หลังจากไปดูหนังเรื่องนี้มา นอกจากความรู้สึกส่วนตัวที่อินเอามากๆ แล้ว ผมยังชื่นชมทีมงานสร้างของหนังเรื่องนี้ เพราะตัวหนังเองก็ทำออกมาได้ดีเหนือกว่าหนังไทยทั่วๆไป ซึ่งก็เป็นไปตามมาตรฐานของค่ายนี้ (GTH) เดิมอยู่แล้วนะครับ ไม่ว่าจะเป็น plot , การถ่ายทำ , นักแสดง กระทู้นี้ผมขอเล่าความรู้สึกที่ได้ไปดูหนังเรื่องนี้มา จากมุมมองของคนๆ นึงที่เคยแอบชอบผู้หญิงที่หน้าตาดี แต่ก็จีบเค้าไม่เป็นเหมือนกับตัวพระเอกในเรื่องนั่นแหละครับ (T_T)
1. เด่น
พระเอกแม้จะชื่อเด่น แต่กลับทำตัวตรงข้ามกับชื่อ ผู้กำกับและคนเขียนบท “เข้าถึง” ความเป็นคนที่จีบผู้หญิงไม่เป็นของตัวละครเอามากๆ ทุกๆ การกระทำของเด่นในช่วงแรกจนถึงฉากที่หลบพายุอยู่ในร้าน มันเป็นการแสดงออกด้วยความเข้าใจผิดของผู้ชายที่จีบผู้หญิงไม่เป็นชัดๆ เช่น
- คิดว่าถ้าเราทำอะไรเหมือนคนที่เขารัก เขาจะชอบเช่นกัน เช่น มุกเวทมนต์ หรือสรรพนามแทนตัว หรือคำพูดน้ำเน่าๆ หวานๆ พอเด่นมาทำให้นุ้ยบ้าง นุ้ยกลับไม่รู้สึกอะไรเลย ต่างกับที่ท็อปทำลิบ
- พยายามทำสิ่งที่ตัวเองคิดว่าดีเพื่อนางเอก เช่น หาที่จอดรถ แอบแฮกเกมส์ บลาๆ แต่เส้นแบ่งบางๆ ระหว่างความโรแมนติกกับโรคจิต คือ คนที่”ใช่” เป็นคนทำหรือเปล่า แค่นั้นแหละ
- สารภาพรักในจังหวะที่ไม่สมควร อันนี้ Classic มากๆ ในมุมมองของคนที่แอบชอบเขา ความรู้สึกของเรามันอัดแน่นอยู่ในอกอยากจะระเบิดออกมา อยากจะบอกให้เขารู้ให้มันรู้แล้วรู้รอด แต่หารู้ไม่ว่า ถ้า “จังหวะ” และ “โอกาส” มันไม่เอื้ออำนวย มันจะ “พัง” แน่นอน และจากคนที่เคยเข้าหน้ากันติด คุยเล่นกัน เดินผ่านแล้วยิ้มทักกัน มันจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคนทันที ถ้าฝ่ายตรงข้ามไม่ได้รู้สึกแบบเรา คิดดูว่าลงลิฟท์ยังไม่อยากลงตัวเดียวกันเลย
หนังจึงสร้าง “จังหวะ” และ “โอกาส” ให้กับเด่นอีกครั้ง เสมือนกับทำ “ความฝัน” ของเด่นให้เป็นจริง แม้จะเพียง 1 วันเท่านั้น แต่ก็เพียงพอแล้วสำหรับคนที่แอบรักเขามาตลอดแถมยังโดนเขาปฏิเสธก็ไม่พอ ยังแสดงออกว่ารู้สึกขยะแขยงเข้าไปอีก 1 วันที่ฮอกไกโดจึงเป็นวันที่มีความหมายสำหรับเด่นมากชนิดที่เขาเลือกที่จะไม่บอกความจริงกับนุ้ยเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนั้น เลือกที่จะเก็บมันเอาไว้เป็นความทรงจำตลอดไป เพราะ “ความจริง” มันเจ็บปวด