ขอบคุณทุกๆ คนที่อ่านเรื่องนี้นะคะ
ขอบคุณ น้องดาว Lady Star 919, จารย์จี GTW, คุณ สายป่านสีชมพู, คุณแอนนี่ annie <harmonica>, คุณ ออมอำพัน, คุณ เปรียว sixtyone, คุณ ป้าทุยบ้านทุ่ง, คุณนัน turtle_cheesecake, คุณ nasa nasa
ขอบคุณคะแนนโหวตทุกคะแนนด้วยค่ะ
บทก่อนๆ ค่ะ
บทที่ ๒๐
http://ppantip.com/topic/35490729
บทที่ ๒๑
http://ppantip.com/topic/35500221
บทที่ ๒๒
http://ppantip.com/topic/35507830
บทที่ ๒๓
http://ppantip.com/topic/35514634
บทที่ ๒๔
http://ppantip.com/topic/35524338
บทที่ ๒๕
http://ppantip.com/topic/35533699
บทที่ ๒๖
http://ppantip.com/topic/35542378
บทที่ ๒๗
http://ppantip.com/topic/35546044
บทที่ ๒๙
อากาศยามรุ่งสางเย็นชื้นจนหนาว แสงอรุณเพิ่งเรื่อเรืองขึ้นที่ขอบฟ้า รอบด้านยังมืดสลัวเมื่อคุณหญิงสาวน้อยลงบันไดมาใต้ถุนบ้าน พอเท้าแตะพื้นก็รู้สึกถึงน้ำค้างซึ่งยังคงเกาะพราวยอดหญ้าจนเปียกชื้น
กระชับผ้าสักหลาดผืนเล็กที่คลุมไหล่มาด้วย ตาก้มดูพื้นตลอดเวลาเพราะความมืดทำให้ยังมองเห็นอะไรได้ไม่ถนัดนัก ภายในเรือนครัวก็มืด จึงผลักหน้าต่างด้านที่หันออกชายทุ่งด้านตะวันออกให้เปิดกว้างรับแสงอาทิตย์อ่อนจางยามรุ่งสาง ไม่มีความจำเป็นอันใดจะต้องจุดตะเกียง ในเมื่ออีกไม่นานก็จะสว่างพอให้มองเห็นแล้ว
จัดแจงติดเตาต้มน้ำก่อนอื่น คิดว่าเมื่อคุณรามหรือคุณกรานตื่น อาจต้องการน้ำอุ่นเพื่อล้างหน้าหรืออาบน้ำ อากาศยามเช้าหนาวขนาดนี้คงอาบน้ำเย็นกันไม่ไหวแน่ วางกาต้มน้ำบนเตาแรกเรียบร้อย ก็ติดไฟอีกเตาเพื่อต้มน้ำอีกกาสำหรับชงโอวัลติน คุณกนกซื้อโอวัลตินมาจากกรุงเทพสามกระป๋องเพราะคุณกรานชอบมาก แต่หาซื้อแถวนี้ลำบาก
กำลังวุ่นอยู่หน้าเตาจึงไม่ทันได้ยินเสียงฝีเท้าย่องกริบมาทางด้านหลัง สะดุ้งสุดตัวเมื่อสองแขนแข็งแรงสอดเข้าโอบรอบตัว ตามด้วยแผงอกอบอุ่นเข้าแนบชิดแผ่นหลัง คางสากๆ ลงมาคลอเคลียอยู่บริเวณขมับและข้างแก้ม
"บอกแล้วว่าหนาว รีบลงมาทำไมกัน" เสียงห้าวอ่อนหวาน...อ่อนโยน
สาวน้อยพยายามเบี่ยงหนี แต่ไม่ได้ผล ก็สู้แรงเขาได้เสียที่ไหน
"อย่าค่ะ คุณราม เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า"
รามหัวเราะหึๆ ในลำคอ นอกจากไม่สนใจฟังแล้วยังกระชับอ้อมแขนของตัวให้แน่นขึ้นอีก ความอิ่มเอมยังคงตกค้างเต็มเปี่ยมมาจากเมื่อคืน คราวนี้ก้มลงจูบที่ซอกคอ เรื่อยไปที่ไหล่ละมุนภายใต้ผ้าคลุม
