ตึกมหานคร อาคารที่หลายๆ คน กำลังกล่าวถึง ทั้งพิธีเปิดอาคารตัวสุดอลังการ เมื่อ วันที่ 29 สิงหาคม 2559 และ เป็นอาคารที่เพิ่งทำลายสถิติ สูงที่สุดในประเทศไทย โดย มีความสูง 314.2 เมตร สูงกว่า ตึกใบหยก 2 ที่มีความสูงอยู่ที่ 304 เมตร เป็นอาคารที่ออกแบบโดย Ole Scheeren สถาปนิกชาวเยอรมัน โดย ได้แรงบันดาลใจใน การออกแบบ ให้เป็นริบบิ้นที่พันเป็นเกลียวรอบตัวอาคาร เปรียบได้กับ ของขวัญจากฟากฟ้า ซึ่งมีด้วยกันทั้งหมด 77 ชั้น
วันนี้ผมจะขอเขียนถึง ฮวงจุ้ย ของ อาคาร ตึกมหานคร เพื่อเป็นกรณีศึกษา ตามศาสตร์ ฮวงจุ้ยปัญจธาตุ โดย ส่วนตัวผมได้เฝ้ารอให้มี การออกแบบอาคาร ในลักษณะนี้เกิดขึ้นในเมืองไทย เพื่อที่จะได้ก้าวข้ามผ่าน หลักฮวงจุ้ย ในมิติแบบเดิมๆ เข้าไปสู่มิติใหม่ เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่า ฮวงจุ้ย นั้นเป็นหลักแห่ง ธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นได้ในทุกยุค ทุกสมัย
ขอขอบคุณภาพจาก facebook : MahaNakhon
โดยอันดับแรก เรามาดูรูปแบบการออกแบบอาคาร ตึกมหานครซึ่งผู้ออกแบบที่เป็นสถาปนิกชาวเยอรมัน ที่ไม่ได้มุ่งเน้นการออกแบบไปที่ หลักฮวงจุ้ย แต่อย่างใด แต่กลับออกแบบตัวอาคาร ที่เป็นผลดีต่อผู้อยู่อาศัยตาม หลักฮวงจุ้ย ปัญจธาตุ เพราะ ศาสตร์ ฮวงจุ้ยปัญจธาตุ จะมุ่งเน้นไปที่ ทิศทางการไหลเข้าของอากาศ ว่าทำมุม กี่องศากับแกนแม่เหล็กโลก โดย ฮวงจุ้ยอาคาร ตึกมหานครแห่งนี้ ได้ออกแบบให้มีอากาศ ที่สามารถไหลเข้าได้ ทั้ง 4 ด้าน ของตัวอาคาร และ ไหลเข้ามาหล่อเลี้ยงภายในอาคาร ทุกชั้น เกิดจากการออกแบบ ให้มีระเบียงยื่นออกไป และ เว้า เข้ามา ในทุกๆ ชั้น ขึ้นอยู่กับ ทิศด้านหน้า ของตัวห้องในแต่ละชั้น
ขอขอบคุณภาพจาก facebook : MahaNakhon
ถึงแม้ว่าการออกแบบให้มี ส่วนยื่น หรือ ส่วนเว้า จะผิดหลักของ ฮวงจุ้ยบ้าน แต่ในกรณีที่เป็นอาคารที่สูงมากๆ กลับเป็นผลดี เพราะ หากอาคารที่สร้างเป็นตึกทรงสูงมาก แบบตึกมหานคร ถ้าไม่มีจุดรับพลัง ในชั้นต่างๆ การที่จะให้มีพลังงานเข้ามาหล่อเลี้ยง ตัวอาคาร จะต้องใช้ประตูด้านหน้า ที่เป็นประตู โถง Lobby เท่านั้น ซึ่งถ้าหากประตูที่เป็น Maindoor ถ้าเป็นองศาที่ไม่ถูกต้องตามศาสตร์ ฮวงจุ้ยปัญจธาตุ ก็จะทำให้ พลังงานที่ไม่ดีเข้ามาหล่อเลี้ยงภายในตัวอาคาร จะทำให้เป็นผลเสียต่อ ผู้อยู่อาศัย