เขาเข้าใจดีว่าในความจริงแล้วนุ้ยไม่มีทางที่จะกลับมารู้สึกดีกับเขาแน่นอน มันไม่มีทางเป็นไปได้แล้ว แถมมันเจ็บที่ต้องเห็น ต้องเจอหน้านุ้ยอยู่ต่อไปทุกวันลองคิดดูนะครับว่า 1 วันที่ฮอกไกโดนั้น มีความหมายมากแค่ไหนกับเขา แล้วพอความฝันหมดลง ต้องมาเจอกับความจริง ที่ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขานั้น เขาไม่สามารถทำให้เธอมารักได้ มันจะเจ็บปวดแค่ไหน ดังนั้น การลาออก ออกไปจากสถานการณ์นั้น จึงเป็นทางออกที่เจ็บปวดน้อยที่สุดแล้วสำหรับเขา
2. นุ้ย
นางเอกที่ชะตาชีวิตพลิกผันเมื่อมาเจอกับท็อป ต้องมาเป็นเมียน้อยเขา ต้องเป็นขี้ปากคนในออฟฟิศ ในเรื่องเข้าใจว่าท็อปน่าจะดึงนุ้ยเข้ามาทำงานในบริษัทของตนจะได้อยู่ใกล้ๆ กัน เพราะนุ้ยบอกเองว่ารอท็อปเลิกกับภรรยามา 3 ปีแล้ว บางๆ คนอาจไม่เห็นด้วยว่าผู้หญิงที่หน้าตาดีแบบนุ้ยทำไมถึงยอมเป็นเมียน้อย จะบอกว่าเรื่องจริงๆ ผมก็เคยเจอนะครับ ผู้หญิงที่หน้าตาดี การศึกษา ฐานะทางบ้าน เพียบพร้อมแต่ก็ยอมเป็นเมียน้อย เพราะเหตุผลบางอย่าง หนังเรื่องนี้จึงจิกกัดสังคมทุกวันนี้ได้เจ็บแสบ ส่วนตัวผมเสียดายเล็กน้อยที่หนังไม่เฉลยปูมหลังของนุ้ยว่าทำไมถึงยอมมาเป็นเมียน้อยของท็อป ไม่งั้นหนังจะสมบูรณ์กว่านี้อีกนะ
บุคลิกแบบนางเอก นอกจากหน้าตาดีแล้ว ยังนุ้ยยัง "บริหารสเน่ห์เป็น" ด้วย เช่น มีการบอกเด่นว่าวันหลังจะมาถามใหม่ มุกปีคอมอะไรนั่น หรือดูจากตอนที่อยู่ในร้านชำ ระหว่างหิมะตก ที่ทดลองให้เด่นเข้ามาจีบตัวเอง นุ้ยผู้หญิงที่มีจริตจะก้าน เล่นหูเล่นตาขนาดนั้น ไม่ธรรมดาแน่นอน ผู้หญิงคนนี้มีแฟนมาแล้วหลายคน แถมเรื่อง Sex ก็เปิดกว้างใช่ย่อย จึงไม่แปลกใจที่คนเนิร์ดๆ ไม่ประสีประสาเรื่องผู้หญิงแบบเด่นจะหลงรักหัวปักหัวปำ จนนุ้ยคือความฝันของเด่น
นุ้ยก็เป็นอีกคนที่จมอยู่กับ “ความฝัน” แต่เป็นฝันคนละแบบกับของเด่น นุ้ยเอาแต่ฝันและเฝ้ารอว่าเมื่อไรท็อปจะเลิกกับภรรยาแล้วมาคบกับตัวเองเป็นจริงเป็นจังแบบเปิดเผยเสียดี จมลงไปลึกชนิดที่ว่าเมื่อความฝันยังห่างไกลกับ “ความจริง” ก็เลือกที่จะฆ่าตัวตายมันซะเลยดีกว่า แต่แล้วเด่นก็ทำให้นุ้ยพบกับ “ความฝัน” ในอีกรูปแบบหนึ่งที่มีความสุขมากกว่าความฝันของนุ้ยเอง คือ ความสุขของ 1 วันในฮอกไกโด ในฝันนั้นไม่มีความจริงที่เจ็บปวดที่ตัวเองเป็นเมียน้อยของท็อป แต่แล้วฝันก็คือฝัน