สวัสดีค่ะ เพื่อนๆชาวพันทิปทุกคน
เนื่องจากเรากำลังจะได้รับน้องcactus มาเลี้ยงดู ก็เลยต้องมีการเตรียมมองหาวิธีการดูแลน้องๆบ้างแล้ว!
และคิดว่าก็คงมีเพื่อนๆอีกหลายคนกำลังมองหาเช่นกัน ก็เลยจะนำข้อมูลที่เรารวบรวมมา มาลงพันทิปให้เพื่อนๆได้รู้จักน้องๆมากขึ้น
ถ้าเพื่อนคนไหนมีข้อมูลมาช่วยเสริมก็มาเสริมได้เลยนะคะ เราจะพยายามเข้ามาอัพเดทข้อมูลเรื่อยๆ ^^
ขอแนะนำน้องๆก่อนเลยนะคะ (ไม่เห่อค่ะไม่เห่อ55555)
เริ่มต้นที่พี่ใหญ่
'พี่石' (i-shi) ชื่อนี้นำมาจากภาษาญี่ปุ่นที่แปลว่า ก้อนหินค่ะ ก็ตรงตามคำแปลเลย แต่ถ้าถามว่าทำไมเป็นพี่หล่ะ???
. . . อาจจะเพราะเขาดูแข็งแรง พึ่งพาได้ก็ได้นะคะ
ตามมาด้วย
'น้องขนมจีบปู' เนื่องด้วยหน้าตาน้องช่างละม้ายคล้ายกับขนมจีบเสียนี่! และที่เคยทานสีเขียวมา เราจะรู้สึกหอมกลิ่นปูค่ะ (หวังว่าจะไม่เผลอง่ำ น้องเขาซักวัน) มีขนมจีบแล้วก็ขาดไม่ได้เลยย แฝดคนละฝา
'น้องซาลาเปา' นี่เอง เพราะเขาอยู่คู่กันเนอะ ^^
จากที่เราได้ตามหาสัญชาติของน้องๆแล้วพบว่า พี่石 เป็น
หินกรวดค่ะ (มันก็แน่อยู่แล้วไม่ใช่หรอ!!) ส่วนน้องขนมจีบปู&น้องซาลาเปา เป็น
พันธุ์Melo ค่ะ
กระถางถัดมาคือ
'น้องปะการัง' ทั้งขาวทั้งอวบ น่าสัมผัสใช่ไหมคะ? (แลดูโรคจิตนิดๆ) เป็นเพราะน้องมีสีขาวเยอะเลยให้ความรู้สึกเหมือนปะการังดูน่าทะนุถนอม เป็น
พันธุ์Mammollaria ค่ะ
กระถางสุดท้ายแต่อาจจะยังไม่ใช่ท้ายสุด
'น้องหนวดแมว' ที่ดูขี้เล่นนั่นเองค่ะเพราะตรงปลายของหน่อน้อยๆแต่ละหน่อของน้องเขา ช่างกวนใจให้เอานิ้วไปเขี่ยเล่นซะเหลือเกิน เหมือนหนวดแมวจริงๆเลย เป็น
พันธุ์ Mammollaria Longimamma หรืออีกชื่อนึงคือ แมมกล้วยหอมค่ะ
Credit
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ สายพันธุ์ https://sites.google.com/site/pimpmeen/say-phanthu-krabxng-phechr
ภาพ&ร้านที่สั่ง(เนื่องจากกำลังรอรับน้องๆเลยยังไม่มีรูปถ่ายเองค่ะ) : https://shopee.co.th/myname_cactus
ร้านนี้ไม่แพงค่ะ มีให้เลือกหลายสายพันธุ์ มีอุปกรณ์ด้วย
ปล.แอบโฆษณาให้ร้านเขานิดนึง เพราะเขาทำให้เราได้มีความติ่งcactus
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เอาหล่ะเราก็แนะนำน้องๆไปจนครบแล้วนะคะ
เรามาเริ่มกันเลยดีกว่าค่ะ
การเตรียมการ ก่อนจะมองหาน้องcactus มาเลี้ยง