"ใครจะมาเห็น"
"น้ากรานอย่างไรเล่าคะ"
"น้ากรานยังไม่ตื่นเลยกระมัง ใครเขาจะตื่นกันตั้งแต่ยังไม่สว่างอย่างนี้" เสียงโต้กลับกลั้วหัวเราะ
นั่นทำให้หญิงสาวรู้สึกผิดขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
"ดิฉันไม่ได้ตั้งใจทำให้คุณรามตื่นนะคะ"
เธอไม่ได้ตั้งใจจริงๆ แต่เพราะเขาเป็นคนนอนไวมาแต่ไหนแต่ไร เมื่อครู่เพียงขยับตัวนิดเดียวเพื่อให้พ้นออกมาจากอ้อมแขนซึ่งโอบตระกองเอาไว้ทั้งคืน เขาก็ลืมตาตื่น
'ยังไม่สว่างเลยนี่'
เขาพึมพำเมื่อเหลียวไปทางหน้าต่างแล้วเห็นว่าภายนอกยังมืดสนิท สัญญาณบอกเวลาใกล้สางมีเพียงเสียงไก่ขันดังแว่วมาให้ได้ยินจากที่ไกล ดึงเอาร่างเปลือยเปล่าซึ่งลุกขึ้นนั่งแล้วให้กลับลงนอนแนบชิดดังเดิม
‘เดี๋ยวอาบน้ำแต่งตัวไปงานไม่ทันนะคะ ดิฉันจะรีบไปเตรียมสำรับเช้าไว้ให้น้ากรานด้วย คุณรามรับโอวัลตินสักแก้วดีไหมคะ เช้ามากอย่างนี้คุณคงยังไม่อยากรับข้าวต้ม’
แม้ทั้งตัวจะถูกกอดรัดเอาไว้ แต่มือเล็กๆ ก็ควานหาเสื้อและผ้านุ่งซึ่งแน่ใจว่าคงตกหล่นอยู่บนเตียงนี่เอง
‘ก็อีกเดี๋ยวค่อยไปไม่ได้หรือ นอนต่ออีกหน่อยเถอะ หนาวนะ...ถ้าลุกไปตอนนี้’
เขาทำเสียงขู่ มือสากๆ ลูบไล้หัวไหล่บอบบาง เรื่อยลงมาที่แผ่นหลังนวลเนียนละมุนมือ หวนคิดถึงเมื่อคืนแล้วไม่อยากให้สว่างเอาเสียด้วยซ้ำ
'เมื่อคืนฉันไม่ได้ทำให้เธอเจ็บใช่ไหม' กระซิบถามที่ริมหู แล้วไม่วายจูบเบาๆ ที่นั่น
ใบหน้าซึ่งซุกอยู่กับแผ่นอกกว้างร้อนวูบแล้วเย็นวาบ อ้อมแอ้มงึมงำคำตอบอยู่เพียงลำคอ
'ไม่ค่ะ'
รามหัวเราะอย่างชอบอกชอบใจ ซุกไซ้ใบหน้าไปทั่วกลุ่มผมนุ่มละไม
'อะไรกัน เราแต่งงานกันมานานแค่ไหนแล้ว ทำไมยังอายอยู่อีก' เขาสัพยอกอย่างเอ็นดู
ไม่มีคำตอบจากอีกฝ่าย
รามเองก็ไม่เข้าใจว่าเมื่อคืนทำได้อย่างไร ไม่มีแม้แต่ชั่วขณะเดียวที่อยากได้ยินเสียงครวญครางอย่างเจ็บปวดจากภรรยาเช่นที่เคย มีแต่อยากทะนุถนอม อยากเอาอกเอาใจเพื่อขอลุแก่โทษและลบล้างความผิด อยากประคับประคองด้วยเข้าใจว่าตัวทำให้หัวใจดวงน้อยนี้ร้าวรานเพียงไร
และสาวน้อยก็สนองตอบการรุกไล่ของเขาเป็นครั้งแรก ไม่มีการขัดขืน ไม่มีการผลักไสให้ออกพ้นตัว เสียงครางเบาๆ ที่ได้ยินมิใช่เสียงครางของความเจ็บปวด แต่เป็นเสียงของความเสียวซ่านซึ่งเขาเองก็ไม่เคยคิดอีกแล้วว่าจะได้ยินจากผู้เป็นภรรยา