เมื่อตื่นขึ้นมาก็ต้องพบกับความจริงอยู่ดี เพียงแต่ฝันนี้อาจดีกว่าชีวิตจริงทั้งชีวิต เหมือนที่นุ้ยได้บอกเอาไว้ อย่างไรก็ดี ผมมองว่าแม้ว่าเด่นจะเลือกไม่เข้าไปหานุ้ยตามที่สัญญากัน แต่เขาก็ได้ช่วยนุ้ยให้ออกจากพันธการของท็อปได้แล้วในตอนจบของเรื่อง ซึ่งมั่นใจได้ว่านุ้ยน่าจะตัดสินใจเลิกกับท็อปได้อย่างเด็ดขาดแล้ว
ผมชอบคาแรคเตอร์และบทของนุ้ยมากๆ เป็นแบบที่เล่นยาก และมีความซับซ้อนสูง ลองมานึกๆดู เราพบนุ้ยถึง 4 คน ในเรื่อง คือ
- นุ้ยคนปัจจุบันที่เป็นเมียน้อยท็อปไปแล้ว อายุ 28 ปี แต่ก่อนจะผ่านเหตุการณ์ไปฮอกไกโด เป็นผู้หญิงที่ภายนอกดูดี มีความสุข Friendly บริหารเสน่ห์ผู้ชายเป็น แต่ลึกๆ แล้วก็มีความเศร้าที่ต้องอยู่ในสภาพเป็นเมียน้อยของท็อป แถมยังต้องฝืนๆ การกระทำที่จะแสดงออกมา เพราะไม่สามารถให้ใครในออฟฟิศรู้แบบเปิดเผยได้ มิวเล่นได้ดี เก็บๆอาการ ไม่แสดงออก ไม่สดใสเป็นพระอาทิตย์เจิดจ้า เหมือนตอนกลางๆ ของหนัง
- นุ้ยคนที่อายุ 24 ปี ก่อนคบกับ Top สดใส ร่าเริงเหมือนเด็กเรียนเพิ่งจบจากมหาวิทยาลัย เป็นนุ้ยที่ดูมีความสุขที่สุด สดใส สว่าง เจิดจ้ามากๆ เป็นนุ้ยก่อนที่จะรู้ความจริงว่าในอนาคตตัวเองต้องเป็นเมียน้อยคนอื่น เปิดใจยอมรับเด่น แม้ตอนแรกจะไม่ชอบ แต่พอโดนบรรยากาศและความจริงใจของเด่นพาไป ก็แอบมีใจและเชื่อว่าเด่นคือแฟนจริงๆ ถึงขนาดจะยอม XXX ด้วยเลย ซึ่งมิวทำได้สุดยอดมากๆ กริยาท่าทาง สายตา ตอนนั้นสุดยอดเลย (ตรงนี้แสดงให้เห็นว่าคาแรคเตอร์นี้เป็นผู้หญิงที่ไม่ใช่ผู้หญิงเรียบร้อย แสนดีเหมือนผ้าขาวสะอาด จริงๆ ต้องบอกว่าในจินตนาการของผู้ชายแสนดีแบบเด่นทั่วไป มักมองว่าผู้หญิงที่ตนชอบเป็นผู้หญิงแสนดี เหอๆ)
- นุ้ยคนที่อายุ 24 ปี หลังจากรู้ความจริงว่าเด่นโกหก และรู้ว่าในอนาคตตัวเองต้องเป็นเมียน้อยท็อป สัปสน เสียใจกับอนาคตตัวเอง สีหน้ามิวตอนที่อยู่ในห้องตอนที่ไล่เด่นไปแล้วโทรหาท็อป ดูสับสนจริงๆ และโดยเฉพาะช็อตอัดคลิป เป็นอะไรที่เศร้ามากๆ และหนักขึ้นอีกในตอนที่ต้องยอมรับกับความจริงว่าเด่นจะไม่เข้ามาบอกเรื่องราวต่างๆกับตนในวันรุ่งขึ้น มิวเล่นได้ดีมากๆ ในฉากนี้ ให้เห็นถึงคนที่เศร้าถึงขีดสุดที่ต้องจำยอมต่อ “ความจริง” ของตัวเอง ฉากที่พูดว่า "สัญญานะ ว่าจะไม่โกหก" มันเป็นอะไรที่กระชากอารมณ์มาก
