วิเคราะห์ ฉากจบ สองแบบ ของ
แฟนเดย์ แฟนกันแค่วันเดียว
จากที่มีกระแสการถามถึงฉากจบของภาพยนตร์เรื่องแฟนเดย์ ว่ามีฉากจบสองแบบหรือเปล่า
คนดูหลายคนมากๆ ที่ไม่ได้นัดแนะกัน กลับมีความเห็นตรงกันว่ามีฉากจบสองแบบ โดยไม่ได้นัดกันมา
แบบแรกคือ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้นุ้ยน้ำตาไหล > เด่นชัยเฉลย > นุ้ยเดินหนีพี่ท็อป > จบ
แบบที่สองคือ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้นุ้ยน้ำตาไหล > นุ้ยเดินหนีพี่ท็อป > เด่นชัยเฉลย จบที่รอยยิ้มของนุ้ย > จบ
ซึ่งเป็นเรื่องแปลกมากๆ นอกจากซีนที่สลับกันแล้วอารมณ์ที่ได้รับจากหนังก็ต่างกันเช่นกัน
ตัวผมพอดูจบ ได้เข้าไปอ่านกระทู้ เกี่ยวกับเรื่องนี้ทั้งสองกระทู้
http://ppantip.com/topic/35561823
http://ppantip.com/topic/35560379
ก็จำได้อย่างแน่นอนว่า เป็นฉากจบแบบแรก จำได้ทั้งภาพ และความรู้สึกตอนนั้นๆ
ฉากจบแบบแรกให้ความรู้สึก
ค้างคา งง เหวอ และเหมือนถูกกระชากให้จบโดยที่เราไม่ทันตั้งตัว
วันถัดมาไปซ้ำอีกรอบนึง เพราะชอบ อิน และ อยากเก็บรายละเอียดในหลายๆอย่างในหนัง
จนมาถึงฉากจบ เราก็พบว่ามันเป็นฉากจบแบบที่สอง
ตอนจบแบบที่สองนี้ให้ความรู้สึก
เติมเต็ม อิ่มเอม และสวยงาม ซึ่งให้ความรู้สึกต่างกับแบบแรกมากๆ
มากจนเรามั่นใจว่าเราไม่ได้จำผิด
เราอาจจะจำภาพไม่ได้ แต่เราจำความรู้สึกได้จริงๆนะ
ทีนี้เราก็เลยรวบรวมข้อมูลต่างๆมาวิเคราะห์ถึงฉากจบสองแบบนี้อย่างจริงจัง เป็นที่มาของการวิเคราะห์นี้
ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมเชื่อว่า การที่ฉากจบมีสองแบบ เป็นสิ่งที่ถูกคิดมาแล้ว ไม่ใช่ความผิดพลาด หรือความบังเอิญแต่อย่างใด
1.ตัวหนังเล่นกับความทรงจำของตัวละครในหนึ่งวัน แล้วหนังเล่นกับความทรงจำของคนดูด้วยหรือเปล่า?
ฉากจบทั้งสองแบบ ทำให้เกินการเถียงกันของคนดู ว่าเราจำได้หรือจำไม่ได้ หรือว่าเราจำผิด หรือเป็นอุปทานหมู่
แต่สุดท้าย สิ่งที่คนดูหลายๆคนเห็นตรงกันก็คือ ความรู้สึกของฉากจบทั้งสองแบบ ซึ่งมันช่างต่างกันเหลือเกิน
หนังได้จำลองคามรู้สึกของนุ้ย ที่ถึงแม่ความทรงจำในหนึ่งวันนั้นจะพร่าเลือนไป
แต่ยังคงจำความรู้สึกนั้นได้หลังจากได้เห็นรอยยิ้มและความสุขของตัวเองในคลิป
เหมือนกับที่ตัวผู้ชม ยังคงจำความรู้สึกของฉากจบแบบที่ได้ดู ได้อย่างชัดเจน
2.แล้วถ้าเราคิดว่า ฉากจบทั้งสองแบบ อาจมาจากมุมมองที่ต่างกันล่ะ!
