เล่าเรื่องการสอบสถาปัตย์ และชีวิตในมหาวิทยาลัย การเรียนสถ.มธ.ปีแรก

สวัสดีค่า ตามหัวข้อกระทู้เลยย เราอยากมาเล่าเกี่ยวกับประสบการณ์การเรียนที่มธ.ปีแรก
เนื่องจากเราก็เป็นคนหนึ่งที่ลังเลการมาเรียน สถ. มธ. เผื่อใครอยากเรียนสถาปัตย์แล้วคิดว่าอยากลองเรียนที่ที่ไม่ใช่จุฬา ศิลปากร ลาดกระบังไรงี้
แล้วเราก็หาเรื่องเกี่ยวกับสถ.มธ. ในเน็ตแต่ไม่ค่อยเจอเลย เลยตั้งความตั้งใจกับตัวเองว่าจะเป็นคนเล่าเอง55555
จริงๆ อยากมาตั้งกระทู้ตั้งแต่วันแรกพบแล้ว แต่ลืมไปเลยค่ะ555

เกริ่นก่อนว่าเราเป็น dek59 เนาะ ความตั้งใจตั้งแต่แรกคืออยากเรียนสถาปัตยกรรมไทย จุฬาฯค่ะ
แต่เราสอบไม่ติดเนื่องจากคะแนนวิชาสามัญไม่ถึง (คือมันน้อยมากจริงๆ คะแนนเน่ามาก ขนาดว่าสถาปัตย์ไทยกำหนดคะแนนน้อย คะแนนเราก็ยังไม่ถึง เศร้า T_T) เราก็ตะลอนสอบเรื่อยๆ เลยค่ะ ลาดกระบัง ศิลปากร แต่ไม่ติดเลยย (ฮืออ) ตอนรู้ว่าสอบติดมธ.ดีใจพอสมควร พ่อกับแม่เราเองก็ดีใจ แต่มันยังไม่สุด ตอนแรกเลยชั่งใจนานมาก ว่าจะเอาดีไหม เพราะค่าเทอมแพงมาก (สถ.มธ.ยังเป็นแบบนอกระบบค่ะ รัฐบาลไม่ได้สนับสนุนขนาดนั้นค่าเทอมเลยแพง) และเราก็ยังอยากเรียนสามมหาวิทยาลัยที่กล่าวไว้ข้างบนมากกว่า แต่เราไม่อยากเครียดไปนานถึงแอดมิชชั่น เราเลยเลือกมธ.ไปค่ะ พอตอนก่อนสัมภาษณ์ ติดเกษตรอีกที่ (อันนี้ติดเทคนิดการสัตวแพทย์ค่ะ) ลังเลอี๊กก จนเกือบจะเลือกเกษตร แต่สุดท้ายกลับใจมาเลือกมธ.

วันที่ไปสอบสัมภาษณ์เจออาจารย์ผู้ชายค่ะ อาจารย์ไม่ได้ถามคำถามยากๆเลย ก็มาแบบคำถามทั่วไป (แต่เราตอบตามจริงหมดเลย กลัวโกหกไม่เนียน ก็แอบกลัวว่าจารย์แกคงเคืองอยู่บางคำตอบ ฮือ555)
เข้าห้องตอนแรกเราสวัสดี รอให้อาจารย์บอกอนุญาตให้นั่ง และยื่นแฟ้มพอร์ตให้
อาจารย์แกถาม "นี่อะไรเอ่ย?"
อินี่สตั๊นไปเลยค่า สามวิ บอกจารย์ไปอย่างกล้าๆ กลัวๆว่า "พอร์ตค่ะ" จารย์พยักหน้าก็โล่งใจไป
อาจารย์บอกให้แนะนำตัว เนื่องจากตื่นเต้นมาก ก็ตอบไปอย่างฉะฉานด้วยชื่อเล่นค่ะ
เสร็จอาจารย์เงยหน้าขึ้นมา "ชื่อจริง โรงเรียนล่ะ ไม่บอกผมหน่อยหรอ" โอย อายยย555555
คำถามอื่นๆ
-ทำไมอยากเรียนที่นี่ ไม่อยากเรียนจุฬาไรงี้หรอ
เราก็ตอบไปตามที่เราคิดค่ะ ว่าอยากเรียนแต่สอบไม่ติด (ชีวิต 5555)
-แล้วพ่อกับแม่ทำงานอะไรยังไง
อันนี้อาจารย์ถามเยอะค่ะ เรื่องเกี่ยวกับครอบครัวและฐานะทางบ้าน เพราะเรื่องค่าเทอมมันแพงมากจริงๆ
-มีอะไรจะถามอาจารย์มั้ย
ถ้ามีคนถามแบบนี้ปกติเราจะไม่ถามอะไรเลยค่ะ แต่อันนี้สอบสัมภาษณ์ไง เลยถามหน่อยละกัน
แต่เจือกไปถามเขาว่า "อาจารย์สอนสถาปัตย์ใช่มั้ยคะ" เอ้ออออ 555555
อาจารย์เลยบอก "เอ้า ใช่แหละครับ ไม่งั้นผมจะมาสัมภาษณ์คุณได้ยังไง" ฮือออ 55555
เราก็ถามว่างานหนักมั้ย อะไรอย่างนี้ อาจารย์บอกว่าก็หนักแหละ ไม่ค่อยได้นอน ถ้าทนไหวก็ไหวนะ ไม่ไหวก็ไม่ไหว งานมันเหมาะกับคนถึก แล้วคุณถึกมั้ยล่ะ? อินี่ก็พยักหน้ารัวค่ะ อาจารย์พูดอะไรมาพยักหน้าหมด เห็นงามหมดค่ะ5555