พื้นที่ : เราต้องมีพื้นที่ก่อนนะคะ บางคนอาจจะเลี้ยงไว้ที่ระเบียงเพื่อให้มีแสงแดดตลอดเวลา บางคนก็เลี้ยงไว้ที่โต๊ะทำงานให้รู้สึกดีเวลาที่ได้เห็น หรือใครมีพื้นที่เยอะหน่อยก็เลี้ยงในสวน มีเพื่อนเยอะแยะเลย
ทริค
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ถ้าเลี้ยงน้องแมวน้องหมาแล้วกลัวจะโดนปัดตกลงมาแอ้ะ! แล้วล่ะก็ ลองมองหาถาดไม้ดูสิคะ สวยคลาสสิค ใช้ตกแต่งห้องก็ยังได้ แต่ก็ต้องระวังโดนปัดลงมาทั้งถาดนะคะ
เวลา : ใช่ค่ะเราต้องมีเวลาสำหรับน้องๆเขานะคะ ไม่ใช่ว่าต้นกระบองเพชรจะ ถึก อึด ทน รดน้ำเดือนละครั้งก็พอ หรือวางไว้ที่แดดจัดตลอดเวลาเพราะคิดว่าเขาชอบแดดมาก ซึ่งไม่เป็นอย่างนั้นในหลายๆสายพันธุ์นะคะ
เงิน : แน่นอนค่ะ ซึ่งส่วนใหญ่จะหาร้านขายได้ตามร้านใน สวนจตุจักร สวนรถไฟ ตลาดนัดแถวบ้าน พื้นที่เกษตรบางส่วน และอีกหลายๆที่ แต่ก็เชื่อว่าหลายๆคนอาจจะหาจังหวะไปตามหาซื้อน้องๆได้ยาก เช่นเราเป็นต้นค่ะ ซึ่งเดี๋ยวนี้มีขายออนไลน์บ้างแล้ว การขนส่งอาจจะดูเสี่ยงไปบ้าง แต่เพราะความน่ารักทะลุจอเนี่ยแหล่ะค่ะ ทำให้เราได้เริ่มต้นสิ่งดีๆอย่างนี้ แล้วก็ต้องเลือกร้านดีๆนะคะ
สายพันธุ์ : จะดีมากนะคะถ้ามีการเตรียมข้อมูลให้พร้อมว่าที่เราต้องการเป็นพันธุ์อะไร ต้องการแสงเท่าไหน? ต้องการน้ำมากไหม? ควรระวังเรื่องอะไร? โรคภัยที่อาจเกิดได้กับน้อง?
การดูแลพื้นที่เล็กๆของน้องcactus
1) แดดที่เหมาะสมสำหรับกระบองเพชรในบ้านเราก็คือแดดช่วงครึ่งเช้าตั้งแต่ เช้าถึงเที่ยง แต่ส่วนมากแล้วฟาร์มที่ทำการเพาะเลี้ยงกระบองเพชรจะติดสแลมที่กรองแดดได้ประมาณ 50 เปอร์เซนต์ ซึ่งถ้าเราเลี้ยงบนโต๊ะทำงานที่แสงส่องมาไม่ถึง ช่วงพักสมอง พักสายตา ก็พาน้องเขาไปรับแดดในพื้นที่ที่แสงเข้าถึงบ้างก็ได้ค่ะ
2) การรดน้ำ ถ้าใครที่คิดว่านึกขึ้นได้ค่อยรด หรือรดเดือนละครั้ง สต็อปเลยนะคะ!! เพราะหากทำอย่างนั้นน้องอาจจะขาดน้ำและจากเราไปสู่ภพภูมิที่ดีค่ะ
มีวิธีง่ายๆที่จะเช็คความต้องการน้ำของน้องเขาจากความชื้นในดินโดย
- นำไม้จิ้มฟัน หรือไม้ที่มีความยาวเท่าความสูงกระถาง จิ้มลงไปในดินให้ลึกๆแล้วดึงขึ้นมาดู ถ้ามีดินติดมาแปลว่าความชื้นพอไม่ต้องรดเพิ่ม แต่ถ้าไม่มีดินติดมา ให้ค่อยๆรดน้ำลงไปที่ดิน ย้ำนะคะ! ค่อยๆ และควรระวังไม่ให้มากเกินไปด้วยเพราะในส่วนรากอาจเกิดเชื้อราได้นั่นเองค่ะ
รู้หมือไร่?