ในฉากแบบแรก ความรู้สึกของคนดู ก็คงเหมือนกับความรู้สึกของนุ้ย ที่ทั้งสับสน งง เหวอ
และ เหมือนถูกกระชากให้กลับมาเจอกับความจริงอย่างไม่ทันตั้งตัว
ส่วนในฉากจบแบบที่สอง ที่ดูสมูท ให้ความรู้สึกที่อบอุ่น และประทับใจคนดูมากกว่า ก็เหมือนกับความรู้สึกของเด่นชัย
ที่เลือกเก็บเอาช่วงเวลาที่มีความสุขและรอยยิ้มของคุณนุ้ยในช่วงเวลานั้นไว้ในความทรงจำ
3.ผมได้พบความคิดเห็นของผู้ชมที่ได้ชมตอนจบแบบที่หนึ่ง และมารู้ทีหลังว่ามีฉากจบสองแบบ
หลายๆคน รู้สึกไม่แฟร์ ไม่ฟิน ไม่ยุติธรรม ที่ตัวเองได้ชมฉากจบ ซึ่งอาจจะไม่ได้ดีที่สุดในแง่ความรู้สึก เช่น
(ขออณุญาตเจ้าของความเห็นที่เอามาลงโดยไม่เปิดเผยชื่อนะครับ)
เรามองว่านี่แหละมันคือความรู้สึกของเด่นชัย
เค้าก็เหมือนทุกๆคน ที่อยากจะเลือกฉากจบแบบที่สอง และเก็บความรู้สึกดีๆแบบนี้ไว้
จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เด่นชัย เลือกที่จะไม่บอกความจริง ขนาดเราเป็นคนดู ยังอยากเลือกฉากจบที่ดีที่สุดสำหรับตัวเองเลย
สำหรับเด่นชัย การเลือกที่จะไม่ทำลายความทรงจำดีๆในวันนั้นของตัวเองก็คงไม่ต่างกัน (ส่วนจะเห็นแก่ตัวหรือไม่ ก็เป็นอีกเรื่องนึง)
4.ผู้กำกับและคนตัดต่อ ถึงแม้จะออกมายืนยันว่าฉากจบมีแบบเดียว แต่ไม่มีใครบอกอย่างชัดเจนว่าเป็นแบบไหนกันแน่?
ซึ่งในแง่ของเหตุการ ฉากจบทั้งสองแบบ ถึงจะให้ความรู้สึกที่แตกต่างกัน และมีการสลับซีน แต่ก็นับเป็นตอนจบรูปแบบเดียวกัน
(เด่นชัยลบคลิปและไม่ได้บอกความจริง นุ้ยจำเหตุการณ์ในวันนั้นไม่ได้)
โดยความต่างของฉากจบทั้งสองแบบ ไม่ได้ส่งผลต่อตัวละครในหนังเลย เหตุการทั้งหมดยังคงดำเนินไปเหมือนกัน
แต่ความต่างนี้กลับส่งผลโดยตรงต่อความรู้สึกของคนดู
หรือจริงๆแล้วที่ผู้กำกับพูดว่า มีฉากจบแบบเดียวฉายในโรง อาจหมายถึงแบบนี้ก็ได้?
5.คำใบ้จากผู้กำกับ ?
จากบทสัมภาษณ์นี้ ผมว่าก็แอบเห็นคำใบ้หลายๆอย่างอยู่นะครับ
[SPOIL] - วิเคราะห์ ฉากจบ สองแบบ ของ แฟนเดย์ แฟนกันแค่วันเดียว
แฟนเดย์ แฟนกันแค่วันเดียว
จากที่มีกระแสการถามถึงฉากจบของภาพยนตร์เรื่องแฟนเดย์ ว่ามีฉากจบสองแบบหรือเปล่า
คนดูหลายคนมากๆ ที่ไม่ได้นัดแนะกัน กลับมีความเห็นตรงกันว่ามีฉากจบสองแบบ โดยไม่ได้นัดกันมา
แบบแรกคือ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แบบที่สองคือ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ซึ่งเป็นเรื่องแปลกมากๆ นอกจากซีนที่สลับกันแล้วอารมณ์ที่ได้รับจากหนังก็ต่างกันเช่นกัน
ตัวผมพอดูจบ ได้เข้าไปอ่านกระทู้ เกี่ยวกับเรื่องนี้ทั้งสองกระทู้
http://ppantip.com/topic/35561823
http://ppantip.com/topic/35560379
ก็จำได้อย่างแน่นอนว่า เป็นฉากจบแบบแรก จำได้ทั้งภาพ และความรู้สึกตอนนั้นๆ
ฉากจบแบบแรกให้ความรู้สึก ค้างคา งง เหวอ และเหมือนถูกกระชากให้จบโดยที่เราไม่ทันตั้งตัว
วันถัดมาไปซ้ำอีกรอบนึง เพราะชอบ อิน และ อยากเก็บรายละเอียดในหลายๆอย่างในหนัง
จนมาถึงฉากจบ เราก็พบว่ามันเป็นฉากจบแบบที่สอง
ตอนจบแบบที่สองนี้ให้ความรู้สึก เติมเต็ม อิ่มเอม และสวยงาม ซึ่งให้ความรู้สึกต่างกับแบบแรกมากๆ
มากจนเรามั่นใจว่าเราไม่ได้จำผิด
เราอาจจะจำภาพไม่ได้ แต่เราจำความรู้สึกได้จริงๆนะ
ทีนี้เราก็เลยรวบรวมข้อมูลต่างๆมาวิเคราะห์ถึงฉากจบสองแบบนี้อย่างจริงจัง เป็นที่มาของการวิเคราะห์นี้
ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมเชื่อว่า การที่ฉากจบมีสองแบบ เป็นสิ่งที่ถูกคิดมาแล้ว ไม่ใช่ความผิดพลาด หรือความบังเอิญแต่อย่างใด
1.ตัวหนังเล่นกับความทรงจำของตัวละครในหนึ่งวัน แล้วหนังเล่นกับความทรงจำของคนดูด้วยหรือเปล่า?