- นุ้ยคนสุดท้ายหลังจากได้ดูคลิปที่ Snow Festival เธอในตอนนั้นสามารถเลิกกับท็อปได้อย่างเด็ดขาด (ในตอนนั้นจะพบว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองคนยังไม่กลับมาดี เพราะท็อปถามนุ้ยว่ายังโกรธอยู่อีกเหรอ) ฉากที่นุ้ยน้ำตาไหลออกมา ถ้าดูดีๆ จะเห็นว่าไม่ใช่น้ำตาของความเสียใจ แต่เธอก็ยังจำเหตุการณ์ในตอนนั้นไม่ได้ เพียงแต่ความรู้สึกมันบ่งบอกออกมาผ่านทางร่างกาย มิวยังคงเล่นได้ดีมากๆ เช่นเดียวกัน ใน moment ที่ร้องไห้แต่ไม่สามารถบรรยายความรู้สึกได้ว่ารู้สึกอย่างไร
จากที่เขียนมาผมเห็นว่ามิวแสดงได้ดีมากๆ จนคิดว่าถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด เธอน่าจะต้องคว้ารางวัลมาซักรางวัลจากหนังเรื่องนี้แน่นอน เขียนไปเขียนมาเริ่มกลายเป็นกระทู้อวยนางเอกไปแล้วแฮะ 5555
สุดท้ายแฟนเดย์ ก็จบลงในหนัง (ไม่นับใน DVD นะ) โดยที่เด่นเลือกที่จะเก็บความทรงจำดีๆ แค่ 1 วัน เอาไว้เป็นความทรงจำกับเค้าตลอดไป เหมือนกับความฝันของเขาที่ไม่มีทางจะเป็นความจริงขึ้นมาได้ มันก็ตรง และ real มากๆ เพราะผู้ชายที่จีบผู้หญิงไม่เป็น ไม่ประสีประสาเรื่องผู้หญิง เมื่อพบกับความจริงแต่เจ็บปวดว่าตัวเองโดนเขาปฏิเสธ โดยทั่วไปก็มักล้มเลิก ไม่พยายามต่อ จึงไม่แปลกที่เด่นจะตัดสินใจลาออกไป ยอมแพ้กับความจริง หนังจบได้เป็นความจริงดีมากๆ ถ้าเอาตัวเองเป็นเด่น ผมก็เชื่อว่าตัวเองจะตัดสินใจแบบนี้ครับ
แฟนเดย์ กับเรื่องราวของความฝันและความจริง (Spoil และมุมมองของคนๆ นึงที่เคยแอบชอบผู้หญิง แต่จีบเค้าไม่เป็น)
1. เด่น
พระเอกแม้จะชื่อเด่น แต่กลับทำตัวตรงข้ามกับชื่อ ผู้กำกับและคนเขียนบท “เข้าถึง” ความเป็นคนที่จีบผู้หญิงไม่เป็นของตัวละครเอามากๆ ทุกๆ การกระทำของเด่นในช่วงแรกจนถึงฉากที่หลบพายุอยู่ในร้าน มันเป็นการแสดงออกด้วยความเข้าใจผิดของผู้ชายที่จีบผู้หญิงไม่เป็นชัดๆ เช่น
- คิดว่าถ้าเราทำอะไรเหมือนคนที่เขารัก เขาจะชอบเช่นกัน เช่น มุกเวทมนต์ หรือสรรพนามแทนตัว หรือคำพูดน้ำเน่าๆ หวานๆ พอเด่นมาทำให้นุ้ยบ้าง นุ้ยกลับไม่รู้สึกอะไรเลย ต่างกับที่ท็อปทำลิบ
- พยายามทำสิ่งที่ตัวเองคิดว่าดีเพื่อนางเอก เช่น หาที่จอดรถ แอบแฮกเกมส์ บลาๆ แต่เส้นแบ่งบางๆ ระหว่างความโรแมนติกกับโรคจิต คือ คนที่”ใช่” เป็นคนทำหรือเปล่า แค่นั้นแหละ