'ให้ดิฉันไปต้มน้ำเถอะนะคะ เผื่อคุณรามอยากอาบน้ำ จะได้มีน้ำอุ่นอาบ ข้างนอกคงหนาว'
ห้องอาบน้ำบ้านคุณกรานไม่ได้กั้นอย่างเป็นสัดเป็นส่วนเท่าไรนัก มีก็เพียงฝาขัดแตะกั้นไว้ง่ายๆ สี่ด้านพอเป็นพิธี หลังคาไม่มี อาศัยชายคาตัวเรือนฝั่งขวาปกกั้นไว้เพียงครึ่งๆ มีตุ่มสองใบวางอยู่นอกชายคา จึงรองรับน้ำฝนมาเก็บไว้ได้ตลอดเวลา คุณกนกเคยพูดกึ่งเล่นกึ่งจริงว่า 'บ้านนี้เขาอาบน้ำฝนกัน'
'ก็เพราะหนาวนะซี ถึงไม่อยากให้ลุกไปตอนนี้อย่างไรเล่า มืดก็มืด'
จริงๆ แล้วเธอเองก็ยังไม่อยากลุกไปไหนนักหรอก ในเมื่ออ้อมอกนี้อุ่นนัก และความวาบหวามก็ยังคงอบอวลอยู่รอบตัว แต่เพราะจำเป็น ไม่เช่นนั้นคงไปถึงบ้านงานไม่ทันกำหนดเวลาอย่างแน่นอน
'เกือบสว่างแล้วค่ะ คุณราม'
นั่นแหละอ้อมแขนแข็งแกร่งจึงยอมคลายออกแต่โดยดี ปล่อยให้ร่างน้อยยันตัวลุกขึ้นนั่งอีกครั้ง ถึงอย่างไรวันนี้ทั้งวันก็ยังจะอยู่ที่นี่ คืนนี้อีกทั้งคืนที่จะมีโอกาสอยู่ด้วยกันตามลำพังเช่นนี้อีก
วาดสองแขนขึ้นสอดไว้ใต้ท้ายทอยเสียแทน ตามองเรือนร่างได้สัดส่วน...เห็นเพียงเงาตะคุ่มๆ ในความมืดกำลังสวมเสื้อคอกระเช้าที่ใช้ใส่นอน ก่อนเลื่อนตัวผ่านปลายเท้าของเขาลงจากเตียง
บันทึกคุณหญิงไอรีน (บทที่ ๒๙)
ขอบคุณ น้องดาว Lady Star 919, จารย์จี GTW, คุณ สายป่านสีชมพู, คุณแอนนี่ annie <harmonica>, คุณ ออมอำพัน, คุณ เปรียว sixtyone, คุณ ป้าทุยบ้านทุ่ง, คุณนัน turtle_cheesecake, คุณ nasa nasa
ขอบคุณคะแนนโหวตทุกคะแนนด้วยค่ะ
บทก่อนๆ ค่ะ
บทที่ ๒๐ http://ppantip.com/topic/35490729
บทที่ ๒๑ http://ppantip.com/topic/35500221
บทที่ ๒๒ http://ppantip.com/topic/35507830
บทที่ ๒๓ http://ppantip.com/topic/35514634
บทที่ ๒๔ http://ppantip.com/topic/35524338
บทที่ ๒๕ http://ppantip.com/topic/35533699
บทที่ ๒๖ http://ppantip.com/topic/35542378
บทที่ ๒๗ http://ppantip.com/topic/35546044
อากาศยามรุ่งสางเย็นชื้นจนหนาว แสงอรุณเพิ่งเรื่อเรืองขึ้นที่ขอบฟ้า รอบด้านยังมืดสลัวเมื่อคุณหญิงสาวน้อยลงบันไดมาใต้ถุนบ้าน พอเท้าแตะพื้นก็รู้สึกถึงน้ำค้างซึ่งยังคงเกาะพราวยอดหญ้าจนเปียกชื้น
กระชับผ้าสักหลาดผืนเล็กที่คลุมไหล่มาด้วย ตาก้มดูพื้นตลอดเวลาเพราะความมืดทำให้ยังมองเห็นอะไรได้ไม่ถนัดนัก ภายในเรือนครัวก็มืด จึงผลักหน้าต่างด้านที่หันออกชายทุ่งด้านตะวันออกให้เปิดกว้างรับแสงอาทิตย์อ่อนจางยามรุ่งสาง ไม่มีความจำเป็นอันใดจะต้องจุดตะเกียง ในเมื่ออีกไม่นานก็จะสว่างพอให้มองเห็นแล้ว