แต่ในกรณีนี้ อากาศที่ไหลเข้ามาทุกด้าน ก็จะเป็นพลังงานที่เป็นธรรมชาติ เข้ามาหล่อเลี้ยงภายใน ตัวอาคาร ซึ่งจะเป็น พลังงานที่ดี และ พลังงานที่ไม่ดี ไหลเข้ามาอย่างสมดุลกัน โดย เราต้องยอมรับ ในหลักแห่งความเป็นจริง ว่าทุกๆสิ่ง ต้องมีดี และร้าย ปะปนกันไป แต่เรายังสามารถแก้ไขพลังงานที่ไม่ดีได้ หากศึกษา และ ปรับเปลี่ยน ฮวงจุ้ย ของแต่ละห้อง ดังที่ผมได้เคยเขียนไว้ในบทความ วิธีการกระตุ้นโชค ฮวงจุ้ยคอนโด
ฮวงจุ้ยตึกมหานคร อีกส่วนหนึ่ง ที่ต้องกล่าวถึง คือ การออกแบบ ให้มี สระว่ายน้ำ อยู่ทางด้านทิศเหนือ ซึ่งเป็นทิศของ ธาตุน้ำ ที่ควรมีการเคลื่อนไหว ในบริเวณนี้ ซึ่งเป็นผลดีต่อ อาคารตึกมหานคร โดยผู้ที่อยู่อาศัย ได้มีกิจกรรมในบริเวณนี้ ก็จะทำให้เกิดพลังงานน้ำที่เคลื่อนไหว ในบริเวณนี้
เมื่อผมใช้ กล้องส่ององศา วัดองศาตัวอาคาร เพื่อเช็คพลังงาน ฮวงจุ้ยตึกมหานคร เมื่อคำนวณตามศาสตร์ ฮวงจุ้ยปัญจธาตุ แล้ว เป็นองศาที่มี พลังงานที่ดีอยู่บริเวณหน้าประตู จึงส่งผลให้ทุกๆ ครั้ง ที่มีการเคลื่อนไหว เข้า-ออก ก็จะมีพลังงานที่ดี เข้าไปหล่อเลี้ยง ตัวอาคาร และ ที่ด้านหน้าอาคาร มีลานพักพลังที่ อาจจะดูไม่กว้างมากนัก เมื่อเทียบกับตัวอาคาร ตาม หลักฮวงจุ้ย แต่ในการออกแบบ ที่มีสะพานเชื่อมต่อ มาจากสถานีรถไฟฟ้า ช่องนนทรี เข้ามาสู่ตัวอาคาร MAHANANAKHON CUBE ที่สร้างเป็นส่วน อาคารสำหรับอำนวยความสะดวก ผู้ที่อยู่อาศัย มีทั้ง ร้านอาหาร และ ร้านค้า อยู่ในตัวอาคารหลังนี้ โดย เป็นการดึง กระแสพลังงาน จากสถานี รถไฟฟ้า ช่องนนทรี เข้ามาหล่อเลี้ยงตัวอาคาร MAHANANAKHON CUBE ซึ่งเป็น เทคนิคการดึง กระแสพลังงาน ซึ่งเป็นเทคนิคชั้นสูง ตามศาสตร์ ฮวงจุ้ยปัญจธาตุ และ เมื่อ พลังงานฮวงจุ้ย ที่อยู่ภายในตัวอาคาร MAHANANAKHON CUBE ยังส่งต่อลงมา ทางบันไดเลื่อน ที่อยู่ด้านหลังตัวอาคาร MAHANANAKHON CUBE ลงมาสู่ ลานพักพลัง ที่อยู่ด้านหน้า อาคารตึกมหานคร จึงทำให้ ลานพักพลัง ที่อยู่ด้านหน้า ตัวอาคาร มีพลังงานที่ดี ไหลมาสะสมอย่างต่อเนื่อง
ขอขอบคุณ ภาพถ่ายทางดาวเทียม Google Earth