- สารภาพรักในจังหวะที่ไม่สมควร อันนี้ Classic มากๆ ในมุมมองของคนที่แอบชอบเขา ความรู้สึกของเรามันอัดแน่นอยู่ในอกอยากจะระเบิดออกมา อยากจะบอกให้เขารู้ให้มันรู้แล้วรู้รอด แต่หารู้ไม่ว่า ถ้า “จังหวะ” และ “โอกาส” มันไม่เอื้ออำนวย มันจะ “พัง” แน่นอน และจากคนที่เคยเข้าหน้ากันติด คุยเล่นกัน เดินผ่านแล้วยิ้มทักกัน มันจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคนทันที ถ้าฝ่ายตรงข้ามไม่ได้รู้สึกแบบเรา คิดดูว่าลงลิฟท์ยังไม่อยากลงตัวเดียวกันเลย
หนังจึงสร้าง “จังหวะ” และ “โอกาส” ให้กับเด่นอีกครั้ง เสมือนกับทำ “ความฝัน” ของเด่นให้เป็นจริง แม้จะเพียง 1 วันเท่านั้น แต่ก็เพียงพอแล้วสำหรับคนที่แอบรักเขามาตลอดแถมยังโดนเขาปฏิเสธก็ไม่พอ ยังแสดงออกว่ารู้สึกขยะแขยงเข้าไปอีก 1 วันที่ฮอกไกโดจึงเป็นวันที่มีความหมายสำหรับเด่นมากชนิดที่เขาเลือกที่จะไม่บอกความจริงกับนุ้ยเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนั้น เลือกที่จะเก็บมันเอาไว้เป็นความทรงจำตลอดไป เพราะ “ความจริง” มันเจ็บปวด เขาเข้าใจดีว่าในความจริงแล้วนุ้ยไม่มีทางที่จะกลับมารู้สึกดีกับเขาแน่นอน มันไม่มีทางเป็นไปได้แล้ว แถมมันเจ็บที่ต้องเห็น ต้องเจอหน้านุ้ยอยู่ต่อไปทุกวันลองคิดดูนะครับว่า 1 วันที่ฮอกไกโดนั้น มีความหมายมากแค่ไหนกับเขา แล้วพอความฝันหมดลง ต้องมาเจอกับความจริง ที่ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขานั้น เขาไม่สามารถทำให้เธอมารักได้ มันจะเจ็บปวดแค่ไหน ดังนั้น การลาออก ออกไปจากสถานการณ์นั้น จึงเป็นทางออกที่เจ็บปวดน้อยที่สุดแล้วสำหรับเขา
2. นุ้ย
นางเอกที่ชะตาชีวิตพลิกผันเมื่อมาเจอกับท็อป ต้องมาเป็นเมียน้อยเขา ต้องเป็นขี้ปากคนในออฟฟิศ ในเรื่องเข้าใจว่าท็อปน่าจะดึงนุ้ยเข้ามาทำงานในบริษัทของตนจะได้อยู่ใกล้ๆ กัน เพราะนุ้ยบอกเองว่ารอท็อปเลิกกับภรรยามา 3 ปีแล้ว บางๆ คนอาจไม่เห็นด้วยว่าผู้หญิงที่หน้าตาดีแบบนุ้ยทำไมถึงยอมเป็นเมียน้อย จะบอกว่าเรื่องจริงๆ ผมก็เคยเจอนะครับ ผู้หญิงที่หน้าตาดี การศึกษา ฐานะทางบ้าน เพียบพร้อมแต่ก็ยอมเป็นเมียน้อย เพราะเหตุผลบางอย่าง หนังเรื่องนี้จึงจิกกัดสังคมทุกวันนี้ได้เจ็บแสบ ส่วนตัวผมเสียดายเล็กน้อยที่หนังไม่เฉลยปูมหลังของนุ้ยว่าทำไมถึงยอมมาเป็นเมียน้อยของท็อป ไม่งั้นหนังจะสมบูรณ์กว่านี้อีกนะ