วันประกาศผล
เราไปสอบกับเพื่อนอีกคนนึง ก็ติดด้วยกันทั้งคู่ ดีใจมาก ดีใจตรงที่มีเพื่อนติดด้วยนี่ล่ะ55555
เรากับเพื่อนลังเลกันมากก จนวันยืนยันสิทธิ์วันสุดท้าย เราก็เลือกมธ.ไป แต่เพื่อนเรารอแอดค่ะ (ตอนนี้ติดศิลปากรไปแล้วว ยินดีด้วยย)
บอกก่อนว่าคะแนนแอดเรา 17,xxx ซึ่งเราเครียดมาก ก็เลยไม่อยากรอไปแอด

หลังการยืนยันสิทธิ์เรียบร้อยก็ถึงเวลานั่งกินนอนกินรออยู่บ้านค่ะ
ช่วงเดือนกรกฎาคมจะเริ่มมีตารางของมหาลัยมาเยอะมาก
กิจกรรมต่างๆ ตรวจสุขภาพ ย้ายเข้าหอ ฯลฯ
(เราอยู่ หอเอเชี่ยนเกมส์โซน B ค่ะ : หอดีมากนะ ส่วนตัวเราโอเคเลย มีห้องนอนสองห้อง แยกกัน ห้องใหญ่ กว้างพอสมควร อยู่กันสี่คน อันนี้ถ้าไม่สนิทกันอาจจะอึดอัดเนาะ เพราะคนมันเยอะ ทำอะไรลำบาก แต่พอดีเราอยู่กับเพื่อนสนิทเลยไม่มีปัญหาอะไรค่ะ ไม่ดีนิดหน่อยที่มีห้องน้ำห้องเดียว แต่ห้องเราไม่มีปัญหาอีกเหมือนกัน เพราะไม่เกี่ยงกันตื่นเช้า ก็เลยสบายๆ ใครอยากอยู่หอถ้าไม่สะดวกก็หอนอกก็ได้เนาะ แต่ไม่แนะนำ u อ่ะ เราเคยไปห้องแล้วแบบ เล็กมากก แพงด้วย เพื่อนบอกไม่มีอะไรให้เลย ตอนแรกมีแค่เตียงกับตู้ให้ โล่งขนาดไหนนึกภาพสิ...)