ฉากจบทั้งสองแบบ ทำให้เกินการเถียงกันของคนดู ว่าเราจำได้หรือจำไม่ได้ หรือว่าเราจำผิด หรือเป็นอุปทานหมู่
แต่สุดท้าย สิ่งที่คนดูหลายๆคนเห็นตรงกันก็คือ ความรู้สึกของฉากจบทั้งสองแบบ ซึ่งมันช่างต่างกันเหลือเกิน
หนังได้จำลองคามรู้สึกของนุ้ย ที่ถึงแม่ความทรงจำในหนึ่งวันนั้นจะพร่าเลือนไป
แต่ยังคงจำความรู้สึกนั้นได้หลังจากได้เห็นรอยยิ้มและความสุขของตัวเองในคลิป
เหมือนกับที่ตัวผู้ชม ยังคงจำความรู้สึกของฉากจบแบบที่ได้ดู ได้อย่างชัดเจน
2.แล้วถ้าเราคิดว่า ฉากจบทั้งสองแบบ อาจมาจากมุมมองที่ต่างกันล่ะ!
ในฉากแบบแรก ความรู้สึกของคนดู ก็คงเหมือนกับความรู้สึกของนุ้ย ที่ทั้งสับสน งง เหวอ
และ เหมือนถูกกระชากให้กลับมาเจอกับความจริงอย่างไม่ทันตั้งตัว
ส่วนในฉากจบแบบที่สอง ที่ดูสมูท ให้ความรู้สึกที่อบอุ่น และประทับใจคนดูมากกว่า ก็เหมือนกับความรู้สึกของเด่นชัย
ที่เลือกเก็บเอาช่วงเวลาที่มีความสุขและรอยยิ้มของคุณนุ้ยในช่วงเวลานั้นไว้ในความทรงจำ
3.ผมได้พบความคิดเห็นของผู้ชมที่ได้ชมตอนจบแบบที่หนึ่ง และมารู้ทีหลังว่ามีฉากจบสองแบบ
หลายๆคน รู้สึกไม่แฟร์ ไม่ฟิน ไม่ยุติธรรม ที่ตัวเองได้ชมฉากจบ ซึ่งอาจจะไม่ได้ดีที่สุดในแง่ความรู้สึก เช่น
(ขออณุญาตเจ้าของความเห็นที่เอามาลงโดยไม่เปิดเผยชื่อนะครับ)
เรามองว่านี่แหละมันคือความรู้สึกของเด่นชัย
เค้าก็เหมือนทุกๆคน ที่อยากจะเลือกฉากจบแบบที่สอง และเก็บความรู้สึกดีๆแบบนี้ไว้
จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เด่นชัย เลือกที่จะไม่บอกความจริง ขนาดเราเป็นคนดู ยังอยากเลือกฉากจบที่ดีที่สุดสำหรับตัวเองเลย
สำหรับเด่นชัย การเลือกที่จะไม่ทำลายความทรงจำดีๆในวันนั้นของตัวเองก็คงไม่ต่างกัน (ส่วนจะเห็นแก่ตัวหรือไม่ ก็เป็นอีกเรื่องนึง)
4.ผู้กำกับและคนตัดต่อ ถึงแม้จะออกมายืนยันว่าฉากจบมีแบบเดียว แต่ไม่มีใครบอกอย่างชัดเจนว่าเป็นแบบไหนกันแน่?
ซึ่งในแง่ของเหตุการ ฉากจบทั้งสองแบบ ถึงจะให้ความรู้สึกที่แตกต่างกัน และมีการสลับซีน แต่ก็นับเป็นตอนจบรูปแบบเดียวกัน
(เด่นชัยลบคลิปและไม่ได้บอกความจริง นุ้ยจำเหตุการณ์ในวันนั้นไม่ได้)
โดยความต่างของฉากจบทั้งสองแบบ ไม่ได้ส่งผลต่อตัวละครในหนังเลย เหตุการทั้งหมดยังคงดำเนินไปเหมือนกัน
แต่ความต่างนี้กลับส่งผลโดยตรงต่อความรู้สึกของคนดู
หรือจริงๆแล้วที่ผู้กำกับพูดว่า มีฉากจบแบบเดียวฉายในโรง อาจหมายถึงแบบนี้ก็ได้?
5.คำใบ้จากผู้กำกับ ?
จากบทสัมภาษณ์นี้ ผมว่าก็แอบเห็นคำใบ้หลายๆอย่างอยู่นะครับ