ส่วนตัวไม่ค่อยมีนักแสดงที่ตามเป็นเมนจริงจัง ส่วนมากเลยชอบดูเนื้อเรื่อง ดูแอคติ้งมากกว่า
แล้วหลังจากที่ดูทั้งคู่ไป 3-4 ตอน รู้สึกชอบทั้งคู่เลยครับ
Moonlight ดูได้สบายๆ ดูแล้วยิ้มไปตลอดเรื่อง เป็นเรื่องที่สร้างความสุขได้อย่างดี พระนางเล่นดีมาก โบกอมเก็บรายละเอียด
สีหน้าได้ดี เล่นบทส่งอารมณ์ถึง น้องยูจองก็ไม่ต้องพูดถึง เก่งมากอยู่แล้ว น่ารักน่าชังจริงๆ แล้วตัวละครแทบทุกตัว (ยกเว้นตัวร้าย)
ชวนให้รักทั้งนั้น ไม่มีตัวที่น่ารำคาญเลย พล็อตหญิงปลอมเป็นชายนี่อมตะจริงๆ แต่มันดึงคนดูอยู่จริงๆ (ไม่งั้นเขาจะใช้กันเหรอ)
ชอบมีโมเม้นต์ที่พระนางเข้าใกล้กันแบบไม่ได้ตั้งใจ (เอ๊ะหรือจริงๆแล้วตั้งใจ?) มาให้คนดูได้ลุ้นตัวบิดอยู่เสมอ และไม่ได้มีพาร์ท
ดูสบายๆอย่างเดียว ยังมีพาร์ทการเมือง และเรื่องราวดราม่าของรัชทายาทมาให้ได้ลุ้นตลอดด้วย ใส่ความเป็น mystery เข้ามาทำให้
เรื่องน่าสนใจสมกับที่เขียนโดยผู้เขียนเรื่อง School 2015
Moon Lovers ชอบซีนเชือดเฉือนอารมณ์ และการแสดงขั้นสุดยอดของอีจุนกีมากก ตีบทคนที่ไม่เป็นที่ต้องการได้แตกมาก
ทำให้เราต้องมานึกเลยว่าถ้าอยู่ในสถานการณ์เดียวกันจะเป็นยังไงหนอ ตำแหน่งสูงค้ำฟ้า แต่เป็นคนที่ไม่มีใครรัก มีแผลเป็นที่
ทำให้ผู้คนรังเกียจ จะต้องอ้างว้างขนาดไหน จุนกีถ่ายทอดออกมาให้เห็นได้ทั้งหมด คังฮานึลก็สุดยอดไม่แพ้กัน แสดงเป็นองค์ชาย
ผู้แผ่ซ่านรังศีความอบอุ่นให้แก่คนรอบข้าง ภายนอกดูเป็นไนซ์กายที่สมบูรณ์แบบ แต่จริงๆแล้วเก็บอะไรไว้ภายในใจเช่นกัน
ไอยูก็ถือว่าทำได้ดีเลย ฉากอารมณ์ทำได้ดี ดูแววตาสื่อความเศร้า อ้างว้างได้ดี แต่อาจจะแปลกๆในส่วนทีเล่นทีจริงนิดนึง (เช่นฉากช็อค)
ไม่แน่ใจว่าผู้กำกับอยากให้เล่นแบบนี้รึเปล่า ส่วนองค์ชายที่เหลือนอกจากฮงจงฮยอนยังได้รับบทเป็นตัวสร้างสีสันอยู่ ไม่รู้สึกขัดใจเท่าไหร่
เรื่องนี้ไม่ได้เน้นแค่ขายหน้าตานักแสดงอย่างเดียว แต่องค์ประกอบอื่นยังดีมากด้วย
ทั้งสองเรื่องมีจุดเหมือนกันคือโปรดักชั่นดี สามารถเล่าเรื่องด้วยภาพได้ดีและงดงามมาก ตัดต่อได้อย่างมีศิลปะ คงเป็นเพราะ
ทั้งสองเรื่องได้ PD ที่ดีมาร่วมงาน (Moon Lovers ได้ผู้กำกับจาก That Winter,The Wind Blows// Moonlight ได้ผู้กำกับคนนึงจาก DOTS)
ดนตรีแบ็กกราวด์เข้ากับเรื่องมาก เพลงประกอบก็เพราะ แต่บางเพลงก็โมเดิร์นไป
ส่วนติของทั้งสองเรื่องคือฉากที่ไม่ซีเรียส เช่นฉากที่เน้นความฮา หรือฉาก Bromance อาจจะทำให้ตัวละครดูหลุดจากออร่าความเป็นองค์ชายได้ ถ้าเล่นๆมากไป อาจจะดูหลงยุคได้ แต่ก็เข้าใจว่าเป็น Fusion Sageuk
มีใครชอบทั้งสองเรื่องเลยบ้างครับ? ถึงจะฉายชนกันแต่ก็ดีคนละแบบ สำหรับคนดูอย่างผมก็เข้ากับการดูซีรีส์เกาหลีในหนึ่งอาทิตย์ได้อย่างกลมกล่อมเลย