บุคลิกแบบนางเอก นอกจากหน้าตาดีแล้ว ยังนุ้ยยัง "บริหารสเน่ห์เป็น" ด้วย เช่น มีการบอกเด่นว่าวันหลังจะมาถามใหม่ มุกปีคอมอะไรนั่น หรือดูจากตอนที่อยู่ในร้านชำ ระหว่างหิมะตก ที่ทดลองให้เด่นเข้ามาจีบตัวเอง นุ้ยผู้หญิงที่มีจริตจะก้าน เล่นหูเล่นตาขนาดนั้น ไม่ธรรมดาแน่นอน ผู้หญิงคนนี้มีแฟนมาแล้วหลายคน แถมเรื่อง Sex ก็เปิดกว้างใช่ย่อย จึงไม่แปลกใจที่คนเนิร์ดๆ ไม่ประสีประสาเรื่องผู้หญิงแบบเด่นจะหลงรักหัวปักหัวปำ จนนุ้ยคือความฝันของเด่น
นุ้ยก็เป็นอีกคนที่จมอยู่กับ “ความฝัน” แต่เป็นฝันคนละแบบกับของเด่น นุ้ยเอาแต่ฝันและเฝ้ารอว่าเมื่อไรท็อปจะเลิกกับภรรยาแล้วมาคบกับตัวเองเป็นจริงเป็นจังแบบเปิดเผยเสียดี จมลงไปลึกชนิดที่ว่าเมื่อความฝันยังห่างไกลกับ “ความจริง” ก็เลือกที่จะฆ่าตัวตายมันซะเลยดีกว่า แต่แล้วเด่นก็ทำให้นุ้ยพบกับ “ความฝัน” ในอีกรูปแบบหนึ่งที่มีความสุขมากกว่าความฝันของนุ้ยเอง คือ ความสุขของ 1 วันในฮอกไกโด ในฝันนั้นไม่มีความจริงที่เจ็บปวดที่ตัวเองเป็นเมียน้อยของท็อป แต่แล้วฝันก็คือฝัน เมื่อตื่นขึ้นมาก็ต้องพบกับความจริงอยู่ดี เพียงแต่ฝันนี้อาจดีกว่าชีวิตจริงทั้งชีวิต เหมือนที่นุ้ยได้บอกเอาไว้ อย่างไรก็ดี ผมมองว่าแม้ว่าเด่นจะเลือกไม่เข้าไปหานุ้ยตามที่สัญญากัน แต่เขาก็ได้ช่วยนุ้ยให้ออกจากพันธการของท็อปได้แล้วในตอนจบของเรื่อง ซึ่งมั่นใจได้ว่านุ้ยน่าจะตัดสินใจเลิกกับท็อปได้อย่างเด็ดขาดแล้ว
ผมชอบคาแรคเตอร์และบทของนุ้ยมากๆ เป็นแบบที่เล่นยาก และมีความซับซ้อนสูง ลองมานึกๆดู เราพบนุ้ยถึง 4 คน ในเรื่อง คือ
- นุ้ยคนปัจจุบันที่เป็นเมียน้อยท็อปไปแล้ว อายุ 28 ปี แต่ก่อนจะผ่านเหตุการณ์ไปฮอกไกโด เป็นผู้หญิงที่ภายนอกดูดี มีความสุข Friendly บริหารเสน่ห์ผู้ชายเป็น แต่ลึกๆ แล้วก็มีความเศร้าที่ต้องอยู่ในสภาพเป็นเมียน้อยของท็อป แถมยังต้องฝืนๆ การกระทำที่จะแสดงออกมา เพราะไม่สามารถให้ใครในออฟฟิศรู้แบบเปิดเผยได้ มิวเล่นได้ดี เก็บๆอาการ ไม่แสดงออก ไม่สดใสเป็นพระอาทิตย์เจิดจ้า เหมือนตอนกลางๆ ของหนัง
- นุ้ยคนที่อายุ 24 ปี ก่อนคบกับ Top สดใส ร่าเริงเหมือนเด็กเรียนเพิ่งจบจากมหาวิทยาลัย เป็นนุ้ยที่ดูมีความสุขที่สุด สดใส สว่าง เจิดจ้ามากๆ เป็นนุ้ยก่อนที่จะรู้ความจริงว่าในอนาคตตัวเองต้องเป็นเมียน้อยคนอื่น เปิดใจยอมรับเด่น แม้ตอนแรกจะไม่ชอบ แต่พอโดนบรรยากาศและความจริงใจของเด่นพาไป ก็แอบมีใจและเชื่อว่าเด่นคือแฟนจริงๆ ถึงขนาดจะยอม XXX ด้วยเลย ซึ่งมิวทำได้สุดยอดมากๆ กริยาท่าทาง สายตา ตอนนั้นสุดยอดเลย (ตรงนี้แสดงให้เห็นว่าคาแรคเตอร์นี้เป็นผู้หญิงที่ไม่ใช่ผู้หญิงเรียบร้อย แสนดีเหมือนผ้าขาวสะอาด จริงๆ ต้องบอกว่าในจินตนาการของผู้ชายแสนดีแบบเด่นทั่วไป มักมองว่าผู้หญิงที่ตนชอบเป็นผู้หญิงแสนดี เหอๆ)