ในด้าน ฮวงจุ้ยชัยภูมิ ที่ตั้งตัว อาคารตึกมหานคร ที่ตั้งอยู่ใน ชัยภูมิ ที่มีความเจริญ มีสถานีรถไฟฟ้า ที่เป็นจุดหยุดกระแส ที่เคลื่อนไหว เป็นรูปทรงตัว S ซึ่งเป็น ธาตุน้ำ ในหลัก ฮวงจุ้ยปัญจธาตุ เป็นกระแสพลังงานภาคพื้นดิน ที่มาก่อเกิด ธาตุไม้ ที่ ออกแบบ เป็นอาคารสี่เหลี่ยมผืนผ้า ทรงสูง และ การที่ออกแบบ อาคารให้มีลักษณะ เป็นเกลียวคลื่น ธาตุน้ำ มาพันรอบตัวอาคาร ที่เป็น ธาตุน้ำ ซึ่งเป็นการดึงกระแส พลังงานจาก ฟ้า จึงทำให้ ตัวอาคารตึกมหานคร แห่งนี้ ได้รับ พลังงานฮวงจุ้ย ทั้ง ดิน และ ฟ้า มาหล่อเลี้ยงรวมกัน เป็นหนึ่งเดียว
ขอขอบคุณภาพจาก facebook : MahaNakhon
สำหรับรูปทรงตัวอาคาร ในเชิง ฮวงจุ้ยสัญลักษณ์ ซึ่งในศาสตร์นี้ จะมีผลทางด้านจิตใจ โดยสามารถมองได้สองแบบ ว่าเป็น ตัวอาคารที่มีลักษณะคล้ายมังกรที่ลงมาจากฟ้า มาพันเสาหลักเมือง ก็จะเป็นผลดีที่คิดในมุมบวก แต่หากมองว่าเป็น ตัวอาคารที่ผุพัง ก็จะเป็นผลลบทางด้านจิตใจ ซึ่งในความเป็นจริง การออกแบบ และ การก่อสร้าง จะต้องยึดหลัก ความมั่นคงแข็งแรง ในหลัก วิศวกรโยธา ทีนี้ แล้วแต่มุมมองของแต่ละท่าน โดยผมขอย้ำว่า รูปทรงของตัวอาคารภายนอก มีผลทางด้านจิตใจเท่านั้นครับ
ในส่วนพื้นที่ บริเวณรอบๆ ที่เป็น สุสานฝรั่ง ทางโครงการได้ทำ พิธี ตั้งศาลพระพรหม ซึ่งในการทำพิธี จะมีการบวงสรวง บอกกล่าว เจ้าที่เจ้าทาง และ ได้ อัญเชิญฯ บารมี องค์พระพรหม มาสถิตย์ อยู่ในสถานที่แห่งนี้ ก็จะบังเกิด ความเจริญรุ่งเรือง เพราะ อาคารตึกมหานคร แห่งนี้ ได้ทำถูกหลัก ทั้ง ชะตาดิน และ ชะตาฟ้า สมดัง เจตนาที่ดีในการออกแบบ ทั้งๆที่ ผู้ออกแบบไม่ได้รู้ หลักฮวงจุ้ยเพียงแค่อยากให้เป็น "ของขวัญจากฟากฟ้า" ให้ชาว กรุงเทพมหานคร
ตึกมหานคร มิติใหม่ของ หลักฮวงจุ้ย โดย อ.ศาสตรา พีระมาน
วันนี้ผมจะขอเขียนถึง ฮวงจุ้ย ของ อาคาร ตึกมหานคร เพื่อเป็นกรณีศึกษา ตามศาสตร์ ฮวงจุ้ยปัญจธาตุ โดย ส่วนตัวผมได้เฝ้ารอให้มี การออกแบบอาคาร ในลักษณะนี้เกิดขึ้นในเมืองไทย เพื่อที่จะได้ก้าวข้ามผ่าน หลักฮวงจุ้ย ในมิติแบบเดิมๆ เข้าไปสู่มิติใหม่ เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่า ฮวงจุ้ย นั้นเป็นหลักแห่ง ธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นได้ในทุกยุค ทุกสมัย
