วันนี้เพิ่งมีโอกาสได้ไปเดินหาร้านอาหารที่เซ็นทรัล อีสต์วิลล์ เป็นครั้งที่ 2 ค่ะ
ครั้งแรกรู้สึกแค่ว่าคนเยอะมาก
แต่ครั้งนี้ได้ยินเสียงเห่าของสุนัขก็ประหลาดใจ คิดว่าเป็นเสียงปลอม
แต่ที่เห็นกับตาคือคนจูงสุนัขเดินไปเดินมากันเยอะมาก
บางคนก็เอาสุนัขใส่รถเข็น ตอนแรกก็คิดว่าเด็ก แต่พอมาใกล้ ๆ กลายเป็นสุนัข
และเห็นสุนัขฉี่ตามกระถางต้นไม้เยอะแยะไปหมด
บางตัวก็อึกันตรงทางเดินเลย เห็นเจ้าของเก็บอึของสุนัขตัวเองไปทิ้งเหมือนกัน
แต่บางเส้นทางเราก็เกือบจะเหยียบกับคราบอึของสุนัขเหล่านั้น
รู้สึกว่าสกปรกมากเลย ถึงแม้จะเก็บอึด้วยกระดาษแต่ไม่มีการใช้น้ำล้างทำความสะอาดซ้ำ
ตามขอบกระถางก็เจอฉี่สุนัขเหลืองเป็นทาง
ยังงงว่าคนที่นั่งใกล้ ๆ ไม่รู้สึกเหม็นฉี่บ้างเลยหรือ
และบางทีก็เห็นรถเข็นเด็กจริง ๆ กับรถเข็นสุนัข หรือตัวสุนัขที่มีสายจูง เดินเฉียดกันไปมา
เข้าใจว่าทางห้างฯ คงอยากได้กลุ่มลูกค้าใหม่เป็นกลุ่มที่รักสัตว์
แต่เราเจอบรรยากาศแบบนี้ ไม่ไหวจริง ๆ เป็นห่วงเรื่องขนสุนัขสำหรับคนที่แพ้ด้วย
ถ้าจะดีทางห้างฯ ควรเพิ่มพนักงานทำความสะอาดคราบฉี่และคราบอึให้มากขึ้นกว่าเดิมนะคะ
เซ็นทรัลอีสต์วิลล์ สุนัขเต็มเลย
ครั้งแรกรู้สึกแค่ว่าคนเยอะมาก
แต่ครั้งนี้ได้ยินเสียงเห่าของสุนัขก็ประหลาดใจ คิดว่าเป็นเสียงปลอม
แต่ที่เห็นกับตาคือคนจูงสุนัขเดินไปเดินมากันเยอะมาก
บางคนก็เอาสุนัขใส่รถเข็น ตอนแรกก็คิดว่าเด็ก แต่พอมาใกล้ ๆ กลายเป็นสุนัข
และเห็นสุนัขฉี่ตามกระถางต้นไม้เยอะแยะไปหมด
บางตัวก็อึกันตรงทางเดินเลย เห็นเจ้าของเก็บอึของสุนัขตัวเองไปทิ้งเหมือนกัน
แต่บางเส้นทางเราก็เกือบจะเหยียบกับคราบอึของสุนัขเหล่านั้น
รู้สึกว่าสกปรกมากเลย ถึงแม้จะเก็บอึด้วยกระดาษแต่ไม่มีการใช้น้ำล้างทำความสะอาดซ้ำ
ตามขอบกระถางก็เจอฉี่สุนัขเหลืองเป็นทาง
ยังงงว่าคนที่นั่งใกล้ ๆ ไม่รู้สึกเหม็นฉี่บ้างเลยหรือ
และบางทีก็เห็นรถเข็นเด็กจริง ๆ กับรถเข็นสุนัข หรือตัวสุนัขที่มีสายจูง เดินเฉียดกันไปมา
เข้าใจว่าทางห้างฯ คงอยากได้กลุ่มลูกค้าใหม่เป็นกลุ่มที่รักสัตว์
แต่เราเจอบรรยากาศแบบนี้ ไม่ไหวจริง ๆ เป็นห่วงเรื่องขนสุนัขสำหรับคนที่แพ้ด้วย
ถ้าจะดีทางห้างฯ ควรเพิ่มพนักงานทำความสะอาดคราบฉี่และคราบอึให้มากขึ้นกว่าเดิมนะคะ