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้สาเหตุที่มีการนำหินเม็ดเล็กมาปิดดินไว้ก็เพื่อกักเก็บความชื้นในดินให้มากที่สุด
3) เรื่องดินก็ขอให้ยึดหลักว่าดินที่มาปลูกกระบองเพชรนั้นจะต้อง
-ระบายน้ำได้ดี (เช่น กากมะพร้าว เศษไม้ ขี้เลื่อย เป็นต้น)
-ผสมดินที่ช่วยเก็บน้ำ (เช่น ดินเหนียวปนทราย เป็นต้น)
-มีธาตุอาหารเพียงพอต่อต้นกระบองเพชร
-หาได้แถวบ้าน
-ราคาไม่แพงเกินตัว
4) ปุ๋ย ก็จำเป็นกับน้องcactus เหมือนกันนะ โดยควรจะให้ปุ๋ยที่เดือนละ 1-2 ครั้ง และให้ปุ๋ยคอกเป็นอาหารหลัก และปุ๋ยน้ำที่ให้ทางใบเป็นอาหารเสริม
5) กระถาง ควรจะมีขนาดเหมาะสมกับขนาดตัวน้องcactus เพราะหากกระถางใหญ่เกินไป เมื่อเรารดน้ำลงไปความชื้นในดินจะมีมากเกินไปสำหรับน้องและจะทำให้รากเน่าได้เช่นกัน
Credit
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.thaiarcheep.com/%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%9C%E0%B8%B4%E0%B8%94-%E0%B9%86%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A.html
---------------------------------------------------------------
หากมีข้อมูลผิดพลาดส่วนไหนสามารถหลังไมค์มาบอกได้นะคะ เราจะได้รีบมาแก้
ขอบคุณที่อ่านจนจบ เราหวังว่าโพสนี้จะมีประโยชน์กับเพื่อนๆอีกหลายคนนะคะ
และคาดว่าจะมีอัพเดทอวดน้องอีกเป็นระยะๆค่ะ
แล้วน้องcactus ของเพื่อนๆชาวพันทิปหน้าตาเป็นยังไงกันบางนะ? อยากเห็นจังเลยค่ะ ^^
[คำแนะนำ&แชร์ภาพ] พื้นที่เล็กๆของน้องcactus
เนื่องจากเรากำลังจะได้รับน้องcactus มาเลี้ยงดู ก็เลยต้องมีการเตรียมมองหาวิธีการดูแลน้องๆบ้างแล้ว!
และคิดว่าก็คงมีเพื่อนๆอีกหลายคนกำลังมองหาเช่นกัน ก็เลยจะนำข้อมูลที่เรารวบรวมมา มาลงพันทิปให้เพื่อนๆได้รู้จักน้องๆมากขึ้น
ถ้าเพื่อนคนไหนมีข้อมูลมาช่วยเสริมก็มาเสริมได้เลยนะคะ เราจะพยายามเข้ามาอัพเดทข้อมูลเรื่อยๆ ^^
ขอแนะนำน้องๆก่อนเลยนะคะ (ไม่เห่อค่ะไม่เห่อ55555)
เริ่มต้นที่พี่ใหญ่ 'พี่石' (i-shi) ชื่อนี้นำมาจากภาษาญี่ปุ่นที่แปลว่า ก้อนหินค่ะ ก็ตรงตามคำแปลเลย แต่ถ้าถามว่าทำไมเป็นพี่หล่ะ???