จัดแจงติดเตาต้มน้ำก่อนอื่น คิดว่าเมื่อคุณรามหรือคุณกรานตื่น อาจต้องการน้ำอุ่นเพื่อล้างหน้าหรืออาบน้ำ อากาศยามเช้าหนาวขนาดนี้คงอาบน้ำเย็นกันไม่ไหวแน่ วางกาต้มน้ำบนเตาแรกเรียบร้อย ก็ติดไฟอีกเตาเพื่อต้มน้ำอีกกาสำหรับชงโอวัลติน คุณกนกซื้อโอวัลตินมาจากกรุงเทพสามกระป๋องเพราะคุณกรานชอบมาก แต่หาซื้อแถวนี้ลำบาก
กำลังวุ่นอยู่หน้าเตาจึงไม่ทันได้ยินเสียงฝีเท้าย่องกริบมาทางด้านหลัง สะดุ้งสุดตัวเมื่อสองแขนแข็งแรงสอดเข้าโอบรอบตัว ตามด้วยแผงอกอบอุ่นเข้าแนบชิดแผ่นหลัง คางสากๆ ลงมาคลอเคลียอยู่บริเวณขมับและข้างแก้ม
"บอกแล้วว่าหนาว รีบลงมาทำไมกัน" เสียงห้าวอ่อนหวาน...อ่อนโยน
สาวน้อยพยายามเบี่ยงหนี แต่ไม่ได้ผล ก็สู้แรงเขาได้เสียที่ไหน
"อย่าค่ะ คุณราม เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า"
รามหัวเราะหึๆ ในลำคอ นอกจากไม่สนใจฟังแล้วยังกระชับอ้อมแขนของตัวให้แน่นขึ้นอีก ความอิ่มเอมยังคงตกค้างเต็มเปี่ยมมาจากเมื่อคืน คราวนี้ก้มลงจูบที่ซอกคอ เรื่อยไปที่ไหล่ละมุนภายใต้ผ้าคลุม
"ใครจะมาเห็น"
"น้ากรานอย่างไรเล่าคะ"
"น้ากรานยังไม่ตื่นเลยกระมัง ใครเขาจะตื่นกันตั้งแต่ยังไม่สว่างอย่างนี้" เสียงโต้กลับกลั้วหัวเราะ
นั่นทำให้หญิงสาวรู้สึกผิดขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
"ดิฉันไม่ได้ตั้งใจทำให้คุณรามตื่นนะคะ"
เธอไม่ได้ตั้งใจจริงๆ แต่เพราะเขาเป็นคนนอนไวมาแต่ไหนแต่ไร เมื่อครู่เพียงขยับตัวนิดเดียวเพื่อให้พ้นออกมาจากอ้อมแขนซึ่งโอบตระกองเอาไว้ทั้งคืน เขาก็ลืมตาตื่น
'ยังไม่สว่างเลยนี่'
เขาพึมพำเมื่อเหลียวไปทางหน้าต่างแล้วเห็นว่าภายนอกยังมืดสนิท สัญญาณบอกเวลาใกล้สางมีเพียงเสียงไก่ขันดังแว่วมาให้ได้ยินจากที่ไกล ดึงเอาร่างเปลือยเปล่าซึ่งลุกขึ้นนั่งแล้วให้กลับลงนอนแนบชิดดังเดิม
‘เดี๋ยวอาบน้ำแต่งตัวไปงานไม่ทันนะคะ ดิฉันจะรีบไปเตรียมสำรับเช้าไว้ให้น้ากรานด้วย คุณรามรับโอวัลตินสักแก้วดีไหมคะ เช้ามากอย่างนี้คุณคงยังไม่อยากรับข้าวต้ม’
แม้ทั้งตัวจะถูกกอดรัดเอาไว้ แต่มือเล็กๆ ก็ควานหาเสื้อและผ้านุ่งซึ่งแน่ใจว่าคงตกหล่นอยู่บนเตียงนี่เอง
‘ก็อีกเดี๋ยวค่อยไปไม่ได้หรือ นอนต่ออีกหน่อยเถอะ หนาวนะ...ถ้าลุกไปตอนนี้’
