุ่น (เราตัดบอลญี่ปุ่นได้ยากมากเพราะการรับส่งที่เร็วในระยะกลางเนี่ยแหละ) เราจึงเล่นได้สบายและเคยชินกับความเร็วเกมที่ช้ากว่านี้ ...การแพ้ที่ดี คือแพ้และสามารถเรียนรู้เพื่อพัฒนาได้ เพราะเราไม่ได้เข้ามารอบนี้ได้บ่อยๆ นั่นทำให้เกมต่อๆ ไปของเรา ถ้าโค้ชซิโก้หรือโค้ชใน PLT เก็บเกี่ยวเกมนี้ได้เต็มที่ คิดว่าเดือน พ.ย. ที่เราจะเจอกับออสซี่อาจจะเป็นเกมที่สนุกขึ้นอย่างแน่นอน (แต่ก็นั่นแหละ ทำใจไว้บ้างก็ดีนะ) .. ข้าเจ้าคงไม่อยากจะไปเจาะจงว่าผู้เล่นคนไหนของเราไม่ทันชาวบ้าน คิดช้าทำช้า ...เพราะยังไงซะ ก็รับผิดชอบกันเป็นทีม ถ้าจะพลาด ก็เกิดจากการซ้อม ไม่ควรไปคิดว่าเพราะผู้เล่นที่ทำได้ดันกองอยู่ในสโมสรเดียวกันซะส่วนใหญ่ ไม่อยากให้เกิดความคิดแบ่งพรรคแบ่งค่ายในทีมชาติ ...ประทับใจอย่างก็คือปีโป้ ..เล่นได้กล้าดี แววไม่น่าจะได้อยู๋กับอุบล UMT ได้นานนะเนี่ย ถ้าได้ลงในนัดต่อๆ ไป ถือว่าสร้างมูลค่ามาก ...
- เรื่องการเข้ารอบนั้น อาจจะต้องมองว่า เราคงต้องหวังให้แต้มได้ 12 แต้มก่อนเป็นอย่างน้อยก่อน (เหลืออีก 24 แต้มให้เก็บ แต่ตัดไปเลย 9 แต้มกับเหย้าเยือนออสซี่ และเยือนญี่ปุ่น อีก 3 แต้มก็เผื่อเสมออาหรับอีก 3 ทีม) แล้วไปลุ้นที่เหลือเป็นโบนัส ...มันหวังได้ ความจริงอีกเรื่อง แต่ไม่ใช่เราจะไม่สู้ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเรียนรู้และพัฒนาจากเกมที่แพ้ได้แค่ไหน ... ส่วนตัวมองว่า กับทีมจากอาหรับ ถึงเวลาที่เราจะวัดรอยเท้าได้แล้ว (ถ้าเราจะวางเรื่องกรรมการไว้ก่อนนะ) โดยเอาเกมกับออสซี่และญี่ปุ่นเป็นตำราค้นหาจุดอ่อนกับทีมเรา ... จริงๆ ถ้าจะให้ดี มันน่าจะเอาไปพัฒนาได้ทั้ง PLT อย่างที่ข้าเจ้าว่าไว้ข้างบนด้วยนะ เกมนี้มันชัดจริงๆ ในเรื่องการสร้างเกม โจมตี ความเร็ว การแก้ทางบอลไทย ... ส่วนเรื่อง Class ผู้เล่นมันเป็นเรื่องที่อาจจะเข้าถึงยาก ทำได้ใกล้เคียงที่สุดไม่ใช่อยากจะส่งผู้เล่นไปต่างแดนอย่างเดียว เราก็สามารถฝึกกับผู้เล่นต่างชาติของลีกเราได้ ...หาแมทช์อุ่นเครื่องกับทีมจากญี่ปุ่น เกาหลีใต้ หรือยุโรปเรื่อยๆ เจอกันบ่อยๆ พยายามทำอันดับ FIFA Ranking ให้นักเตะเราพอเตะตาลีกนอกได้ เดี๋ยวก็มาเอง ...
....
สุดท้ายแล้ว รอบนี้อาจจะยังเร็วไปสำหรับบอลโลก ...แต่อีก 10 ข้างหน้า มันก็น่าลุ้นจริงๆ หละถ้าเราไม่ถอยหลังลงคลองไปเองซะก่อน