. . . อาจจะเพราะเขาดูแข็งแรง พึ่งพาได้ก็ได้นะคะ
ตามมาด้วย 'น้องขนมจีบปู' เนื่องด้วยหน้าตาน้องช่างละม้ายคล้ายกับขนมจีบเสียนี่! และที่เคยทานสีเขียวมา เราจะรู้สึกหอมกลิ่นปูค่ะ (หวังว่าจะไม่เผลอง่ำ น้องเขาซักวัน) มีขนมจีบแล้วก็ขาดไม่ได้เลยย แฝดคนละฝา 'น้องซาลาเปา' นี่เอง เพราะเขาอยู่คู่กันเนอะ ^^
จากที่เราได้ตามหาสัญชาติของน้องๆแล้วพบว่า พี่石 เป็นหินกรวดค่ะ (มันก็แน่อยู่แล้วไม่ใช่หรอ!!) ส่วนน้องขนมจีบปู&น้องซาลาเปา เป็นพันธุ์Melo ค่ะ
กระถางถัดมาคือ'น้องปะการัง' ทั้งขาวทั้งอวบ น่าสัมผัสใช่ไหมคะ? (แลดูโรคจิตนิดๆ) เป็นเพราะน้องมีสีขาวเยอะเลยให้ความรู้สึกเหมือนปะการังดูน่าทะนุถนอม เป็นพันธุ์Mammollaria ค่ะ
กระถางสุดท้ายแต่อาจจะยังไม่ใช่ท้ายสุด 'น้องหนวดแมว' ที่ดูขี้เล่นนั่นเองค่ะเพราะตรงปลายของหน่อน้อยๆแต่ละหน่อของน้องเขา ช่างกวนใจให้เอานิ้วไปเขี่ยเล่นซะเหลือเกิน เหมือนหนวดแมวจริงๆเลย เป็นพันธุ์ Mammollaria Longimamma หรืออีกชื่อนึงคือ แมมกล้วยหอมค่ะ
Credit
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เอาหล่ะเราก็แนะนำน้องๆไปจนครบแล้วนะคะ
เรามาเริ่มกันเลยดีกว่าค่ะ
การเตรียมการ ก่อนจะมองหาน้องcactus มาเลี้ยง
พื้นที่ : เราต้องมีพื้นที่ก่อนนะคะ บางคนอาจจะเลี้ยงไว้ที่ระเบียงเพื่อให้มีแสงแดดตลอดเวลา บางคนก็เลี้ยงไว้ที่โต๊ะทำงานให้รู้สึกดีเวลาที่ได้เห็น หรือใครมีพื้นที่เยอะหน่อยก็เลี้ยงในสวน มีเพื่อนเยอะแยะเลย
ทริค [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เวลา : ใช่ค่ะเราต้องมีเวลาสำหรับน้องๆเขานะคะ ไม่ใช่ว่าต้นกระบองเพชรจะ ถึก อึด ทน รดน้ำเดือนละครั้งก็พอ หรือวางไว้ที่แดดจัดตลอดเวลาเพราะคิดว่าเขาชอบแดดมาก ซึ่งไม่เป็นอย่างนั้นในหลายๆสายพันธุ์นะคะ
เงิน : แน่นอนค่ะ ซึ่งส่วนใหญ่จะหาร้านขายได้ตามร้านใน สวนจตุจักร สวนรถไฟ ตลาดนัดแถวบ้าน พื้นที่เกษตรบางส่วน และอีกหลายๆที่ แต่ก็เชื่อว่าหลายๆคนอาจจะหาจังหวะไปตามหาซื้อน้องๆได้ยาก เช่นเราเป็นต้นค่ะ ซึ่งเดี๋ยวนี้มีขายออนไลน์บ้างแล้ว การขนส่งอาจจะดูเสี่ยงไปบ้าง แต่เพราะความน่ารักทะลุจอเนี่ยแหล่ะค่ะ ทำให้เราได้เริ่มต้นสิ่งดีๆอย่างนี้ แล้วก็ต้องเลือกร้านดีๆนะคะ
สายพันธุ์ : จะดีมากนะคะถ้ามีการเตรียมข้อมูลให้พร้อมว่าที่เราต้องการเป็นพันธุ์อะไร ต้องการแสงเท่าไหน? ต้องการน้ำมากไหม? ควรระวังเรื่องอะไร? โรคภัยที่อาจเกิดได้กับน้อง?