เขาทำเสียงขู่ มือสากๆ ลูบไล้หัวไหล่บอบบาง เรื่อยลงมาที่แผ่นหลังนวลเนียนละมุนมือ หวนคิดถึงเมื่อคืนแล้วไม่อยากให้สว่างเอาเสียด้วยซ้ำ
'เมื่อคืนฉันไม่ได้ทำให้เธอเจ็บใช่ไหม' กระซิบถามที่ริมหู แล้วไม่วายจูบเบาๆ ที่นั่น
ใบหน้าซึ่งซุกอยู่กับแผ่นอกกว้างร้อนวูบแล้วเย็นวาบ อ้อมแอ้มงึมงำคำตอบอยู่เพียงลำคอ
'ไม่ค่ะ'
รามหัวเราะอย่างชอบอกชอบใจ ซุกไซ้ใบหน้าไปทั่วกลุ่มผมนุ่มละไม
'อะไรกัน เราแต่งงานกันมานานแค่ไหนแล้ว ทำไมยังอายอยู่อีก' เขาสัพยอกอย่างเอ็นดู
ไม่มีคำตอบจากอีกฝ่าย
รามเองก็ไม่เข้าใจว่าเมื่อคืนทำได้อย่างไร ไม่มีแม้แต่ชั่วขณะเดียวที่อยากได้ยินเสียงครวญครางอย่างเจ็บปวดจากภรรยาเช่นที่เคย มีแต่อยากทะนุถนอม อยากเอาอกเอาใจเพื่อขอลุแก่โทษและลบล้างความผิด อยากประคับประคองด้วยเข้าใจว่าตัวทำให้หัวใจดวงน้อยนี้ร้าวรานเพียงไร
และสาวน้อยก็สนองตอบการรุกไล่ของเขาเป็นครั้งแรก ไม่มีการขัดขืน ไม่มีการผลักไสให้ออกพ้นตัว เสียงครางเบาๆ ที่ได้ยินมิใช่เสียงครางของความเจ็บปวด แต่เป็นเสียงของความเสียวซ่านซึ่งเขาเองก็ไม่เคยคิดอีกแล้วว่าจะได้ยินจากผู้เป็นภรรยา
'ให้ดิฉันไปต้มน้ำเถอะนะคะ เผื่อคุณรามอยากอาบน้ำ จะได้มีน้ำอุ่นอาบ ข้างนอกคงหนาว'
ห้องอาบน้ำบ้านคุณกรานไม่ได้กั้นอย่างเป็นสัดเป็นส่วนเท่าไรนัก มีก็เพียงฝาขัดแตะกั้นไว้ง่ายๆ สี่ด้านพอเป็นพิธี หลังคาไม่มี อาศัยชายคาตัวเรือนฝั่งขวาปกกั้นไว้เพียงครึ่งๆ มีตุ่มสองใบวางอยู่นอกชายคา จึงรองรับน้ำฝนมาเก็บไว้ได้ตลอดเวลา คุณกนกเคยพูดกึ่งเล่นกึ่งจริงว่า 'บ้านนี้เขาอาบน้ำฝนกัน'
'ก็เพราะหนาวนะซี ถึงไม่อยากให้ลุกไปตอนนี้อย่างไรเล่า มืดก็มืด'
จริงๆ แล้วเธอเองก็ยังไม่อยากลุกไปไหนนักหรอก ในเมื่ออ้อมอกนี้อุ่นนัก และความวาบหวามก็ยังคงอบอวลอยู่รอบตัว แต่เพราะจำเป็น ไม่เช่นนั้นคงไปถึงบ้านงานไม่ทันกำหนดเวลาอย่างแน่นอน
'เกือบสว่างแล้วค่ะ คุณราม'
นั่นแหละอ้อมแขนแข็งแกร่งจึงยอมคลายออกแต่โดยดี ปล่อยให้ร่างน้อยยันตัวลุกขึ้นนั่งอีกครั้ง ถึงอย่างไรวันนี้ทั้งวันก็ยังจะอยู่ที่นี่ คืนนี้อีกทั้งคืนที่จะมีโอกาสอยู่ด้วยกันตามลำพังเช่นนี้อีก
วาดสองแขนขึ้นสอดไว้ใต้ท้ายทอยเสียแทน ตามองเรือนร่างได้สัดส่วน...เห็นเพียงเงาตะคุ่มๆ ในความมืดกำลังสวมเสื้อคอกระเช้าที่ใช้ใส่นอน ก่อนเลื่อนตัวผ่านปลายเท้าของเขาลงจากเตียง