ตอนช่วงตารางมหาวิทยาลัยนี่เยอะมากก เยอะมากจริงๆ เยอะจนเหนื่อยเลยค่ะ

งั้นมาเริ่มเล่าจากวันแรกพบก่อน
สำหรับสถ.มธ. นัดรวมกันที่ลานเจ้าแม่สิงห์โตทองค่ะ นัดกันที่ท่าพระจันทร์
พอไปถึงตอนเช้า มีพี่ๆ สถาปัตย์มาถือป้ายรอเลย (อันนี้ประทับใจมากค่ะ เพราะเราหาในแผนที่ไม่เจอว่าลานเจ้าแม่สิงห์โตทองอยู่ไหน เหมือนมันจะมีชื่อเรียกอีกชื่อ แต่พี่เขาก็ยังคงยืนยันคำว่าลานเจ้าแม่สิงห์โตทอง5555) แม่เราก็ฝากเรากับพี่ๆ เรียบร้อยก็กลับ เรามานั่งรอคนอื่นๆมา ก็ทำความรู้จักเพื่อนใหม่ไปพลางๆ พี่ๆ น่ารักดีค่ะ ชวนคุยตลอด ถามว่ามาจากโรงเรียนอะไร ชื่ออะไร (ถามว่าถามไปแล้วจำได้หรอ ก็ไม่5555) หลังจากนั้นพี่ๆ จะพาเดินเข้าไปที่ลาน เดินไปถึงก็มีโต๊ะลงทะเบียน แยกโต๊ะตามสาขา (เพิ่งรู้ณ วินาทีนั้นเลยว่า สถาปัตย์หลัก ย่อว่า AR 55555)
หลังจากลงทะเบียนเสร็จแจกป้ายชื่อ แล้วไปนั่งแยกตามสี (เราสีน้ำเงิน)
นี่ก็พยายามทักเพื่อนตลอดค่ะ แม้เพื่อนหน้าจะไม่ค่อยอยากคุยกับเราหรือว่าเพราะเพื่อนมันง่วงไม่รู้55555 ได้เพื่อนต่างจังหวัดเยอะมาก เรียกได้ว่าเด็กกทม. แทบจะเป็นส่วนน้อยไปเลย ส่วนใหญ่เห็นมาจากราชบุรี เพชรบุรีอะไรแบบนี้เยอะ ส่วนเพื่อนสนิทที่เราได้จนถึงวันนี้จากวันแรกพบเป็นเด็กหาดใหญ่ น่ารักส์ (เด็กใต้พูดเก่งมากๆค่ะ ดีใจเลย เราจะคุยไม่ค่อยได้เยอะ ถ้าไม่สนิท)

พอคนเริ่มทยอยมา ก็เห็นเลยว่า แต่ละคนนี่แบบ โอ้โห สวยมาเลย มีใส่ซีทรู ใส่เสื้อครอป ไอ้เรามองตัวเองแล้วก็แบบ เห้อม 555555
กิจกรรมวันแรกพบตอนเช้าจะเป็นซ้อมเพลงเชียร์ เพลงของคณะ แนะนำพี่ เล่นเกมส์ อะไรแบบนี้ค่ะ
ของสถาปัตย์ มธ. เรามีกลองค่ะ กลองสองตัว เป็นสัญลักษณ์ของคณะ จะมีพี่ที่ตีกลอง ที่สามารถจับกลองได้ คนอื่นห้ามแตะ
เวลาเชียร์ที่นี่แบบว่า ดังกระหึ่มมาก (เพื่อนสนิทเราบอกหมั่นไส้คณะเรา เสียงดังตลอด 5555)
ช่วงเช้าเล่นเกมส์เสร็จ ก็พักกลางวัน สถาปัตย์จะมีโค้ดค่ะ คือตีกลองแบบนี้แล้วรับด้วยเสียงเฮ้ แล้วก็จะกลับมานั่งกัน

ประทับใจข้าวที่นี่มาก เมนูแรกที่ได้กินที่นี่คือข้าวกับไก่กระเทียม อร่อยย คือเป็นความอร่อยที่ชนะทุกอาหารกล่องทุกกล่องที่เคยกินเป็นข้าวกลางวันเวลาเข้าค่าย555555

แต่ข้อไม่ดีของวันแรกพบคือ นั่งตลอด มันเหมือนจะดีใช่มั้ยคะ แต่จริงๆ มันไม่ดีนะ คือปวดตูดมากอ่ะ เหมือนตูดจะราบไปกับพื้นแล้ว เพราะนั่งตั้งแต่แปดโมงยันเที่ยง เสร็จก็มานั่งต่อตอนบ่ายโมงไปถึงสามโมงมั้ง แล้วมันเป็นพื้นปูน (เรานั่งแถวหน้าอีก แถวหน้าจะได้นั่งทับท่อระบายน้ำพอดี ยังดีที่ยังไม่เหม็น แต่ตูดเป็นรอยซี่เลยค่ะ) โคตรรรจะปวดตูด จริงๆ อยากยิ้มตลอด เพราะหน้าเรามันไม่ค่อยเป็นมิตรค่ะ กลัวเพื่อนไม่กล้าคุย แต่วันนั้นยิ้มไม่ไหว ปวดตั้งแต่ตูดยาวขึ้นชามาถึงปาก ฉีกยิ้มไม่ขึ้น แล้วมันร้อนนิดๆด้วย อื้อหือ จำเริญ (แต่พี่น่ารักค่ะ คอยเอาลังกระดาษพัดให้ตลอด ถึงแม้ว่าเกือบจะฟาดหน้าน้อง แต่ขอบคุณมากๆค่ะ)
หลังจากนั้นช่วงบ่ายๆ จะเป็นเชียโต้ค่ะ เดินไปที่สนามฟุตบอล
ของสถาปัตย์เชียร์โต้กับศิลปกรรมศาสตร์
ทางฝั่งนั้นเขามาแน่นมากก มาแบบสวยงามมากก ดีงามค่ะ
ส่วนของเรา เอาจริงๆ มีส่วนที่เราไม่ชอบคือพี่ผู้ชายชอบเล่นอะไรอนาจารเกิ๊น เอะอะเข้าเรื่องแบบนั้นตลอดจริงๆ (ตอนแรกก็ขำนะคะ ตอนหลังอ่ะเอือมแล้ว5555)
หลังเชียร์โต้เสร็จก็กลับมานั่งที่ลานเหมือนเดิม บอกอะไรนิดหน่อย แจกของที่ระลึก (เป็นสมุดเล่มเล็กค่ะ อันนี้ชอบบ จะเอาไว้ถ่ายรูปกับน้องโทกิ♡♡♡)
เป็นอันเสร็จค่ะ เลยเวลาที่บอกจะเลิกสี่โมงครึ่งมานิดหน่อย เลิกประมาณห้าโมง