มีใครเชียร์ทั้ง Moonlight Drawn By Clouds และ Moon Lovers เลยมั้ยครับ (สปอยล์เล็กน้อย)
แล้วหลังจากที่ดูทั้งคู่ไป 3-4 ตอน รู้สึกชอบทั้งคู่เลยครับ
Moonlight ดูได้สบายๆ ดูแล้วยิ้มไปตลอดเรื่อง เป็นเรื่องที่สร้างความสุขได้อย่างดี พระนางเล่นดีมาก โบกอมเก็บรายละเอียด
สีหน้าได้ดี เล่นบทส่งอารมณ์ถึง น้องยูจองก็ไม่ต้องพูดถึง เก่งมากอยู่แล้ว น่ารักน่าชังจริงๆ แล้วตัวละครแทบทุกตัว (ยกเว้นตัวร้าย)
ชวนให้รักทั้งนั้น ไม่มีตัวที่น่ารำคาญเลย พล็อตหญิงปลอมเป็นชายนี่อมตะจริงๆ แต่มันดึงคนดูอยู่จริงๆ (ไม่งั้นเขาจะใช้กันเหรอ)
ชอบมีโมเม้นต์ที่พระนางเข้าใกล้กันแบบไม่ได้ตั้งใจ (เอ๊ะหรือจริงๆแล้วตั้งใจ?) มาให้คนดูได้ลุ้นตัวบิดอยู่เสมอ และไม่ได้มีพาร์ท
ดูสบายๆอย่างเดียว ยังมีพาร์ทการเมือง และเรื่องราวดราม่าของรัชทายาทมาให้ได้ลุ้นตลอดด้วย ใส่ความเป็น mystery เข้ามาทำให้
เรื่องน่าสนใจสมกับที่เขียนโดยผู้เขียนเรื่อง School 2015
Moon Lovers ชอบซีนเชือดเฉือนอารมณ์ และการแสดงขั้นสุดยอดของอีจุนกีมากก ตีบทคนที่ไม่เป็นที่ต้องการได้แตกมาก
ทำให้เราต้องมานึกเลยว่าถ้าอยู่ในสถานการณ์เดียวกันจะเป็นยังไงหนอ ตำแหน่งสูงค้ำฟ้า แต่เป็นคนที่ไม่มีใครรัก มีแผลเป็นที่
ทำให้ผู้คนรังเกียจ จะต้องอ้างว้างขนาดไหน จุนกีถ่ายทอดออกมาให้เห็นได้ทั้งหมด คังฮานึลก็สุดยอดไม่แพ้กัน แสดงเป็นองค์ชาย
ผู้แผ่ซ่านรังศีความอบอุ่นให้แก่คนรอบข้าง ภายนอกดูเป็นไนซ์กายที่สมบูรณ์แบบ แต่จริงๆแล้วเก็บอะไรไว้ภายในใจเช่นกัน
ไอยูก็ถือว่าทำได้ดีเลย ฉากอารมณ์ทำได้ดี ดูแววตาสื่อความเศร้า อ้างว้างได้ดี แต่อาจจะแปลกๆในส่วนทีเล่นทีจริงนิดนึง (เช่นฉากช็อค)
ไม่แน่ใจว่าผู้กำกับอยากให้เล่นแบบนี้รึเปล่า ส่วนองค์ชายที่เหลือนอกจากฮงจงฮยอนยังได้รับบทเป็นตัวสร้างสีสันอยู่ ไม่รู้สึกขัดใจเท่าไหร่
เรื่องนี้ไม่ได้เน้นแค่ขายหน้าตานักแสดงอย่างเดียว แต่องค์ประกอบอื่นยังดีมากด้วย
ทั้งสองเรื่องมีจุดเหมือนกันคือโปรดักชั่นดี สามารถเล่าเรื่องด้วยภาพได้ดีและงดงามมาก ตัดต่อได้อย่างมีศิลปะ คงเป็นเพราะ
ทั้งสองเรื่องได้ PD ที่ดีมาร่วมงาน (Moon Lovers ได้ผู้กำกับจาก That Winter,The Wind Blows// Moonlight ได้ผู้กำกับคนนึงจาก DOTS)
ดนตรีแบ็กกราวด์เข้ากับเรื่องมาก เพลงประกอบก็เพราะ แต่บางเพลงก็โมเดิร์นไป
ส่วนติของทั้งสองเรื่องคือฉากที่ไม่ซีเรียส เช่นฉากที่เน้นความฮา หรือฉาก Bromance อาจจะทำให้ตัวละครดูหลุดจากออร่าความเป็นองค์ชายได้ ถ้าเล่นๆมากไป อาจจะดูหลงยุคได้ แต่ก็เข้าใจว่าเป็น Fusion Sageuk
มีใครชอบทั้งสองเรื่องเลยบ้างครับ? ถึงจะฉายชนกันแต่ก็ดีคนละแบบ สำหรับคนดูอย่างผมก็เข้ากับการดูซีรีส์เกาหลีในหนึ่งอาทิตย์ได้อย่างกลมกล่อมเลย