สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
ก็ดูว่าเขาให้สถานทูตของเขาในประเทศไหนมีเขตรับผิดชอบมาถึงไทย
ถ้าดูข่าวในพระราชสำนัก เวลามีทูตมาเข้าเฝ้าเพื่อถวายพระราชสาส์น/อักษรสาส์นตราตั้ง เขาก็จะบอกว่า ทูตมีถิ่นพำนักที่ไหน ถ้ามีถิ่นพำนักที่กรุงเทพฯ ก็แปลว่าเขามีสถานทูตอยู่ในไทย
แต่ถ้าไม่ใช่ เช่นบอกว่ามีถิ่นพำนักที่กัวลาลัมเปอร์ ก็แปลว่าเขาใช้สถานทูตของเขาในมาเลเซียมาติดต่อกับไทย ถ้าจะไปติดต่ออะไรกับประเทศเขาก็ต้องไปที่มาเลเซีย
ถ้าดูข่าวในพระราชสำนัก เวลามีทูตมาเข้าเฝ้าเพื่อถวายพระราชสาส์น/อักษรสาส์นตราตั้ง เขาก็จะบอกว่า ทูตมีถิ่นพำนักที่ไหน ถ้ามีถิ่นพำนักที่กรุงเทพฯ ก็แปลว่าเขามีสถานทูตอยู่ในไทย
แต่ถ้าไม่ใช่ เช่นบอกว่ามีถิ่นพำนักที่กัวลาลัมเปอร์ ก็แปลว่าเขาใช้สถานทูตของเขาในมาเลเซียมาติดต่อกับไทย ถ้าจะไปติดต่ออะไรกับประเทศเขาก็ต้องไปที่มาเลเซีย
สมาชิกหมายเลข 8251073 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2757817 ถูกใจ, Peter Zhang ถูกใจ, dolwaya ถูกใจ, moopeepink ถูกใจ, ลิงกินน้ำ ถูกใจ, แมวดำน้อย ถูกใจ, Lady1412 ถูกใจ, Ginkgo biloba ถูกใจ, โศกนาฏกรรม ทึ่งรวมถึงอีก 12 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
ประเทศที่เขาไม่มีสถานทูตในไทย ถ้าเราจะไปประเทศเขา เราจะไปขอวีซ่าได้ที่ไหน
โดยส่วนตัวมองว่า ประเทศที่ยังไม่มีสถานทูตในไทยนั้น เดาได้ว่าความสัมพันธ์ยังมีไม่มากถึงขั้นที่จะมีการยกเว้นวีซ่าระหว่างกันได้
(ประเทศที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดบางประเทศก็ยังต้องขอวีซ่าก่อน)
ต้องอธิบายก่อนว่า ประเทศที่มีความสัมพันธ์ระหว่างกัน ในช่วงต้นที่ความสัมพันธ์หรือการติดต่อระหว่างกันยังมีไม่มากนัก อาจให้สถานทูตของตนที่ประเทศใกล้เคียงมีเขตอาณาถึงประเทศนั้นไปก่อน แล้วจึงตั้งสถานทูตที่ประเทศนั้นในภายหลังก็ได้
เช่น ไทยกับรวันดา ไทยให้สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงไนโรบี ประเทศเคนยา มีเขตอาณาถึงประเทศรวันดา และทางรวันดาก็ให้สถานทูตของตนที่กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน มีเขตอาณาถึงประเทศไทยด้วย
ใครมีประสบการณ์ตรงนี้ (ขอวีซ่าไปประเทศที่ไม่มีสถานทูตในไทย) ก็ลองมาแชร์กันก็ได้ครับ