การดูแลพื้นที่เล็กๆของน้องcactus
1) แดดที่เหมาะสมสำหรับกระบองเพชรในบ้านเราก็คือแดดช่วงครึ่งเช้าตั้งแต่ เช้าถึงเที่ยง แต่ส่วนมากแล้วฟาร์มที่ทำการเพาะเลี้ยงกระบองเพชรจะติดสแลมที่กรองแดดได้ประมาณ 50 เปอร์เซนต์ ซึ่งถ้าเราเลี้ยงบนโต๊ะทำงานที่แสงส่องมาไม่ถึง ช่วงพักสมอง พักสายตา ก็พาน้องเขาไปรับแดดในพื้นที่ที่แสงเข้าถึงบ้างก็ได้ค่ะ
2) การรดน้ำ ถ้าใครที่คิดว่านึกขึ้นได้ค่อยรด หรือรดเดือนละครั้ง สต็อปเลยนะคะ!! เพราะหากทำอย่างนั้นน้องอาจจะขาดน้ำและจากเราไปสู่ภพภูมิที่ดีค่ะ
มีวิธีง่ายๆที่จะเช็คความต้องการน้ำของน้องเขาจากความชื้นในดินโดย
- นำไม้จิ้มฟัน หรือไม้ที่มีความยาวเท่าความสูงกระถาง จิ้มลงไปในดินให้ลึกๆแล้วดึงขึ้นมาดู ถ้ามีดินติดมาแปลว่าความชื้นพอไม่ต้องรดเพิ่ม แต่ถ้าไม่มีดินติดมา ให้ค่อยๆรดน้ำลงไปที่ดิน ย้ำนะคะ! ค่อยๆ และควรระวังไม่ให้มากเกินไปด้วยเพราะในส่วนรากอาจเกิดเชื้อราได้นั่นเองค่ะ
รู้หมือไร่? [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
3) เรื่องดินก็ขอให้ยึดหลักว่าดินที่มาปลูกกระบองเพชรนั้นจะต้อง
-ระบายน้ำได้ดี (เช่น กากมะพร้าว เศษไม้ ขี้เลื่อย เป็นต้น)
-ผสมดินที่ช่วยเก็บน้ำ (เช่น ดินเหนียวปนทราย เป็นต้น)
-มีธาตุอาหารเพียงพอต่อต้นกระบองเพชร
-หาได้แถวบ้าน
-ราคาไม่แพงเกินตัว
4) ปุ๋ย ก็จำเป็นกับน้องcactus เหมือนกันนะ โดยควรจะให้ปุ๋ยที่เดือนละ 1-2 ครั้ง และให้ปุ๋ยคอกเป็นอาหารหลัก และปุ๋ยน้ำที่ให้ทางใบเป็นอาหารเสริม
5) กระถาง ควรจะมีขนาดเหมาะสมกับขนาดตัวน้องcactus เพราะหากกระถางใหญ่เกินไป เมื่อเรารดน้ำลงไปความชื้นในดินจะมีมากเกินไปสำหรับน้องและจะทำให้รากเน่าได้เช่นกัน
Credit
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
---------------------------------------------------------------
หากมีข้อมูลผิดพลาดส่วนไหนสามารถหลังไมค์มาบอกได้นะคะ เราจะได้รีบมาแก้
ขอบคุณที่อ่านจนจบ เราหวังว่าโพสนี้จะมีประโยชน์กับเพื่อนๆอีกหลายคนนะคะ
และคาดว่าจะมีอัพเดทอวดน้องอีกเป็นระยะๆค่ะ
แล้วน้องcactus ของเพื่อนๆชาวพันทิปหน้าตาเป็นยังไงกันบางนะ? อยากเห็นจังเลยค่ะ ^^