โดยอันดับแรก เรามาดูรูปแบบการออกแบบอาคาร ตึกมหานครซึ่งผู้ออกแบบที่เป็นสถาปนิกชาวเยอรมัน ที่ไม่ได้มุ่งเน้นการออกแบบไปที่ หลักฮวงจุ้ย แต่อย่างใด แต่กลับออกแบบตัวอาคาร ที่เป็นผลดีต่อผู้อยู่อาศัยตาม หลักฮวงจุ้ย ปัญจธาตุ เพราะ ศาสตร์ ฮวงจุ้ยปัญจธาตุ จะมุ่งเน้นไปที่ ทิศทางการไหลเข้าของอากาศ ว่าทำมุม กี่องศากับแกนแม่เหล็กโลก โดย ฮวงจุ้ยอาคาร ตึกมหานครแห่งนี้ ได้ออกแบบให้มีอากาศ ที่สามารถไหลเข้าได้ ทั้ง 4 ด้าน ของตัวอาคาร และ ไหลเข้ามาหล่อเลี้ยงภายในอาคาร ทุกชั้น เกิดจากการออกแบบ ให้มีระเบียงยื่นออกไป และ เว้า เข้ามา ในทุกๆ ชั้น ขึ้นอยู่กับ ทิศด้านหน้า ของตัวห้องในแต่ละชั้น
ถึงแม้ว่าการออกแบบให้มี ส่วนยื่น หรือ ส่วนเว้า จะผิดหลักของ ฮวงจุ้ยบ้าน แต่ในกรณีที่เป็นอาคารที่สูงมากๆ กลับเป็นผลดี เพราะ หากอาคารที่สร้างเป็นตึกทรงสูงมาก แบบตึกมหานคร ถ้าไม่มีจุดรับพลัง ในชั้นต่างๆ การที่จะให้มีพลังงานเข้ามาหล่อเลี้ยง ตัวอาคาร จะต้องใช้ประตูด้านหน้า ที่เป็นประตู โถง Lobby เท่านั้น ซึ่งถ้าหากประตูที่เป็น Maindoor ถ้าเป็นองศาที่ไม่ถูกต้องตามศาสตร์ ฮวงจุ้ยปัญจธาตุ ก็จะทำให้ พลังงานที่ไม่ดีเข้ามาหล่อเลี้ยงภายในตัวอาคาร จะทำให้เป็นผลเสียต่อ ผู้อยู่อาศัย แต่ในกรณีนี้ อากาศที่ไหลเข้ามาทุกด้าน ก็จะเป็นพลังงานที่เป็นธรรมชาติ เข้ามาหล่อเลี้ยงภายใน ตัวอาคาร ซึ่งจะเป็น พลังงานที่ดี และ พลังงานที่ไม่ดี ไหลเข้ามาอย่างสมดุลกัน โดย เราต้องยอมรับ ในหลักแห่งความเป็นจริง ว่าทุกๆสิ่ง ต้องมีดี และร้าย ปะปนกันไป แต่เรายังสามารถแก้ไขพลังงานที่ไม่ดีได้ หากศึกษา และ ปรับเปลี่ยน ฮวงจุ้ย ของแต่ละห้อง ดังที่ผมได้เคยเขียนไว้ในบทความ วิธีการกระตุ้นโชค ฮวงจุ้ยคอนโด
ฮวงจุ้ยตึกมหานคร อีกส่วนหนึ่ง ที่ต้องกล่าวถึง คือ การออกแบบ ให้มี สระว่ายน้ำ อยู่ทางด้านทิศเหนือ ซึ่งเป็นทิศของ ธาตุน้ำ ที่ควรมีการเคลื่อนไหว ในบริเวณนี้ ซึ่งเป็นผลดีต่อ อาคารตึกมหานคร โดยผู้ที่อยู่อาศัย ได้มีกิจกรรมในบริเวณนี้ ก็จะทำให้เกิดพลังงานน้ำที่เคลื่อนไหว ในบริเวณนี้
เมื่อผมใช้ กล้องส่ององศา วัดองศาตัวอาคาร เพื่อเช็คพลังงาน ฮวงจุ้ยตึกมหานคร เมื่อคำนวณตามศาสตร์ ฮวงจุ้ยปัญจธาตุ แล้ว เป็นองศาที่มี พลังงานที่ดีอยู่บริเวณหน้าประตู จึงส่งผลให้ทุกๆ ครั้ง ที่มีการเคลื่อนไหว เข้า-ออก ก็จะมีพลังงานที่ดี เข้าไปหล่อเลี้ยง ตัวอาคาร และ ที่ด้านหน้าอาคาร มีลานพักพลังที่ อาจจะดูไม่กว้างมากนัก เมื่อเทียบกับตัวอาคาร ตาม หลักฮวงจุ้ย แต่ในการออกแบบ ที่มีสะพานเชื่อมต่อ มาจากสถานีรถไฟฟ้า ช่องนนทรี เข้ามาสู่ตัวอาคาร MAHANANAKHON CUBE ที่สร้างเป็นส่วน