- นุ้ยคนที่อายุ 24 ปี หลังจากรู้ความจริงว่าเด่นโกหก และรู้ว่าในอนาคตตัวเองต้องเป็นเมียน้อยท็อป สัปสน เสียใจกับอนาคตตัวเอง สีหน้ามิวตอนที่อยู่ในห้องตอนที่ไล่เด่นไปแล้วโทรหาท็อป ดูสับสนจริงๆ และโดยเฉพาะช็อตอัดคลิป เป็นอะไรที่เศร้ามากๆ และหนักขึ้นอีกในตอนที่ต้องยอมรับกับความจริงว่าเด่นจะไม่เข้ามาบอกเรื่องราวต่างๆกับตนในวันรุ่งขึ้น มิวเล่นได้ดีมากๆ ในฉากนี้ ให้เห็นถึงคนที่เศร้าถึงขีดสุดที่ต้องจำยอมต่อ “ความจริง” ของตัวเอง ฉากที่พูดว่า "สัญญานะ ว่าจะไม่โกหก" มันเป็นอะไรที่กระชากอารมณ์มาก
- นุ้ยคนสุดท้ายหลังจากได้ดูคลิปที่ Snow Festival เธอในตอนนั้นสามารถเลิกกับท็อปได้อย่างเด็ดขาด (ในตอนนั้นจะพบว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองคนยังไม่กลับมาดี เพราะท็อปถามนุ้ยว่ายังโกรธอยู่อีกเหรอ) ฉากที่นุ้ยน้ำตาไหลออกมา ถ้าดูดีๆ จะเห็นว่าไม่ใช่น้ำตาของความเสียใจ แต่เธอก็ยังจำเหตุการณ์ในตอนนั้นไม่ได้ เพียงแต่ความรู้สึกมันบ่งบอกออกมาผ่านทางร่างกาย มิวยังคงเล่นได้ดีมากๆ เช่นเดียวกัน ใน moment ที่ร้องไห้แต่ไม่สามารถบรรยายความรู้สึกได้ว่ารู้สึกอย่างไร
จากที่เขียนมาผมเห็นว่ามิวแสดงได้ดีมากๆ จนคิดว่าถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด เธอน่าจะต้องคว้ารางวัลมาซักรางวัลจากหนังเรื่องนี้แน่นอน เขียนไปเขียนมาเริ่มกลายเป็นกระทู้อวยนางเอกไปแล้วแฮะ 5555
สุดท้ายแฟนเดย์ ก็จบลงในหนัง (ไม่นับใน DVD นะ) โดยที่เด่นเลือกที่จะเก็บความทรงจำดีๆ แค่ 1 วัน เอาไว้เป็นความทรงจำกับเค้าตลอดไป เหมือนกับความฝันของเขาที่ไม่มีทางจะเป็นความจริงขึ้นมาได้ มันก็ตรง และ real มากๆ เพราะผู้ชายที่จีบผู้หญิงไม่เป็น ไม่ประสีประสาเรื่องผู้หญิง เมื่อพบกับความจริงแต่เจ็บปวดว่าตัวเองโดนเขาปฏิเสธ โดยทั่วไปก็มักล้มเลิก ไม่พยายามต่อ จึงไม่แปลกที่เด่นจะตัดสินใจลาออกไป ยอมแพ้กับความจริง หนังจบได้เป็นความจริงดีมากๆ ถ้าเอาตัวเองเป็นเด่น ผมก็เชื่อว่าตัวเองจะตัดสินใจแบบนี้ครับ