เพิ่มนิดหน่อยค่ะ
เผื่อใครสงสัยเรื่องค่าเทอม
ตอนแรกเราเข้าใจว่าเป็นกึ่งอินเตอร์เลยแพง (แต่น่าจะกึ่งอินเตอร์จริงๆ เพราะอังกฤษเยอะมาก)
แต่มันมีเหตุผลคือรัฐบาลยังไม่ได้สนับสนุนอย่างเป็นทางการด้วยค่ะ เลยแพง
ค่าเทอมแรกเข้าจะประมาณ หกหมื่น เนาะ (เราได้ยินก็สตั๊นไปเล๊ยยย)
มัดจำหมื่นห้าค่ะ หลังจากนั้นเขาจะเก็บหลังจากเข้ามาแล้ว (คือเก็บตอนเข้ามาเป็นนศ.แน่ๆ ไม่สละสิทธิ์) เราเลยแอบหาเงินช่วยพ่อกับแม่อยู่เหมือนกัน555555

ส่วนเรื่องหอเราจำเรื่องค่าหอไม่ได้ แต่ถ้าจำไม่ผิดน่าจะประมาณหมื่นสี่ค่ะ รวมค่าน้ำ ค่าไฟจ่ายแยกแต่ละเดือน เดือนแรกของห้องเราคือสิงหา ถ้าประหยัดได้ก็จะดีมากค่ะ เพราะมันแพงอยู่นะ ห้องเราจะมีพัดลมตัวใหญ่สองตัว ตัวเล็กไว้เปิดใส่หน้าตอนเช้าๆ ที่ปิดแอร์แล้ว
เพื่อนบางคนของเราค่าไฟแพงมากค่ะ เพราะเปิดไฟทั้งคืน ไม่ค่อยนอนกัน ห้องนึงพันแปด เพื่อนอีกคนสามพันหก คือเราฟังแล้วอึ้งจริง5555555
ของเราเปิดแอร์ก็ตอนสามทุ่มไรงี้ ใกล้ๆเวลานอน ตื่นเช้ามาก็ปิด หรือไม่ก็ตั้งเวลาปิดแอร์ ที่เหลือก็เปิดพัดลม ไม่ค่อยดูทีวีด้วย แนะนำอีกอย่างคือเอาปลั๊กพ่วงไปค่ะ เต้าเสียบมีน้อยมาก แถมอยู่ไม่เป็นที่เป็นทางด้วย
อินเตอร์เน็ต แนะนำว่าถ้าใครไม่มีแต่ต้องใช้เน็ตบ่อยๆ หาซื้อรายเดือนเลยค่ะ ไม่ก็ไปทำที่ศูนย์หารเรียนรู้นราธิวาสดีกว่า เพราะเน็ตช้ามาก คือเข้าห้องนอนไป ปิดห้อง เน็ตก็มาไม่ถึงแล้วค่ะ (รันทดเบอร์นั้นล่ะ ไม่รู้ห้องอื่นเป็นมั้ย)
หลังจากมีบิลมาเขาจะหารสี่มาให้เลย ว่าคนละเท่านี้นะ แล้วหักจากบัญชีในวันที่ 10 ของเดือนถัดมา

จบสำหรับวันแรกพบและเรื่องหอค่ะ
เอาไว้หลังจากนี้จะมาเล่าเรื่องวันปฐมนิเทศกับวันปฐมนิเทศหอนะคะ♡

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่