อาคารสำหรับอำนวยความสะดวก ผู้ที่อยู่อาศัย มีทั้ง ร้านอาหาร และ ร้านค้า อยู่ในตัวอาคารหลังนี้ โดย เป็นการดึง กระแสพลังงาน จากสถานี รถไฟฟ้า ช่องนนทรี เข้ามาหล่อเลี้ยงตัวอาคาร MAHANANAKHON CUBE ซึ่งเป็น เทคนิคการดึง กระแสพลังงาน ซึ่งเป็นเทคนิคชั้นสูง ตามศาสตร์ ฮวงจุ้ยปัญจธาตุ และ เมื่อ พลังงานฮวงจุ้ย ที่อยู่ภายในตัวอาคาร MAHANANAKHON CUBE ยังส่งต่อลงมา ทางบันไดเลื่อน ที่อยู่ด้านหลังตัวอาคาร MAHANANAKHON CUBE ลงมาสู่ ลานพักพลัง ที่อยู่ด้านหน้า อาคารตึกมหานคร จึงทำให้ ลานพักพลัง ที่อยู่ด้านหน้า ตัวอาคาร มีพลังงานที่ดี ไหลมาสะสมอย่างต่อเนื่อง
ในด้าน ฮวงจุ้ยชัยภูมิ ที่ตั้งตัว อาคารตึกมหานคร ที่ตั้งอยู่ใน ชัยภูมิ ที่มีความเจริญ มีสถานีรถไฟฟ้า ที่เป็นจุดหยุดกระแส ที่เคลื่อนไหว เป็นรูปทรงตัว S ซึ่งเป็น ธาตุน้ำ ในหลัก ฮวงจุ้ยปัญจธาตุ เป็นกระแสพลังงานภาคพื้นดิน ที่มาก่อเกิด ธาตุไม้ ที่ ออกแบบ เป็นอาคารสี่เหลี่ยมผืนผ้า ทรงสูง และ การที่ออกแบบ อาคารให้มีลักษณะ เป็นเกลียวคลื่น ธาตุน้ำ มาพันรอบตัวอาคาร ที่เป็น ธาตุน้ำ ซึ่งเป็นการดึงกระแส พลังงานจาก ฟ้า จึงทำให้ ตัวอาคารตึกมหานคร แห่งนี้ ได้รับ พลังงานฮวงจุ้ย ทั้ง ดิน และ ฟ้า มาหล่อเลี้ยงรวมกัน เป็นหนึ่งเดียว
สำหรับรูปทรงตัวอาคาร ในเชิง ฮวงจุ้ยสัญลักษณ์ ซึ่งในศาสตร์นี้ จะมีผลทางด้านจิตใจ โดยสามารถมองได้สองแบบ ว่าเป็น ตัวอาคารที่มีลักษณะคล้ายมังกรที่ลงมาจากฟ้า มาพันเสาหลักเมือง ก็จะเป็นผลดีที่คิดในมุมบวก แต่หากมองว่าเป็น ตัวอาคารที่ผุพัง ก็จะเป็นผลลบทางด้านจิตใจ ซึ่งในความเป็นจริง การออกแบบ และ การก่อสร้าง จะต้องยึดหลัก ความมั่นคงแข็งแรง ในหลัก วิศวกรโยธา ทีนี้ แล้วแต่มุมมองของแต่ละท่าน โดยผมขอย้ำว่า รูปทรงของตัวอาคารภายนอก มีผลทางด้านจิตใจเท่านั้นครับ
ในส่วนพื้นที่ บริเวณรอบๆ ที่เป็น สุสานฝรั่ง ทางโครงการได้ทำ พิธี ตั้งศาลพระพรหม ซึ่งในการทำพิธี จะมีการบวงสรวง บอกกล่าว เจ้าที่เจ้าทาง และ ได้ อัญเชิญฯ บารมี องค์พระพรหม มาสถิตย์ อยู่ในสถานที่แห่งนี้ ก็จะบังเกิด ความเจริญรุ่งเรือง เพราะ อาคารตึกมหานคร แห่งนี้ ได้ทำถูกหลัก ทั้ง ชะตาดิน และ ชะตาฟ้า สมดัง เจตนาที่ดีในการออกแบบ ทั้งๆที่ ผู้ออกแบบไม่ได้รู้ หลักฮวงจุ้ยเพียงแค่อยากให้เป็น "ของขวัญจากฟากฟ้า" ให้ชาว กรุงเทพมหานคร